IAMS TH
การฝึกลูกสุนัขให้มีวินัยและรู้จักกฎระเบียบของบ้าน
การฝึกลูกสุนัขให้มีวินัยและรู้จักกฎระเบียบของบ้าน

adp_description_block346
การฝึกลูกสุนัขให้มีวินัยและรู้จักกฎระเบียบของบ้าน

  • แบ่งปัน

การมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในบ้านคงทำให้ทุก ๆ วันของพ่อแม่มะหมามีทั้งความสุขและความสนุก สำหรับพ่อแม่บางคน นี่คือความฝันที่กลายเป็นจริงในที่สุด แต่การเลี้ยงน้องหมาไม่ได้ง่ายอย่างที่หลาย ๆ คนคาดคิด โดยเฉพาะเมื่อพวกเค้าไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม
 

หากผู้เลี้ยงละเลยการฝึกฝนอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ ลูกสุนัขอาจมีพฤติกรรมไม่น่ารัก ทำลายข้าวของในบ้าน และไม่เชื่อฟังคำสั่ง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณและครอบครัวหัวหมุนได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม มือใหม่หัดเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับวิธีจัดการและควบคุมเจ้าตัวน้อยแสนซน หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น นี่คือทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฝึกลูกสุนัขที่บ้าน

  • เริ่มด้วยการเตรียมตัวให้พร้อม

กระบวนการฝึกต้องใช้เวลา ความอดทน และความตั้งใจ ไม่สามารถทำเล่น ๆ หรือทำแบบขอไปทีได้ ผู้เลี้ยงต้องทำเป็นกิจวัตรเพื่อให้น้องหมาคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกใส่สายจูงหรือการขับถ่ายให้เป็นที่
 

ข้อควรรู้ – น้องหมาต้องใช้เวลาปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่ คุณอาจต้องวางแผนการฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่งรัดและกดดันพวกเค้าจนเกินไป

  • การกำหนดตารางเวลาและทำให้เป็นกิจวัตร

วิธีนี้จะส่งผลดีในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเราหรือน้องหมา การกำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้น้องหมาเรียนรู้ว่าเวลาไหนต้องกินอาหาร เล่น นอน หรือขับถ่าย ซึ่งช่วยลดปัญหาขับถ่ายเรี่ยราดได้ดี
 

การพาน้องหมาออกไปเดินเล่นและขับถ่ายนอกบ้านควรทำเป็นเวลา แนะนำให้พาพวกเค้าออกไปเดินเล่นทันทีหลังจากตื่นนอน เมื่อถึงเวลาเล่นสนุก และหลังจากกินอาหารเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ควรเว้นระยะห่างระหว่างมื้ออาหารและเวลานอนให้เหมาะสม ลูกสุนัขจะได้ไม่ต้องกลั้นปัสสาวะนานจนเกินไป
 

เมื่อลูกสุนัขโตขึ้น พวกเค้าจะกลั้นปัสสาวะได้นานขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกสุนัขวัย 2 เดือน จะกลั้นขับถ่ายได้นาน 2 ชั่วโมง แต่ระยะเวลามากสุดที่น้องหมาทำได้คือ 6 ชั่วโมง ไม่ควรปล่อยให้กลั้นนานเกินกว่านี้

  • การใช้คำสั่งร่วมกับการฝึก

การใช้คำสั่งจะช่วยให้เราสื่อสารกับน้องหมาได้ดีขึ้น หากใช้คำสั่งซ้ำ ๆ กับการกระทำบางอย่าง น้องหมาจะเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างคำพูดและการกระทำของคุณ เช่น พูดว่า “ไปคาบมา” ในขณะที่คุณโยนของเล่นหรือกิ่งไม้ น้องหมาจะเข้าใจว่าต้องไปเอาของกลับมา ในทำนองเดียวกัน เมื่อพาพวกเค้าไปขับถ่าย ให้พูดว่า “อึ” หรือ “เบ่ง” โดยชี้ไปที่จุดใดจุดหนึ่งด้วย สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเค้าเรียนรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป

  • การให้รางวัลเมื่อน้องหมาทำได้ดี

การให้รางวัลช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับน้องหมา รางวัลเหล่านี้อาจอยู่ในรูปแบบของขนม คำชม หรือช่วงเวลาเล่นกับของเล่นชิ้นโปรด นอกจากนี้การให้รางวัลยังช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี ทำให้พวกเค้าฝึกคำสั่งใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น คุณสามารถให้รางวัลก่อนหรือหลังการฝึกก็ได้ แต่หลีกเลี่ยงการให้กลางคัน เช่น ระหว่างการขับถ่าย ควรรอให้พวกเค้าขับถ่ายเสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

ข้อควรระวัง – หากการฝึกขับถ่ายได้ผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้ผลเลย ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดจากปัญหาทางสุขภาพ เช่น การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ

  • เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการฝึกขับถ่ายให้ลูกสุนัข

คุณต้องเข้าใจว่าการฝึกเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน ลูกสุนัขอาจใช้เวลาในการเรียนรู้มากน้อยแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม หากฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ พวกเค้าจะเชื่อฟังและเรียนรู้ได้ดีขึ้น ต่อไปนี้คือเรื่องที่เจ้าของควรรู้ก่อนเริ่มต้นฝึกลูกสุนัข

  • หลีกเลี่ยงการลงโทษเมื่อลูกสุนัขขับถ่ายไม่เป็นที่ เพราะจะทำให้ลูกสุนัขหวาดกลัวหรืออาจตอบโต้ด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว
  • หากลูกสุนัขขับถ่ายเป็นที่ ให้รางวัลพวกเค้า แต่ควรรอจนกว่าพวกเค้าจะขับถ่ายเสร็จเรียบร้อย
  • ควรอยู่เป็นเพื่อนลูกสุนัขตลอดเวลาขับถ่าย หากพวกเค้าใช้เวลานานกว่าปกติ ไม่ควรเร่งหรือบังคับให้พวกเค้าขับถ่าย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฝึกลูกสุนัข

  1. ควรฝึกลูกสุนัขขับถ่ายอย่างไร?
  2. การฝึกขับถ่ายจะได้ผลดีหากทำเป็นกิจวัตร ไม่ว่าจะเป็นเวลาให้อาหาร เวลาเล่นสนุก หรือเวลาขับถ่าย หากทำตามตารางเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ลูกสุนัขก็จะขับถ่ายตามเวลาที่กำหนดโดยอัตโนมัติ แนะนำให้ใช้วิธีฝึกเชิงบวกเพื่อป้องกันลูกสุนัขเกิดอาการหวาดกลัวและมีพฤติกรรมก้าวร้าว

  3. ควรเริ่มฝึกขับถ่ายให้ลูกสุนัขตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
  4. คุณสามารถเริ่มฝึกได้เมื่อลูกสุนัขมีอายุ 12 – 16 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่พวกเค้าสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ได้แล้ว ลูกสุนัขอาจใช้เวลาประมาณ 4 – 6 เดือนในการฝึกขับถ่าย อย่างไรก็ตาม น้องหมาบางตัวอาจใช้เวลาเป็นปี หากการฝึกไม่ได้ผลหรือมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย ควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์

  5. ทำไมการฝึกลูกสุนัขขับถ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ?
  6. จุดประสงค์หลักในการฝึกขับถ่ายคือเพื่อป้องกันปัญหาลูกสุนัขขับถ่ายเรี่ยราด

  • สัญญาณสุนัขอาหารไม่ย่อย
    สัญญาณสุนัขอาหารไม่ย่อย
    adp_description_block50
    สัญญาณสุนัขอาหารไม่ย่อย

    • แบ่งปัน

    เช่นเดียวกับเรา ระบบทางอาหารมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัข ดังนั้นหากเราต้องการให้น้องหมามีสุขภาพดีและมีความสุข เราควรทำความเข้าใจสุขภาพทางอาหารของสุนัขกันให้มากขึ้น

     

    โดยพื้นฐานแล้ว มันหมายถึงความสมดุลและการทำงานของระบบทางเดินอาหาร (GI) โดยเฉพาะไมโครไบโอมในลำไส้ หรือก็คือกลุ่มของเซลล์ที่มียีนเฉพาะตัว เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และจุลินทรีย์นานาชนิด ระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อนนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพของสุนัขเกือบทุกด้าน ตั้งแต่การดูดซึมสารอาหารไปจนถึงกระบวนการรับรู้

     

    อย่างไรก็ตาม อาหารสุนัขสำเร็จรูป ยา เช่น ยาปฏิชีวนะ และการใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน อาจรบกวนความสมดุลของไมโครไบโอมในลำไส้ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาที่น่ากังวลอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขอาหารไม่ย่อย โรคลำไส้อักเสบ (IBD) การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน และพฤติกรรมเปลี่ยนไป

     

    แต่ไม่ต้องกังวล! เราสามารถฟื้นฟูและรักษาสุขภาพทางเดินอาหารของสุนัขได้ พร้อมจัดการปัญหาน้องหมาอาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย อ่านบทความของเราเพื่อค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมระบบทางเดินอาหารของสุนัข

     

    วิธีการดูแลระบบทางเดินอาหารของสุนัข

    อยากให้สุนัขมีระบบทางเดินอาหารที่ดี ควรทำอย่างไร? คำตอบคือจัดการกับปัญหาและความผิดปกติต่าง ๆ ในระบบย่อยอาหารของสุนัข รวมถึงสนับสนุนการทำงานเพื่อให้ไมโครไบโอมในลำไส้มีความสมดุล หรือเพียงแค่ทำตามคำแนะนำง่าย ๆ ต่อไปนี้

    • โพรไบโอติกและพรีไบโอติก

    การเสริมโพรไบโอติกในอาหารสุนัขช่วยคุณได้! โพรไบโอติกช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดดี ช่วยปรับสมดุลของไมโครไบโอม เพิ่มภูมิคุ้มกันต่อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ต่อสู้กับการติดเชื้อในลำไส้ได้ดีขึ้น และเสริมโภชนาการในระหว่างที่น้องหมามีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร ขอแนะนำ ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมโพรไบโอติกที่มีบาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus Subtilis) ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในอุจจาระ ลดการผลิตแอมโมเนียและกลิ่นอุจจาระ พร้อมเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ เพื่อให้โพรไบโอติกเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น อาจเพิ่มไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ลงในมื้ออาหาร เช่น พืชตระกูลน้ำเต้า

    • กำหนดกิจวัตรประจำวัน

    การออกกำลังกายและการเล่นเป็นประจำส่งผลดีต่อระบบทางเดินอาหารของสุนัข การออกกำลังกายช่วยลดความเครียดได้ดี เนื่องจากความเครียดอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและทำให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยจัดการกับปัญหาระบบย่อยอาหารสุนัขผิดปกติได้อีกด้วย

    • เลือกอาหารให้เหมาะสม

    ควรเลือกอาหารสุนัขที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล สุนัขต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพที่ดี และเนื้อดิบที่อุดมไปด้วยเอนไซม์ที่มีชีวิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร น้ำซุปจากเนื้อสัตว์ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและฟื้นฟูเยื่อบุลำไส้ได้

    • การสัมผัสธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    เช่นเดียวกับคนเรา สุนัขก็ได้รับประโยชน์จากการสัมผัสธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความหลากหลายของไมโครไบโอมในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารของสุนัขและสุขภาพโดยรวมดีขึ้น

     

    สัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพทางเดินอาหาร

    อาการอาหารไม่ย่อยในสุนัขเป็นอาการที่พบได้บ่อย มันบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ที่คุณควรระวังด้วย เช่น

    • ความอยากอาหารเปลี่ยนไป
    • ท้องเสีย
    • ท้องผูก
    • มีลมหรือแก๊สในท้องมากเกินไป
    • อาเจียน
    • น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

    อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาความไม่สมดุลของไมโครไบโอมในลำไส้ คุณสามารถทำตามคำแนะนำข้างต้นเพื่อฟื้นฟูและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของสุนัขได้

     

    หากคุณพบอาการผิดปกติ เช่น น้องหมาอาหารไม่ย่อย ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด อาเจียน หรือพฤติกรรมเปลี่ยนไป ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์ แม้ว่าปัญหาทางเดินอาหารที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรง แต่มันอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของไมโครไบโอมในลำไส้ ซึ่งควรได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

     

    การดูแลสุขภาพทางเดินอาหารของสุนัข ไม่ว่าจะด้วยการให้อาหารคุณภาพดี การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การสัมผัสธรรมชาติ การปรึกษาสัตวแพทย์ และการใช้อาหารเสริม ล้วนแล้วแต่ช่วยลดปัญหาสุนัขอาหารไม่ย่อย อาการท้องเสีย และปัญหาอื่น ๆ รวมถึงส่งเสริมให้ความเป็นอยู่โดยรวมของสุนัขดีขึ้นด้วย

Close modal