IAMS TH
cat article detail banner
cat article detail banner

adp_description_block15
เปิด 4 เคล็ดลับการให้อาหารลูกแมวตัวน้อย

  • แบ่งปัน

เมื่อพูดถึงการดูแลลูกแมวตัวน้อย สิ่งสำคัญที่ทาสแมวทุกคนต้องทำความเข้าใจคือการให้อาหารอย่างถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวน้อยของคุณจะได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการ ซึ่งในบทความนี้ เราก็มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการให้อาหารลูกแมวมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดปริมาณอาหารให้เหมาะสม การปรับเปลี่ยนปริมาณตามช่วงเวลา และการประเมินความต้องการของลูกแมวในแต่ละช่วงวัย สำหรับทาสแมวมือโปรหรือมือใหม่ที่ต้องการให้เจ้าตัวน้อยสุขภาพดีมีความสุขในทุกวัน ลองทำตามเคล็ดลับการให้อาหารต่อไปนี้กันได้เลย

ตารางการให้อาหารตามความต้องการทางโภชนาการของลูกแมว

สิ่งสำคัญในการให้อาหารลูกแมวคือการกำหนดปริมาณอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละช่วงวัย ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับทาสแมวหลาย ๆ คน เราจึงสร้างตารางการให้อาหารแนะนำมาเพื่อช่วยคุณโดยเฉพาะ โดยในตารางนี้จะบอกปริมาณอาหารที่แนะนำต่อวันตามน้ำหนักตัวของลูกแมว 

อายุ

อาหารและปริมาณที่แนะนำ

0 – 4 สัปดาห์ 

น้ำนมแม่

1 – 6 เดือน 

ให้อาหารสูตรสำหรับลูกแมว 4 – 5 ครั้งต่อวัน

6 – 12 เดือน 

ค่อย ๆ ลดจำนวนมื้ออาหารต่อวัน

12 เดือนขึ้นไป

ค่อย ๆ เปลี่ยนมาให้อาหารสูตรแมวโต โดยให้อาหารเปียกทั้งเช้าและเย็น ส่วนอาหารเม็ดและน้ำสะอาดต้องเข้าถึงได้ง่ายตลอดวัน

 

ปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกแมวจะขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักตัว ทั้งนี้ตารางข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำทั่วไป ลูกแมวของคุณอาจมีความต้องการแตกต่างออกไป คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อประเมินความต้องการของพวกเค้าเพิ่มเติมได้

เคล็ดลับดี ๆ ในการให้อาหารลูกแมวตัวน้อย – เราควรให้อาหารลูกแมวบ่อยแค่ไหน?

ความต้องการทางโภชนาการของลูกแมวจะเปลี่ยนไปตามช่วงวัย และมีข้อควรคำนึงถึงเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ด้วย

  1. ควรให้อาหารลูกแมวเป็นมื้อเล็ก ๆ 3 – 4 มื้อต่อวัน แทนการให้อาหารมื้อใหญ่ 1 – 2 มื้อ วิธีนี้จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและลดปัญหาการหิวระหว่างวันได้ดี
  2. อาหารสำหรับลูกแมวควรมีโปรตีนและไขมันสูง มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ อาหารเปียกเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะมีโปรตีนและปริมาณน้ำมากกว่าอาหารเม็ด
  3. ลูกแมวที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือนควรได้รับอาหารสูตรเฉพาะสำหรับเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต หลังจากหกเดือนจึงค่อยเปลี่ยนมาให้อาหารสูตรแมวโตได้
  4. ในการเลือกอาหาร ควรระวังส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือท้องไส้ปั่นป่วน เช่น หลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่สารกันบูดและสารแต่งเติมต่าง ๆ

เปิด 4 เคล็ดลับในการให้อาหารลูกแมวที่เจ้าของทุกคนควรรู้

  1. เริ่มต้นด้วยจัดตารางการให้อาหารเป็นเวลาทุกวัน เช่น ให้อาหารลูกแมวในเวลาเดียวกันทุกเช้าและเย็น
  2. ค่อย ๆ ปรับตารางการให้อาหารเมื่อลูกแมวโตขึ้น หากยังอยู่ในช่วงวัยลูกแมว ควรให้อาหารมื้อย่อย 3 มื้อต่อวัน แต่เมื่อลูกแมวโตเต็มวัยแล้ว สามารถปรับให้เหลือเพียง 2 มื้อต่อวันได้
  3. สามารถปรับเปลี่ยนตารางการให้อาหารได้ตามความต้องการของลูกแมว เนื่องจากลูกแมวบางตัวอาจต้องการอาหารมากกว่าตัวอื่น ๆ และบางตัวอาจหิวบ่อยในบางช่วงเวลาของวัน
  4. คอยสังเกตน้ำหนักของลูกแมวและปรับตารางอาหารเมื่อจำเป็น หากลูกแมวดูซูบผอมหรือน้ำหนักลดลง พวกเค้าอาจต้องการปริมาณอาหารมากขึ้น ในทางกลับกัน หากลูกแมวของคุณดูอ้วนหรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น อาจต้องปรับปริมาณอาหารให้น้อยลง โดยคุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับเจ้าตัวน้อยเพิ่มเติมได้

การให้อาหารอย่างเหมาะสมมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมและพัฒนาการของลูกแมว โดยเคล็ดลับง่าย ๆ ในการให้อาหารลูกแมวคือการทำความเข้าใจความต้องการด้านโภชนาการของลูกแมวและเลือกสูตรอาหารที่เหมาะกับช่วงวัย เนื่องจากลูกแมวมีความต้องการแตกต่างจากน้องแมวโตเต็มวัย เจ้าของจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวน้อยของคุณจะได้รับสารอาหารครบถ้วนตามต้องการ

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการให้อาหารลูกแมว

  1. วิธีที่ดีที่สุดในการให้อาหารลูกแมวคืออะไร?
  2. วิธีที่ดีที่สุดคือการเลือกอาหารคุณภาพดีและออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการของลูกแมวโดยเฉพาะ ในหนึ่งวัน ควรให้อาหารลูกแมวประมาณ 4 – 6 ครั้งต่อวัน จนกว่าจะมีอายุประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้น จึงสามารถเปลี่ยนเป็น 3 มื้อใหญ่ต่อวันได้

  3. ควรให้อาหารลูกแมวมากน้อยแค่ไหน?
  4. ในการกำหนดปริมาณอาหารให้ลูกแมวแต่ละครั้ง ควรให้อาหารเปียกหรืออาหารเม็ดประมาณ 3 – 4 ช้อนโต๊ะต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ และควรแบ่งออกเป็นมื้อเล็ก ๆ 2 – 3 มื้อต่อวัน โดยจำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกแมวของคุณ

  5. ควรให้อาหารเม็ดหรืออาหารเปียกกับลูกแมว?
  6. คุณสามารถให้อาหารลูกแมวได้ทั้งแบบเปียกและแบบเม็ดรวมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวน้อยจะได้รับคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล โดยอาหารเปียกจะช่วยให้น้องแมวได้รับน้ำเพิ่มมากขึ้น ส่วนอาหารเม็ดจะมีส่วนช่วยในการขัดฟัน ทั้งนี้คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้

  7. ลูกแมวชอบกินอาหารกลางดึกหรือไม่?
  8. ลูกแมวบางตัวอาจกินอาหารตอนกลางดึก เจ้าของจึงควรจัดเตรียมอาหารและน้ำให้เข้าถึงได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะลูกแมวในช่วงวัยเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม หากพบว่าพวกเค้ามีพฤติกรรมการกินมากเกินไปหรือผิดปกติ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ในทันที

     

  9. ควรเทอาหารเม็ดทิ้งไว้ข้ามคืนหรือไม่?
  10. ไม่แนะนำให้เทอาหารเม็ดทิ้งไว้ข้ามคืน เนื่องจากลูกแมวมีกระเพาะขนาดเล็กและควรได้รับปริมาณอาหารที่เหมาะสม การเทอาหารเม็ดทิ้งไว้อาจทำให้พวกเค้ากินมากเกินไปและน้ำหนักขึ้นได้ง่าย นอกจากนี้การเทอาหารทิ้งไว้ยังสามารถดึงดูดสัตว์รบกวนและอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรีย เจ้าของควรให้อาหารเป็นเวลาและแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ ตลอดวัน

  • Kitten and cat adoption basics
    Kitten and cat adoption basics
    adp_description_block407
    มือใหม่ต้องรู้! วิธีเตรียมความพร้อมก่อนรับเลี้ยงแมว

    • แบ่งปัน

    เชื่อเถอะว่าการรับเลี้ยงแมวจะกลายเป็นหนึ่งในสายสัมพันธ์ที่พิเศษที่สุดในชีวิตของคุณ แมวเหมียวเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักและขี้เล่น เพียงใช้เวลากับพวกเค้าไม่นาน คุณจะพบว่าตัวเองเครียดน้อยลงและมีความสุขมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การรับแมวมาเลี้ยงเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ซึ่งมาพร้อมความรับผิดชอบมากมาย บ้านของคุณจะกลายเป็นบ้านของพวกเค้า และคุณจะกลายเป็นครอบครัวของเจ้าตัวน้อย ดังนั้นก่อนจะมองหาสถานที่รับเลี้ยงแมวใกล้ฉัน คุณควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้ให้ดีเสียก่อน

    ข้อควรรู้ก่อนรับเลี้ยงแมว 

    ไม่ว่าจะเลือกรับเลี้ยงลูกแมวตัวน้อยหรือพี่เหมียวตัวโต คุณควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อน

    1. การทำหมันให้แมว

      • หากรับเลี้ยงน้องแมวโตที่ยังไม่ได้ทำหมัน ควรพาพวกเค้าไปทำหมันให้เรียบร้อย แต่หากเป็นลูกแมว คุณต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงอายุที่เหมาะสม โดยสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงหรือสัตวแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนการทำหมันเพิ่มเติมได้
    2. ทบทวนเรื่องเวลาและกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้ดี

      • หากต้องทำงานหรือมีตารางชีวิตที่วุ่นวาย ควรพิจารณาก่อนว่าจะสามารถแบ่งเวลามาดูแลเจ้าเหมียวได้หรือไม่ ทั้งเรื่องอาหารและการทำความสะอาด คุณจำเป็นต้องวางแผนการให้อาหารพวกเค้าอย่างเหมาะสม และต้องอย่าลืมแบ่งเวลามาเล่นหรือทำกิจกรรมกับพวกเค้าด้วย
    3. การรับเลี้ยงแมวเป็นความผูกพันระยะยาว

      • เมื่อรับน้องแมวเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวแล้ว คุณจะกลายเป็นโลกทั้งใบของพวกเค้า และจำเป็นต้องดูแลรับผิดชอบพวกเค้าตลอดไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ทั้งนี้อายุขัยของแมวจะอยู่ที่ 12 – 20 ปี ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจรับเลี้ยงแมวจรจากศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้านหรือเก็บมาจากข้างถนน ควรพิจารณาให้ดีว่าพร้อมสำหรับความผูกพันและความรับผิดชอบระยะยาวนี้แล้วหรือยัง

     

    ปรับสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสมสำหรับน้องแมว

    ก่อนจะพาเจ้าตัวน้อยกลับบ้าน คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนบางสิ่งในบ้านให้เรียบร้อยก่อน โดยเริ่มจากทำตามคำแนะนำเหล่านี้

    1. นำสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายต่อน้องแมวออกไป เช่น ไม้ประดับบางชนิด หรือสารเคมีต่าง ๆ 
    2. เก็บสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พ้นอุ้งมือเจ้าเหมียว (พวกเค้าอาจเคี้ยวสายไฟเล่น จนนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้)
    3. หากมีเด็กน้อยในครอบครัว ควรสอนวิธีการเข้าหาและการเล่นกับแมวอย่างเหมาะสม
    4. เตรียมพื้นที่ส่วนตัวให้เจ้าเหมียว เพื่อให้พวกเค้ารู้สึกปลอดภัยและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
    5. ค้นหาคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกต่อการพาเจ้าตัวน้อยไปตรวจสุขภาพ

    ข้อดีของการรับเลี้ยงแมวมีอะไรบ้าง?

    ตามมาดูข้อดีหรือประโยชน์ของการรับเลี้ยงแมวกันได้เลย

    1. มอบชีวิตใหม่ให้น้องแมว

      • การเลือกที่จะรับเลี้ยงแมวจรแทนการซื้อแมวถือเป็นการช่วยเหลือน้องแมวอย่างแท้จริง ให้พวกเค้ามีบ้าน ได้รับการดูแล มีอาหารดี ๆ กิน และมีคนที่พร้อมมอบความรักให้ 
    2. น้องแมวมักได้รับการฝึกมาแล้ว

      • น้องแมวจากศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้านมักได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานกันมาบ้างแล้ว ทั้งการกินอาหารจากชามและการใช้เสาลับเล็บ
    3. เลือกรับเลี้ยงได้จากลักษณะนิสัยเฉพาะตัว

      • นี่เป็นหนึ่งในประโยชน์ที่ดีที่สุดของการรับเลี้ยงน้องแมวจากศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้าน เพราะน้องแมวส่วนใหญ่มักแสดงนิสัยหรือลักษณะพิเศษเฉพาะตัวออกมาให้เห็น ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าพวกเค้าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่

     

    ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเมื่อรับเลี้ยงแมว

    ปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจรับแมวมาเลี้ยง

     

    1. การแนะนำให้รู้จักแมวเจ้าถิ่น

      • หากมีแมวเหมียวอยู่แล้วในบ้าน คุณควรปรึกษาศูนย์พักพิงเพื่อเลือกแมวที่ชอบอยู่ร่วมกับตัวอื่น ๆ รวมทั้งศึกษาวิธีการค่อย ๆ แนะนำแมวตัวใหม่ให้รู้จักกับเจ้าถิ่นตัวเดิม เพื่อระวังไม่ให้พวกเค้าเครียดจนเกินไป
    2. การเลี้ยงแมวมีค่าใช้จ่าย

      • ทั้งค่าตรวจสุขภาพ ค่ายารักษา ค่าอาหาร ของเล่น และอื่น ๆ สำหรับน้องแมวไร้บ้านหรือน้องแมวจร อาจมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมากเป็นพิเศษ 
    3. กิจวัตรประจำวัน

      • น้องแมวต้องการการดูแลและเอาใจใส่อย่างเหมาะสม เวลาจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่คุณควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจรับแมวมาเลี้ยง โดยอาจเลือกน้องแมวที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกับคุณ เช่น หากต้องออกจากบ้านไปทำงาน อาจเลือกน้องแมวที่รักอิสระและสามารถอยู่ตามลำพังได้

     

    อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงแมว

    เพื่อการดูแลเจ้าเหมียวได้อย่างเต็มที่ ทาสแมวมือใหม่ควรเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ให้พร้อม

    1. ชามน้ำและชามอาหาร
    2. กระบะทราย
    3. เสาลับเล็บ
    4. ของเล่น
    5. แคทนิป
    6. อุปกรณ์อาบน้ำและดูแลขน
    7. กรงหรือกระเป๋าใส่แมว
    8. เบาะนอน
    9. ปลอกคอพร้อมป้ายชื่อ

Close modal