IAMS TH
The Importance of Taurine in Kitten Foods
The Importance of Taurine in Kitten Foods-mob

adp_description_block10
ทอรีนมีความสำคัญอย่างไรในอาหารลูกแมว

  • แบ่งปัน

ทอรีน เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารแมวไอแอมส์™ ทุกสูตร กรดอะมิโนจำเป็นชนิดนี้ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจ สายตา และระบบสืบพันธุ์ของลูกแมวทำงานเป็นปกติ นอกจากนี้ เกลือน้ำดียังช่วยในระบบย่อยอาหารอีกด้วย ทอรีนไม่เหมือนกรดอะมิโนตัวอื่น ตรงที่สามารถพบในรูปกรดอะมิโนอิสระได้ในเนื้อเยื้อต่าง ๆ เช่น หัวใจ ตา และไม่ถูกเปลี่ยนเป็นโปรตีน

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่ผลิตทอรีนจากกรดอะมิโนชนิดอื่น แต่ร่างกายของลูกแมวไม่สามารถผลิตได้เพียงพอจึงต้องรับทอรีนเพิ่มจากอาหาร โดยในอาหารสัตว์ปกติแล้วจะพบทอรีนในโปรตีนที่มีแหล่งที่มาจากสัตว์ หรือสามารถใส่เพิ่มเอาทีหลังก็ได้

 

ทำไมไอแอมส์จึงเพิ่มทอรีนในอาหารลูกแมว ?

 

เราเพิ่มทอรีนลงในอาหารแมวไอแอมส์แบบเม็ดและแบบกระป๋องเพื่อให้แมวได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ส่วนในอาหารเปียก อย่าง ไอแอมส์™ เพอร์เฟ็ค พอร์ชั่น™ สำหรับลูกแมวสุขภาพดีรสปาเต้และไก่ เราเพิ่มทอรีนมากกว่าที่ใส่ในอาหารเม็ดถึงสองเท่า เพื่อรักษาระดับทอรีนในเลือดให้เพียงพอ เนื่องจากขั้นตอนการอัดกระป๋อง อาจส่งผลต่อสมดุลทอรีนในแมว เราจึงเพิ่มทอรีนลงในอาหารเปียกเพื่อให้เพียงพอกับระดับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ อาหารเม็ดไอแอมส์อย่าง ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สำหรับลูกแมวสุขภาพดี มีทอรีนเป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มแหล่งของกรดอะมิโน ซึ่งมีที่มาจากโปรตีนสัตว์อย่างเช่น เนื้อไก่ เนื้อแกะ เนื้อปลา และไข่ แต่แหล่งที่มาต่างกันก็ให้ทอรีนต่างกันตามไปด้วย การเพิ่มทอรีนลงในอาหารถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อให้แมวได้รับทอรีนอย่างพอเพียง

 

อาการของแมวที่ได้รับทอรีนไม่เพียงพอมีอะไรบ้าง ?

 

ลูกแมวที่ได้รับทอรีนไม่เพียงพออาจมีปัญหาร้ายแรงด้านสุขภาพได้ เช่น

  • ตาบอด

เพราะทอรีนมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการและหน้าที่ของเซลล์ในเรติน่าซึ่งอยู่ภายในลูกตา หากทอรีนไม่เพียงพอเซลล์เรติน่าจะทำงานไม่ปกติ อาจทำให้เซลล์ตาย การมองเห็นลดลง หรือในกรณีที่ร้ายแรงก็อาจตาบอดได้ อาการประเภทนี้มีชื่อเรียกว่า “เรติน่าส่วนกลางเสื่อมสภาพในแมว” (Feline central retinal degeneration)

  • โรคหัวใจ

ทอรีนจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจให้เป็นปกติ เมื่อทอรีนไม่เพียงพอจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ ซึ่งนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว อาการประเภทนี้เรียกว่า “กล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่” ซึ่งอันตรายถึงชีวิต

 

เพื่อปกป้องสุขภาพของลูกแมวทั้งตอนนี้และเมื่อเค้าโตขึ้น อย่าลืมให้เค้าได้กินอาหารที่มีทอรีนเพียงพอ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการด้านสารอาหารของลูกแมว

 

อ้างอิงจาก Case L, et al. Canine and Feline Nutrition. 3rd ed. Maryland Heights, MO: Mosby Elsevier, 2011.

 

  • How to Keep Your Cat’s Urinary Tract in Tip-top Shape
    How to Keep Your Cat’s Urinary Tract in Tip-top Shape
    adp_description_block242
    ทำความเข้าใจโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

    • แบ่งปัน

    โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมวคืออะไร?

    กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นหนึ่งในกลุ่มอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นโรคที่ไม่ได้พบบ่อยในแมว และแมวทุกตัวที่มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจจะไม่ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (NCBI) มีแมวเพียง 1 – 2% เท่านั้นที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นโรคที่พบไม่บ่อย แต่หากน้องแมวมีอาการก็จำเป็นต้องไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยเพิ่มเติม
     

    อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

    เนื่องจากเป็นโรคที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและความไม่สบายอย่างรุนแรง เจ้าของจึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับอาการหรือสัญญาณเตือนต่าง ๆ ของโรคให้ดี ซึ่งอาการที่พบได้มีดังนี้

    • ปัสสาวะบ่อยแต่มีปริมาณน้อย
    • มีเลือดปะปนในปัสสาวะ
    • เลียบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์มากกว่าปกติ
    • ส่งเสียงร้องออกมาขณะปัสสาวะ
    • ปัสสาวะนอกกระบะทราย

    การวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

    ในการวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ สัตวแพทย์จะทำการทดสอบตัวอย่างปัสสาวะเพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย โดยคุณหมอจะดูดปัสสาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะโดยตรงเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน เมื่อตรวจตัวอย่างปัสสาวะแล้ว คุณหมอก็จะทำการแยกเชื้อแบคทีเรียเพื่อศึกษาต่อไป ขั้นตอนนี้เรียกว่าการเพาะเชื้อและการทดสอบความไวของเชื้อต่อยา ซึ่งจะช่วยให้คุณหมอกำหนดยาที่เหมาะสมต่อการรักษาได้
     

    การติดเชื้อครั้งแรกหรือการติดเชื้อแบบเฉียบพลันมักจะรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้าง อย่างไรก็ตาม หากแมวของคุณมีอาการป่วยจากการติดเชื้อเรื้อรัง สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อเริ่มให้ยาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
     

    สาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

    โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมวเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น

    • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเนื่องจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง
    • การสอดใส่สายสวนปัสสาวะ
    • นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
    • ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร

    การป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

    แม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยากและพบไม่บ่อย แต่ทางที่ดีก็ควรดูแลน้องแมวอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ โดยการดูแลป้องกันที่แนะนำมีดังนี้

    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแมวดื่มน้ำเพียงพอ แนะนำให้ทำความสะอาดชามน้ำเป็นประจำและหมั่นเปลี่ยนน้ำทุกวัน
    • ทำความสะอาดกระบะทรายวันละสองครั้ง และควรเปลี่ยนทรายใหม่ทุกสองสัปดาห์
    • หมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของปริมาณและสีของปัสสาวะ หากพบการความผิดปกติควรปรึกษาสัตวแพทย์
    • เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคที่อาจนำไปสู่ปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากแมวของคุณมีอาการของโรคดังกล่าว ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
    • สำหรับแมวสูงวัยและแมวที่มีน้ำหนักตัวเกิน อาจมีปัญหาในการขยับเขยื้อนตัวและไม่สามารถเลียตัวทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง เจ้าของอาจต้องช่วยดูแลเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ

    สามารถรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมวด้วยตนเองได้หรือไม่?

    การดูแลรักษาน้องแมวที่มีอาการของโรคนี้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การให้กินน้ำแครนเบอร์รี แอปเปิลไซเดอร์ และซุปโครงกระดูก ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อกันว่าสามารถบรรเทาอาการของโรคได้ อย่างไรก็ตาม การรักษาเหล่านี้อาจไม่ช่วยให้น้องแมวหายขาด และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โอกาสที่จะเป็นซ้ำก็เพิ่มมากขึ้น ทางที่ดีจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

Close modal