IAMS TH
Understanding Kitten Food Product Codes
Understanding Kitten Food Product Codes-mob

adp_description_block163
ทำความเข้าใจกับรหัสผลิตภัณฑ์บนอาหารลูกแมว

  • แบ่งปัน

การทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีอ่านรหัสผลิตภัณฑ์ของอาหารแมว จะช่วยให้คุณสามารถเลือกอาหารลูกแมวได้อย่างถูกต้อง นอกจากการมีวัตถุดิบที่เหมาะสมแล้ว อย่าลืมตรวจสอบว่าวัตถุดิบดังกล่าวสดใหม่หรือไม่เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของเจ้าเหมียว 

ศึกษาวิธีอ่านรหัสผลิตภัณฑ์ที่แปะอยู่บนบรรจุภัณฑ์และกระป๋องอาหารแมวอย่างถูกต้องได้จากคู่มือเบื้องต้นของเราได้เลย

 

รหัสผลิตภัณฑ์คืออะไร ?

รหัสผลิตภัณฑ์คือชุดตัวเลขและตัวอักษรที่พิมพ์แปะอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นโดยผลิตขึ้นเพื่อบอกสถานที่และเวลาที่ผลิต

ในส่วนของรหัสผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ไอแอมส์™ ใช้คำว่า “ควรบริโภคก่อน” หรือวันที่ไม่ถือว่าสินค้าสดใหม่อีกต่อไปและไม่ควรนำมาวางจำหน่าย เลขดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบของ “ววดดปป“ หรือ “ววดดดปป”

รหัสผลิตภัณฑ์ในบรรทัดที่สองระบุข้อมูลสำหรับใช้ภายในบริษัท เช่น ติดตามสินค้า และควบคุมคลังสินค้า

  • บรรทัดที่ 1: (ววดดปป) (ววดดดปป)

ตัวอย่างเช่น: 040220 04FEB20

  • บรรทัดที่ 2: 60351111## QQQQQQQ

ควรใช้ผลิตภัณฑ์นี้ก่อนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020

ผลิตภัณฑ์ประเภทซอง* อาจมีเลขวันที่อยู่หนึ่งหรือสองบรรทัดก็ได้แล้วแต่ไลน์สินค้า เมื่อเข้าใจหมายเลขเหล่านี้แล้วลูกค้าจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ได้ไม่ยาก

 

อายุการเก็บรักษาคืออะไร ?

อายุการเก็บรักษา คือช่วงเวลาที่ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บรักษาอย่างถูกต้อง โดยคงความสดใหม่อยู่ได้จากการนับเป็นหน่วยเดือน ตัวอย่างเช่น หากผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษา 16 เดือน หมายความว่าผลิตภัณฑ์ยังคงความสดใหม่ได้ถึง 16 เดือนจากวันที่ผลิต

อายุการเก็บรักษาของอาหารแมวไอแอมส์ชนิดเม็ดคือ 16 เดือน ส่วนชนิดกระป๋องจะมีอายุการเก็บรักษา 24 เดือน

 

วิธีเก็บรักษาอาหารลูกแมวแบบเม็ดและแบบเปียกอย่างถูกต้อง

เก็บผลิตภัณฑ์อาหารลูกแมวแบบเม็ดที่ยังไม่ได้เปิดไว้ในพื้นที่เย็นและแห้ง เก็บอาหารลูกแมวที่เปิดซองแล้วไว้ในภาชนะที่สะอาด แห้ง และปิดปากภาชนะให้สนิท ผลิตภัณฑ์อาหารลูกแมวชนิดเม็ดสามารถแช่แข็งได้โดยไม่สูญเสียคุณค่าทางสารอาหาร

อาหารแมวชนิดเปียกที่เปิดแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็นที่ปิดในภาชนะให้สนิท ควรให้แมวกินให้หมดภายในสามวันหลังจากเปิดใช้แล้ว ไม่ควรแช่อาหารเปียกที่ยังไม่เปิดกระป๋อง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถแช่อาหารลูกแมวเปียกได้หากนำออกจากบรรจุภัณฑ์แล้ว โดยเก็บไว้ในถุงสำหรับแช่และนำไปแช่ทันที

*ปัจจุบันไอแอมส์™ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์อาหารแมวประเภทซองและกระป๋อง

 

  • เพราะอะไรอาหารแมวโปรตีนสูงจึงเป็นตัวเลือกที่ดี?
    เพราะอะไรอาหารแมวโปรตีนสูงจึงเป็นตัวเลือกที่ดี?
    adp_description_block471
    อาหารแมวโปรตีนสูง

    • แบ่งปัน

    โภชนาการเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของแมว แมวเป็นสัตว์กินเนื้อโดยธรรมชาติ พวกเค้าจึงต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง ซึ่งช่วยเสริมสุขภาพโดยรวม เป็นแหล่งพลังงาน เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีประโยชน์มากมายดังนี้

    1. ป้องกันการเกิดโรคอ้วน

      แมวต้องการโปรตีนจากสัตว์เป็นสารอาหารหลัก และการให้อาหารแมวโปรตีนสูงก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนได้เป็นอย่างดี

    2. ห่างไกลเบาหวาน

      โรคอ้วนในแมวมักนำไปสู่โรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม การกินอาหารโปรตีนสูงถือเป็นวิธีป้องกันที่ดี เนื่องจากช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงลดโอกาสในการเกิดโรคเบาหวานได้

    3. ช่วยควบคุมน้ำหนัก

      หากต้องการให้แมวของคุณน้ำหนักลดลงประมาณ 1 – 2 กก. อาหารที่มีโปรตีนสูงคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมน้ำหนัก แต่ยังช่วยให้แมวรู้สึกอิ่มท้องนานขึ้นด้วย

    4. เสริมระบบภูมิคุ้มกัน

      อาหารแมวโปรตีนสูงอุดมด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การเจริญเติบโต และระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง หากได้รับโปรตีนไม่เพียงพอต่อความต้องการ แมวเหมียวอาจสูญเสียกล้ามเนื้อและความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายยามเจ็บป่วย

    คู่มือการเลือกอาหารแมวโปรตีนสูงของไอแอมส์™

    1. อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรเลี้ยงในบ้าน และบำรุงขน

      อาหารแมวเกรดพรีเมียมสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของแมวเลี้ยงในบ้านโดยเฉพาะ อัดแน่นไปด้วยโปรตีนจากส่วนผสมคุณภาพดี มาพร้อมแอล-คาร์นิทีน บีทพัลพ์ และไฟเบอร์จากธรรมชาติ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการควบคุมน้ำหนักและป้องกันปัญหาก้อนขนอุดตัน

    จุดเด่น

    1. โปรตีนคุณภาพดี – ผลพลอยได้จากไก่ป่นถือเป็นแหล่งโปรตีนหลัก ซึ่งมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเสริมสุขภาพโดยรวมของแมวเลี้ยงในบ้าน

    2. ควบคุมน้ำหนัก – เนื่องจากมีแอล-คาร์นิทีนที่ช่วยสนับสนุนการเผาผลาญไขมัน จึงควบคุมน้ำหนักและป้องกันการเกิดโรคอ้วนได้ดี

    3. ป้องกันปัญหาก้อนขน – บีทพัลพ์และไฟเบอร์ช่วยเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาก้อนขน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในแมวบ้าน

    ข้อควรระวัง

    1. มีส่วนประกอบของธัญพืช – อาหารแมวของเรามีส่วนประกอบของข้าวโพด ข้าวสาลี และกลูเตนจากข้าวโพด ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับน้องแมวที่แพ้ธัญพืชหรือมีภาวะภูมิแพ้
    2. ความต้องการด้านโภชนาการ – เนื่องจากแมวทุกตัวมีความต้องการแตกต่างกัน โปรดปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการตรงตามความต้องการของเจ้าเหมียว

     

    1. อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรแม่และลูกแมว

      อาหารแมวเกรดพรีเมียมของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกแมวตัวน้อย อุดมด้วยโปรตีนคุณภาพดีจากเนื้อไก่และโอเมก้า 3 นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่จำเป็นอย่างโคลอสตรุมและดีเอชเอ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของดวงตาและสมอง

    จุดเด่น

    1. โปรตีนคุณภาพดี – แหล่งโปรตีนคุณภาพดีจากเนื้อไก่และผลพลอยได้จากไก่ป่น อาหารแมวไอแอมส์™ จึงอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับการพัฒนากล้ามเนื้อและสุขภาพโดยรวมของแมว
    2. โอเมก้า 3 – อาหารลูกแมวไอแอมส์™ มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า 3 จากน้ำมันปลา ช่วยให้ผิวหนังมีสุขภาพดีและขนสวยเงางาม
    3. โคลอสตรุมและดีเอชเอ – โคลอสตรุมช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนดีเอชเอช่วยในการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ ทำให้อาหารลูกแมวไอแอมส์™ เหมาะสมสำหรับลูกแมวในวัยเจริญเติบโตเป็นที่สุด

    ข้อควรระวัง

    1. มีส่วนประกอบของธัญพืช – อาหารแมวของเรามีส่วนประกอบของข้าวโพด ข้าวสาลี และกลูเตนจากข้าวโพด ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับลูกแมวที่แพ้ธัญพืชหรือมีภาวะภูมิแพ้

    2. การเปลี่ยนอาหาร – ควรเปลี่ยนมาให้อาหารลูกแมวไอแอมส์™ แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

    3. ปรึกษาสัตวแพทย์ – หากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการหรือการเปลี่ยนอาหารที่ถูกต้อง คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวของคุณจะได้รับอาหารที่ตรงตามความต้องการ

    แมวต้องการโปรตีนปริมาณเท่าใด?

    เมื่อพูดถึงโภชนาการสำหรับแมว โปรตีนคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรง เราจึงต้องอ่านข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อค้นหาว่าอาหารแมวมีปริมาณโปรตีนมากน้อยเท่าใด ซึ่งบางครั้งข้อมูลดังกล่าวก็สร้างความสับสน เราจึงรวบรวมเคล็ดลับง่าย ๆ ในการหาปริมาณโปรตีนที่แมวคุณต้องการจากผลิตภัณฑ์อาหารทั้งหลาย

    หนึ่งในจุดที่คุณต้องสังเกตคือปริมาณความชื้น ฉลากอาหารสัตว์จะนำเสนอข้อมูล 2 รูปแบบ คือเสนอเป็นเปอร์เซ็นต์ของวัตถุแห้ง (Dry matter basis) และปริมาณสิ่งแห้งหรือวัตถุดิบที่มีจริง (As-fed basis) โดยส่วนใหญ่จะใช้แบบที่สอง โดยจะรวมปริมาณน้ำเข้าไปด้วย สิ่งนี้อาจทำให้สับสนได้เล็กน้อย

    วิธีง่าย ๆ ในการค้นหาปริมาณโปรตีน

    คำนวณหาปริมาณวัตถุแห้งของอาหารโดยหักลงจากปริมาณความชื้นสูงสุด(%) นำปริมาณโปรตีนดิบ(%) มาหารด้วยปริมาณวัตถุแห้งที่ได้ คูณผลลัพธ์ด้วย 100 เพื่อให้ได้ปริมาณโปรตีนในรูปแบบร้อยละที่มีอยู่ในวัตถุแห้งของอาหาร

    อาหารแบบใดที่จัดว่าเป็นอาหารแมวโปรตีนสูง?

    1. ปริมาณโปรตีนดิบ – อาหารแมวโปรตีนสูงมักจะมีโปรตีน 25 – 30% ขึ้นไป โดยไม่นับรวมความชื้น
    2. แหล่งโปรตีนจากสัตว์ – แนะนำให้เลือกอาหารแมวที่มีโปรตีนจากสัตว์เป็นหลัก เช่น ไก่ ไก่งวง เนื้อวัว หรือปลา เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวจะได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน
    3. จำกัดส่วนผสมบางชนิด – หลีกเลี่ยงอาหารแมวที่มีธัญพืชและแป้งมากเกินไป เพราะอาจทำให้ความเข้มข้นของโปรตีนโดยรวมในอาหารเจือจางลง
    4. หลีกเลี่ยงโปรตีนจากพืช – ตรวจเช็กรายการส่วนผสมให้ละเอียด ควรหลีกเลี่ยงอาหารแมวที่มีส่วนประกอบของโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลืองหรือโปรตีนถั่วเข้มข้น
    5. อาหารแมวเกรดพรีเมียม – เลือกแบรนด์อาหารแมวที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักกันดี และควรมีประวัติในการผลิตตัวเลือกอาหารแมวระดับพรีเมียมคุณภาพสูงและมีโปรตีนสูงด้วย

    ทั้งนี้ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับแมวของคุณ โดยจะพิจารณาจากอายุ กิจวัตรประจำวัน และสุขภาพของแมว เนื่องจากความต้องการของแมวแต่ละตัวแตกต่างกัน

    ข้อดีและข้อเสียของอาหารแมวโปรตีนสูง

    ข้อดี

    1. กล้ามเนื้อแข็งแรง – อาหารแมวโปรตีนสูงมีส่วนช่วยในการพัฒนาและบำรุงรักษากล้ามเนื้อให้แข็งแรง

    2. เป็นแหล่งพลังงาน – โปรตีนให้พลังงานที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรมและเพิ่มความกระฉับกระเฉงให้กับเจ้าแมวตัวน้อย

    3. เสริมสุขภาพผิวหนังและเส้นขน – อาหารที่มีโปรตีนสูงช่วยให้ผิวหนังสุขภาพดีและมีขนสวยเงางาม

    4. ช่วยควบคุมน้ำหนัก – อาหารแมวโปรตีนสูงช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี มักจะมีแคลอรีน้อยและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น

    ข้อเสีย

    1. ราคาสูง – ส่วนผสมคุณภาพดีย่อมมีราคา แต่การลงทุนเพื่อสุขภาพของแมวก็ถือว่าคุ้มค่า
    2. ปัญหาเกี่ยวกับไต – มีการถกเถียงกันว่าอาหารโปรตีนสูงอาจทำให้ไตทำงานหนัก แต่เป็นหัวข้อที่ยังไม่มีบทสรุปแน่ชัดและไม่ได้เกิดขึ้นกับแมวทุกตัว
    3. ภูมิแพ้อาหาร – ผู้เลี้ยงควรหมั่นสังเกตอาการของแมวที่มีต่อแหล่งโปรตีนชนิดต่าง ๆ เนื่องจากโปรตีนบางชนิดอาจทำให้แมวเกิดอาการแพ้ได้

    การเปลี่ยนมาให้อาหารแมวโปรตีนสูงหรือเปลี่ยนอาหารสูตรใหม่ ควรเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอย่างกะทันหัน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหาร หากต้องการคำแนะนำหรือแมวของคุณมีปัญหาด้านสุขภาพ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเปลี่ยนอาหารทุกครั้ง และขอแนะนำไอแอมส์™ อาหารแมวเกรดพรีเมียมที่มีสารอาหารครบถ้วนและสมดุล มั่นใจได้เลยว่าเจ้าเหมียวจะมีสุขภาพดีและมีความสุขในทุกวัน

Close modal