IAMS TH
What You Should Know About Changing Your Cat’s Diet
What You Should Know About Changing Your Cat’s Diet

adp_description_block497
คุณควรทราบอะไรบ้างเมื่อต้องการเปลี่ยนอาหารแมวของคุณ

  • แบ่งปัน

การตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนอาหารให้แมวของคุณเมื่อไรและใช้วิธีใดต้องมีการวางแผนล่วงหน้า เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่ชอบอะไรที่เป็นกิจวัตร เค้าจึงมักจะชอบอาหารแบบเดิมมากกว่าอาหารใหม่ แมวก็เหมือนคน เมื่อคุ้นชินกับอะไรแล้วก็มักจะไม่ชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร

 

เคล็ดลับเพื่อเปลี่ยนอาหารแมวให้ได้ผล

เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเปลี่ยนอาหารให้เจ้าเหมียวได้สำเร็จ จนเค้ายอมหันมากินอาหารชนิดใหม่ได้

วิธีที่ได้ผลดีที่สุดคือค่อย ๆ ทำให้แมวคุ้นเคยกับอาหารใหม่ ให้เวลาเค้าชินกับการเปลี่ยนแปลง โดยเริ่มจากการผสมอาหารใหม่ 25% และอาหารเดิม 75% จากนั้นจึงเปลี่ยนอัตราส่วนในช่วงสามวันโดยเพิ่มปริมาณอาหารใหม่และลดปริมาณอาหารเดิม เมื่อสิ้นสุดช่วงเปลี่ยนอาหาร คุณควรให้เค้าได้กินอาหารใหม่ 100% ซึ่งในช่วงเปลี่ยนอาหารอาจพบปัญหาได้ เช่น เจ้าเหมียวกินเฉพาะอาหารเดิมหรือไม่ยอมกินอาหารเลย แต่คุณไม่ต้องกังวลเนื่องจากแมวที่มีสุขภาพดีสามารถอดอาหารได้ถึงสองวันโดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ

ต้องระวังท่าทางของคุณด้วย การหิ้วอาหารใหม่เข้ามาในบ้านแล้วนำไปใส่ในชามอาหาร และสั่งให้แมวกินอาหารใหม่ การทำแบบนี้อาจทำให้เจ้าเหมียวอดข้าวประท้วงได้ วิธีที่ดีกว่าคือคุณควรใช้น้ำเสียงที่น่าฟังแนะนำอาหารใหม่ให้เค้า ค่อย ๆ พูดให้เค้าลองกินอาหารใหม่ดู

ต้องใจแข็ง อย่าเพิ่งรีบยอมแพ้ ในช่วงสองวันแรก ห้ามให้ขนมหรืออาหารเหลือจากมื้ออาหารของคุณเด็ดขาด! แมวสอนเราพอ ๆ กับที่เราสอนเค้า ถ้าคุณใจอ่อนจะยิ่งเป็นการสนับสนุนพฤติกรรมดังกล่าวและทำให้การเปลี่ยนอาหารยากขึ้น

ทำใจเมื่อต้องเปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ด ปัญหาใหญ่ ๆ ในการเปลี่ยนอาหารเกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ด หากแมวของคุณยังคงไม่ยอมกินอาหารเม็ด ลองเติมน้ำอุ่นผสมลงไป หรือลองนำอาหารไปอุ่นในไมโครเวฟให้พอร้อน และอย่าลืมว่าหากผสมน้ำเปล่ากับอาหารแล้ว ต้องนำไปทิ้งภายใน 20 นาที ถ้าหากแมวไม่กิน เพื่อป้องกันอาหารตกค้าง อาหารกระป๋องก็เช่นเดียวกัน หลังจากเค้าชินกับอาหารที่เติมน้ำแล้ว คุณจึงเปลี่ยนให้เค้าหันมากินอาหารเม็ดได้

 

  • สาเหตุของแมวอ้วกและวิธีการรักษา
    สาเหตุของแมวอ้วกและวิธีการรักษา
    adp_description_block9
    สาเหตุของแมวอ้วกและวิธีการรักษา

    • แบ่งปัน

    สำหรับคนเลี้ยงแมว คุณคงเคยเห็นแมวอาเจียนบ้างเป็นครั้งคราว บางครั้งแมวก็อ้วกออกมาเป็นก้อนขน หรือบางครั้งคุณอาจพบว่าแมวอ้วกเป็นอาหารที่กินเข้าไป การอาเจียนแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่แมวที่มีสุขภาพดีไม่ควรอาเจียนบ่อยเกินไป การอาเจียนบ่อยครั้งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทางที่ดีควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่และรับการรักษาอย่างทันท่วงที

     

    ดังที่กล่าวไปแล้ว การอาเจียนเป็นครั้งคราวไม่ใช่เรื่องน่ากังวล คุณไม่จำเป็นต้องรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์ แต่ควรไปพบเมื่อแมวอ้วกหลังอาหารทุกมื้อหรือทุกวัน อ่านบทความของเราเพื่อเรียนรู้สาเหตุและวิธีดูแลรักษาอาการอาเจียนในแมวเพิ่มเติม

     

    แมวอาเจียนเพราะอะไร?

    การอาเจียนของแมวเกิดได้จากหลายสาเหตุ แมวอาจอาเจียนเมื่อสัมผัสกับสารพิษ เช่น พืชบางชนิด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการอาเจียนเรื้อรังได้ นอกจากนี้แมวยังมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น พวกเค้าอาจรับสารพิษเข้าไปแบบไม่รู้ตัวในขณะที่สำรวจสิ่งต่าง ๆ จนนำไปสู่การอาเจียนในที่สุด

     

    การอาเจียนไม่สามารถระบุความเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อที่เฉพาะเจาะจงได้ โรคในแมวเกือบทั้งหมดส่งผลให้แมวมีอาการอาเจียน ทั้งนี้เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง คุณจะต้องพาเจ้าเหมียวไปพบสัตวแพทย์ โดยการอาเจียนอาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ ความผิดปกติของอวัยวะ ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร อาหาร การติดเชื้อ โรคมะเร็ง และอื่น ๆ

     

    สาเหตุของการอาเจียนในแมว

    สาเหตุที่ทำให้แมวอ้วกมีอะไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

    1. ก้อนขนอุดตัน – 

    แมวชอบดูแลตัวเอง พวกเค้ามักจะเลียทำความสะอาดตัวเองอยู่เสมอ และลิ้นที่มีหนามเล็ก ๆ อาจเกี่ยวติดขนที่ใกล้หลุดร่วงออกมา ทำให้แมวกลืนขนบางส่วนลงไป ขนเหล่านี้จะสะสมอยู่ในท้องจนเกิดการอุดตัน แมวจึงต้องขย้อนมันออกมา การขย้อนก้อนขนเป็นเรื่องปกติและไม่น่ากังวล แต่หากแมวขย้อนก้อนขนบ่อยเกินไป นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาระบบทางเดินอาหาร ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์

     

    1. ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร – 

    อาจเรียกว่าเป็นอาการท้องไส้ปั่นป่วนก็ได้ สาเหตุนี้อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยา ปัญหาเกี่ยวกับอาหาร และการได้รับสารพิษ ปัญหาในระบบทางเดินอาหารส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและหายได้เอง ในขณะที่สาเหตุอื่น ๆ อาจก่อให้เกิดอาการเรื้อรังและต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ

    • สิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งกีดขวาง – หากแมวของคุณชอบกัดหรือเคี้ยวสิ่งของ มันก็มีโอกาสที่พวกเค้าจะกลืนชิ้นส่วนเล็ก ๆ ลงไป ทำให้เกิดการอุดตันในระบบทางเดินอาหารและเกิดการอาเจียนได้ ในกรณีนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน ทางที่ดีควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กอาการเพิ่มเติม

    • อาการภูมิแพ้แมวและโรคลำไส้อักเสบ – การแพ้อาหารจะเกิดขึ้นเมื่อแมวได้กินอาหารบางชนิดเข้าไป ซึ่งอาจทำให้แมวอ้วกออกมาทันทีเนื่องจากการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร บางครั้งการแพ้อาหารก็ทำให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรังได้เช่นกัน

    • อาการเจ็บป่วย – โรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น ตับอ่อนอักเสบ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป โรคไต และอื่น ๆ อาจทำให้แมวรู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนได้ หากแมวอ้วกบ่อยจนผิดปกติ คุณควรพาพวกเค้าไปตรวจเช็กร่างกายเพื่อค้นหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่

    • การติดเชื้อปรสิต – ปรสิตตัวร้ายมักจะทำให้ลูกแมวมีอาการอาเจียน แต่สาเหตุนี้เกิดขึ้นได้กับแมวทุกวัยเช่นกัน แนะนำให้ตรวจสอบอาเจียนของแมวเพื่อหาพยาธิที่มีชีวิต ข่าวดีคือการอาเจียนจากปรสิตสามารถรักษาให้หายได้ 100%

    • โรคมะเร็ง – มะเร็งในระบบทางเดินอาหารพบได้บ่อยมากในแมว ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แมวมีอาการอาเจียน อย่างไรก็ตาม มะเร็งในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็อาจทำให้อาเจียนได้เช่นกัน

    ลักษณะอาเจียนของแมว

    ลักษณะของอาเจียนมีความสำคัญต่อการรักษา เนื่องจากสามารถบ่งบอกถึงสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงได้ แนะนำให้สังเกตหรือตรวจดูอาเจียนของแมวเพื่อแจ้งให้สัตวแพทย์ทราบ โดยลักษณะอาเจียนของแมวที่พบบ่อยมีดังนี้

     

    อาเจียนสีเหลือง

    แมวอ้วกเป็นสีเหลืองอาจเป็นเพราะอาหารย่อยได้แค่บางส่วนหรือเป็นน้ำดีในท้อง

    อาเจียนสีใส

    อาเจียนสีใสอาจเกิดขึ้นจากอาการท้องว่างหรือการสำรอกน้ำลายออกจากหลอดอาหาร

    อาเจียนสีขาว มีฟอง

    การขย้อนก้อนขนในขณะท้องว่างอาจทำให้แมวอาเจียนเป็นฟองสีขาวได้

    อาเจียนเป็นเลือด 

    อาเจียนเป็นเลือดอาจเกิดจากการอักเสบในกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร หรือลำไส้ส่วนบน

    อาเจียนสีน้ำตาล มีกลิ่น

    อาเจียนสีน้ำตาลและมีกลิ่นอาจเป็นสัญญาณของการมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังอาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับไตหรือตับด้วย

     

    ป้องกันไม่ให้แมวอาเจียนได้อย่างไร?

    เราสามารถป้องกันไม่ให้แมวอ้วกได้หลายวิธี แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลเรื่องอาหารการกิน ในกรณีที่มีอาการภูมิแพ้แมวหรือมีอาการแพ้อาหาร ควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากสัตวแพทย์ วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาอาเจียนเรื้อรังได้

     

    ขอแนะนำให้เลือกอาหารแมวที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล หลีกเลี่ยงการให้อาหารของคน คอยจับตาดูแมวขณะเล่นและอย่าปล่อยให้พวกเค้ากินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป สำหรับปัญหาก้อนขนอุดตัน คุณอาจเปลี่ยนมาให้อาหารสูตรลดก้อนขนหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่สัตวแพทย์แนะนำเพิ่มเติมได้

     

    การรักษาอาการอาเจียนในแมว

    การสังเกตลักษณะอาเจียนเป็นส่วนสำคัญในการรักษา คุณควรสังเกตว่าอาเจียนของแมวเป็นแบบใด แมวอ้วกเป็นอาหารที่กินเข้าไปหรือแมวอาเจียนเป็นฟองสีขาว ทั้งนี้พ่อแม่แมวหลายคนพยายามหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันหรือลดการอาเจียนมาใช้กับแมว แต่การอาเจียนเกิดจากหลายสาเหตุ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาจึงเป็นเรื่องยาก หากแมวของคุณอาเจียนเพราะปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะในร่างกายหรือโรคมะเร็ง สิ่งแรกที่ควรทำคือเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม แต่หากแมวของคุณมีอาการอาเจียนเพียงเล็กน้อย สัตวแพทย์อาจสั่งยาแก้อาเจียนหรือยาลดกรดให้ สำหรับปัญหาระบบทางเดินอาหาร คุณอาจต้องเปลี่ยนสูตรอาหารที่เหมาะสมกับอาการ 

     

    การวินิจฉัยและการตรวจสอบโดยสัตวแพทย์

    สัตวแพทย์จะตัดสินใจว่าควรทดสอบและใช้วิธีการรักษาแบบใดโดยพิจารณาจากประเด็นเหล่านี้

    1. แมวมีไข้ อ่อนเพลีย หรือเซื่องซึมหรือไม่

    2. แมวมีอาการเบื่ออาหารไหม? น้ำหนักลดลงหรือเปล่า?

    3. แมวอ้วกเป็นเลือดหรือไม่?

    4. แมวมีอาการเจ็บปวดหรือไม่สบายตัวไหม?

    5. ช่องท้องของแมวได้รับผลกระทบหรือไม่?

    6. แมวอ้วกบ่อยครั้งในหนึ่งวันหรือแค่หลังมื้ออาหาร?

    7. อาเจียนของแมวมีกลิ่นเหม็นไหม? แล้วอาเจียนมีสีอะไร?

    8. คุณเพิ่งเปลี่ยนอาหารให้แมวใหม่หรือเปล่า มีการให้อาหารเสริมหรือไม่?

    9. แมวของคุณชอบเคี้ยวของเล่นหรือกินอาหารอื่นเข้าไปหรือเปล่า?

    10. แมวตัวอื่นในบ้านมีอาการเหมือนกันไหม?

    การตรวจวินิจฉัยและการรักษาวิธีอื่น

    หากแมวของคุณอาเจียนบ่อยครั้งและคุณสงสัยว่าพวกเค้ามีปัญหาสุขภาพอื่นแอบแฝง สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ทำการทดสอบเพิ่มเติมและทำการรักษาในเชิงรุก หากแมวสูญเสียเลือดหรืออิเล็กโทรไลต์จำนวนมากจากการอาเจียนบ่อย ๆ คุณอาจต้องพาพวกเค้าไปรักษาในโรงพยาบาล

     

    สาเหตุอื่น ๆ ของการอาเจียนในแมว

    ก่อนจะเรียนรู้วิธีรักษาอาการอาเจียนของแมว เรามาดูสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้แมวอาเจียนกันก่อน

    1. สารพิษ

    • การอาเจียนจากการได้รับสารพิษขณะเลียขนเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด

    • แมวชอบเคี้ยวใบไม้ดอกไม้ในบ้าน ซึ่งพืชบางชนิดก็เป็นพิษกับแมว

    • ขณะที่เราทำความสะอาดบ้านด้วยสารเคมีต่าง ๆ แมวอาจสูดดมหรือเลียเข้าไป ทำให้เกิดการอาเจียนได้

    1. อาหาร

    • หากแมวไม่ยอมกินอาหารหรือกินช้าลงกว่าปกติ คุณอาจพบว่าแมวอ้วกเป็นอาหารที่ไม่ได้ย่อยออกมา

    • อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แมวอาเจียนบ่อยคือการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน คุณควรเปลี่ยนอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ โดยค่อย ๆ ปรับปริมาณอาหารเดิมให้น้อยลง และเพิ่มปริมาณอาหารใหม่ให้มากขึ้น

    1. ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

    • การได้รับสิ่งแปลกปลอม มลพิษ หรือผลข้างเคียงของยา อาจทำให้เกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหารได้ เช่น มีอาการปวดท้อง

    • บางกรณีอาจไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่บางกรณีอาจร้ายแรงและควรได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์

    1. ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้

    • การกลืนสิ่งแปลกปลอม เช่น เชือกหรือของเล่นชิ้นเล็ก ๆ อาจทำให้เกิดการอุดตันที่กระเพาะหรือลำไส้ 

    • ลำไส้อุดตันเป็นภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการดูแลรักษาทันที อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพ เช่น เนื้องอก หรือการบีบตัวผิดปกติของลำไส้

    • อาการที่สังเกตได้ทั่วไป เช่น แมวอ้วกบ่อย ไม่สามารถกลืนน้ำหรืออาหารได้

    1. ความผิดปกติของอวัยวะ

    • ความผิดปกติเรื้อรัง เช่น ตับอ่อนอักเสบ โรคไต และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนเรื้อรังในแมวได้

    • การระบุโรคที่เป็นต้นเหตุเป็นสิ่งสำคัญเพื่อค้นหาวิธีดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม อาการเจ็บป่วยเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต

    1. ปัญหาต่อมไร้ท่อ

    • หนึ่งในโรคต่อมไร้ท่อในแมวที่พบบ่อยที่สุดคือไฮเปอร์ไทรอยด์ หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป 

    • การทำงานมากเกินไปของต่อมไทรอยด์เกิดจากเนื้องอก (โดยปกติจะไม่เป็นอันตราย)

    • อัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้แมวอาเจียนได้

    อาการอาเจียนแบบใดที่น่ากังวล?

    พ่อแม่แมวไม่ควรละเลยหากแมวอาเจียนอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาเจียนแบบไหนถือว่าผิดปกติ? หากแมวอ้วก 1 – 3 ครั้งต่อเดือน จะถือว่าเป็นเรื่องปกติ

     

    กรณีที่ร้ายแรงหรือน่ากังวลคือแมวอ้วกวันละสองครั้งเป็นเวลาสองหรือสามวัน หากแมวของคุณไม่ยอมกินอาหาร มีอาการปวดท้อง อาเจียนอย่างต่อเนื่องหรืออาเจียนมีเลือดปน ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

Close modal