IAMS TH
Is Your Cat a Finicky Eater?
Is Your Cat a Finicky Eater?

adp_description_block155
เคล็ดลับการให้อาหารเจ้าเหมียวช่างเลือก

  • แบ่งปัน

แมวเหมียวมักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอ จึงไม่แปลกหากพวกเค้าจะติดนิสัยช่างเลือกไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกของเล่นที่ชอบหรือกิจกรรมที่ทำ โดยทั่วไปความช่างเลือกเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ทาสแมวควรเป็นกังวลและหาวิธีแก้ไขหากเป็นเรื่องแมวกินยากหรือแมวเลือกกิน เบื้องต้นคุณอาจลองเปลี่ยนอาหารดูก่อน แต่ถ้าพวกเค้ายังไม่ยอมกินอาหารใหม่ คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติม 

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ต้องเข้าใจว่าเจ้าเหมียวส่วนใหญ่มีนิสัยช่างเลือก พวกเค้าอาจดื้อรั้นในช่วงแรก แต่จะปรับตัวเข้ากับกิจวัตรประจำวันที่กำหนดไว้ได้ในที่สุด ตามมาดูเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเข้าใจนิสัยเลือกกินของเจ้าเหมียวมากยิ่งขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

ทำไมแมวกินยาก?

พฤติกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพราะนิสัยเลือกกินของเจ้าเหมียวเสมอไป แต่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ

  • ไม่อยากอาหาร
    • หากแมวไม่กินข้าว เป็นไปได้ว่าพวกเค้าอาจจะไม่รู้สึกหิว หรือได้กินขนมมาตลอดทั้งวันแล้ว สำหรับน้องแมวที่เลี้ยงนอกบ้านหรือชอบหนีเที่ยว พวกเค้าอาจล่าเหยื่อเป็นอาหารจนไม่รู้สึกหิวแล้วก็เป็นได้ แต่หากน้องแมวไม่กินอาหารนานเกิน 24 ชั่วโมง ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์
  • การให้อาหารไม่เป็นเวลา
    • แม้แมวจะขี้จุกจิกตามธรรมชาติ แต่พวกเค้าชอบใช้ชีวิตอย่างเป็นกิจวัตรและจดจำได้ว่าเวลาไหนคือเวลาอาหาร ดังนั้นหากให้อาหารผิดเวลา พวกเค้าก็อาจไม่ยอมกินข้าวได้
  • ชามอาหารสกปรก
    • น้องแมวไม่ชอบกินอาหารจากภาชนะที่สกปรก ดังนั้นก่อนเทอาหารให้ใหม่ก็อย่าลืมทำความสะอาดชามอาหารของพวกเค้าก่อนด้วยล่ะ
  • สภาพแวดล้อม
    • น้องแมวส่วนใหญ่ชอบกินอาหารตามลำพัง ไม่ชอบถูกจับจ้องหรือเป็นจุดสนใจเมื่อกำลังกินอาหาร
  • ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
    • น้องแมวกินยากอาจเกิดจากความเครียดได้เช่นกัน ลองสังเกตกันดูว่ามีสมาชิกใหม่ในครอบครัวมาเพิ่มหรือไม่? มีสมาชิกในครอบครัวคนไหนจากไปหรือไม่? มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมรอบตัวเจ้าเหมียวหรือเปล่า? อย่างการย้ายบ้านใหม่ พวกเค้าอาจต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อความเครียดหายไปแล้ว เจ้าเหมียวก็จะกลับมากินอาหารได้ตามปกติ ซึ่งถ้าร่างกายแข็งแรง ไม่มีความผิดปกติที่น่าเป็นห่วง พ่อแม่แมวทั้งหลายก็เบาใจได้ ทั้งนี้เจ้าเหมียวสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพียงแค่เปลี่ยนชามอาหารใหม่ ก็อาจทำให้พวกเค้าไม่ยอมกินอาหารได้แล้ว
  • ปัญหาสุขภาพ
    • ปัญหาสุขภาพบางประการอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการกินของเจ้าเหมียว ควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด

วิธีรับมือเมื่อแมวเลือกกิน

สำหรับทาสแมวที่กำลังเผชิญปัญหาแมวกินยาก ลองทำตามเคล็ดลับดี ๆ เหล่านี้ได้เลย

  • อุ่นอาหารเปียกก่อนเสิร์ฟ
    • ถ้าเสิร์ฟอาหารเย็น ๆ กลิ่นอาจไม่หอมและไม่ดึงดูดใจให้เจ้าเหมียวอยากกิน แต่การอุ่นอาหารจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ชวนให้เจ้าเหมียวอยากกินอาหารมากยิ่งขึ้น
  • ทำความสะอาดชามอาหาร
    • เนื่องจากน้องแมวรับรู้กลิ่นได้ดี พวกเค้าจึงรู้ได้ในทันทีหากชามอาหารไม่สะอาด ซึ่งอาจทำให้ความอยากอาหารลดลงจนไม่ยอมกินอาหารเลยทีเดียว
  • เติมน้ำซุปลงในอาหาร
    • เพิ่มความน่ากินให้อาหารมื้อธรรมดาด้วยการเติมน้ำซุปไก่ น้ำซุปปลา หรือน้ำมันเพิ่มรสชาติลงในอาหารแมว วิธีนี้จะช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ากินมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงน้ำซุปที่มีส่วนประกอบของหัวหอม กุ้ยช่าย และกระเทียม เพราะอาจเป็นอันตรายต่อแมวได้
  • ลองเปลี่ยนอาหารใหม่
    • หากน้องแมวเลือกกิน อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนอาหารใหม่กันแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปว่าต้องลองผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดเลย เพื่อหาสิ่งที่ถูกใจพวกเค้ามากที่สุด
  • ปรึกษาสัตวแพทย์
    • ถ้าเจ้าเหมียงยังไม่ยอมกินอาหารหลังจากลองทำทุกวิธีแล้ว ก็ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ หรือถ้าเจ้าเหมียวไม่กินอาหารเลยนานกว่า 24 ชั่วโมว ควรพาพวกเค้าไปพบคุณหมอทันที
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
    • หากต้องการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันหรือสภาพแวดล้อม ควรเปลี่ยนอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับการเปลี่ยนอาหาร อย่าเปลี่ยนโดยทันที ให้เริ่มจากผสมอาหารสูตรเดิมกับสูตรใหม่เข้าด้วยกันในช่วงสามวันแรก จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มปริมาณอาหารใหม่และลดปริมาณอาหารเก่าลง

การเปลี่ยนอาหารใหม่อาจเรื่องยากและจำเป็นต้องทดลองผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งไอแอมส์™ ตระหนักดีว่า พ่อแม่เหมียวทั้งหลายต่างก็ต้องการตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น อาหารแมวของไอแอมส์™ จึงมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดสำหรับแม่และลูกแมว อาหารเม็ดสำหรับแมวโต และอาหารเม็ดสูตรเลี้ยงในบ้านและบำรุงก้อนขน โดยอาหารแมวไอแอมส์™ ทุกสูตร มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล ทั้งนี้คุณสามารถปรึกษาเรื่องการเลือกอาหารเพิ่มเติมได้จากทั้งสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจากไอแอมส์™

สิ่งที่แมวเหมียวทุกตัวต้องการ

นี่คือสิ่งที่ทาสแมวทุกคนควรรู้เกี่ยวกับเจ้าเหมียว

  • ไม่ว่าจะเลือกให้อาหารชนิดใด ต้องเตรียมน้ำสะอาดให้เพียงพอและเข้าถึงได้ตลอดเวลา ขอแนะนำให้วางชามน้ำให้ห่างจากชามอาหารประมาณ  1 – 1.5  เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้องแมวกินแต่น้ำแล้วไม่กินอาหาร
  • ควรให้น้องแมวกินอาหารในมุมสงบ เป็นส่วนตัว ไร้การรบกวน
  • พบสัตวแพทย์เป็นประจำหรือตามนัดหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าน้องแมวจะมีสุขภาพดีและมีความสุขในทุกวัน

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนิสัยเลือกกินของแมวเหมียว

  1. แมวเลือกกิน ทำอย่างไรดี?
  2. สามารถทำตามวิธีเหล่านี้ดูได้ เช่น อุ่นอาหารก่อนเสิร์ฟ ปล่อยให้น้องแมวกินอาหารในมุมส่วนตัว หรือเสิร์ฟอาหารในชามที่สะอาด แต่ถ้าน้องแมวยังไม่ยอมกิน อาจต้องเปลี่ยนมาเสิร์ฟเมนูโปรดของพวกเค้าแทน

  3. แมวไม่ยอมกินข้าว ทำอย่างไรดี?
  4. หากเจ้าเหมียวไม่ยอมกินอาหาร ให้ลองเติมน้ำซุปไก่ น้ำซุปปลา หรือน้ำมันปลาลงในอาหารของพวกเค้า อาจจะอุ่นอาหารก่อนเสิร์ฟด้วย หรือจะลองเปลี่ยนมาให้อาหารใหม่ดูก็ได้

  5. สุดท้ายแล้วน้องแมวช่างเลือกจะยอมกินอาหารไหม?
  6. คำตอบจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้น้องแมวไม่ยอมกินอาหาร น้องแมวบางตัวเมื่อรู้สึกหิวก็จะยอมกินอาหารแต่โดยดี แต่บางตัวอาจไม่และเลือกที่จะอดอาหาร หากพบว่าน้องแมวไม่กินอะไรเลยทั้งวัน ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์

  7. จะเพิ่มความอยากอาหารให้น้องแมวอย่างไรได้บ้าง?
  8. กลิ่นคือสิ่งที่กระตุ้นความอยากอาหารของเจ้าเหมียวได้มากที่สุด หากอาหารมีกลิ่นหอมอย่างที่พวกเค้าชอบ (เช่น เนื้อไก่หรือปลา) ความอยากอาหารของพวกเค้าก็จะเพิ่มขึ้น

  • Your Cat’s Language: What Meows, Chirps and Yowls Mean
    Your Cat’s Language: What Meows, Chirps and Yowls Mean
    adp_description_block481
    ความหมายของเสียงแมว

    • แบ่งปัน

    เสียงร้องของแมว

    สงสัยกันไหมว่าเสียงร้องเพอร์ของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร? มันไม่ใช่การเปล่งเสียงทั่วไป แต่เกิดจากการหดตัวและคลายกล้ามเนื้อกล่องเสียงอย่างรวดเร็ว ประมาณ 150 ครั้งต่อวินาที และในขณะที่แมวหายใจแต่ละครั้ง อากาศจะถูกดันออกผ่านกล้ามเนื้อที่สั่นสะเทือนเหล่านี้ ทำให้คุณได้ยินเสียงครางต่ำที่ผ่อนคลายและก้องกังวาน 

    แมวร้องเพอร์เพราะอะไร?

    เสียงร้องเป็นหนึ่งในวิธีการสื่อสาร เป็นวิธีบอกความต้องการ และเรียกร้องความสนใจ แม่แมวจะร้องเพอร์เพื่อสร้างสายสัมพันธ์กับลูก ๆ ส่วนลูกแมวจะตอบกลับเพื่อส่งสัญญาณให้แม่รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี สำหรับแมวโตนั้น พวกเค้าจะร้องเพอร์เมื่อมีความสุขและสบายใจ แต่ในบางครั้งก็เกิดขึ้นเมื่อพวกเค้ารู้สึกเครียด เจ็บปวด หรือแม้กระทั่งเวลาที่หิว 

    เพื่อทำความเข้าใจเจ้าเหมียว เรามาเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับเสียงร้องของแมวแบบต่าง ๆ ไปด้วยกันในบทความนี้

    เสียงร้องเพอร์ หมายความอย่างไร?

    ไม่ใช่แค่ความน่ารักเท่านั้นที่ทำให้เราหลงใหล แต่ความลึกลับน่าค้นหาก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้แมวดูน่าสนใจ อย่างการร้องเพอร์เบา ๆ ที่เราต่างชื่นชอบ เสียงนี้หมายถึงอะไร? พวกเค้าต้องการบอกอะไรกันนะ?

    1. มีความสุข

      เมื่อได้พักผ่อนในมุมโปรด ได้นอนอาบแดดยามบ่าย หรือขดตัวอยู่บนตักของคุณ แมวมักจะส่งเสียงร้องเพอร์ออกมาเบา ๆ มันเป็นสัญญาณของความพึงพอใจอย่างแท้จริง ในภาษาแมวอาจแปลว่า “ชีวิตช่างมีความสุขเหลือเกิน”

    2. แสดงความรักความผูกพัน

      แมวรักอิสระ หวงเนื้อหวงตัว แต่หากเจ้าตัวน้อยเหล่านี้เข้ามาคลอเคลียพร้อมส่งเสียงเพอร์ มันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความรักและความผูกพัน เหมือนเป็นการบอกกลาย ๆ ว่า “คุณเป็นทาสคนโปรดของฉัน และฉันรักคุณนะ”

    3. เป็นสัญญาณบอกตำแหน่ง

      เคยเจอไหม? ได้ยินเสียงร้องเพอร์แต่ไม่เห็นตัวเจ้าเหมียว นั่นคือวิธีประกาศการมีอยู่ของพวกเค้า เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า “อย่ากังวล เหมียวอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง”

    4. บอกความเจ็บปวด

      เสียงเพอร์ไม่ได้บ่งบอกถึงความสุขและความพึงพอใจเสมอไป แมวอาจร้องเพอร์เมื่อเจ็บปวดหรือไม่สบาย ซึ่งอาจคล้ายกับเสียงของลูกแมวหรือเสียงร้องครวญคราง

    5. รักษาตัวเอง

      แมวสามารถรักษาตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง โดยเสียงร้องเพอร์เป็นหนึ่งในวิธีรักษาและบรรเทาความเจ็บปวด การสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นมีส่วนช่วยส่งเสริมการรักษากระดูกและเนื้อเยื่อ การร้องในรูปแบบนี้คล้ายกับเสียงแม่แมวที่ปลอบโยนและบอกรักลูกแมวตัวน้อย

    6. ตอบรับการสัมผัส

      หากแมวร้องเพอร์เมื่อคุณลูบขนหรือเกาพุง มันเป็นเสียงหัวเราะเวอร์ชันแมว เป็นการตอบสนองอย่างสนุกสนาน พวกเค้ารักทุกช่วงเวลาที่คุณให้ความสนใจ

    7. บรรเทาความเครียด

      การส่งเสียงเพอร์เป็นกลไกบรรเทาความเครียด เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด แมวจะเริ่มส่งเสียงเพอร์เพื่อสงบสติอารมณ์

    8. รู้สึกหิว

      แมวมักจะส่งเสียงดังเวลาที่หิว หากคุณได้ยินเสียงร้องเพอร์ที่ดังกว่าปกติ อาจแปลว่าถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว มันเหมือนกับการขออาหารอย่างสุภาพของแมวเหมียว

      หลังได้เรียนรู้ความหมายของเสียงเพอร์กันไปแล้ว เราหวังว่าคุณจะถอดรหัสข้อความที่เจ้าเหมียวต้องการจะบอกได้ดีมากยิ่งขึ้น

    ทำไมแมวชอบร้อง “เมี้ยววว” ?

    หากเจ้าเหมียวของคุณมีนิสัยช่างพูดช่างคุย ชอบส่งเสียงเจื้อยแจ้ว คุณอาจจะสงสัยว่าพวกเค้าต้องการบอกอะไร แมวมักจะแสดงอารมณ์ผ่านการส่งเสียง และความหมายของเสียงแต่ละแบบก็แตกต่างกันไป อาจเป็นการเรียกร้องความสนใจ แสดงความหิว ต่อสู้กับความเหงา เป็นสัญญาณของความเครียดหรือความเจ็บปวด แมวสูงอายุอาจร้องบ่อยขึ้นเนื่องจากการรับรู้เปลี่ยนไป และบางครั้งความเบื่อก็ทำให้แมวส่งเสียงร้องมากขึ้นเช่นกัน การใส่ใจกับบริบทและรูปแบบการร้องของแมวจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและรับประกันความเป็นอยู่ที่ดีของแมวได้

    เสียงร้องของแมวแบบต่าง ๆ 

    แมวแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้ดีกว่าที่เราคิดนะ ต่อไปนี้เป็นเสียงร้อง 5 เสียงที่พบบ่อยที่สุด พร้อมความหมายโดยทั่วไป

    1. เสียงเมี้ยว

      ถือเป็นเสียงอเนกประสงค์ในภาษาแมว เจ้าเหมียวอาจร้องเพื่อเรียกร้องความสนใจ ขออาหาร หรือเพียงแค่ทักทาย น้ำเสียงและความดังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้เช่นกัน ตั้งแต่การทักทายที่เป็นมิตรไปจนถึงความต้องการเร่งด่วน

    2. เสียงขู่

      นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความไม่พอใจหรือความกลัว เมื่อแมวส่งเสียงขู่ มันเป็นการเตือนให้ถอยออกไป และทางที่ดีควรเคารพขอบเขตและความเป็นส่วนตัวของพวกเค้า

    3. เสียงนกร้อง

      เสียงแปลก ๆ นี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวเห็นนกหรือเหยื่อผ่านหน้าต่าง มันเหมือนกับการแสดงออกถึงความตื่นเต้นหงุดหงิดที่ไม่สามารถจับมันได้

    4. เสียงคำราม

      เสียงนี้เป็นสัญญาณว่าแมวกำลังรู้สึกว่าถูกคุกคามหรือถูกบุกรุกอาณาเขต เป็นเสียงต่ำที่ดังจากลำคอเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกเข้ามา

    5. เสียงครวญคราง

      เป็นเสียงที่บ่งบอกว่าเจ้าเหมียวกำลังเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ เป็นเหมือนการร้องหาคู่ มักพบในแมวตัวเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน

      การทำความเข้าใจเสียงเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเจ้าเหมียวได้ดีขึ้น รวมถึงยังสามารถตอบสนองต่อความต้องการและอารมณ์ของพวกเค้าได้อย่างเหมาะสมด้วย

Close modal