IAMS TH
cat-article-detail-banner
cat-article-detail-banner

adp_description_block246
ทาสแมวต้องรู้! วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับแมว

  • แบ่งปัน

ต่อมรับรสของแมวแตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่น พวกเค้ามีต่อมรับรสขมมากกว่ารสหวาน เจ้าเหมียวจึงมักมีนิสัยช่างเลือกและจุกจิกกับอาหารการกิน ซึ่งนิสัยนี้อาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหารและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ ทาสแมวทั้งหลายจึงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่เรื่องการให้อาหารมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่เลือกให้อาหารหรือขนมชนิดใดก็ได้ แต่ต้องคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเป็นสำคัญ

โดยผู้เลี้ยงควรเลือกอาหารแมวที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมหลัก อย่างอาหารแมวเกรดพรีเมียมจากไอแอมส์™ ที่อุดมด้วยโปรตีนจากเนื้อสัตว์คุณภาพเยี่ยม มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของแมวเหมียวอีกด้วย

สารอาหารที่จำเป็นสำหรับแมวเหมียว

แมวต้องการสารอาหารจำเป็นมากมายเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน ไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีครบอยู่ในอาหารแมวคุณภาพดี หรืออาจพบได้ในอาหารบางชนิด เช่น นม กระดูกป่น พืชตระกูลถั่ว เครื่องในสัตว์ และอาหารเสริมประเภทต่าง ๆ 

สำหรับสารอาหารจำเป็นและส่วนประกอบที่ควรมีอยู่ในอาหารแมว ได้แก่

  1. ปริมาณแคลอรีที่เหมาะสม
  2. ไขมัน
  3. โปรตีน
  4. คาร์โบไฮเดรต
  5. แร่ธาตุ
  6. น้ำ
  7. วิตามิน

การเลือกอาหารแมวให้เหมาะสม มีวิธีอย่างไรบ้าง?

หากต้องการเลือกอาหารแมวคุณภาพดีให้กับเจ้าตัวน้อยที่คุณรัก ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

  1. ตรวจสอบฉลากอาหารเพื่อให้แน่ใจว่ามีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน รวมถึงมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นตรงตามความต้องการของแมว
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบแล้วว่าให้คุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลสำหรับพัฒนาการโดยรวมของแมว

หรือเลือกให้อาหารแมวไอแอมส์™ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน อุดมด้วยกรดไขมันจำเป็น ช่วยให้ผิวหนังของแมวมีสุขภาพดี เส้นขนนุ่มเงางาม และเสริมความแข็งแรงของเซลล์ในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์จากธรรมชาติ เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและขับถ่าย จึงมั่นใจได้เลยว่าเจ้าตัวน้อยของคุณจะมีสุขภาพดี ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในทุกวัน

แร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับแมวเหมียว

นอกจากโปรตีนและกรดไขมันแล้ว เจ้าเหมียวยังต้องการแร่ธาตุที่จำเป็นเหล่านี้ด้วย

  1. โพแทสเซียม

    แมวต้องการโพแทสเซียมเพื่อเสริมการทำงานของระบบประสาท การหดตัวของกล้ามเนื้อ และการเต้นของหัวใจ

  2. แคลเซียม

    เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน

  3. โซเดียม

    ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังช่วยรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกายด้วย

  4. คลอไรด์

    โซเดียมและคลอไรด์ทำงานร่วมกันเพื่อรักษาสมดุลของภาวะกรดและด่างในร่างกาย ช่วยรักษาปริมาณน้ำ การหดตัวของกล้ามเนื้อ และการส่งกระแสประสาท

  5. ฟอสฟอรัส

    แร่ธาตุนี้มีบทบาทสำคัญต่อระบบเผาผลาญและการเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กระดูกและฟันของเจ้าเหมียวด้วย

  6. เหล็ก

    แมวต้องการธาตุเหล็กเพื่อการเคลื่อนย้ายพลังงานในร่างกาย

  7. ซีลีเนียม

    เป็นแร่ธาตุที่ทำงานร่วมกับวิตามินอี โดยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็น

  8. ทองแดง

    แมวต้องการทองแดงเพื่อเสริมการเจริญเติบโตของกระดูก การสร้างเม็ดสีผิว ตลอดจนการดูดซึมและการเคลื่อนย้ายธาตุเหล็ก

  9. แมกนีเซียม

    มีความสำคัญต่อการทำงานของเอนไซม์และการย่อยโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต

  10. สังกะสี

    สังกะสีเป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับแมว เพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมัน โปรตีน กรดนิวคลิอิก และคาร์โบไฮเดรต

  11. ไอโอดีน

    เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาฮอร์โมนไทรอยด์

  12. วิตามินที่จำเป็นสำหรับแมวเหมียว

    การขาดวิตามินอาจส่งผลให้เอนไซม์บางชนิดในร่างกายแมวทำงานผิดปกติ วิตามินจึงมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี โดยวิตามินที่จำเป็นที่สุดสำหรับแมวมีดังต่อไปนี้

  13. วิตามินเอ

    วิตามินเอจะช่วยบำรุงสายตา กระดูก ฟัน เนื้อเยื่อ การสืบพันธุ์ และผิวหนังของแมว แม่แมวและลูกแมวตัวน้อยต้องการวิตามินเอปริมาณมากกว่าแมวโตและแมวสูงวัย

  14. วิตามินบี 12

    แมวต้องการวิตามินบี 12 เพื่อเผาผลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรต วิตามินนี้ยังจำเป็นต่อการเคลื่อนที่ของกระแสประสาทหรือการนำกระแสประสาทด้วย

  15. วิตามินดี

    วิตามินดีเป็นหนึ่งในวิตามินที่จำเป็นที่สุดสำหรับแมว โดยแมวต้องการวิตามินดีอย่างน้อย 280 IU ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม เพราะมีส่วนช่วยในการรักษาระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งแร่ธาตุทั้งสองจำเป็นต่อการเสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก

  16. วิตามินอี

    แมวโตเต็มวัยควรได้รับวิตามินอีอย่างน้อย 1 – 3 IU ต่อวัน เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของเซลล์

  17. วิตามินเค

    แมวต้องการวิตามินเคเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด

  18. ไรโบฟลาวิน

    มีส่วนช่วยในการเผาผลาญพลังงานจากไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต หากขาดไรโบฟลาวิน แมวอาจเสี่ยงต่อโรคการกินผิดปกติ ต้อกระจก ผมร่วงเป็นหย่อม ไขมันพอกตับ และเป็นหมัน

  19. ไทอามีน

    ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต การขาดวิตามินนี้อาจส่งผลให้แมวมีน้ำหนักตัวลดลง มีอาการอาเจียน อาการชัก ระบบประสาททำงานผิดปกติ การมองเห็นบกพร่อง รูม่านตาขยาย และรู้สึกวิงเวียน

  20. ไนอาซิน

    การขาดไนอาซินอาจทำให้แมวมีไข้ เยื่อบุในช่องปากอักเสบ มีแผลที่ลิ้น และน้ำหนักตัวลด วิตามินนี้จำเป็นต่อการสลายไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีนที่มีอยู่ในอาหาร

  21. กรดโฟลิก

    มีความสำคัญต่อการสังเคราะห์และซ่อมแซมพันธุกรรม ช่วยควบคุมการสร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นในการแบ่งเซลล์ การขาดกรดโฟลิกอาจทำให้เกิดโรคโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวต่ำ และน้ำหนักลด

  22. ไพริดอกซีน

    เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการย่อยกรดอะมิโน กลูโคส และกรดไขมัน

  23. ไบโอติน

    การขาดไบโอตินอาจทำให้แมวมีปัญหาผิวหนัง วิตามินชนิดนี้มีส่วนช่วยสร้างกรดไขมัน กรดอะมิโนบางชนิด และสารพันธุกรรม

  24. โคลีน

    โคลีนเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญ เป็นองค์ประกอบที่พบในเยื่อหุ้มเซลล์สมอง

ในการเลือกซื้ออาหารแมว ควรตรวจสอบก่อนว่ามีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวจะมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี ทั้งนี้ผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารเสริมกับแมวเพิ่มเติมได้ แต่ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเปลี่ยนอาหารใหม่หรือเลือกซื้ออาหารเสริมสำหรับเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับแมว

  1. วิตามินที่จำเป็นสำหรับแมวมีอะไรบ้าง?
  2. วิตามินที่จำเป็นสำหรับแมว ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี12 วิตามินดี วิตามินเค วิตามินอี ไนอาซิน ไบโอติน และกรดโฟลิก

  3. แมวได้รับแร่ธาตุจากที่ใดบ้าง?
  4. แมวดูดซึมแร่ธาตุส่วนใหญ่จากอาหารที่กินเข้าไป โดยอาหารแมวที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ตับ ธัญพืช และปลาถือเป็นแหล่งแร่ธาตุที่ดีสำหรับแมว

  5. ควรให้วิตามินเสริมกับแมวหรือไม่?
  6. โดยปกติแล้วแมวจะดูดซึมวิตามินที่จำเป็นทั้งหมดจากอาหารที่กินเข้าไป ผู้เลี้ยงจึงควรเลือกให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนมากกว่าบำรุงด้วยอาหารเสริม แมวอาจต้องการวิตามินเสริมในกรณีที่ขาดวิตามินเท่านั้น ซึ่งควรปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ก่อน

  7. แมวต้องการแร่ธาตุหรือไม่?
  8. แมวต้องการแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณเล็กน้อย เช่น เหล็ก ทองแดง สังกะสี และแมงกานีส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ในอาหารแมวคุณภาพดีทั่วไป

  9. อาหารเสริมที่ดีสำหรับแมวมีอะไรบ้าง?
  10. แมวไม่ต้องการอาหารเสริม เพราะสามารถดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นทั้งหมดจากอาหารมื้อหลักได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารเสริมที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกแมว คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้

  • Does-Your-Cat-Have-Allergies-banner
    Does-Your-Cat-Have-Allergies-banner
    adp_description_block273
    วิธีช่วยเจ้าแมวอ้วนลดน้ำหนักอย่างได้ผล

    • แบ่งปัน

    ภูมิแพ้ในแมวเกิดจากการตอบสนองที่ผิดปกติต่อสิ่งเร้าในสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัว หากพบว่าพวกเค้ามีท่าทางไม่สบายตัว จามอย่างต่อเนื่อง และเกาตัวเองไม่หยุด อาการเหล่านี้คืออาการแพ้ในแมวที่พบได้บ่อย

    อาการแพ้ของแมวมีหลากหลายรูปแบบ อย่างอาการคันหรืออาการระคายเคือง อาจทำให้น้องแมวเกาหรือกัดแทะตัวเองไม่หยุด แต่สำหรับอาการที่ส่งผลต่อการหายใจถือว่าร้ายแรงที่สุด และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

     หากระบุได้ว่าสารก่อภูมิแพ้ชนิดใดส่งผลกับน้องแมว เราก็สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ และหาวิธีดูแลพวกเค้าได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

    อะไรคือสาเหตุของภูมิแพ้ในแมว?

    ขั้นตอนแรกในการรักษาโรคภูมิแพ้แมวคือค้นหาว่าอะไรเป็นสาเหตุ โดยการไปพบสัตวแพทย์เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการค้นหาตัวกระตุ้นการแพ้ของแมว

    ภูมิแพ้ในแมวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่อาการทั้งหมดมักเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก นั่นคือภูมิแพ้น้ำลายหมัด ภูมิแพ้อาหาร และภูมิแพ้สารในสิ่งแวดล้อม(โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง)  

    • ภูมิแพ้น้ำลายหมัด

    เป็นอาการแพ้ที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดจากการโดนหมัดกัดหรือเป็นผลข้างเคียงจากยากำจัดหมัด โดยอาการคันจะเป็นอาการที่เด่นชัดที่สุดของภูมิแพ้ประเภทนี้ หากพบว่าน้องแมวเกาหรือกัดแทะตัวเองบ่อย ๆ โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง มันอาจเป็นไปได้ว่าพวกเค้ากำลังแพ้น้ำลายหมัด

    • ภูมิแพ้อาหาร

    การแพ้อาหารอาจทำให้น้องแมวอาเจียน ท้องเสีย และอาจมีอาการคันร่วมด้วย โดยเฉพาะบริเวณคอและศีรษะ ในกรณีที่มีอาการรุนแรง น้องแมวอาจมีปัญหาขนร่วงเป็นหย่อม ควรรีบไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าพวกเค้าแพ้อาหารชนิดใด และขอคำแนะนำเรื่องการเลือกสูตรอาหารที่เหมาะสม

    • ภูมิแพ้สารในสิ่งแวดล้อม

    การแพ้สารในสิ่งแวดล้อมอาจมีตัวกระตุ้นที่แตกต่างกัน เช่น ต้นไม้บางชนิด  ละอองเกสร และเชื้อรา น้องแมวบางตัวอาจแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือน้ำหอมจากทรายแมว นอกจากนี้น้องแมวยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบในแมวด้วย โดยพวกเค้าจะมีอาการคันอย่างรุนแรง ซึ่งนำไปสู่การอักเสบที่ผิวหนัง มีรอยแดง มีแผลตกสะเก็ด และขนร่วง

    อาการแพ้ของแมว

    บางอาการก็เพียงแค่สร้างความน่ารำคาญให้พวกเค้า แต่บางอาการก็เป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ลักษณะอาการและความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับชนิดของภูมิแพ้

    • ท้องเสีย

    สำหรับน้องแมวบางสายพันธุ์ที่มีอาการท้องเสีย จะมีคราบสกปรกติดอยู่บริเวณบั้นท้าย ส่วนในน้องแมวทั่วไป เราสามารถสังเกตอาการได้จากลักษณะของอุจจาระ หากพบว่าน้องแมวอุจจาระกึ่งเหลวหรืออุจจาระเหลวบ่อยเกินสองวัน ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

    หายใจลำบาก

    อาการนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะก้อนขนอุดตันในทางเดินอาหาร หรืออาจแพ้สิ่งเร้า อย่างเกสรดอกไม้ เชื้อรา และควันบุหรี่ การหายใจลำบากหรือหายใจดังยังเป็นผลมาจากความเครียดได้ด้วย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอย่างกะทันหัน และควรให้เวลาน้องแมวปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ด้วย

    • ตาแฉะ

    อาการตาแฉะหรือมีคราบน้ำตาเป็นอาการแพ้ของแมวที่เด่นชัดกว่าอาการอื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น เชื้อรา 

    หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในบ้าน แต่ในขณะเดียวกันก็อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง อย่างการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียได้ด้วยเช่นกัน

    ตาแฉะ
     

    • รอยแดงและอาการคัน

    อาการคันหรือรอยแดงบนผิวหนังอาจเกี่ยวข้องกับโรคผื่นผิวหนังอักเสบในแมว โดยผิวหนังของพวกเค้าจะมีอาการบวมแดง มีแผลพุพองขนาดเล็กจากอาการระคายเคือง หรือจากอาการแพ้สิ่งเร้าภายนอก

    รอยแดงและอาการคัน
     

    การรักษาโรคภูมิแพ้แมวมีวิธีอย่างไรบ้าง?

    • ใช้แชมพูสูตรสำหรับรักษาอาการผื่นผิวหนังอักเสบโดยเฉพาะ

    หากน้องแมวมีอาการแพ้ไม่มากและมีอาการคันเพียงเล็กน้อย แชมพูประเภทนี้เป็นตัวช่วยที่ดีเลย

    • ใช้ยาสำหรับรักษาอาการคัน

    การใช้ยารักษาอาการคันและยาต้านการอักเสบที่ช่วยลดรอยแดงและบวม อย่างยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการคันอย่างรุนแรงในแมว แต่จำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้ยาที่ถูกต้องและปลอดภัย

    • ใช้ยากำจัดหมัด

    ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกวิธีป้องกันเห็บหมัดที่เหมาะสำหรับน้องแมวของคุณ การป้องกันนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภูมิแพ้น้ำลายหมัดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ควรทำความสะอาดบ้านเป็นประจำเพื่อตัดวงจรชีวิตของหมัด โดยเฉพาะในช่วงเดือนที่มีอากาศอบอุ่น  แม้ว่าน้องแมวจะไม่มีหมัดบนตัว แต่ก็ควรใช้ยาป้องกันหมัดและถ่ายพยาธิ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหนอนพยาธิในแมว และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปรสิตตัวร้ายเหล่านี้

    • หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้

    จำกัดการให้อาหารน้องแมว โดยเลือกให้ทีละชนิดหรือทีละประเภท เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้องแมวแพ้อาหารชนิดไหน โดยส่วนใหญ่น้องแมวมักแพ้อาหารจำพวกโปรตีน ซึ่งอาหาร 3 อันดับแรก ได้แก่ เนื้อวัว (18%) เนื้อปลา (17%) และเนื้อไก่ (5%) การหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จะช่วยลดความรุนแรงของอาการแพ้ในแมวลง

    อาการภูมิแพ้ในแมว

    อาการแพ้ของแมวที่พบบ่อยที่สุดคืออาการบริเวณผิวหนัง มันอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ และพบได้ในน้องแมวทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ในลูกแมวอาจไม่มีอาการแสดงอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้หมายความพวกเค้าจะไม่มีอาการแพ้ ดังนั้นหากพบอาการใด ๆ ต่อไปนี้ ควรรีบพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์ในทันที

    • เกา เลีย และกัดแทะผิวหนังอย่างต่อเนื่อง
    • ไถหน้าและหูไปมากับพื้นหรือกำแพง
    • ผิวอักเสบ ขนร่วง และมีกลิ่นเหม็น
    • ไอ จาม น้ำตาไหล และน้ำมูกไหล
    • อาเจียนหรือท้องเสียบ่อย  

    าการแพ้ของแมวแต่ละตัวอาจแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลที่เหมาะสม

     

    วิธีสังเกตและดูแลอาการภูมิแพ้ในแมว
    วิธีสังเกตและดูแลอาการภูมิแพ้ในแมว
Close modal