IAMS TH
How to Keep Your Cat’s Urinary Tract in Tip-top Shape
How to Keep Your Cat’s Urinary Tract in Tip-top Shape

adp_description_block298
ทำความเข้าใจโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

  • แบ่งปัน

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมวคืออะไร?

กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นหนึ่งในกลุ่มอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นโรคที่ไม่ได้พบบ่อยในแมว และแมวทุกตัวที่มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจจะไม่ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (NCBI) มีแมวเพียง 1 – 2% เท่านั้นที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นโรคที่พบไม่บ่อย แต่หากน้องแมวมีอาการก็จำเป็นต้องไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยเพิ่มเติม
 

อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

เนื่องจากเป็นโรคที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและความไม่สบายอย่างรุนแรง เจ้าของจึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับอาการหรือสัญญาณเตือนต่าง ๆ ของโรคให้ดี ซึ่งอาการที่พบได้มีดังนี้

  • ปัสสาวะบ่อยแต่มีปริมาณน้อย
  • มีเลือดปะปนในปัสสาวะ
  • เลียบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์มากกว่าปกติ
  • ส่งเสียงร้องออกมาขณะปัสสาวะ
  • ปัสสาวะนอกกระบะทราย

การวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

ในการวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ สัตวแพทย์จะทำการทดสอบตัวอย่างปัสสาวะเพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย โดยคุณหมอจะดูดปัสสาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะโดยตรงเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน เมื่อตรวจตัวอย่างปัสสาวะแล้ว คุณหมอก็จะทำการแยกเชื้อแบคทีเรียเพื่อศึกษาต่อไป ขั้นตอนนี้เรียกว่าการเพาะเชื้อและการทดสอบความไวของเชื้อต่อยา ซึ่งจะช่วยให้คุณหมอกำหนดยาที่เหมาะสมต่อการรักษาได้
 

การติดเชื้อครั้งแรกหรือการติดเชื้อแบบเฉียบพลันมักจะรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้าง อย่างไรก็ตาม หากแมวของคุณมีอาการป่วยจากการติดเชื้อเรื้อรัง สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อเริ่มให้ยาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
 

สาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมวเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเนื่องจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง
  • การสอดใส่สายสวนปัสสาวะ
  • นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
  • ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร

การป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

แม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยากและพบไม่บ่อย แต่ทางที่ดีก็ควรดูแลน้องแมวอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ โดยการดูแลป้องกันที่แนะนำมีดังนี้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแมวดื่มน้ำเพียงพอ แนะนำให้ทำความสะอาดชามน้ำเป็นประจำและหมั่นเปลี่ยนน้ำทุกวัน
  • ทำความสะอาดกระบะทรายวันละสองครั้ง และควรเปลี่ยนทรายใหม่ทุกสองสัปดาห์
  • หมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของปริมาณและสีของปัสสาวะ หากพบการความผิดปกติควรปรึกษาสัตวแพทย์
  • เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคที่อาจนำไปสู่ปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากแมวของคุณมีอาการของโรคดังกล่าว ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
  • สำหรับแมวสูงวัยและแมวที่มีน้ำหนักตัวเกิน อาจมีปัญหาในการขยับเขยื้อนตัวและไม่สามารถเลียตัวทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง เจ้าของอาจต้องช่วยดูแลเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ

สามารถรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมวด้วยตนเองได้หรือไม่?

การดูแลรักษาน้องแมวที่มีอาการของโรคนี้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การให้กินน้ำแครนเบอร์รี แอปเปิลไซเดอร์ และซุปโครงกระดูก ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อกันว่าสามารถบรรเทาอาการของโรคได้ อย่างไรก็ตาม การรักษาเหล่านี้อาจไม่ช่วยให้น้องแมวหายขาด และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โอกาสที่จะเป็นซ้ำก็เพิ่มมากขึ้น ทางที่ดีจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว

  1. จะรู้ได้อย่างไรว่าน้องแมวมีอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ?
  2. น้องแมวที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักจะมีอาการดังต่อไปนี้

    • ปัสสาวะบ่อยแต่ในปริมาณน้อย
    • อาจส่งเสียงร้องขณะปัสสาวะ
    • เลียบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์มากกว่าปกติเนื่องจากอาการระคายเคือง
    • อาจมีเลือดปนในปัสสาวะ

    หากพบว่าน้องแมวมีอาการข้างต้น ควรพาไปพบสัตวแพทย์ในทันที

  3. หากไม่รักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการจะดีขึ้นเองได้หรือไม่?
  4. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบางชนิดสามารถหายได้เอง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าอาการไม่รุนแรงหรือเรื้อรัง คุณควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม

  5. การกินน้ำน้อยเป็นสาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมวใช่หรือไม่?
  6. น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแมว การกินน้ำน้อยอาจทำให้ร่างกายมีภาวะขาดน้ำและเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะด้วย เจ้าของจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแมวได้รับน้ำเพียงพอตลอดทั้งวัน

  7. แมวที่เลี้ยงในบ้านเสี่ยงต่อโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือไม่?
  8. การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ แม้ว่าแมวที่เลี้ยงในบ้านจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่ำกว่าแมวที่เลี้ยงนอกบ้าน แต่หากละเลยเรื่องความสะอาดหรือสุขอนามัย พวกเค้าก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน อย่างกระบะทรายที่ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ อาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียร้ายแรงนับไม่ถ้วน และแบคทีเรียที่ปะปนอยู่ในอุจจาระก็สามารถแพร่เข้าไปในท่อปัสสาวะได้ทุกครั้งที่น้องแมวขับถ่าย เจ้าของจึงควรทำความสะอาดกระบะทรายอย่างน้อยวันละสองครั้ง นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันอย่างฉับพลัน ความเครียด และภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอก็อาจนำไปสู่การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้เช่นกัน

  • How to Create an Enriching Environment for Your Kitten
    How to Create an Enriching Environment for Your Kitten
    adp_description_block127
    วิธีสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับเจ้าตัวน้อยของคุณ | ไอแอมส์™

    • แบ่งปัน

    มอบบรรยากาศที่เหมาะกับเจ้าเหมียวของคุณ ให้เค้าได้มีความสุข สนุกสนาน ร่าเริง และพร้อมผจญภัยอยู่เสมอ

     

    เจ้าเหมียวมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น แถมยังมีพลังงานเยอะ บรรยากาศที่ปลอดภัยและเหมาะสมจะช่วยกระตุ้นให้เค้าอยากเล่น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สมอง สุขภาพ และพัฒนาการที่ดีไปตลอดชีวิต

     

    เคล็ดลับในการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและเหมาะกับลูกแมว

     

    การเลี้ยงแมวไว้ในบ้านมีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากช่วยป้องกันเค้าจากภัยอันตรายหลากหลายรูปแบบ แต่เมื่อขาดประสบการณ์ที่ควรได้เรียนรู้จากธรรมชาติ จึงควรมีสิ่งอื่นมาทดแทนเพื่อช่วยเสริมสร้างสมองและกล้ามเนื้อให้เจ้าเหมียว

    จัดให้แมวได้อยู่ในที่ปลอดภัยสำหรับซ่อนตัวและพักผ่อนเพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมให้แก่เค้า อย่างเช่น ขอบหน้าต่าง กระเป๋าแมว หรือที่นอนแมว เจ้าเหมียวควรรู้สึกอุ่นใจเมื่ออยู่ในที่ปลอดภัยซึ่งเค้าอาจชอบที่นอนที่เป็นสถานที่ปิดมากกว่า เนื่องจากเจ้าเหมียวใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เราจึงควรกระตุ้นให้เค้าใช้เวลาที่ตื่นอยู่ไปกับกิจกรรมที่บริหารร่างกายและสมอง

    การสร้างบรรยากาศให้มีความสนุกสนานและน่าเล่นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน พื้นที่หลายระดับความสูงมีประโยชน์กับแมวมาก อย่างเช่น ต้นไม้ หรือที่นอนแมว เสาลับเล็บรูปแบบต่าง ๆ จะช่วยสอนการขีดข่วนที่ถูกต้องเหมาะสม ฝึกสัญชาตญาณตามธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เค้าไปลับเล็บบนเฟอร์นิเจอร์หรือพรมตัวโปรดของคุณ

    นอกจากนี้การเข้าสังคมกับแมวด้วยกันก็เป็นประโยชน์กับแมวจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อได้ทำความรู้จักกับแมวตัวอื่นตั้งแต่เค้ายังเด็ก การมีเพื่อนเล่นเป็นแมวหรือลูกแมวจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการ ที่เจ้าเหมียวต้องการเล่นหรือเคลื่อนไหวอยู่เกือบตลอดเวลา และอย่าลืมว่าแมวเป็นสัตว์ต้องการพื้นที่เยอะ บ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวควรมีพื้นที่หลากหลาย เพื่อให้พวกเค้าได้ซ่อน นอน และสังเกตการณ์

     

    เกมและของเล่นที่เจ้าเหมียวชื่นชอบ

     

    องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยแต่งเติมบรรยากาศให้เจ้าเหมียวคือการเข้าสังคมและการเล่น โดยเฉพาะบ้านที่เลี้ยงสัตว์เพียงตัวเดียว ของเล่นประเภทไม้ตกแมว ลูกบอลสำหรับตะปบหรือไล่ตามมักจะกระตุ้นพฤติกรรมการเล่นแบบสัตว์ผู้ล่าของเค้าได้ง่าย

     

    เกมสำหรับเจ้าเหมียว

     

    การเล่นเกมกับเจ้าตัวเล็กจะช่วยพัฒนาทักษะการทรงตัวและการล่าตามธรรมชาติของเค้า นอกจากนี้ยังช่วยให้เค้าเรียนรู้ขอบเขตและสานสัมพันธ์กับเจ้าของใหม่อย่างใกล้ชิด ลองเล่นกับเค้าประมาณ 10-15 นาทีวันละ 2-3 ครั้ง อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลด “ฝันร้ายยามค่ำคืน” คือให้เค้าได้เล่นกิจกรรมที่ใช้พลังงานเยอะก่อนให้อาหารมื้อค่ำ วิธีนี้ทำให้เค้าใช้พลังงานจนหมดและเป็นการเลียนแบบลำดับพฤติกรรม ล่า-กิน-เลีย-นอน ตามธรรมชาติในแมวอีกด้วย

     

    เกมที่คุณควรเล่นกับเจ้าเหมียวได้แก่

     

    • ซ่อนหา - (เหมาะกับการเล่นช่วงมื้อกลางวัน) ลองเรียกเจ้าเหมียวมาหาคุณ เมื่อเค้ามาแล้วให้หนีไปที่ห้องอื่นแล้วเรียกซ้ำอีกครั้ง พอเค้าหาเจอแล้วอย่าลืมให้รางวัลเป็นของเล่นสนุก ๆ หรือขนมด้วยล่ะ
    • โยนของ - ลองโยนของเล่นให้เจ้าเหมียวคอยจับ เมื่อเค้า “จับ” ของได้แล้ว เรียกให้เค้ามาหาคุณ หากเค้าคาบของมาด้วย ให้รางวัลเป็นคำชมหรือขนมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรม 
    • ถุงกระดาษแสนสนุก - วางถุงช้อปปิ้งตั้งเอาไว้ แล้วใช้นิ้วเกาด้านในถุงเบา ๆ หรือใส่ของเล่นเอาไว้เพื่อกระตุ้นให้เค้าเข้ามาในถุง จากนั้นให้จิ้มหรือเกาด้านนอกของถุงระหว่างที่เค้ามีความสุขกับการล่า “เหยื่อ” ปริศนาอยู่ด้านใน

     

    กระตุ้นลูกแมวของคุณผ่านการฝึก

     

    องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยแต่งเติมบรรยากาศให้เจ้าเหมียวคือการเข้าสังคมและการเล่น โดยเฉพาะบ้านที่เลี้ยงสัตว์เพียงตัวเดียว ของเล่นจำพวกไม้ตกแมว ลูกบอลสำหรับตะปบหรือวิ่งไล่ตามมักจะกระตุ้นพฤติกรรมการเล่นแบบสัตว์ผู้ล่าของเค้าได้ง่าย

     

    ไม่ปล่อยให้ลูกแมวเบื่อหน่ายเมื่อเค้าอยู่ลำพัง

     

    ความท้าทายอีกหนึ่งข้อคือ การแต่งเติมบรรยากาศให้เหมาะกับเจ้าเหมียว เวลาที่ไม่มีคนหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเล่นด้วย ของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ เป็นตัวสยบความเบื่อหน่ายได้ดี ซึ่งมีให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบไว้แก้เบื่อ และอย่าลืมให้รางวัลเค้าเป็นขนมหรืออาหาร เช่น ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ ซึ่งมีประโยชน์สองต่อด้วยกัน ทั้งให้เค้าได้เล่นและได้รับโภชนาการที่เหมาะสมกับความต้องการด้านพลังงานและด้านร่างกาย

    ลูกแมวและแมวโตมักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเฝ้าดูโลกภายนอกผ่านหน้าต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเครื่องให้อาหารนกหรือสวนผีเสื้อให้เค้ามองเห็น คุณจึงควรเปิดม่านหน้าต่างไว้อย่างน้อยหนึ่งด้าน ซึ่งควรเป็นด้านที่มีการเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมให้เห็นบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังมี “ทีวีสำหรับแมว” เป็นวิดีโอกระรอก นก หรือวิวธรรมชาติต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ไว้คอยแก้เบื่อให้เจ้าเหมียวอีกด้วย

    การแต่งเติมบรรยากาศให้เหมาะกับแมวเป็นการช่วยป้องกันความเครียดสะสมและลดการสร้างพฤติกรรมผิดปกติ ลูกแมวที่เติบโตจนเต็มวัยในสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ ได้บริหารร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอจะทำให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาวะที่ดีตลอดทุกช่วงวัย

     

Close modal