IAMS TH
Kitten and cat adoption basics
Kitten and cat adoption basics

adp_description_block24
มือใหม่ต้องรู้! วิธีเตรียมความพร้อมก่อนรับเลี้ยงแมว

  • แบ่งปัน

เชื่อเถอะว่าการรับเลี้ยงแมวจะกลายเป็นหนึ่งในสายสัมพันธ์ที่พิเศษที่สุดในชีวิตของคุณ แมวเหมียวเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักและขี้เล่น เพียงใช้เวลากับพวกเค้าไม่นาน คุณจะพบว่าตัวเองเครียดน้อยลงและมีความสุขมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การรับแมวมาเลี้ยงเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ซึ่งมาพร้อมความรับผิดชอบมากมาย บ้านของคุณจะกลายเป็นบ้านของพวกเค้า และคุณจะกลายเป็นครอบครัวของเจ้าตัวน้อย ดังนั้นก่อนจะมองหาสถานที่รับเลี้ยงแมวใกล้ฉัน คุณควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้ให้ดีเสียก่อน

ข้อควรรู้ก่อนรับเลี้ยงแมว 

ไม่ว่าจะเลือกรับเลี้ยงลูกแมวตัวน้อยหรือพี่เหมียวตัวโต คุณควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อน

  1. การทำหมันให้แมว

    • หากรับเลี้ยงน้องแมวโตที่ยังไม่ได้ทำหมัน ควรพาพวกเค้าไปทำหมันให้เรียบร้อย แต่หากเป็นลูกแมว คุณต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงอายุที่เหมาะสม โดยสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงหรือสัตวแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนการทำหมันเพิ่มเติมได้
  2. ทบทวนเรื่องเวลาและกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้ดี

    • หากต้องทำงานหรือมีตารางชีวิตที่วุ่นวาย ควรพิจารณาก่อนว่าจะสามารถแบ่งเวลามาดูแลเจ้าเหมียวได้หรือไม่ ทั้งเรื่องอาหารและการทำความสะอาด คุณจำเป็นต้องวางแผนการให้อาหารพวกเค้าอย่างเหมาะสม และต้องอย่าลืมแบ่งเวลามาเล่นหรือทำกิจกรรมกับพวกเค้าด้วย
  3. การรับเลี้ยงแมวเป็นความผูกพันระยะยาว

    • เมื่อรับน้องแมวเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวแล้ว คุณจะกลายเป็นโลกทั้งใบของพวกเค้า และจำเป็นต้องดูแลรับผิดชอบพวกเค้าตลอดไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ทั้งนี้อายุขัยของแมวจะอยู่ที่ 12 – 20 ปี ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจรับเลี้ยงแมวจรจากศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้านหรือเก็บมาจากข้างถนน ควรพิจารณาให้ดีว่าพร้อมสำหรับความผูกพันและความรับผิดชอบระยะยาวนี้แล้วหรือยัง

 

ปรับสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสมสำหรับน้องแมว

ก่อนจะพาเจ้าตัวน้อยกลับบ้าน คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนบางสิ่งในบ้านให้เรียบร้อยก่อน โดยเริ่มจากทำตามคำแนะนำเหล่านี้

  1. นำสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายต่อน้องแมวออกไป เช่น ไม้ประดับบางชนิด หรือสารเคมีต่าง ๆ 
  2. เก็บสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พ้นอุ้งมือเจ้าเหมียว (พวกเค้าอาจเคี้ยวสายไฟเล่น จนนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้)
  3. หากมีเด็กน้อยในครอบครัว ควรสอนวิธีการเข้าหาและการเล่นกับแมวอย่างเหมาะสม
  4. เตรียมพื้นที่ส่วนตัวให้เจ้าเหมียว เพื่อให้พวกเค้ารู้สึกปลอดภัยและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
  5. ค้นหาคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกต่อการพาเจ้าตัวน้อยไปตรวจสุขภาพ

ข้อดีของการรับเลี้ยงแมวมีอะไรบ้าง?

ตามมาดูข้อดีหรือประโยชน์ของการรับเลี้ยงแมวกันได้เลย

  1. มอบชีวิตใหม่ให้น้องแมว

    • การเลือกที่จะรับเลี้ยงแมวจรแทนการซื้อแมวถือเป็นการช่วยเหลือน้องแมวอย่างแท้จริง ให้พวกเค้ามีบ้าน ได้รับการดูแล มีอาหารดี ๆ กิน และมีคนที่พร้อมมอบความรักให้ 
  2. น้องแมวมักได้รับการฝึกมาแล้ว

    • น้องแมวจากศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้านมักได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานกันมาบ้างแล้ว ทั้งการกินอาหารจากชามและการใช้เสาลับเล็บ
  3. เลือกรับเลี้ยงได้จากลักษณะนิสัยเฉพาะตัว

    • นี่เป็นหนึ่งในประโยชน์ที่ดีที่สุดของการรับเลี้ยงน้องแมวจากศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้าน เพราะน้องแมวส่วนใหญ่มักแสดงนิสัยหรือลักษณะพิเศษเฉพาะตัวออกมาให้เห็น ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าพวกเค้าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่

 

ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเมื่อรับเลี้ยงแมว

ปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจรับแมวมาเลี้ยง

 

  1. การแนะนำให้รู้จักแมวเจ้าถิ่น

    • หากมีแมวเหมียวอยู่แล้วในบ้าน คุณควรปรึกษาศูนย์พักพิงเพื่อเลือกแมวที่ชอบอยู่ร่วมกับตัวอื่น ๆ รวมทั้งศึกษาวิธีการค่อย ๆ แนะนำแมวตัวใหม่ให้รู้จักกับเจ้าถิ่นตัวเดิม เพื่อระวังไม่ให้พวกเค้าเครียดจนเกินไป
  2. การเลี้ยงแมวมีค่าใช้จ่าย

    • ทั้งค่าตรวจสุขภาพ ค่ายารักษา ค่าอาหาร ของเล่น และอื่น ๆ สำหรับน้องแมวไร้บ้านหรือน้องแมวจร อาจมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมากเป็นพิเศษ 
  3. กิจวัตรประจำวัน

    • น้องแมวต้องการการดูแลและเอาใจใส่อย่างเหมาะสม เวลาจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่คุณควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจรับแมวมาเลี้ยง โดยอาจเลือกน้องแมวที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกับคุณ เช่น หากต้องออกจากบ้านไปทำงาน อาจเลือกน้องแมวที่รักอิสระและสามารถอยู่ตามลำพังได้

 

อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงแมว

เพื่อการดูแลเจ้าเหมียวได้อย่างเต็มที่ ทาสแมวมือใหม่ควรเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ให้พร้อม

  1. ชามน้ำและชามอาหาร
  2. กระบะทราย
  3. เสาลับเล็บ
  4. ของเล่น
  5. แคทนิป
  6. อุปกรณ์อาบน้ำและดูแลขน
  7. กรงหรือกระเป๋าใส่แมว
  8. เบาะนอน
  9. ปลอกคอพร้อมป้ายชื่อ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับเลี้ยงแมว

  1. ควรรับเลี้ยงแมวอายุเท่าไหร่?
  2. สำหรับลูกแมวควรมีอายุ 12 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นน้องแมวโตเต็มวัย ควรมีอายุน้อยกว่า 10 ปี โดยน้องแมวโตจะมีนิสัยและบุคลิกภาพที่ชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจรับเลี้ยง อีกทั้งยังเป็นช่วงวัยที่มีสุขภาพดีที่สุด ส่วนน้องแมวสูงวัย ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวเลือกยอดนิยม แต่การรับเลี้ยงพวกเค้าก็มีข้อดีเช่นกัน  คือจะไม่ค่อยซุกซนและชอบอยู่บ้านมากกว่าน้องแมววัยอื่น

  3. การเลี้ยงน้องแมวจำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง?
  4. อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงแมว ได้แก่ ชามน้ำ ชามอาหาร กระบะทราย เสาลับเล็บ ของเล่

  5. สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อพาน้องแมวตัวใหม่เข้าบ้านคืออะไร?
  6. สิ่งแรกที่คุณควรทำคือ ทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกปลอดภัย น้องแมวอาจรู้สึกกังวลและประหม่าในช่วงแรก พวกเค้าต้องการเวลาเพื่อปรับตัวให้คุ้นเคยกับเจ้าของและบ้านใหม่ นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมอาหารคุณภาพดีและน้ำสะอาดให้พร้อมด้วย

  7. การผูกมิตรกับน้องแมวใช้เวลานานหรือไม่?
  8. ระยะเวลาในการตีสนิทกับเจ้าเหมียวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ช่วงวัย สถานที่ที่พวกเค้าเติบโตมา พฤติกรรมของคุณ อีกทั้งต้องดูด้วยว่าเค้าเคยเป็นแมวบ้านมาก่อนหรือไม่ และได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไร จึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกวันเวลาที่แน่นอน สิ่งที่คุณทำได้คือมอบความรักและความห่วงใยให้พวกเค้า รวมถึงให้พื้นที่และเวลาส่วนตัวกับพวกเค้าด้วย

  9. น้องแมวจะใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับบ้านและเจ้าของใหม่นานแค่ไหน?
  10. มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับตัวของเจ้าเหมียว เช่น อายุของพวกเค้า พฤติกรรมของคุณ รวมถึงต้องดูว่าน้องแมวเคยถูกรับเลี้ยงมาก่อนไหม และถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร ความสามารถในการปรับตัวยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ทำให้พวกเค้ากลายเป็นแมวไร้บ้านด้วย ทางที่ดีคือควรอดทนรอจนกว่าเจ้าเหมียวจะคุ้นชินกับชีวิตใหม่

  • คู่มือการฝึกลูกแมวเข้ากระบะทราย
    คู่มือการฝึกลูกแมวเข้ากระบะทราย
    adp_description_block202
    วิธีฝึกลูกแมวเข้ากระบะทราย

    • แบ่งปัน

    การฝึกเข้ากระบะทรายตั้งแต่อายุน้อย ช่วยปลูกฝังพฤติกรรมเพื่อสุขอนามัยที่ดีได้ โดยแนะนำให้เริ่มฝึกทันทีที่ลูกแมวมีอายุครบ 4 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงวัยที่เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดี การฝึกยังช่วยให้บ้านของคุณสะอาด ไม่ต้องเก็บกวาดทุกครั้งที่เจ้าเหมียวขับถ่ายอีกด้วย สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงที่สงสัยว่าควรฝึกลูกแมวอย่างไร ในบทความนี้ เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการฝึกได้อย่างราบรื่น พร้อมด้วยเรื่องน่ารู้อีกมากมาย ทั้งช่วงวัยที่เหมาะสมสำหรับการฝึกและวิธีเลือกขนาดกระบะทรายที่เหมาะสม
     

    สามารถฝึกลูกแมวเข้ากระบะทรายได้หรือไม่?

    แมวส่วนใหญ่ใช้กระบะทรายเป็นโดยสัญชาตญาณ เพราะมักจะขับถ่ายบนพื้นทรายกันเป็นปกติ แต่สำหรับลูกแมวอาจต้องฝึกสอนกันสักเล็กน้อย การฝึกลูกแมวเข้ากระบะทรายไม่ใช่เรื่องยาก แต่ควรเริ่มฝึกตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยถือเป็นหนึ่งในการฝึกแรก ๆ ที่คุณควรสอนให้ลูกแมว
     

    เริ่มฝึกลูกแมวเข้ากระบะทรายได้เมื่อไหร่?

    คุณสามารถเริ่มฝึกลูกแมวได้เมื่อมีอายุ 4 สัปดาห์ หากคุณรับเลี้ยงลูกแมวที่มีอายุมากกว่า 4 สัปดาห์หรือแมวโต ให้เริ่มฝึกทันทีที่พาพวกเค้าเข้าบ้าน
     

    ควรฝึกลูกแมวเข้ากระบะทรายอย่างไร?

    การฝึกลูกแมวขับถ่ายในกระบะทรายเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ต้องการทำความสะอาดบ้านหลายล้านครั้งต่อวัน อย่างไรก็ตาม คุณอาจต้องสอนให้พวกเค้ารู้จักวิธีใช้กระบะทรายอย่างถูกต้องกันเสียก่อน สำหรับทาสแมวมือใหม่ คุณอาจไม่มีความรู้เรื่องวิธีการฝึก ไม่ต้องกังวล เราช่วยคุณได้! เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้

    1. เลือกกระบะทรายและทรายแมวที่ใช่

    ขั้นตอนแรกคือการเลือกกระบะทรายที่เหมาะกับตัวลูกแมว ขนาดต้องไม่เล็กจนเกินไป ภายในมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขับถ่าย และควรเดินเข้าออกได้ง่าย
     

    แมวบางตัวอาจรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องใช้กระบะทรายแบบโดมหรือแบบที่มีฝาปิด เพราะต้องการรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวในขณะขับถ่าย ส่วนแมวบางกลุ่มก็ต้องการความเป็นส่วนตัว อาจต้องให้พวกเค้าลองใช้กระบะทรายแบบต่าง ๆ เพื่อค้นหาแบบที่ถูกใจมากที่สุด

    1. จัดวางกระบะทรายในมุมที่เข้าถึงได้ง่าย

    การเลือกจุดที่เหมาะสมสำหรับกระบะทรายเป็นสิ่งจำเป็น แนะนำให้วางในมุมที่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว แต่ให้อยู่มุมที่เรามองเห็นได้เพื่อป้องกันแมวขับถ่ายไม่เป็นที่ จำนวนกระบะทรายก็สำคัญเช่นกัน หากบ้านของคุณมีหลายชั้นควรวางกระบะทรายให้ครบทุกชั้น อย่างน้อยชั้นละ 1 จุด สามารถวางในห้องน้ำได้ แต่หลีกเลี่ยงบริเวณชามอาหารและน้ำ

    1. อุ้มลูกแมวเข้ากระบะทรายเพื่อทำความคุ้นเคย

    เมื่อจัดเตรียมกระบะทรายเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาฝึกลูกแมวของคุณ เริ่มจากนำลูกแมวไปที่กระบะทราย ปล่อยให้พวกเค้าดมกลิ่นและสำรวจเพื่อทำความคุ้นเคย จากนั้นอุ้มลูกแมวลงไปในกระบะทราย พวกเค้าอาจเริ่มใช้เท้าเขี่ยทรายและขับถ่ายในทันที หากลูกแมวมีท่าทีงุนงง ให้ใช้นิ้วเขี่ยทรายให้พวกเค้าดูก่อน

    1. ปลูกฝังพฤติกรรมขับถ่ายที่ดี

    เพื่อให้ลูกแมวเรียนรู้และจดจำการใช้กระบะทรายได้ดีขึ้น ควรให้รางวัลเป็นขนมแสนอร่อยหรือพูดชมเชยเมื่อพวกเค้าใช้กระบะทรายได้สำเร็จ และเพื่อให้ได้ผลดี คุณควรให้รางวัลทันทีหลังขับถ่ายเสร็จ

    1. ทำความสะอาดกระบะทรายเป็นประจำ

    การรักษาความสะอาดของกระบะทรายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแมวมีนิสัยรักสะอาดและเจ้าระเบียบมาก พวกเค้ามักจะหลีกเลี่ยงการใช้กระบะทรายที่สกปรก ในช่วงแรกอาจตักของเสียออกหลังการใช้งานแต่ละครั้ง หมั่นเติมทรายแมวเพื่อให้แน่ใจว่ามีปริมาณที่เหมาะสม ลูกแมวสามารถขุดได้ง่าย เมื่อลูกแมวเริ่มโตขึ้นและคุ้นเคยกับการใช้กระบะทรายแล้ว สามารถเปลี่ยนมาทำความสะอาดวันละครั้งแทนได้

Close modal