การทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีอ่านรหัสผลิตภัณฑ์ของอาหารแมว จะช่วยให้คุณสามารถเลือกอาหารลูกแมวได้อย่างถูกต้อง นอกจากการมีวัตถุดิบที่เหมาะสมแล้ว อย่าลืมตรวจสอบว่าวัตถุดิบดังกล่าวสดใหม่หรือไม่เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของเจ้าเหมียว
ศึกษาวิธีอ่านรหัสผลิตภัณฑ์ที่แปะอยู่บนบรรจุภัณฑ์และกระป๋องอาหารแมวอย่างถูกต้องได้จากคู่มือเบื้องต้นของเราได้เลย
รหัสผลิตภัณฑ์คือชุดตัวเลขและตัวอักษรที่พิมพ์แปะอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นโดยผลิตขึ้นเพื่อบอกสถานที่และเวลาที่ผลิต
ในส่วนของรหัสผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ไอแอมส์™ ใช้คำว่า “ควรบริโภคก่อน” หรือวันที่ไม่ถือว่าสินค้าสดใหม่อีกต่อไปและไม่ควรนำมาวางจำหน่าย เลขดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบของ “ววดดปป“ หรือ “ววดดดปป”
รหัสผลิตภัณฑ์ในบรรทัดที่สองระบุข้อมูลสำหรับใช้ภายในบริษัท เช่น ติดตามสินค้า และควบคุมคลังสินค้า
ตัวอย่างเช่น: 040220 04FEB20
ควรใช้ผลิตภัณฑ์นี้ก่อนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020
ผลิตภัณฑ์ประเภทซอง* อาจมีเลขวันที่อยู่หนึ่งหรือสองบรรทัดก็ได้แล้วแต่ไลน์สินค้า เมื่อเข้าใจหมายเลขเหล่านี้แล้วลูกค้าจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ได้ไม่ยาก
อายุการเก็บรักษา คือช่วงเวลาที่ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บรักษาอย่างถูกต้อง โดยคงความสดใหม่อยู่ได้จากการนับเป็นหน่วยเดือน ตัวอย่างเช่น หากผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษา 16 เดือน หมายความว่าผลิตภัณฑ์ยังคงความสดใหม่ได้ถึง 16 เดือนจากวันที่ผลิต
อายุการเก็บรักษาของอาหารแมวไอแอมส์ชนิดเม็ดคือ 16 เดือน ส่วนชนิดกระป๋องจะมีอายุการเก็บรักษา 24 เดือน
เก็บผลิตภัณฑ์อาหารลูกแมวแบบเม็ดที่ยังไม่ได้เปิดไว้ในพื้นที่เย็นและแห้ง เก็บอาหารลูกแมวที่เปิดซองแล้วไว้ในภาชนะที่สะอาด แห้ง และปิดปากภาชนะให้สนิท ผลิตภัณฑ์อาหารลูกแมวชนิดเม็ดสามารถแช่แข็งได้โดยไม่สูญเสียคุณค่าทางสารอาหาร
อาหารแมวชนิดเปียกที่เปิดแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็นที่ปิดในภาชนะให้สนิท ควรให้แมวกินให้หมดภายในสามวันหลังจากเปิดใช้แล้ว ไม่ควรแช่อาหารเปียกที่ยังไม่เปิดกระป๋อง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถแช่อาหารลูกแมวเปียกได้หากนำออกจากบรรจุภัณฑ์แล้ว โดยเก็บไว้ในถุงสำหรับแช่และนำไปแช่ทันที
*ปัจจุบันไอแอมส์™ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์อาหารแมวประเภทซองและกระป๋อง
ในท้องตลาดมีอาหารลูกแมวที่ใช้วัตถุดิบแตกต่างกันให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก คุณจึงควรทราบว่า วัตถุดิบใดที่จำเป็นกับลูกแมวบ้าง คุณอาจเคยเห็นเมล็ดแฟลกซ์ในรายชื่อวัตถุดิบอาหารแมวชนิดเปียกมาบ้าง แล้วเมล็ดแฟลกซ์ในฐานะแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 จำเป็นต่อลูกแมวหรือไม่
มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเมล็ดแฟลกซ์และผลกระทบต่อสุขภาพลูกแมวกันดีกว่า
เมล็ดแฟลกซ์คือ เมล็ดของต้นแฟลกซ์ที่นำมาบด น้ำมันในต้นแฟลกซ์เป็นแหล่งของกรดโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิก ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิดอื่น
ในอาหารแมว เมล็ดแฟลกซ์มีหน้าที่ให้กรดไขมันโอเมก้า-3 เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอเมก้า-3 กับโอเมก้า-6 ในอาหาร ผลวิจัยจากไอแอมส์เผยให้เห็นว่าปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 ที่สมดุลกันจะช่วยสร้างสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี
การใส่กรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิกลงในอาหารลูกแมวมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
กรดอัลฟาไลโนเลนิกอาจเป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีความสำคัญ แต่ต้องใช้เวลาหลายรุ่นกว่าอาการขาดสารอาหารในแมวจะปรากฏ เมื่อเลือกอาหารให้แมว อย่าลืมว่า เมล็ดแฟลกซ์ช่วยบำรุงสุขภาพลูกแมวในช่วงการเติบโตและพัฒนาการรวดเร็วได้