IAMS TH
why-dogs-need-protein-fat-and-fiber-in-their-food-header
why-dogs-need-protein-fat-and-fiber-in-their-food_header-mob

adp_description_block2
เหตุผลที่สุนัขถึงต้องการโปรตีน ไขมัน และไฟเบอร์

  • แบ่งปัน

การให้อาหารสุนัขที่มีคุณค่าทางโภชนาการแก่สุนัขของคุณ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าพวกเค้าจะได้รับปริมาณโปรตีน ไขมัน และไฟเบอร์ที่เพียงพอ สารอาหารทั้งสามชนิดมีความสำคัญต่อสุขภาพของสุนัขมาก และทั้งสามก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในทุกผลิตภัณฑ์ของ ไอแอมส์™

โปรตีนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในอาหารสุนัขของไอแอมส์™

โปรตีนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของสุนัขแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมโปรตีนในร่างกาย ซึ่งกรดอะมิโนบางตัวร่างกายก็ไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับผ่านทางอาหารเท่านั้น

อาหารสุนัขของ ไอแอมส์™ ได้รับการทดสอบและการันตีว่ามีโปรตีนที่สกัดจากเนื้อสัตว์คุณภาพดีซึ่งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสุนัข

กรดไขมันที่จำเป็นในอาหารสุนัขของ ไอแอมส์™

ไขมันเป็นแหล่งพลังงาน ซึ่งสุนัขต้องการกรดไขมันสองชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย นั่นก็คือกรดไขมันโอเมก้า 6 และ โอเมก้า 3 โดยกรดไขมันโอเมก้า 6 พบได้ในไขมันไก่และข้าวโพด ส่วนกรดไขมันโอเมก้า 3 พบได้ในคาโนลา เนื้อปลาป่น หรือเมล็ดลินิน กรดทั้งสองชนิดมีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างสุขภาพผิวหนังและเส้นขน รวมถึงโครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ด้วย

เส้นใยอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในอาหารสุนัขของเรา

จากงานวิจัยไอแอมส์™ แสดงให้เห็นว่าเส้นใยอาหารที่ได้จาก บีทพัลป์ นั้น ช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ส่วนของใยอาหารที่ถูกย่อยด้วยจุลินทรีย์และแบคทีเรียในลำไส้ จะช่วยสร้างกรดไขมันขึ้นมา ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งพลังงานสำหรับเซลล์ในลำไส้ ส่วนที่ไม่สามารถย่อยได้ก็จะกลายเป็นอุจจาระตามปกติ

การใช้ไฟเบอร์ที่ถูกย่อยได้ดีเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น เกิดก๊าซส่วนเกินในกระเพาะ ขณะที่ใช้เส้นใยอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้มากไป เช่น เปลือกถั่วลิสง จะทำให้สุนัขอุจจาระมากกว่าปกติ และไม่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่เพียงพอ

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของไอแอมส์™ มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ที่ปรับให้เหมาะสมและมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารของสุนัขแข็งแรง

  • สุนัขหายใจแรงเกิดจากอะไร?
    สุนัขหายใจแรงเกิดจากอะไร?
    adp_description_block353
    สุนัขหายใจแรงเกิดจากอะไร?

    • แบ่งปัน

    เคยเห็นน้องหมาหายใจแรงหรือหอบจนลิ้นห้อยกันไหม? พฤติกรรมนี้มักจะเกิดหลังการเล่นหรือในช่วงบ่ายที่อากาศค่อนข้างร้อน หลายคนอาจสงสัยว่าอะไรคือสาเหตุเบื้องหลัง มันเชื่อมโยงกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของสุนัขหรือไม่

    การหอบของสุนัขเป็นวิธีการตอบสนองของร่างกายเพื่อควบคุมอุณหภูมิและระบายความร้อน อีกทั้งยังเป็นวิธีสื่อสารภาวะทางอารมณ์อย่างหนึ่งด้วย โดยการทำความเข้าใจลักษณะและสาเหตุของอาการหอบ จะช่วยให้เราดูแลน้องหมาที่รักได้ดียิ่งขึ้น
     

    อาการหอบของสุนัข

    สุนัขหอบเพื่อควบคุมอุณหภูมิร่างกาย เป็นกลไกที่คล้ายคลึงกับเหงื่อของคน แม้ว่าการหอบจะเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการมากผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่
     

    อาการหอบทั่วไป

    • การหายใจ – สำหรับน้องหมาที่มีสุขภาพดี ในขณะที่นั่งพักมักจะมีอัตราการหายใจ 15 – 35 ครั้งต่อนาที
    • ความรุนแรง – หายใจตื้นแต่เงียบ ไม่ค่อยมีอาการลิ้นห้อย
    • บริบท – คาดว่าจะมีอาการหอบหลังออกกำลังกาย เล่น ตื่นเต้น หรือในช่วงที่อากาศร้อน
    • ความต่อเนื่อง – เมื่อได้รับการดูแลแล้ว (เช่น เย็นลงหรือสงบลง) การหอบก็ควรจะทุเลาลง
       

    อาการหอบที่ผิดปกติ

    • การหายใจ – ในช่วงพักหรือขณะเคลื่อนไหวเล็กน้อย น้องหมาหายใจเร็วมาก หรือมีอัตราการหายใจ 40 ครั้งต่อนาที นี่ถือเป็นสัญญาณอันตราย
    • ความรุนแรง – เมื่อสุนัขหายใจแรง การหอบจะลึกและหนักหน่วง โดยมีอาการลิ้นห้อยและน้ำลายไหลอย่างชัดเจน
    • บริบท – เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เช่น ขณะพักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่เย็นสบาย
    • ความต่อเนื่อง – อาการหอบไม่ทุเลาแม้จะดูแลหรือจัดการกับสาเหตุแล้ว อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เซื่องซึม อาเจียน หรือเบื่ออาหาร
       

    สาเหตุของอาการหอบ

    แม้อาการหอบจะเป็นกลไกหลักในการระบายความร้อน แต่อาการนี้ก็เกิดจากสาเหตุอื่นได้เช่นกัน 
     

    สาเหตุทางกายภาพ

    • การควบคุมความร้อนในร่างกาย – การหอบช่วยให้ร่างกายของสุนัขเย็นลงหลังออกกำลังกาย เล่น หรือในช่วงที่อากาศร้อน โดยจะระเหยความชื้นออกจากลิ้นและทางเดินหายใจ เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายกลับสู่ระดับปกติ
    • ความเจ็บปวด – การหอบมากเกินไปอาจเป็นสัญญาณของความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บหรือปัญหาสุขภาพ ความเจ็บปวดทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอาการหอบ
    • ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ – โรคภูมิแพ้ หอบหืด อาการไอ และปัญหาในระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ อาจทำให้สุนัขหายใจได้ยาก ส่งผลให้หายใจหอบเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องการออกซิเจนมากขึ้น
       

    สาเหตุทางอารมณ์

    • ความตื่นเต้น – เมื่อน้องหมารู้สึกตื่นเต้น อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งถูกมองว่าเป็นอาการหอบ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเล่น การทักทาย หรือการคาดหวังกิจกรรมโปรด
    • ความเครียดหรือวิตกกังวล – การหอบเป็นกลไกในการรับมือกับความเครียดและความกังวล แนะนำให้ระวังพฤติกรรมผิดปกติอื่น ๆ ด้วย เช่น เดินวนไปมา น้ำลายไหล หรือการเชิดหาง
    • ความกลัว – เสียงดัง พายุฝนฟ้าคะนอง และสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยสามารถกระตุ้นให้เกิดความกลัว ส่งผลให้น้องหมาหายใจเร็ว หอบ ตัวสั่น และพยายามซ่อนตัว
       

    ควรทำอย่างไรเมื่อสุนัขหายใจแรง?

    การเห็นเจ้าตัวน้อยกำลังดิ้นรนหายใจอาจเป็นประสบการณ์ที่สะเทือนอารมณ์ แต่สิ่งสำคัญคือต้องสงบสติอารมณ์ จากนั้นให้ประเมินสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้
     

    ตรวจสอบสภาพแวดล้อม

    • กิจกรรมล่าสุด – น้องหมาทำกิจกรรมใดไปบ้าง มีการออกแรงมากหรือไม่ เช่น เล่นคาบของ วิ่ง หรือออกกำลังกายอย่างหนัก
    • อุณหภูมิและสภาพอากาศ – อากาศร้อนหรือเปล่า? พวกเค้าตากแดดนานไปหรือไม่?
    • สภาพแวดล้อมที่ตึงเครียด – มีเสียงดัง คนที่ไม่คุ้นเคย หรือมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลหรือไม่?

    หากพบปัจจัยเหล่านี้ การหอบน่าจะเป็นการตอบสนองของร่างกายตามปกติเพื่อควบคุมอุณหภูมิหรือจัดการกับความเครียด ในกรณีนี้ เพียงจัดพื้นที่ที่อากาศถ่ายเท เย็นสบาย และเงียบสงบให้น้องหมาพักผ่อน รวมถึงควรจัดเตรียมน้ำสะอาดให้เพียงพอด้วย
     

    สังเกตอาการและพฤติกรรม

    • ความรุนแรง – การหอบหายใจตื้นและเงียบสงบ หรือลึกและหนักหน่วง
    • การหายใจ – พวกเค้าหายใจกี่ครั้งต่อนาที
    • ลิ้น – มีอาการลิ้นห้อยและน้ำลายไหลหรือไม่
    • อาการร่วม – มีอาการร่วมด้วยหรือไม่ เช่น เซื่องซึม อาเจียน หรือเบื่ออาหาร

    คอยสังเกตอาการและการหายใจของน้องหมาอย่างใกล้ชิด อาการหอบที่มากผิดปกติทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เคลื่อนไหวหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นสบาย อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพซึ่งควรได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม
     

    วิธีการดูแล

    • ลดอุณหภูมิร่างกาย – ย้ายน้องหมาไปยังบริเวณที่อากาศถ่ายเทและมีร่มเงา 
    • เตรียมน้ำสะอาด – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเค้าสามารถเข้าถึงน้ำที่สะอาดและสดใหม่ได้ตลอดเวลา
    • สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบ – สร้างพื้นที่ที่เงียบสงบและสะดวกสบายเพื่อให้น้องหมาพักผ่อนโดยปราศจากการรบกวน

    ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยบรรเทาอาการหอบที่เกิดจากความร้อนหรือความเครียดได้
     

    อาการหอบแบบใดที่น่ากังวลและควรพาไปพบสัตวแพทย์?

    ลักษณะอาการเหล่านี้เป็นอาการที่ผิดปกติและน่ากังวล ควรไปพบคุณหมอทันทีที่พบเห็น

    • อาการร่วม – หากน้องหมามีอาการหอบร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น เซื่องซึม อ่อนแรง เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย ไอ เหงือกซีด น้ำลายไหลมาก หรือมีพฤติกรรมผิดปกติ ควรได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์โดยทันที
    • อาการหอบอย่างรุนแรง – อาการหอบลึก หนักหน่วง และลิ้นห้อย อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
    • อาการหอบอย่างต่อเนื่อง – หากยังคงมีอาการหอบอยู่แม้จะพักผ่อนแล้ว อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นแล้ว หรือได้รับการดูแลเบื้องต้นแล้ว กรณีนี้จำเป็นต้องได้รับการประเมินจากสัตวแพทย์เพิ่มเติม
    • อาการหอบไม่ดีขึ้น – หากการหอบไม่ทุเลาลงภายในระยะเวลาที่เหมาะสมหรือแย่ลงไปอีก แม้ว่าจะจัดการกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมแล้วก็ตาม คุณจำเป็นจะต้องขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

    แม้การหอบจะเป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย แต่ก็บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน คุณจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการเพื่อประเมินความรุนแรงและความน่ากังวล วิธีนี้จะช่วยให้คุณดูแลน้องหมาได้ดียิ่งขึ้น

Close modal