คุณกำลังสับสนกับชื่อวัตถุดิบในอาหารแมวอยู่หรือไม่ ไม่ต้องกังวลเพราะไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว อาหารแมวที่ทำการตลาดโดยใช้ “วัตถุดิบเกรดอาหารคน” กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ถึงแม้จะดูเป็นที่สนใจของเจ้าของแมวอยู่สมพอควร แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าคำว่า “เกรดอาหารคน” ไม่ได้มีคำจำกัดความทางกฎหมายและมีจุดประสงค์หลักเพื่อการตลาดเท่านั้น
อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์โดยทั่วไปแล้วจะมีป้ายกำกับว่า “กินได้” หรือ “กินไม่ได้ ไม่ใช่เพื่อการบริโภคของมนุษย์” เมื่ออาหารออกจากห่วงโซ่อาหารของมนุษย์แล้ว แม้ว่าอาหารนั้นจะมีคุณภาพดีแค่ไหนก็ตาม ก็จะต้องระบุว่า “กินไม่ได้ ไม่ใช่เพื่อการบริโภคของมนุษย์” ดังนั้น เนื้อสัตว์ที่ใช้ในอาหารสัตว์เลี้ยงจะต้องระบุว่า “กินไม่ได้” โดยไม่ต้องคำนึงถึงแหล่งที่มาหรือคุณภาพของเนื้อสัตว์ วิธีการเดียวในการทำให้อาหารสัตว์เลี้ยงใช้ส่วนผสมที่ถือว่า 'กินได้' ก็คือ อย่าปล่อยให้เนื้อสัตว์ออกจากห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ และผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในโรงงานผลิตอาหารมนุษย์เท่านั้น รวมถึงต้องขนส่งโดยใช้รถบรรทุกอาหารของมนุษย์ด้วย ดังนั้น การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่มี 'ส่วนผสมเกรดเดียวกับมนุษย์' จึงไม่เป็นความจริง หากผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้ผลิตในโรงงานผลิตอาหารมนุษย์ อย่างไรก็ตาม การที่อาหารสัตว์เลี้ยงไม่ได้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดว่าเป็น “เกรดสำหรับมนุษย์” ไม่ได้หมายความว่าส่วนผสมนั้นจะมีคุณภาพต่ำ
คุณไม่ควรใช้รายชื่อวัตถุดิบเพียงปัจจัยเดียว เพื่อตัดสินเลือกซื้ออาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากรายชื่อของวัตถุดิบอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะบอกถึงคุณภาพของวัตถุดิบ หรือสารอาหารที่เพียงพอสำหรับสัตว์เลี้ยง
เจ้าของสัตว์เลี้ยงและสัตวแพทย์ควรให้ความสำคัญกับประกาศความเพียงพอด้านสารอาหารของ AAFCO และขั้นตอนควบคุมคุณภาพของผู้ผลิต แทนที่จะดูแค่วัตถุดิบเพียงอย่างเดียว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถดูโบรชัวร์ของสมาคมสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กสากล (World Small Animal Veterinary Association) หัวข้อ “วิธีเลือกอาหารที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงของคุณ” (“Selecting the Best Food for your Pet”) ได้ที่ www.wsava.org/nutrition-toolkit
รายชื่อวัตถุดิบมีการจัดทำขึ้นเพื่อดึงดูดผู้บริโภค รวมถึงลำดับของวัตถุดิบด้วย เช่น ใช้เนื้อแกะอยู่ในบรรทัดแรกของรายชื่อวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังมีการรายชื่อวัตถุดิบที่ดูเป็นที่ต้องการ แต่ในความเป็นจริงแล้ววัตถุดิบดังกล่าวผสมลงไปในปริมาณน้อยมากจนไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลย เช่น ใส่อาร์ทิโชกหรือราสป์เบอร์รี โดยใส่ไว้ถัดจากวิตามินและแร่ธาตุเสริม
ทั้งนี้การมีวัตถุดิบมากกว่าไม่ได้หมายความว่าคุณค่าทางสารอาหารจะเพิ่มขึ้น
ทอรีน เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารแมวไอแอมส์™ ทุกสูตร กรดอะมิโนจำเป็นชนิดนี้ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจ สายตา และระบบสืบพันธุ์ของลูกแมวทำงานเป็นปกติ นอกจากนี้ เกลือน้ำดียังช่วยในระบบย่อยอาหารอีกด้วย ทอรีนไม่เหมือนกรดอะมิโนตัวอื่น ตรงที่สามารถพบในรูปกรดอะมิโนอิสระได้ในเนื้อเยื้อต่าง ๆ เช่น หัวใจ ตา และไม่ถูกเปลี่ยนเป็นโปรตีน
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่ผลิตทอรีนจากกรดอะมิโนชนิดอื่น แต่ร่างกายของลูกแมวไม่สามารถผลิตได้เพียงพอจึงต้องรับทอรีนเพิ่มจากอาหาร โดยในอาหารสัตว์ปกติแล้วจะพบทอรีนในโปรตีนที่มีแหล่งที่มาจากสัตว์ หรือสามารถใส่เพิ่มเอาทีหลังก็ได้
เราเพิ่มทอรีนลงในอาหารแมวไอแอมส์แบบเม็ดและแบบกระป๋องเพื่อให้แมวได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ส่วนในอาหารเปียก อย่าง ไอแอมส์™ เพอร์เฟ็ค พอร์ชั่น™ สำหรับลูกแมวสุขภาพดีรสปาเต้และไก่ เราเพิ่มทอรีนมากกว่าที่ใส่ในอาหารเม็ดถึงสองเท่า เพื่อรักษาระดับทอรีนในเลือดให้เพียงพอ เนื่องจากขั้นตอนการอัดกระป๋อง อาจส่งผลต่อสมดุลทอรีนในแมว เราจึงเพิ่มทอรีนลงในอาหารเปียกเพื่อให้เพียงพอกับระดับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ อาหารเม็ดไอแอมส์อย่าง ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สำหรับลูกแมวสุขภาพดี มีทอรีนเป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มแหล่งของกรดอะมิโน ซึ่งมีที่มาจากโปรตีนสัตว์อย่างเช่น เนื้อไก่ เนื้อแกะ เนื้อปลา และไข่ แต่แหล่งที่มาต่างกันก็ให้ทอรีนต่างกันตามไปด้วย การเพิ่มทอรีนลงในอาหารถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อให้แมวได้รับทอรีนอย่างพอเพียง
ลูกแมวที่ได้รับทอรีนไม่เพียงพออาจมีปัญหาร้ายแรงด้านสุขภาพได้ เช่น
เพราะทอรีนมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการและหน้าที่ของเซลล์ในเรติน่าซึ่งอยู่ภายในลูกตา หากทอรีนไม่เพียงพอเซลล์เรติน่าจะทำงานไม่ปกติ อาจทำให้เซลล์ตาย การมองเห็นลดลง หรือในกรณีที่ร้ายแรงก็อาจตาบอดได้ อาการประเภทนี้มีชื่อเรียกว่า “เรติน่าส่วนกลางเสื่อมสภาพในแมว” (Feline central retinal degeneration)
ทอรีนจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจให้เป็นปกติ เมื่อทอรีนไม่เพียงพอจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ ซึ่งนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว อาการประเภทนี้เรียกว่า “กล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่” ซึ่งอันตรายถึงชีวิต
เพื่อปกป้องสุขภาพของลูกแมวทั้งตอนนี้และเมื่อเค้าโตขึ้น อย่าลืมให้เค้าได้กินอาหารที่มีทอรีนเพียงพอ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการด้านสารอาหารของลูกแมว
อ้างอิงจาก Case L, et al. Canine and Feline Nutrition. 3rd ed. Maryland Heights, MO: Mosby Elsevier, 2011.