IAMS TH
The Importance of Taurine in Cat Food
The Importance of Taurine in Cat Food

adp_description_block474
คุณประโยชน์ของทอรีนในอาหารแมว

  • แบ่งปัน

ทอรีนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในอาหารแมวของไอแอมส์™ เช่น อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับแมวโต

 

ทอรีนเป็นกรดอะมิโนอิสระที่พบอยู่ในเนื้อเยื่อและอวัยวะของร่างกาย เช่น หัวใจและดวงตา โดยจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การมองเห็น และการสืบพันธุ์ในลูกแมว รวมถึงจำเป็นต่อการผลิตน้ำดีที่ช่วยในการย่อยอาหารด้วย ทั้งนี้ทอรีนแตกต่างจากกรดอะมิโนชนิดอื่นตรงที่ไม่ใช่ในการสร้างโปรตีน

 

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่สามารถผลิตทอรีนเองได้ แต่สำหรับแมวนั้น ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอ จึงต้องรับเพิ่มจากอาหารเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยทอรีนพบได้ในส่วนผสมที่เป็นเนื้อสัตว์ หรืออาจมาในรูปแบบอาหารเสริม

ทอรีนมีประโยชน์อย่างไร?

ทอรีนช่วยเสริมสร้างการมองเห็น การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน การตั้งท้องและพัฒนาการของลูกในท้อง โดยสามารถพบทอรีนได้ในโปรตีนจากสัตว์เท่านั้น

การสร้างทอรีนของสุนัขและแมว

  • สุนัข

น้องหมาสามารถสังเคราะห์ทอรีนได้จากกรดอะมิโน 2 ชนิด ได้แก่ ซิสเทอีนและเมไทโอนีน พวกเค้าจึงไม่ต้องการทอรีนในอาหาร แต่เพราะทอรีนมีประโยชน์มากมาย จึงยังเป็นสารอาหารสำคัญที่อยู่ในอาหารสุนัข

ทั้งนี้ยังไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับปริมาณทอรีนในอาหารสุนัข หากกังวลว่าน้องหมาได้รับทอรีนไม่เพียงพอ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

  • แมว

เนื่องจากน้องแมวไม่สามารถสังเคราะห์ทอรีนเองได้ จึงจำเป็นต้องมีทอรีนในอาหารของพวกเค้า หากในอาหารมีทอรีนน้อยเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญหลายประการ เช่น อาจทำให้จอประสาทตาเสื่อม และน้องแมวอาจตาบอดได้ นอกจากนี้การขาดทอรีนทำให้การเจริญเติบโตช้าลง และส่งผลต่อความสามารถในการสืบพันธุ์

ตามมาตรฐาน AAFCO นั้น อาหารเม็ดสำหรับแมวโต ต้องมีปริมาณทอรีนอย่างน้อย 25 มก./100 แคลอรี ส่วนอาหารเปียกต้องมี 50 มก./100 แคลอรี อย่างไรก็ตาม น้องแมวแต่ละตัวมีความต้องการทอรีนแตกต่างกัน จึงควรปรึกษาสัตวแพทย์หากมีความกังวลว่าพวกเค้าได้รับทอรีนไม่เพียงพอ

 ทำไม ไอแอมส์™ จึงเพิ่มทอรีนในอาหารแมว?

อาหารแมวชนิดเม็ดของ ไอแอมส์™ มีส่วนผสมของโปรตีนจากเนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มทอรีนให้เจ้าเหมียวได้ เช่น เนื้อไก่ ไข่ เนื้อแกะ และปลา ทั้งนี้ปริมาณทอรีนที่ได้จะแตกต่างกัน และอาจต้องเพิ่มปริมาณทอรีนเพื่อให้แน่ใจว่ามีทอรีนอยู่ระดับที่เหมาะสมที่สุด

ความสำคัญของทอรีนสำหรับแมว

ประโยชน์ของทอรีน

ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ในเนื้อเยื่อและอวัยวะอื่น ๆ เช่น กล้ามเนื้อ หัวใจ สมอง และดวงตา โดยจะแตกต่างจากกรดอะมิโนส่วนใหญ่ เพราะทอรีนไม่ได้สร้างโปรตีนในเซลล์ แต่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่างซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้องแมว ดังนี้

  • ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
  • ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี
  • ช่วยดูแลจอประสาทตาและการมองเห็น
  • เสริมสร้างระบบสืบพันธุ์
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมตามอายุ

ทำไมน้องแมวถึงต้องการทอรีน?

การขาดทอรีนอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เนื่องจากจำเป็นต่อการทำงานของหลาย ๆ ส่วนในร่างกาย โดยปัญหาที่พบได้จากการขาดทอรีน มีดังนี้

  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ – หายจากการเจ็บป่วยช้า
  • พลังงานต่ำ – ระดับพลังงานได้รับผลกระทบจากการขาดสารอาหาร
  • ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจในแมว – เป็นภาวะที่หัวใจขยายใหญ่ขึ้น
  • ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร – ท้องเสียหรืออาเจียน
  • ปัญหาจอประสาทตา – สูญเสียการมองเห็นตามอายุ
  • ปัญหาการสืบพันธุ์ – มีลูกยากหรือลูกแมวที่เกิดมามีน้ำหนักแรกเกิดน้อยและเจริญเติบโตได้ไม่ดี
  • ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ – ทอรีนส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นการขาดทอรีนอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้
  • ผิวหนังไม่แข็งแรงและขนหยาบกระด้าง – หากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ น้องแมวอาจมีขนแข็งหยาบกระด้าง และมีสะเก็ดรังแค
  • ปัญหาสุขภาพฟัน – การสะสมของหินปูน ฟันผุ และมีกลิ่นปาก

การน้องแมวขาดทอรีนส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?

  • สูญเสียการมองเห็น

ทอรีนมีความสำคัญต่อพัฒนาการและการทำงานของเซลล์ในจอประสาทตา หากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดความเสื่อมบริเวณส่วนกลางของจอประสาทตา ส่งผลให้การมองเห็นบกพร่องและตาบอดในที่สุด

  • โรคหัวใจ

การขาดทอรีนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ภาวะนี้เรียกว่า Dilated Cardiomyopathy ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถบีบตัวได้เป็นปกติ เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต

  • การเจริญเติบโตลดลง

ทอรีนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของน้องแมว โดยในช่วงตั้งท้องและให้นมลูกนั้น ทั้งแม่แมวและลูกแมวต้องรักษาระดับทอรีนให้เพียงพอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวจะมีพัฒนาการที่เหมาะสม

  • ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน

ระบบภูมิคุ้มกันของน้องแมวอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เป็นผลให้พวกเค้าไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้และมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคได้ง่าย

  • ระดับพลังงานลดลง

น้องแมวที่มีพลังงานน้อยอาจดูเหนื่อยล้าและมักจะอยู่นิ่ง ไม่ค่อยขยับตัว

  • ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

ทอรีนมีส่วยช่วยในการผลิตน้ำดีซึ่งจำเป็นต่อการย่อยไขมัน น้องแมวอาจท้องเสียและมีปัญหาในระบบทางเดินอาหารหากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ

  • ความสามารถในการสืบพันธุ์

น้องแมวที่ขาดทอรีนอาจมีปัญหาการสืบพันธุ์ได้

  • ปัญหาสุขภาพฟัน

ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้ฟันแข็งแรง ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุได้ดี

ทอรีนและอาหารแมวของไอแอมส์™

อาหารแมวไอแอมส์™ มีโปรตีนคุณภาพดีเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ยังเสริมด้วยทอรีนเพื่อให้แน่ใจว่ามีกรดอะมิโนจำเป็นชนิดนี้ในระดับที่เหมาะสมและสมดุล

อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับแมวโต รสไก่และแซลมอน เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดสำหรับน้องแมวที่คุณรัก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล มีโปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมถึงมีไฟเบอร์และพรีไบโอติกจากธรรมชาติ ช่วยให้ระบบย่อยและขับถ่ายดี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทอรีนในอาหารแมว

  1. ทอรีนมีผลกระทบต่อน้องแมวหรือไม่?
  2. หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อร่างกาย แต่หากได้รับมากเกินไป น้องแมวอาจมีอาการอาเจียนเล็กน้อย

  3. ทอรีนมีประโยชน์สำหรับน้องแมวหรือไม่?
  4. ในช่วงปลายปีทศวรรษที่ 1980 ทอรีนกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารแมว และตั้งแต่นั้นมา อาหารแมวทุกชนิดก็อุดมไปด้วยทอรีนในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของน้องแมวแต่ละตัว

  5. &lt;ol&gt;<br> &lt;li&gt;<br> &lt;h3&gt;อะไรเป็นสาเหตุของการขาดทอรีนในแมว?&lt;/h3&gt;<br> &lt;/li&gt;<br> &lt;/ol&gt;
  6. เพราะการให้อาหารคุณภาพต่ำและมีสารอาหารไม่ครบถ้วน ทำให้น้องแมวจำนวนมากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ เนื่องจากน้องแมวไม่สามารถสังเคราะห์ทอรีนได้ด้วยตัวเอง ทอรีนจึงเป็นสารอาหารสำคัญที่ควรมีอยู่ในอาหารแมว

  • Our Favorite Tips to Train a Kitten
    Our Favorite Tips to Train a Kitten
    adp_description_block242
    รวมเคล็ดลับฝึกลูกแมวให้เป็นเด็กดีและมีพฤติกรรมที่เหมาะสม

    • แบ่งปัน

    การรับลูกแมวตัวใหม่เข้าบ้านเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับเจ้าของทุกคน มีสิ่งสำคัญมากมายที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้เจ้าตัวน้อยทั้งหลายเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย และหนึ่งในนั้นคือการฝึกลูกแมวอย่างเหมาะสม ซึ่งจำเป็นต่อความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและทางพฤติกรรม โดยในช่วงวัยเจริญเติบโต สมองของลูกแมวเปรียบเสมือนฟองน้ำ พวกเค้าจะดูดซับข้อมูลและเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรวมกับการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรักจากเจ้าของ มั่นใจได้เลยว่าเจ้าตัวน้อยของคุณจะเติบโตเป็นสมาชิกในครอบครัวที่ปรับตัวได้ดี มีความสุข และมีสุขภาพดี โดยคุณสามารถติดตามทุกเรื่องน่ารู้และเคล็ดลับการฝึกลูกแมวได้จากบทความนี้ 

     

    เคล็ดลับการฝึกลูกแมวให้ได้ผล

    สำหรับทาสแมวมือใหม่ ต้องเข้าใจก่อนว่าการฝึกลูกแมวควรเป็นประสบการณ์ที่สนุกและเป็นการส่งเสริมในเชิงบวก คุณสามารถสอนลูกแมวได้ทุกอย่างตั้งแต่คำสั่งพื้นฐานไปจนถึงการปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม เพียงแต่ต้องใช้ความอดทนและการฝึกอย่างสม่ำเสมอ หรือจะลองใช้เคล็ดลับง่าย ๆ ต่อไปนี้ด้วยก็ได้เช่นกัน

     

    1. ฝึกสอนคำสั่งที่สำคัญ

      การฝึกลูกแมวให้นั่งควรเป็นขั้นตอนแรกในการฝึก เริ่มด้วยการถือขนมไว้หน้าจมูกลูกแมว จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปเหนือหัว  เพื่อให้ลูกแมวเงยหน้าขึ้นมองตามขนม ซึ่งก้นของพวกเค้าจะค่อย ๆ ย่อลงกับพื้นตามธรรมชาติ ทันทีที่พวกเค้านั่งลง ให้พูดคำสั่งว่า 'นั่ง' แล้วค่อยยื่นขนมให้พวกเค้าเป็นลำดับต่อไป ทำขั้นตอนนี้ซ้ำหลาย ๆ ครั้งจนกว่าพวกเค้าจะเข้าใจคำสั่ง
       

    2. จัดเตรียมพื้นที่ส่วนตัว

      การจัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายให้กับเจ้าตัวน้อยเป็นสิ่งสำคัญ คุณอาจจะเตรียมกล่องลังหรือกรงไว้ให้พวกเค้าภายในบ้าน สำหรับการฝึกให้อยู่ในกรง ให้วางผ้าห่มนุ่ม ๆ และของเล่นไว้ข้างใน จากนั้นปล่อยให้ลูกแมวสำรวจรอบ ๆ ด้วยตัวเอง เมื่อพวกเค้าเข้าไปข้างในกรงก็ให้รางวัลเป็นขนมหรือคำชม คุณสามารถปิดประตูเป็นช่วงสั้น ๆ และค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาในการฝึกครั้งต่อ ๆ ไป
       

    3. เปิดโอกาสให้สำรวจโลกรอบ ๆ ตัว

      การเข้าสังคมเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของการฝึกลูกแมว เริ่มต้นด้วยการแนะนำให้ลูกแมวรู้จักกับเพื่อน คนในครอบครัว และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้าน อาจจะพาเจ้าตัวน้อยเหล่านี้นั่งรถเล่นในระยะทางสั้น ๆ เพื่อให้สัมผัสบรรยากาศรอบ ๆ ตัว ทั้งภาพ เสียง และกลิ่น ยิ่งได้สัมผัสกับผู้คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากเท่าไร พวกเค้าก็จะยิ่งมีความมั่นใจและปรับตัวได้ดีเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
       

    4. ช่วงเวลาเล่นสนุกสำคัญที่สุด

      การฝึกลูกแมวให้เล่นเป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ เริ่มต้นด้วยการแนะนำเจ้าลูกเหมียวให้รู้จักกับของเล่นชนิดต่าง ๆ และคอยสังเกตว่าของเล่นชิ้นไหนที่พวกเค้าสนใจมากที่สุด เมื่อเจ้าตัวน้อยเริ่มสนุกแล้ว คุณอาจชวนพวกเค้าเล่นเกมสนุก ๆ เช่น คาบของ ตะครุบเหยื่อ และชักเย่อ
       

    5. ฝึกใช้กระบะทราย

      เจ้าของควรเริ่มฝึกให้พวกเค้าใช้กระบะทรายตั้งแต่ยังเด็ก โดยวางลูกแมวไว้ในกระบะทรายทุกครั้งหลังมื้ออาหารและหลังการงีบหลับ เมื่อพวกเค้าใช้กระบะทราย ก็ให้รางวัลเป็นขนมหรือคำชมเชย ทั้งนี้ควรวางกระบะทรายไว้ในมุมที่สงบและเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงต้องทำความสะอาดกระบะทรายเป็นประจำด้วย
       

    6. ปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม

      พฤติกรรมการกินอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีของเจ้าเหมียว จึงควรฝึกให้พวกเค้ามีพฤติกรรมที่เหมาะสม เริ่มต้นด้วยการสอนให้พวกเค้ากินอาหารจากชามและดัดนิสัยชอบขอของกิน นอกจากนี้ควรให้อาหารลูกแมวเป็นเวลาและกำหนดปริมาณตามคำแนะนำ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเค้าจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
       

    7. ฝึกให้จำชื่อตัวเอ

      เป็นการฝึกที่สำคัญและมีประโยชน์ไม่น้อยเลย โดยคุณอาจเริ่มต้นด้วยการเรียกชื่อเจ้าตัวน้อยของคุณ จากนั้นให้รางวัลหรือชมเชยเมื่อพวกเค้าตอบสนองต่อการเรียก โดยแนะนำให้ฝึกเรียกชื่อพวกเค้าบ่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
       

      การฝึกลูกแมวเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอ เจ้าเหมียวอาจใช้เวลาสักพักในการเรียนรู้คำสั่งหรือทักษะต่าง ๆ ทั้งนี้เจ้าของควรเลือกฝึกในเชิงบวกและต้องทำให้การฝึกเป็นเรื่องสนุก! อย่าลืมมอบความรัก พูดชมเชย และให้ขนมแสนอร่อยเป็นรางวัลตลอดการฝึกด้วย

Close modal