IAMS TH
cat article detail banner
cat article detail banner

adp_description_block253
วิธีอ่านฉลากอาหารแมวอย่างถูกต้อง

  • แบ่งปัน

เชื่อว่าทาสแมวทั้งหลาย ต้องเช็กข้อมูลส่วนผสมและคุณค่าทางโภชนาการอย่างละเอียด ก่อนเลือกซื้ออาหารให้น้องเหมียวสุดเลิฟ แต่บางครั้งข้อมูลเหล่านี้ก็อาจสร้างความสับสน ต้องเลือกแบบไหน? เลือกอย่างไร? ให้มีสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสำหรับเจ้าตัวน้อยมากที่สุด ในบทความนี้ เราจึงรวบรวมจุดสังเกตสำคัญบนฉลากโภชนาการ เพื่อช่วยให้คุณอ่านและทำความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น ตามมาดูกันเลย

ฉลากอาหารมีข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้าง?

ฉลาก จะต้องบ่งบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้

  • คุณภาพอาหารสัตว์ทางเคมี
  • ข้อมูลบริษัทและการบริการลูกค้า
  • ส่วนผสมในการผลิตอาหาร
  • รหัสระบุผลิตภัณฑ์ และวันหมดอายุ
  • ปริมาณการให้อาหารที่แนะนำต่อวัน
  • มาตรฐาน AAFCO

คุณภาพอาหารสัตว์ทางเคมี

ข้อมูลในส่วนนี้จะบอกอัตราส่วนสูงสุดหรือต่ำสุดของปริมาณสารอาหารแต่ละชนิด โดยเปอร์เซ็นสูงสุด (ไม่น้อยกว่า %) หมายถึงสารอาหารที่มีปริมาณมากที่สุด ส่วนเปอร์เซ็นต่ำสุด (ไม่มากกว่า %) หมายความว่ามีปริมาณสารอาหารอย่างน้อยกี่เปอร์เซ็น ทั้งนี้ฉลากอาหารแมวควรระบุปริมาณส่วนประกอบและสารอาหารสำคัญจำนวน 4 ชนิด ซึ่งได้แก่

  • โปรตีน (ไม่น้อยกว่า %)
  • ไฟเบอร์ (ไม่มากกว่า %)
  • ไขมัน (ไม่มากกว่า %)
  • ความชื้น (ไม่มากกว่า %)

ตัวอย่างเช่น หากฉลากบนผลิตภัณฑ์ระบุว่ามี โปรตีน ไม่น้อยกว่า 25% แปลว่าคุณค่าของโปรตีนที่ได้รับต้องมีปริมาณอย่างน้อย 25% หรือมากกว่า การคำนวณคุณค่าสารอาหารเหล่านี้ต้องวิเคราะห์และทดสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้น

ฉลากอาหารอาจระบุส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น แมกนีเซียม (ไม่น้อยกว่า %) ,ทอรีน (ไม่มากกว่า %) ,เถ้า หรือส่วนของสารอนินทรีย์ที่มีอยู่ในอาหารหลังการเผาผลาญ (ไม่น้อยกว่า %) และกรดลิโนเลอิก (ไม่มากกว่า %)

  • แม้ว่าคุณภาพอาหารสัตว์ทางเคมีจะเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้เปรียบเทียบความแตกต่างของอาหารแมวแต่ละชนิด อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถใช้วัดคุณภาพของอาหารหรือบ่งบอกคุณค่าของสารอาหารที่ได้รับโดยตรง วิธีเดียวที่จะเปรียบเทียบได้อย่างเหมาะสม คือการคำนวณปริมาณพลังงานที่ใช้ได้จากสารอาหาร โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ทางผู้ผลิตให้มานั่นเอง

การควบคุมคุณภาพของอาหารแมว

  1. มาตรฐาน AAFCO

อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงต้องได้รับการตรวจสอบจาก AAFCO (Association of American Feed Control Officials) ซึ่งเป็นองค์กรภาครัฐในอเมริกาเหนือ ทำหน้าที่กำหนดมาตราฐานโภชนาการสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยง หากตรวจสอบแล้วว่าการผลิตเป็นไปตามมาตรฐานและมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม บนบรรจุภัณฑ์ก็จะมีสัญลักษณ์ของ AAFCO รับรองอยู่ ทั้งนี้มั่นใจได้เลยว่าการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงของ มาร์ส เพ็ทแคร์ เป็นไปตามมาตรฐานของ AAFCO รวมถึงมีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลสำหรับเจ้าตัวน้อยที่คุณรัก

ส่วนผสมในการผลิตอาหาร

รายการของส่วนผสมจะเรียงลำดับตามปริมาณมากไปน้อย

แม้จะระบุรายการและอัตราส่วนของส่วนผสมต่าง ๆ มาให้ แต่เราก็ไม่สามารถพิจารณาคุณภาพของส่วนผสมได้อย่างชัดเจน การตรวจสอบคุณภาพของอาหารต้องผ่านการวิเคราะห์และทดสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้น

โดยฉลากอาหารแมวจำเป็นต้องระบุข้อมูลสำคัญเหล่านี้

  • ข้อมูลโดยรวม – ชื่อแบรนด์อาหารและส่วนผสมหลักในการผลิตอาหาร เช่น ข้าวและเนื้อไก่
  • ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่าย – เป็นข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิตอาหาร เพื่อใช้สำหรับการติดต่อในกรณีที่พบปัญหาเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์
  • ปริมาณสุทธิของอาหาร – บอกถึงปริมาณอาหารทั้งหมดที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์
  • รายการส่วนผสม –ส่วนผสมที่สำคัญจะแสดงเป็นร้อยละของน้ำหนักโดยประมาณ โดยจะเรียงลำดับจากปริมาณมากไปน้อย
  • การตามสอบ – เป็นข้อมูลที่ใช้ตรวจสอบแหล่งผลิตอาหาร หรือตลอดทุกขั้นตอนในการผลิต
  • แถลงการณ์เรื่องความเพียงพอทางโภชนาการ – เพื่อชี้แจงว่าอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงต้องมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุลเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ รวมถึงอธิบายว่าเหมาะสำหรับน้องแมวช่วงวัยใดบ้าง
  • คุณภาพอาหารสัตว์ทางเคมี – จะบ่งบอกปริมาณสารอาหารในรูปแบบอัตราส่วนร้อยละ โดยต้องระบุปริมาณของโปรตีน ไขมัน ไฟเปอร์ และความชื้นอย่างครบถ้วน หรืออาจระบุส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยได้
  • ปริมาณพลังงาน – อาจระบุเป็นกิโลแคลอรีต่อกิโลกรัม หรือระบุด้วยหน่วยวัดอื่น ๆ ที่ใช้กันทั่วไป เช่น กิโลแคลอรีต่อถ้วย
  • ปริมาณการให้อาหารที่แนะนำต่อวัน – เป็นแนวทางในการกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวัน หรือปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว

แถลงการณ์เรื่องความเพียงพอทางโภชนาการของ AAFCO

อาหารสัตว์เลี้ยงทุกชนิด ต้องมีข้อความเกี่ยวกับความเพียงพอทางโภชนาการของ AAFCO โดยจะมีการกำหนดหรือทดสอบตามขั้นตอนและคำแนะนำของ AAFCO

  • 'ตามสูตร' หมายความว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการผลิตตามหลักเกณฑ์ด้านโภชนาการของ AAFCO แต่ไม่มีการทดสอบอาหารกับสัตว์เลี้ยงก่อนจำหน่าย
  • 'ทดสอบ' คือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบด้านโภชนาการ และมีการทดสอบอาหารกับสัตว์เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามเกณฑ์ด้านการเจริญเติบโต การบำรุงรักษา และ/หรือการสืบพันธุ์

ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์อาจระบุข้อความ เช่น 'ผลิตภัณฑ์นี้มีไว้สำหรับการให้อาหารชั่วระยะเวลาเท่านั้น' และ 'ใช้ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์เท่านั้น'

รหัสระบุผลิตภัณฑ์ และวันหมดอายุ

รหัสการผลิตจะถูกใช้ในการติดตามผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหา ใช้ตรวจสอบสินค้าคงคลัง และจัดการกับปัญหาที่ลูกค้าพบเจอได้ดีขึ้น

วันหมดอายุหรือวันที่ “ควรบริโภคก่อน” ใช้ในการพิจารณาความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์และอายุการเก็บรักษา

วิธีอ่านฉลากโภชนาการ

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการอ่านฉลากโภชนาการ มีดังนี้

  • สังเกตชื่อผลิตภัณฑ์ – เพื่อเช็กชนิดและรสชาติของอาหาร โดยชื่อผลิตภัณฑ์มักจะเน้นส่วนผสมหลักหรือรสชาติของอาหาร
  • สังเกตประเภทของอาหาร – ต้องระบุว่าเป็นอาหารสำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ เพราะพวกเค้ามีความต้องการทางโภชนาการที่เฉพาะเจาะจง และแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ
  • เลือกอาหารที่ใช่ – ข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์ช่วยให้เราเลือกอาหารได้ดีขึ้น โดยสามารถตรวจสอบได้ว่าอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุลหรือไม่ เหมาะกับช่วงวัยของน้องแมวหรือเปล่า อาหารบางชนิดก็อาจระบุว่าเหมาะสำหรับแมวทุกช่วงอายุ สำหรับแมววัยผสมพันธุ์ หรือแมวที่เลี้ยงแบบระบบปิด

ข้อมูลบริษัทและการรับประกันความพึงพอใจ

ข้อมูลของผู้ผลิตควรประกอบด้วยชื่อบริษัท ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว

ควรมีหมายเลขโทรศัพท์โทรฟรีเพื่อความสะดวกของลูกค้า และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการเรียกเก็บเงินเมื่อมีการโทรขอข้อมูลเพิ่มเติม

นอกจากจะระบุการรับประกันสินค้าแล้ว ผู้ผลิตต้องระบุด้วยว่ามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เป็นไปตามความพึงพอใจของลูกค้า (เช่น การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ การคืนเงิน ฯลฯ)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการอ่านฉลากผลิตภัณฑ์

  1. อาหารแมวควรมีโปรตีนกี่เปอร์เซ็นต์?
  2. อาหารแมวควรมีปริมาณโปรตีนอย่างน้อย 26% หลังหักปริมาณความชื้นออกไปแล้ว จึงจะถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุลตามมาตรฐาน AAFCO

  3. อาหารแมวสูตรแมวโต (+1) และสูตรแมวโต (+7) แตกต่างกันอย่างไร?
  4. สิ่งที่แตกต่างกันคือปริมาณใยอาหารและปริมาณแคลอรี โดยอาหารสูตรแมวโต (+7) จะมีใยอาหารสูงกว่าและมีแคลอรีน้อยกว่า แต่สัดส่วนของโปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุจะเท่ากันกับสูตรแมวโต (+1)

  5. ข้อมูลใดที่ไม่จำเป็นต้องระบุบนฉลากอาหารแมว?
  6. ไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพของส่วนผสมอาหารบนฉลากอาหารแมว

  7. อาหารสัตว์เลี้ยงถูกควบคุมโดยองค์การอาหารและยาด้วยใช่หรือไม่?
  8. ใช่ การผลิตอาหารและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงจะอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การอาหารและยา

  • How to Create an Enriching Environment for Your Kitten
    How to Create an Enriching Environment for Your Kitten
    adp_description_block27
    วิธีสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับเจ้าตัวน้อยของคุณ | ไอแอมส์™

    • แบ่งปัน

    มอบบรรยากาศที่เหมาะกับเจ้าเหมียวของคุณ ให้เค้าได้มีความสุข สนุกสนาน ร่าเริง และพร้อมผจญภัยอยู่เสมอ

     

    เจ้าเหมียวมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น แถมยังมีพลังงานเยอะ บรรยากาศที่ปลอดภัยและเหมาะสมจะช่วยกระตุ้นให้เค้าอยากเล่น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สมอง สุขภาพ และพัฒนาการที่ดีไปตลอดชีวิต

     

    เคล็ดลับในการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและเหมาะกับลูกแมว

     

    การเลี้ยงแมวไว้ในบ้านมีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากช่วยป้องกันเค้าจากภัยอันตรายหลากหลายรูปแบบ แต่เมื่อขาดประสบการณ์ที่ควรได้เรียนรู้จากธรรมชาติ จึงควรมีสิ่งอื่นมาทดแทนเพื่อช่วยเสริมสร้างสมองและกล้ามเนื้อให้เจ้าเหมียว

    จัดให้แมวได้อยู่ในที่ปลอดภัยสำหรับซ่อนตัวและพักผ่อนเพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมให้แก่เค้า อย่างเช่น ขอบหน้าต่าง กระเป๋าแมว หรือที่นอนแมว เจ้าเหมียวควรรู้สึกอุ่นใจเมื่ออยู่ในที่ปลอดภัยซึ่งเค้าอาจชอบที่นอนที่เป็นสถานที่ปิดมากกว่า เนื่องจากเจ้าเหมียวใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เราจึงควรกระตุ้นให้เค้าใช้เวลาที่ตื่นอยู่ไปกับกิจกรรมที่บริหารร่างกายและสมอง

    การสร้างบรรยากาศให้มีความสนุกสนานและน่าเล่นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน พื้นที่หลายระดับความสูงมีประโยชน์กับแมวมาก อย่างเช่น ต้นไม้ หรือที่นอนแมว เสาลับเล็บรูปแบบต่าง ๆ จะช่วยสอนการขีดข่วนที่ถูกต้องเหมาะสม ฝึกสัญชาตญาณตามธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เค้าไปลับเล็บบนเฟอร์นิเจอร์หรือพรมตัวโปรดของคุณ

    นอกจากนี้การเข้าสังคมกับแมวด้วยกันก็เป็นประโยชน์กับแมวจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อได้ทำความรู้จักกับแมวตัวอื่นตั้งแต่เค้ายังเด็ก การมีเพื่อนเล่นเป็นแมวหรือลูกแมวจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการ ที่เจ้าเหมียวต้องการเล่นหรือเคลื่อนไหวอยู่เกือบตลอดเวลา และอย่าลืมว่าแมวเป็นสัตว์ต้องการพื้นที่เยอะ บ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวควรมีพื้นที่หลากหลาย เพื่อให้พวกเค้าได้ซ่อน นอน และสังเกตการณ์

     

    เกมและของเล่นที่เจ้าเหมียวชื่นชอบ

     

    องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยแต่งเติมบรรยากาศให้เจ้าเหมียวคือการเข้าสังคมและการเล่น โดยเฉพาะบ้านที่เลี้ยงสัตว์เพียงตัวเดียว ของเล่นประเภทไม้ตกแมว ลูกบอลสำหรับตะปบหรือไล่ตามมักจะกระตุ้นพฤติกรรมการเล่นแบบสัตว์ผู้ล่าของเค้าได้ง่าย

     

    เกมสำหรับเจ้าเหมียว

     

    การเล่นเกมกับเจ้าตัวเล็กจะช่วยพัฒนาทักษะการทรงตัวและการล่าตามธรรมชาติของเค้า นอกจากนี้ยังช่วยให้เค้าเรียนรู้ขอบเขตและสานสัมพันธ์กับเจ้าของใหม่อย่างใกล้ชิด ลองเล่นกับเค้าประมาณ 10-15 นาทีวันละ 2-3 ครั้ง อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลด “ฝันร้ายยามค่ำคืน” คือให้เค้าได้เล่นกิจกรรมที่ใช้พลังงานเยอะก่อนให้อาหารมื้อค่ำ วิธีนี้ทำให้เค้าใช้พลังงานจนหมดและเป็นการเลียนแบบลำดับพฤติกรรม ล่า-กิน-เลีย-นอน ตามธรรมชาติในแมวอีกด้วย

     

    เกมที่คุณควรเล่นกับเจ้าเหมียวได้แก่

     

    • ซ่อนหา - (เหมาะกับการเล่นช่วงมื้อกลางวัน) ลองเรียกเจ้าเหมียวมาหาคุณ เมื่อเค้ามาแล้วให้หนีไปที่ห้องอื่นแล้วเรียกซ้ำอีกครั้ง พอเค้าหาเจอแล้วอย่าลืมให้รางวัลเป็นของเล่นสนุก ๆ หรือขนมด้วยล่ะ
    • โยนของ - ลองโยนของเล่นให้เจ้าเหมียวคอยจับ เมื่อเค้า “จับ” ของได้แล้ว เรียกให้เค้ามาหาคุณ หากเค้าคาบของมาด้วย ให้รางวัลเป็นคำชมหรือขนมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรม 
    • ถุงกระดาษแสนสนุก - วางถุงช้อปปิ้งตั้งเอาไว้ แล้วใช้นิ้วเกาด้านในถุงเบา ๆ หรือใส่ของเล่นเอาไว้เพื่อกระตุ้นให้เค้าเข้ามาในถุง จากนั้นให้จิ้มหรือเกาด้านนอกของถุงระหว่างที่เค้ามีความสุขกับการล่า “เหยื่อ” ปริศนาอยู่ด้านใน

     

    กระตุ้นลูกแมวของคุณผ่านการฝึก

     

    องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยแต่งเติมบรรยากาศให้เจ้าเหมียวคือการเข้าสังคมและการเล่น โดยเฉพาะบ้านที่เลี้ยงสัตว์เพียงตัวเดียว ของเล่นจำพวกไม้ตกแมว ลูกบอลสำหรับตะปบหรือวิ่งไล่ตามมักจะกระตุ้นพฤติกรรมการเล่นแบบสัตว์ผู้ล่าของเค้าได้ง่าย

     

    ไม่ปล่อยให้ลูกแมวเบื่อหน่ายเมื่อเค้าอยู่ลำพัง

     

    ความท้าทายอีกหนึ่งข้อคือ การแต่งเติมบรรยากาศให้เหมาะกับเจ้าเหมียว เวลาที่ไม่มีคนหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเล่นด้วย ของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ เป็นตัวสยบความเบื่อหน่ายได้ดี ซึ่งมีให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบไว้แก้เบื่อ และอย่าลืมให้รางวัลเค้าเป็นขนมหรืออาหาร เช่น ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ ซึ่งมีประโยชน์สองต่อด้วยกัน ทั้งให้เค้าได้เล่นและได้รับโภชนาการที่เหมาะสมกับความต้องการด้านพลังงานและด้านร่างกาย

    ลูกแมวและแมวโตมักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเฝ้าดูโลกภายนอกผ่านหน้าต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเครื่องให้อาหารนกหรือสวนผีเสื้อให้เค้ามองเห็น คุณจึงควรเปิดม่านหน้าต่างไว้อย่างน้อยหนึ่งด้าน ซึ่งควรเป็นด้านที่มีการเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมให้เห็นบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังมี “ทีวีสำหรับแมว” เป็นวิดีโอกระรอก นก หรือวิวธรรมชาติต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ไว้คอยแก้เบื่อให้เจ้าเหมียวอีกด้วย

    การแต่งเติมบรรยากาศให้เหมาะกับแมวเป็นการช่วยป้องกันความเครียดสะสมและลดการสร้างพฤติกรรมผิดปกติ ลูกแมวที่เติบโตจนเต็มวัยในสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ ได้บริหารร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอจะทำให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาวะที่ดีตลอดทุกช่วงวัย

     

Close modal