IAMS TH
Why Antioxidants Are Good For Your Cat
Why Antioxidants Are Good For Your Cat-mob

adp_description_block259
ทำไมสารต้านอนุมูลอิสระถึงดีกับแมวของคุณ

  • แบ่งปัน

 

สารต้านอนุมูลอิสระดีต่อแมวของคุณ เนื่องจากมีส่วนสำคัญในการลดความเสียหายต่อเซลล์ อย่างเช่น เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน โดยธรรมชาติแล้วสารต้านอนุมูลอิสระจะมีสารที่ช่วยชะลอปฏิกิริยาออกซิเดชันของโมเลกุลเซลล์ แถมยังช่วยในการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและการจดจำวัคซีนในแมว 

ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในแมวที่ต้องรับวัคซีน เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ นอกจากนี้แล้วสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ภูมิคุ้มกันในแมวสูงวัยช่วยให้เค้ากลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงเหมือนช่วงวัยรุ่น

 

สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารแมวไอแอมส์™

 

ตามธรรมชาติแล้วสารต้านอนุมูลอิสระพบได้ในสัตว์และพืชอย่างผักและผลไม้ สารต้านอนุมูลอิสระที่พบบ่อย ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี และสารประกอบแคโรทีนอยด์ (รวมถึงลูทีนและเบต้าแคโรทีน) สารต้านอนุมูลอิสระหลาย ๆ ตัวรวมกันในปริมาณปานกลาง อาจมีประโยชน์กว่าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดเดียวในปริมาณสูง

 

สารต้านอนุมูลอิสระทำงานอย่างไร ?

 

ระหว่างที่เซลล์ทำงานเป็นปกติภายในร่างกาย เซลล์จะสร้างโมเลกุลที่สร้างความเสียหายชื่อว่า อนุมูลอิสระ สารชนิดนี้จะเป็นสารที่ไม่คงรูป และชอบขโมยสารประกอบจากโมเลกุลเซลล์ชนิดอื่นอย่างไขมัน โปรตีน หรือดีเอนเอ จึงถือเป็นสารที่เป็นอันตราย

ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ทำให้เซลล์ทั้งหมดเกิดความเสียหายและตายลง ปฏิกิริยาลูกโซ่นี้มีชื่อว่า ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่มีประโยชน์ เนื่องจากช่วยทำลายเซลล์ตกค้างที่ไม่มีประโยชน์ รวมถึงเชื้อโรคและปรสิตด้วย แต่เมื่อปล่อยให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นโดยไม่มีการควบคุมก็อาจส่งผลให้เซลล์ที่มีสุขภาพดีเสียหายหรือโดนทำลายได้เช่นกัน

สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ในวงกว้าง ให้สารประกอบเพื่อคงรูปอนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระจะกลับไปยังผิวเซลล์เพื่อคงรูปแทนที่จะทำลายสารประกอบเซลล์ตัวอื่น

เมื่อมีสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอที่จะควบคุมปฏิกิริยาออกซิเดชัน อนุมูลอิสระจะเริ่มทำลายเซลล์ที่มีสุขภาพดีและนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น อนุมูลอิสระทำลายเซลล์ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อได้

 

สารต้านอนุมูลอิสระและระบบภูมิคุ้มกันของแมวคุณ

 

เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระมีหน้าที่สำคัญในการทดความเสียหายของเซลล์ เช่น เซลล์ที่ประกอบกันเป็นระบบภูมิคุ้มกัน จึงมีงานวิจัยเพื่อศึกษาประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระบางตัวต่อระบบภูมิคุ้มกันของแมว ผลการศึกษาพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ระบบภูมิคุ้มของแมวมีความแข็งแรง

นอกจากนี้ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่า ประโยชน์ที่สารต้านอนุมูลอิสระแต่ละตัวมีต่อระบบภูมิคุ้มกันนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้น สารต้านอนุมูลอิสระเพียงชนิดเดียวในปริมาณสูงจึงมีประโยชน์น้อยกว่าสารต้านอนุมูลอิสระหลาย ๆ ทำงานร่วมกัน

 

แหล่งที่มาของสารต้านอนุมูลอิสระ

 

วิตามินอี (โทโคฟีรอล) สารสกัดจากพืช ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ทีในระบบภูมิคุ้มกันให้เหมาะสม

วิตามินรวม (เบต้าแคโรทีน) ข้าวโพดบด ผลพลอยได้จากไก่ และไขมันไก่ รักษาสมดุลของเซลล์ต่าง ๆ ในเลือด เพิ่มปริมาณแอนติบอดีในเลือด และเพิ่มการจดจำวัคซีน

 

สารต้านอนุมูลอิสระและความชราในแมว

 

งานวิจัยชิ้นใหม่ยังศึกษาผลกระทบระหว่างความแก่ชราและการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ซึ่งผลการศึกษาพบว่า เมื่อแมวมีอายุมากขึ้น การตอบสนองของเซลล์ภูมิคุ้มกันจะเสื่อมสภาพลง การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยแก้ไขความเสื่อมสภาพของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มาจากอายุที่มากขึ้นได้ และคืนสุขภาพที่ดีแบบแมววัยโตเต็มวัยให้เค้า

 

  • รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัคซีนสำหรับแมว
    รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัคซีนสำหรับแมว
    adp_description_block251
    รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับวัคซีนแมว

    • แบ่งปัน

    แมวเลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ไม่ต้องเอาใจใส่อะไรมากมาย ชุดความเชื่อเหล่านี้ไม่เป็นความจริง! แม้จะพึ่งพาตัวเองได้ค่อนข้างดี แต่แมวเหมียวยังคงต้องการการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การรักษาพยาบาล และการดูแลป้องกัน โดยแมวทุกตัวควรได้รับการฉีดวัคซีนที่จำเป็น เช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและวัคซีน FVRCP เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสติดเชื้อร้ายแรง และลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย
     

    วัคซีนถูกพัฒนามาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง การฉีดวัคซีนให้แมวมักจะพิจารณาจากอายุ สุขภาพโดยรวม การใช้ชีวิต และสายพันธุ์ โดยวัคซีนสำหรับแมวแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ ได้แก่ วัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก วัคซีนหลักจำเป็นสำหรับแมวทุกตัว ส่วนวัคซีนทางเลือกจะฉีดให้กับแมวหลังจากพิจารณาสถานการณ์บางอย่างแล้ว
     

    วัคซีนแต่ละชนิดและช่วงวัยที่เหมาะสมของแมว

    การฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยปกป้องแมวจากการตกเป็นเหยื่อของโรคร้ายแรงได้ โดยวัคซีนสำคัญที่ลูกแมวทุกตัวควรได้รับมีดังนี้

    1. วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

    วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าต้องฉีดเป็นประจำทุกปีหรือทุก ๆ 3 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของวัคซีนที่คุณเลือก เพื่อปกป้องลูกแมวตัวน้อยจากไวรัสเรบีส์ที่อันตราย เชื้อชนิดนี้ไม่ได้พบแค่ในหมาแมวเท่านั้น แต่พบได้ในคนด้วย โดยแพร่กระจายผ่านการกัดหรือข่วนจากสัตว์ที่ติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการก้าวร้าว สับสน และมีอาการกลัวน้ำหลังผ่านระยะฟักตัว โรคพิษสุนัขบ้าส่งผลร้ายแรงต่อทั้งสัตว์และมนุษย์ ไม่มียารักษา อัตราเสียชีวิตก็สูง การฉีดวัคซีนป้องกันจึงจำเป็นมาก

    1. วัคซีน FVRCP

    ต่อกันด้วยวัคซีนรวมที่ช่วยป้องกันแมวจากไวรัสสามชนิด ได้แก่ ไวรัสไข้หัดแมว รวมถึงเชื้อ Feline Virus Rhinotracheitis (FVR) และ Feline Calicivirus (FCV) ซึ่งก่อให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดในแมว ทั้งนี้แนะนำให้ฉีดวัคซีน FVRCP เป็นประจำทุกปี

    1. วัคซีน FeLV

    วัคซีน FeLV เป็นวัคซีนป้องกันไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาว ไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายผ่านทางของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำลาย ปัสสาวะ และอุจจาระ โดยแมวอาจติดเชื้อขณะเลียขนหรือจากการใช้ชามอาหารชามน้ำร่วมกับแมวที่ติดเชื้อ ไวรัสร้ายแรงนี้อาจนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่น โรคโลหิตจาง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงควรฉีดวัคซีน FeLV ให้แมวตั้งแต่อายุยังน้อยหรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ วัคซีนนี้ประกอบด้วย 2 โดส โดยเว้นระยะห่างกัน 3 – 4 สัปดาห์สำหรับลูกแมว และฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่อแมวอายุอย่างน้อย 16 สัปดาห์

    1. วัคซีน FPV

    วัคซีน FPV จะช่วยปกป้องแมวจากโรคไข้หัดแมว โดยลูกแมวควรได้รับการฉีดวัคซีน FPV เมื่อมีอายุ 6 – 8 สัปดาห์ และฉีดทุก ๆ 3 – 4 สัปดาห์จนกระทั่งอายุ 16 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้ฉีดกระตุ้นในช่วงอายุ 1 – 2 ปี

    1. วัคซีนรวม 4 โรค

    วัคซีน F4 หรือ FVRCCP พัฒนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับโรคหวัดแมว การติดเชื้อไวรัสคาลิไซในแมว โรคไข้หัดแมว และโรคติดเชื้อคลาไมเดียในแมวซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบนของแมว อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่ตาในระยะเริ่มแรกด้วย ลูกแมวควรได้รับวัคซีนชนิดนี้เมื่อมีอายุ 8, 12 และ 16 สัปดาห์ จากนั้นฉีดกระตุ้นซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุครบ 1 ปี และฉีดใหม่ทุก ๆ 3 ปี

    1. วัคซีนรวม 5 โรค

    วัคซีน F5 หรือ Fevac 5 เป็นวัคซีนรวมที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของลูกแมวเพื่อรับมือกับไวรัส 5 ชนิด การฉีดวัคซีนชนิดนี้จะช่วยให้ลูกแมวตัวน้อยปลอดภัยจากโรคร้ายแรงต่าง ๆ
     

    ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน

    หลังจากได้รับวัคซีนแล้ว ลูกแมวของคุณอาจรู้สึกไม่สบายตัวและแสดงอาการผิดปกติเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายกำลังสร้างกลไกป้องกันเพื่อกำจัดไวรัสร้ายแรง โดยผลข้างเคียงที่พบได้จากการฉีดวัคซีนมีดังนี้

    1. อ่อนเพลีย เซื่องซึม

    2. อยากอาหารลดลง

    3. อาเจียน

    4. มีไข้ 

    5. ท้องเสีย

    6. มีอาการบวมหรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด

    การฉีดวัคซีนป้องกันถือเป็นหนึ่งในการดูแลที่สำคัญ มันช่วยให้แมวมีสุขภาพแข็งแรง มีพลัง และกระฉับกระเฉง ขอแนะนำให้พ่อแม่แมวทุกคนวางแผนตารางการฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสม โดยสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้