IAMS TH
Is Your Cat a Finicky Eater?
Is Your Cat a Finicky Eater?

adp_description_block127
เคล็ดลับการให้อาหารเจ้าเหมียวช่างเลือก

  • แบ่งปัน

แมวเหมียวมักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอ จึงไม่แปลกหากพวกเค้าจะติดนิสัยช่างเลือกไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกของเล่นที่ชอบหรือกิจกรรมที่ทำ โดยทั่วไปความช่างเลือกเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ทาสแมวควรเป็นกังวลและหาวิธีแก้ไขหากเป็นเรื่องแมวกินยากหรือแมวเลือกกิน เบื้องต้นคุณอาจลองเปลี่ยนอาหารดูก่อน แต่ถ้าพวกเค้ายังไม่ยอมกินอาหารใหม่ คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติม 

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ต้องเข้าใจว่าเจ้าเหมียวส่วนใหญ่มีนิสัยช่างเลือก พวกเค้าอาจดื้อรั้นในช่วงแรก แต่จะปรับตัวเข้ากับกิจวัตรประจำวันที่กำหนดไว้ได้ในที่สุด ตามมาดูเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเข้าใจนิสัยเลือกกินของเจ้าเหมียวมากยิ่งขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

ทำไมแมวกินยาก?

พฤติกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพราะนิสัยเลือกกินของเจ้าเหมียวเสมอไป แต่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ

  • ไม่อยากอาหาร
    • หากแมวไม่กินข้าว เป็นไปได้ว่าพวกเค้าอาจจะไม่รู้สึกหิว หรือได้กินขนมมาตลอดทั้งวันแล้ว สำหรับน้องแมวที่เลี้ยงนอกบ้านหรือชอบหนีเที่ยว พวกเค้าอาจล่าเหยื่อเป็นอาหารจนไม่รู้สึกหิวแล้วก็เป็นได้ แต่หากน้องแมวไม่กินอาหารนานเกิน 24 ชั่วโมง ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์
  • การให้อาหารไม่เป็นเวลา
    • แม้แมวจะขี้จุกจิกตามธรรมชาติ แต่พวกเค้าชอบใช้ชีวิตอย่างเป็นกิจวัตรและจดจำได้ว่าเวลาไหนคือเวลาอาหาร ดังนั้นหากให้อาหารผิดเวลา พวกเค้าก็อาจไม่ยอมกินข้าวได้
  • ชามอาหารสกปรก
    • น้องแมวไม่ชอบกินอาหารจากภาชนะที่สกปรก ดังนั้นก่อนเทอาหารให้ใหม่ก็อย่าลืมทำความสะอาดชามอาหารของพวกเค้าก่อนด้วยล่ะ
  • สภาพแวดล้อม
    • น้องแมวส่วนใหญ่ชอบกินอาหารตามลำพัง ไม่ชอบถูกจับจ้องหรือเป็นจุดสนใจเมื่อกำลังกินอาหาร
  • ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
    • น้องแมวกินยากอาจเกิดจากความเครียดได้เช่นกัน ลองสังเกตกันดูว่ามีสมาชิกใหม่ในครอบครัวมาเพิ่มหรือไม่? มีสมาชิกในครอบครัวคนไหนจากไปหรือไม่? มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมรอบตัวเจ้าเหมียวหรือเปล่า? อย่างการย้ายบ้านใหม่ พวกเค้าอาจต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อความเครียดหายไปแล้ว เจ้าเหมียวก็จะกลับมากินอาหารได้ตามปกติ ซึ่งถ้าร่างกายแข็งแรง ไม่มีความผิดปกติที่น่าเป็นห่วง พ่อแม่แมวทั้งหลายก็เบาใจได้ ทั้งนี้เจ้าเหมียวสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพียงแค่เปลี่ยนชามอาหารใหม่ ก็อาจทำให้พวกเค้าไม่ยอมกินอาหารได้แล้ว
  • ปัญหาสุขภาพ
    • ปัญหาสุขภาพบางประการอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการกินของเจ้าเหมียว ควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด

วิธีรับมือเมื่อแมวเลือกกิน

สำหรับทาสแมวที่กำลังเผชิญปัญหาแมวกินยาก ลองทำตามเคล็ดลับดี ๆ เหล่านี้ได้เลย

  • อุ่นอาหารเปียกก่อนเสิร์ฟ
    • ถ้าเสิร์ฟอาหารเย็น ๆ กลิ่นอาจไม่หอมและไม่ดึงดูดใจให้เจ้าเหมียวอยากกิน แต่การอุ่นอาหารจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ชวนให้เจ้าเหมียวอยากกินอาหารมากยิ่งขึ้น
  • ทำความสะอาดชามอาหาร
    • เนื่องจากน้องแมวรับรู้กลิ่นได้ดี พวกเค้าจึงรู้ได้ในทันทีหากชามอาหารไม่สะอาด ซึ่งอาจทำให้ความอยากอาหารลดลงจนไม่ยอมกินอาหารเลยทีเดียว
  • เติมน้ำซุปลงในอาหาร
    • เพิ่มความน่ากินให้อาหารมื้อธรรมดาด้วยการเติมน้ำซุปไก่ น้ำซุปปลา หรือน้ำมันเพิ่มรสชาติลงในอาหารแมว วิธีนี้จะช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ากินมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงน้ำซุปที่มีส่วนประกอบของหัวหอม กุ้ยช่าย และกระเทียม เพราะอาจเป็นอันตรายต่อแมวได้
  • ลองเปลี่ยนอาหารใหม่
    • หากน้องแมวเลือกกิน อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนอาหารใหม่กันแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปว่าต้องลองผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดเลย เพื่อหาสิ่งที่ถูกใจพวกเค้ามากที่สุด
  • ปรึกษาสัตวแพทย์
    • ถ้าเจ้าเหมียงยังไม่ยอมกินอาหารหลังจากลองทำทุกวิธีแล้ว ก็ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ หรือถ้าเจ้าเหมียวไม่กินอาหารเลยนานกว่า 24 ชั่วโมว ควรพาพวกเค้าไปพบคุณหมอทันที
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
    • หากต้องการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันหรือสภาพแวดล้อม ควรเปลี่ยนอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับการเปลี่ยนอาหาร อย่าเปลี่ยนโดยทันที ให้เริ่มจากผสมอาหารสูตรเดิมกับสูตรใหม่เข้าด้วยกันในช่วงสามวันแรก จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มปริมาณอาหารใหม่และลดปริมาณอาหารเก่าลง

การเปลี่ยนอาหารใหม่อาจเรื่องยากและจำเป็นต้องทดลองผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งไอแอมส์™ ตระหนักดีว่า พ่อแม่เหมียวทั้งหลายต่างก็ต้องการตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น อาหารแมวของไอแอมส์™ จึงมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดสำหรับแม่และลูกแมว อาหารเม็ดสำหรับแมวโต และอาหารเม็ดสูตรเลี้ยงในบ้านและบำรุงก้อนขน โดยอาหารแมวไอแอมส์™ ทุกสูตร มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล ทั้งนี้คุณสามารถปรึกษาเรื่องการเลือกอาหารเพิ่มเติมได้จากทั้งสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจากไอแอมส์™

สิ่งที่แมวเหมียวทุกตัวต้องการ

นี่คือสิ่งที่ทาสแมวทุกคนควรรู้เกี่ยวกับเจ้าเหมียว

  • ไม่ว่าจะเลือกให้อาหารชนิดใด ต้องเตรียมน้ำสะอาดให้เพียงพอและเข้าถึงได้ตลอดเวลา ขอแนะนำให้วางชามน้ำให้ห่างจากชามอาหารประมาณ  1 – 1.5  เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้องแมวกินแต่น้ำแล้วไม่กินอาหาร
  • ควรให้น้องแมวกินอาหารในมุมสงบ เป็นส่วนตัว ไร้การรบกวน
  • พบสัตวแพทย์เป็นประจำหรือตามนัดหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าน้องแมวจะมีสุขภาพดีและมีความสุขในทุกวัน

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนิสัยเลือกกินของแมวเหมียว

  1. แมวเลือกกิน ทำอย่างไรดี?
  2. สามารถทำตามวิธีเหล่านี้ดูได้ เช่น อุ่นอาหารก่อนเสิร์ฟ ปล่อยให้น้องแมวกินอาหารในมุมส่วนตัว หรือเสิร์ฟอาหารในชามที่สะอาด แต่ถ้าน้องแมวยังไม่ยอมกิน อาจต้องเปลี่ยนมาเสิร์ฟเมนูโปรดของพวกเค้าแทน

  3. แมวไม่ยอมกินข้าว ทำอย่างไรดี?
  4. หากเจ้าเหมียวไม่ยอมกินอาหาร ให้ลองเติมน้ำซุปไก่ น้ำซุปปลา หรือน้ำมันปลาลงในอาหารของพวกเค้า อาจจะอุ่นอาหารก่อนเสิร์ฟด้วย หรือจะลองเปลี่ยนมาให้อาหารใหม่ดูก็ได้

  5. สุดท้ายแล้วน้องแมวช่างเลือกจะยอมกินอาหารไหม?
  6. คำตอบจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้น้องแมวไม่ยอมกินอาหาร น้องแมวบางตัวเมื่อรู้สึกหิวก็จะยอมกินอาหารแต่โดยดี แต่บางตัวอาจไม่และเลือกที่จะอดอาหาร หากพบว่าน้องแมวไม่กินอะไรเลยทั้งวัน ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์

  7. จะเพิ่มความอยากอาหารให้น้องแมวอย่างไรได้บ้าง?
  8. กลิ่นคือสิ่งที่กระตุ้นความอยากอาหารของเจ้าเหมียวได้มากที่สุด หากอาหารมีกลิ่นหอมอย่างที่พวกเค้าชอบ (เช่น เนื้อไก่หรือปลา) ความอยากอาหารของพวกเค้าก็จะเพิ่มขึ้น

  • โภชนาการของแมวและความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว
    โภชนาการของแมวและความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว
    adp_description_block481
    โภชนาการของแมวและความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว

    • แบ่งปัน

    โภชนาการที่ดีเป็นกุญแจสำคัญของการมีชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดีสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แมวเองก็เช่นกัน พวกเค้าต้องการอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนและสมดุลเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต รักษาร่างกาย เพิ่มพลังงาน และต่อสู้กับความเจ็บป่วย ในการเลือกอาหารที่ดีสำหรับแมวหรืออาหารแมวเพื่อสุขภาพ พ่อแม่แมวจำเป็นต้องเรียนรู้ส่วนผสมและสารอาหารที่จำเป็นกันก่อน

     

    แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ สารอาหารที่พวกเค้าต้องการก็พบอยู่ในเนื้อสัตว์เป็นหลัก เดิมทีแมวเป็นนักล่าและจะกินเหยื่อเพื่อให้ได้โปรตีนในปริมาณสูง ไขมันในปริมาณปานกลาง และคาร์โบไฮเดรตบางส่วนเพื่อตอบสนองความต้องการของร่างกาย แม้ว่าแมวบ้านทุกวันนี้จะไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์แล้ว แต่พวกเค้ายังคงต้องการสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เช่น แร่ธาตุ วิตามิน กรดไขมัน และกรดอะมิโน

     

    โภชนาการแมวควรมีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยส่วนผสมที่หลากหลายจะเป็นแหล่งสารอาหารและพลังงานที่ดีให้กับแมว อย่างแคลเซียมจะได้มาจากผลิตภัณฑ์นม เครื่องใน กระดูกป่น เนื้อสัตว์ พืชตระกูลถั่ว และแร่ธาตุเสริม การวางแผนโภชนาการอาหารแมวคือการดูแลให้พวกเค้าได้รับโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ และน้ำในปริมาณที่เหมาะสม อ่านบทความของเราเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่จำเป็นต่อความเป็นอยู่ที่ดีของแมวเพิ่มเติม

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของโปรตีนในอาหารแมว

    เนื่องจากเป็นสัตว์กินเนื้อ แมวจึงจำเป็นต้องกินโปรตีนมากขึ้นเมื่อเทียบกับสัตว์ชนิดอื่น โปรตีนสำหรับแมวถือเป็นแหล่งพลังงานหลักและตัวช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงรักษาผิวหนัง เส้นขน กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อ แอนติบอดี ฮอร์โมน และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยตับจะผลิตเอนไซม์เพื่อเผาผลาญโปรตีนเป็นพลังงาน หากแมวกินโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายจะเริ่มสลายกล้ามเนื้อของตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงาน

     

    แหล่งโปรตีนหลักที่ใช้ในอาหารแมวคือโปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์ แต่โปรตีนจากพืชอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากมีสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ สารอาหารบางชนิดมีอยู่ในโปรตีนจากสัตว์เท่านั้น เช่น ทอรีน เมทไธโอนีน และซิสตีน

     

    โปรตีนจากสัตว์ในอาหารแมวมักจะมาจากไก่ ไก่งวง เนื้อแกะ เนื้อวัว และปลา อาหารแมวที่มีส่วนผสมของผลพลอยได้จากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ก็มีจำหน่ายมากมายในท้องตลาดเช่นกัน แม้ว่าพ่อแม่แมวหลาย ๆ คนจะคิดว่าอาหารเหล่านี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี แต่แท้จริงแล้วพวกมันเป็นแหล่งโปรตีนที่ยอดเยี่ยม

     

    แมวต้องการโปรตีนมากน้อยแค่ไหน?

    ความต้องการโปรตีนสำหรับแมวขึ้นอยู่กับอายุหรือช่วงวัย แมวโตต้องการโปรตีนสูงเมื่อเทียบกับสุนัข คน หรือสัตว์ชนิดอื่น แม้ว่าสัดส่วนที่แน่นอนจะแตกต่างกันไป แต่แมวโตต้องการโปรตีนประมาณ 26% ในมื้ออาหาร โดยคุณสามารถเลือกอาหารแมวที่มีโปรตีนสูงให้กับพวกเค้าได้ ส่วนความต้องการโปรตีนสำหรับลูกแมวอาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและสุขภาพโดยรวม ทางที่ดีควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวของคุณได้รับสารอาหารที่เหมาะสม

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของวิตามินในอาหารแมว

    เมื่อพูดถึงความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว ต้องบอกเลยว่ามันเป็นสารอาหารที่สำคัญเช่นกัน วิตามินจำเป็นต่อการทำงานของระบบเผาผลาญ เอนไซม์หลายชนิดที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญจะไม่สามารถทำหน้าที่ได้หากไม่มีวิตามิน 

     

    อาหารหลายชนิดเป็นแหล่งที่มาของวิตามิน เช่น ผลไม้ ผัก เนื้อเยื่อของสัตว์ น้ำมันพืช ธัญพืช และเมล็ดพืช แต่มันเป็นเรื่องยากมากที่จะควบคุมปริมาณวิตามินให้เหมาะสมจากการกินอาหารชนิดต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ อาหารแมวจึงจำเป็นต้องมีวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม

     

    แมวต้องการวิตามินมากน้อยแค่ไหน?

    หากแมวของคุณมีสุขภาพดี กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล คุณก็ไม่จำเป็นต้องให้อาหารเสริมและวิตามินสำหรับแมวเพิ่มเติม ในบางกรณี วิตามินเสริมอาจเป็นอันตรายได้ ทางที่ดีควรปรึกษาสัตวแพทย์และดูแลโภชนาการแมวให้เหมาะสม

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของแร่ธาตุในอาหารแมว

    แมวต้องการแร่ธาตุเพื่อเสริมการทำงานของร่างกาย แร่ธาตุหลายชนิดที่แมวต้องการได้มาจากเนื้อสัตว์และพืช อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โภชนาการอาหารแมวมีความสมดุล ผู้ผลิตมักจะเพิ่มแร่ธาตุลงในอาหารแมว

     

    แมวต้องการแร่ธาตุมากน้อยแค่ไหน?

    ในอาหารของแมวควรมีแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก โซเดียม คลอไรด์ ทองแดง สังกะสี แมงกานีส ไอโอดีน และซีลีเนียม แร่ธาตุเหล่านี้ช่วยควบคุมการทำงานของเส้นประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมการทำงานของเอนไซม์ ส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย สนับสนุนการเจริญเติบโตของโครงสร้างกระดูก และอื่น ๆ อีกมากมาย โภชนาการแมวจึงควรมีแร่ธาตุเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวของคุณได้รับสารอาหารตรงตามความต้องการ ขอแนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการอาหารแมวที่เหมาะสม

     

    ปริมาณไขมัน (Crude fat) คืออะไร?

    การวิเคราะห์ปริมาณไขมันในอาหารสัตว์ทำได้โดยการสกัดด้วยตัวทำละลาย และปริมาณไขมันในอาหารทุกสูตรจะแสดงอยู่บนฉลากบรรจุภัณฑ์

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของไขมันในอาหารแมว

    ไขมันถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นมาก โปรตีนอาจจะเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับแมว แต่ไขมันเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมากที่สุด และยังช่วยส่งผ่านกระแสประสาทอีกด้วย แหล่งไขมันที่จำเป็น เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวหนังและเส้นขน

     

    ไขมันและกรดไขมันจำเป็นอื่น ๆ พบได้ในสูตรอาหารที่มีส่วนผสมของตับ ไก่ เนื้อวัว ไก่งวง และปลา ในบางครั้ง ผู้ผลิตจะเพิ่มแหล่งไขมันพิเศษลงในสูตรอาหาร เช่น น้ำมันปลา ไขมันวัว และน้ำมันถั่วเหลือง โดยคุณสามารถตรวจสอบรายการส่วนผสมและแหล่งที่มาของไขมันได้จากฉลากผลิตภัณฑ์

     

    แมวต้องการไขมันมากน้อยแค่ไหน?

    แมวจำเป็นต้องควบคุมน้ำหนักและรักษารูปร่างให้เหมาะสมเพื่อความกระฉับกระเฉง จึงไม่แนะนำให้แมวกินอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง พวกเค้าไม่ควรได้รับไขมันมากเกินความจำเป็นในแต่ละวัน หากได้รับไขมันมากเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาน้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วนได้ คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกสูตรอาหารที่มีปริมาณไขมันเหมาะสมกับแมวของคุณได้ หรือหากแมวมีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน คุณหมออาจแนะนำให้เลือกอาหารแมวควบคุมน้ำหนักแทน

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของคาร์โบไฮเดรตในอาหารแมว

    สัตว์หลายชนิดต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้ได้พลังงาน แต่เนื่องจากแมวได้รับพลังงานส่วนใหญ่จากโปรตีนและไขมันแล้ว คาร์โบไฮเดรตจึงไม่ได้มีความสำคัญมากนัก อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าอาหารแมวไม่จำเป็นต้องมีคาร์โบไฮเดรตเลย แมวยังต้องการคาร์โบไฮเดรตในปริมาณเล็กน้อย แต่ไม่แนะนำให้แมวกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตปริมาณมาก เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำหนักตัวเกินและอาจนำไปสู่โรคร้ายอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน 

     

    แมวต้องการคาร์โบไฮเดรตมากน้อยแค่ไหน?

    อาหารของแมวไม่ควรมีคาร์โบไฮเดรตเกิน 10% อาหารเม็ดอาจมีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง แต่การผสมอาหารเม็ดและอาหารเปียกจะช่วยให้ป้องกันไม่ให้แมวได้รับคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป

     

    อาหารที่ดีสำหรับแมว

    อาหารแมวที่ดีควรประกอบไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ต้องมีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ และน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของแมว หากคุณกังวลเกี่ยวกับการเลือกอาหาร หรือสงสัยว่าอาหารแบบใดคืออาหารแมวเพื่อสุขภาพ ควรกำหนดปริมาณอาหารในแต่ละวันอย่างไร และแมวของคุณจำเป็นต้องกินอาหารแมวควบคุมน้ำหนักหรือไม่ คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้เสมอ

Close modal