IAMS TH
What You Should Know About Changing Your Cat’s Diet
What You Should Know About Changing Your Cat’s Diet

adp_description_block419
ความสำคัญของต้นอ่อนข้าวสาลีในอาหารแมว

  • แบ่งปัน

ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นยอดสดของต้นข้าวสาลีที่เก็บเกี่ยวก่อนที่เมล็ดข้าวจะงอก อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นส่วนประกอบทั่วไปที่พบได้ในอาหารแมวส่วนใหญ่ มันอุดมไปด้วยโปรตีน แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินซี โดยแมวมักจะเคี้ยวต้นอ่อนข้าวสาลีหรือต้นหญ้าเพื่อบรรเทาอาการท้องผูกและอาหารไม่ย่อย เส้นใยที่อยู่ในพืชเหล่านี้ช่วยให้การขับถ่ายราบรื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้เลียงควรเช็กให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวเคี้ยวต้นอ่อนข้าวสาลีออร์แกนิกและปลอดยาฆ่าแมลงเท่านั้น

ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นอันตรายต่อแมวหรือไม่?

แมวส่วนใหญ่ไม่มีอาการแพ้ต้นอ่อนข้าวสาลี พวกเค้าสามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารจากมันได้อย่างง่ายดาย ต้นอ่อนข้าวสาลีถือเป็นแหล่งสารอาหารชั้นเยี่ยม มีทั้งวิตามิน โปรตีน และสารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมีไฟเบอร์และซีลีเนียมที่ช่วยให้ลำไส้สุขภาพดีด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อย คุณควรสังเกตความผิดปกติที่บ่งบอกถึงอาการแพ้หลังการบริโภคต้นอ่อนข้าวสาลี โดยสามารถสังเกตได้จากสัญญาณเตือนเหล่านี้

  1. น้ำลายไหลมากผิดปกติ
  2. มีตุ่มแดง
  3. ขนร่วงมากผิดปกติ
  4. มีผื่นแดง

ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรให้ต้นอ่อนข้าวสาลีกับเจ้าเหมียวในปริมาณที่เหมาะสม โดยต้องให้น้อยกว่า 10% ของปริมาณแคลอรีทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน หลีกเลี่ยงการให้ทุกวัน แต่สามารถให้เป็นวันเว้นวันได้

ประโยชน์ของต้นอ่อนข้าวสาลี

เป็นที่รู้กันดีว่าต้นอ่อนข้าวสาลีมีส่วนช่วยในการย่อยอาหารและขับถ่าย แต่นี่ไม่ใช่ข้อดีเพียงอย่างเดียว ต้นอ่อนข้าวสาลียังมีประโยชน์ต่อร่างกายเจ้าเหมียวอีกมากมาย ดังนี้

  1. ช่วยลดน้ำหนัก – แมวบ้านทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์อย่างในอดีต พวกเค้าจึงเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ส่งผลให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น การให้ต้นอ่อนข้าวสาลีแทนการให้ขนมตามปกติจะช่วยให้การควบคุมน้ำหนักของแมวดียิ่งขึ้น
  2. เสริมระบบภูมิคุ้มกัน – หนึ่งในประโยชน์ของต้นอ่อนข้าวสาลีคือคุณค่าทางโภชนาการ มันถือเป็นแหล่งสารอาหารชั้นเยี่ยม เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน ไฟเบอร์ และโปรตีน ซึ่งส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของแมว
  3. เสริมสุขภาพช่องปากและฟัน – ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพเนื่องจากเป็นอาหารออร์แกนิก ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยให้เจ้าเหมียวเคี้ยวเล่นได้โดยไม่ต้องกังวล ไม่ทำให้ฟันผุหรือฟันแตก นอกจากนี้ต้นข้าวสาลีอ่อนยังช่วยเสริมสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย 
  4. ชะลอวัย – สารอาหารที่มีอยู่ในต้นอ่อนข้าวสาลีมีส่วนช่วยในการต่อต้านริ้วรอย และยังมีคลอโรฟิลล์ที่เป็นสารช่วยเพิ่มปริมาณเลือด ทำให้แมวของคุณดูอ่อนกว่าวัย
  5. ช่วยให้ไตแข็งแรง – แมวต้องพึ่งพาไฟเบอร์มากขึ้นเมื่อมีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร หากพบว่าแมวเคี้ยวต้นอ่อนข้าวสาลีบ่อยขึ้น แสดงว่าพวกเค้าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร การย่อยอาหาร หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับไต แนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อตรวจเช็กการทำงานของระบบทางเดินอาหารและไต
  6. เสริมการมองเห็น – ต้นอ่อนข้าวสาลีมีวิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการมองเห็นและบำรุงดวงตา

ข้อเสียของต้นอ่อนข้าวสาลี

แน่นอนว่าต้นอ่อนข้าวสาลีไม่ได้มีเพียงข้อดีเท่านั้น มันมีข้อควรระวังและข้อเสียด้วยเช่นกัน หากปล่อยให้เจ้าเหมียวเคี้ยวต้นอ่อนข้าวสาลีมากเกินไป อาจเกิดผลกระทบดังนี้ได้

  1. ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ
  2. อาจมีอาการท้องเสียและอาเจียน หากเจ้าเหมียวท้องเสียและอาเจียนอย่างต่อเนื่อง ควรรีบพาไปพบสัตวแทพย์ในทันที

หญ้าแมว vs ต้นอ่อนข้าวสาลี

ทาสแมวส่วนใหญ่สับสนระหว่างหญ้าแมวกับต้นอ่อนข้าวสาลี หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น ไม่ต้องกังวลไป เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณแยกแยะความแตกต่างของพืชทั้งสองชนิดนี้ได้

แบรนด์อาหารแมวส่วนใหญ่มักใช้คำว่า “หญ้าแมว” กับส่วนประกอบที่เป็นพืชทุกชนิด มันอาจเป็นหญ้าชนิดใดก็ได้ ตั้งแต่ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ไปจนถึงต้นอ่อนข้าวสาลี หากคุณพบข้อความที่ระบุว่ามีหญ้าแมวบนผลิตภัณฑ์อาหารแมว แนะนำให้อ่านฉลากอีกครั้งเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเป็นส่วนประกอบชนิดใดและเลือกใช้แบบออร์แกนิกหรือไม่ 

ทั้งนี้คุณสามารถให้ต้นอ่อนข้าวสาลีควบคู่ไปกับอาหารมื้อหลักได้ แต่ต้องจำกัดปริมาณให้เหมาะสมและควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนตัดสินใจให้ต้นอ่อนข้าวสาลีกับแมวที่บ้าน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับต้นอ่อนข้าวสาลีในอาหารแมว

  1. ทำไมแมวชอบเคี้ยวต้นอ่อนข้าวสาลี?
  2. หากพบว่าแมวของคุณเคี้ยวต้นอ่อนข้าวสาลีหรือต้นหญ้ามากผิดปกติ แสดงว่าพวกเค้าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กให้แน่ใจว่าพวกเค้าแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี

  3. แมวสามารถกินต้นข้าวสาลีส่วนใดได้บ้าง?
  4. แมวสามารถกินข้าวสาลีอบหรือปรุงสุกได้ รวมถึงสามารถกินรำข้าวสาลีได้ด้วยเช่นกัน

  5. แมวเคี้ยวหรือกินต้นอ่อนข้าวสาลีได้มากน้อยแค่ไหน?
  6. ควรจำกัดปริมาณไว้ที่ 10% หรือน้อยกว่า จากปริมาณแคลอรีทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน

  7. ต้นอ่อนข้าวสาลีดีต่อสุขภาพแมวบ้านหรือไม่?
  8. ต้นอ่อนข้าวสาลีมีประโยชน์มากสำหรับแมวที่เลี้ยงในบ้าน มันมีส่วนช่วยเสริมการมองเห็น เสริมระบบภูมิคุ้มกัน เสริมสุขภาพช่องปากและระบบทางเดินอาหาร รวมถึงช่วยควบคุมน้ำหนักของแมวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วย

  9. ต้นอ่อนข้าวสาลีกับหญ้าแมวเหมือนกันหรือไม่?
  10. ต้นข้าวสาลีอ่อนถือเป็นหญ้าแมวชนิดหนึ่ง ส่วนหญ้าแมวก็เป็นธัญพืชที่แมวส่วนใหญ่โปรดปราน

  • เผย 8 เคล็ดลับดูแลลูกแมวให้เติบโตอย่างแข็งแรง
    เผย 8 เคล็ดลับดูแลลูกแมวให้เติบโตอย่างแข็งแรง
    adp_description_block412
    วิธีดูแลลูกแมวแรกเกิดให้มีสุขภาพดี

    • แบ่งปัน

    ในโลกออนไลน์ทุกวันนี้ เต็มไปด้วยรูปภาพและคลิปวิดีโอของแมวเหมียว นั่นเพราะความน่ารักน่าเอ็นดูและนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเค้า ไม่น่าแปลกใจเลยที่ใครหลาย ๆ คนอยากมีลูกแมวเป็นของตัวเอง แต่รู้ไหมว่าเจ้าตัวน้อยเหล่านี้บอบบางและจำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี หากคุณรับเลี้ยงลูกแมวกำพร้าแม่ คุณอาจต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และควรเรียนรู้วิธีการดูแลลูกแมวเพิ่มเติมด้วย
     

    สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเส้นทางการดูแลลูกแมวได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่การนัดพบสัตวแพทย์ การเลือกอาหาร ไปจนถึงการดูแลทำความสะอาด ติดตามเรื่องราวน่ารู้ทั้งหมดได้ในบทความนี้
     

    ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

    เมื่อรับลูกแมวเข้าบ้านแล้ว แนะนำให้พาไปตรวจสุขภาพเบื้องต้นกับสัตวแพทย์กันก่อน หากพบปัญหาหรืออาการผิดปกติก็สามารถทำการรักษาได้ทันที นอกจากนี้คุณหมอจะแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนและการทำหมันเพิ่มเติมด้วย หากคุณเป็นทาสแมวมือใหม่ นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ
     

    จัดเตรียมน้ำให้เพียงพอ

    เนื่องจากลูกแมวที่มีภาวะขาดน้ำมักจะเสี่ยงต่อโรคและการติดเชื้อสูง แนะนำให้วางชามน้ำหลาย ๆ จุดรอบบ้าน หลีกเลี่ยงบริเวณกระบะทรายหรือมุมขับถ่าย รวมถึงทำความสะอาดชามเหล่านี้เป็นประจำและหมั่นเปลี่ยนน้ำเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
     

    เลือกโภชนาการที่เหมาะสม

    ลูกแมวแรกเกิดควรได้รับน้ำนมแม่ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรก อย่างไรก็ตาม ลูกแมวจรจัดหรือลูกแมวไร้บ้านมักจะถูกแยกจากแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย หากคุณรับเลี้ยงลูกแมวเหล่านี้ คุณอาจต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเรียนรู้วิธีการดูแลและการเลือกโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าลูกแมวจะได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการ โดยคุณอาจต้องเปลี่ยนสูตรอาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัยด้วย
     

    แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ อาหารแมวจึงควรมีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลัก และต้องมาจากแหล่งโปรตีนคุณภาพเยี่ยม อย่างอาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรแม่และลูกแมว ที่อัดแน่นไปด้วยโปรตีนคุณภาพดีจากเนื้อไก่และโอเมก้า 3 มีส่วนผสมของโคลอสตรุมและดีเอชเอ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการดวงตาและสมอง
     

    ดูแลเอาใจใส่และมอบความรักให้อย่างสม่ำเสมอ

    แม้ว่าแมวจะมีนิสัยรักอิสระและชอบความเป็นส่วนตัว แต่ในบางครั้งพวกเค้าก็ชอบให้กอด ให้อุ้ม และชอบให้เอาอกเอาใจ พวกเค้ามีวิธีแสดงความรักในแบบของตัวเอง ให้เวลาลูกแมวตัวใหม่ของคุณได้ปรับตัว ค่อย ๆ เข้าหาและเริ่มสัมผัสพวกเค้าอย่างอ่อนโยน อาจใช้ของเล่นมาช่วยดึงความสนใจ โดยลูกแมวส่วนใหญ่ชอบเล่นกับกระดิ่ง เชือก หรืออะไรก็ตามที่พวกเค้าสามารถวิ่งไล่ตามได้
     

    แนะนำให้รู้จักกับสมาชิกในครอบครัว

    หลังจากรับลูกแมวเข้าบ้านแล้ว คุณควรเปิดโอกาสให้เจ้าตัวน้อยทำความรู้จักกับสมาชิกในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นตั้งแต่แรกเริ่ม โดยการแนะนำลูกแมวตัวใหม่ควรทำภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับบ้านที่มีน้องหมาอยู่ก่อน คุณควรฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยกับกลิ่นของลูกแมว เพื่อป้องกันสัญชาตญาณการล่าเหยื่อ อย่างไรก็ตาม น้องหมาบางสายพันธุ์ก็ไม่เหมาะที่จะอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น 
     

    การฝึกเข้าสังคมเป็นสิ่งสำคัญ ควรให้ลูกแมวพบเจอผู้คนหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเป็นครั้งคราว เพื่อให้พวกเค้าปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ง่าย วิธีนี้มีประโยชน์มากเมื่อถึงเวลาพบสัตวแพทย์หรือเมื่อต้องเข้าร้านอาบน้ำตัดขน
     

    ดูแลขนลูกแมวเป็นประจำ

    แมวชอบดูแลตัวเองและใส่ใจกับรูปร่างหน้าตามากเป็นพิเศษ แม้ว่าพวกเค้าจะดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งก็อาจต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเมื่อเนื้อตัวมอมแมม ทั้งนี้การแปรงขนไม่เพียงแต่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเส้นขนที่ตายแล้วเท่านั้น แต่ยังช่วยนวดผิวหนังเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้ลูกแมวของคุณมีสุขภาพผิวหนังที่ดีและเส้นขนเงางามอีกด้วย
     

    ฝึกลูกแมวเข้ากระบะทราย

    การฝึกเข้ากระบะทรายถือเป็นหนึ่งในการฝึกที่สำคัญที่สุด เริ่มจากเลือกกระบะทรายที่มีขนาดเหมาะกับตัวลูกแมว ส่วนทรายแมวอาจต้องทดลองใช้หลาย ๆ ชนิดเพื่อค้นหาชนิดที่ถูกใจเจ้าเหมียวที่สุด โชคดีที่แมวส่วนใหญ่มักจะขับถ่ายในพื้นผิวที่เป็นทราย การฝึกนี้จึงมีโอกาสสำเร็จสูง แต่หากลูกแมวไม่ยอมเข้ากระบะทรายในทันที ให้เวลาพวกเค้าปรับตัวกันสักพัก และหมั่นทำความสะอาดกระบะทรายเป็นประจำด้วย
     

    เตรียมพื้นที่พักผ่อนสำหรับลูกแมว

    ลูกแมวและแมวมักจะงีบหลับกันในช่วงกลางวัน โดยลูกแมวสามารถนอนได้ถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน! ในช่วงสองสามคืนแรก ลูกแมวอาจส่งเสียงร้องบ่อย เนื่องจากยังปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ไม่ดี คุณอาจจับพวกเค้านอนข้างเตียงเพื่อให้ง่ายต่อการดูแล เมื่อพวกเค้าเริ่มคุ้นเคยกับพื้นที่ใหม่และนอนหลับได้นานหลายชั่วโมงแล้ว สามารถจัดเตรียมมุมสบาย ๆ อากาศถ่ายเท และเงียบสงบให้พวกเค้าพักผ่อนตามลำพังได้

Close modal