IAMS TH
Why the Taste of Your Dog’s Food Matters
Why the Taste of Your Dog’s Food Matters

adp_description_block199
ดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องอร่อยด้วย เทคนิคเพิ่มความอร่อยให้อาหารน้องหมา

  • แบ่งปัน

ความอร่อยของอาหารสุนัขสำคัญอย่างไร?

อาหารสุนัขคุณภาพดีมีสารอาหารจำเป็นครบถ้วนตรงตามความต้องการของน้องหมา แต่มันจะไม่เกิดประโยชน์ใดเลยหากน้องหมาไม่ยอมกินเข้าไป ดังนั้นนอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว อาหารสุนัขจึงควรได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มีรสชาติอร่อยถูกใจบรรดาเจ้าตัวน้อยสี่ขาด้วย
 

ส่วนเคล็ดลับความอร่อยของอาหารสุนัขนั้น จะอยู่ที่เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่หลากหลาย รวมถึงการเติมส่วนผสมลับที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอม รสชาติ และเนื้อสัมผัส เช่น ไขมัน เกลือ โปรตีน ยีสต์ และอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อให้อาหารมีรสชาติดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในอาหารเม็ดที่ต้องเพิ่มรสชาติให้ดึงดูดใจน้องหมาได้
 

อะไรคือความอร่อยสำหรับน้องหมา?

ความอร่อยสำหรับน้องหมาอาจหมายถึงความพึงพอใจในรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสของอาหาร โดยผู้ผลิตอาหารสุนัขส่วนใหญ่ลงทุนศึกษาวิธีการควบคุมปริมาณและแปรรูปส่วนผสมเพื่อให้ได้อาหารที่มีทั้งคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติอร่อยน่ากิน


จะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารมีรสชาติอร่อย?

เราสามารถทดสอบความอร่อยได้ด้วย 2 วิธีต่อไปนี้:
 

การกินคำแรก: “การกินคำแรก” เป็นการวัดความประทับใจแรกที่น้องหมามีต่อกลิ่นและรูปลักษณ์ของอาหาร
 

ปริมาณอาหารทั้งหมด: ทั้งนี้ความแปลกใหม่ของอาหารอาจทำให้ผลสรุปคลาดเคลื่อนได้ นอกจากการกินคำแรกแล้ว จึงต้องทดสอบต่อด้วยการวัด “ปริมาณอาหารทั้งหมด” ที่น้องหมากินเข้าไป ซึ่งปริมาณดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งบอกว่าอาหารสามารถดึงดูดใจน้องหมาได้มากน้อยเพียงใดเมื่อเวลาผ่านไป การทดสอบเหล่านี้จะช่วยให้เราเลือกอาหารที่ถูกใจน้องหมาได้ ทั้งในด้านรสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าโภชนาการ

 

นิสัยเลือกกินของน้องหมาเกิดจากอะไร?

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้น้องหมาติดนิสัยเลือกกิน ซึ่งรวมถึงเหตุผลเหล่านี้ด้วย:

  • ได้รับขนมหรืออาหารของคนมากเกินไป
  • ไม่ชอบส่วนผสมบางอย่างในอาหาร
  • ขาดความหลากหลายของอาหาร
  • ปัญหาด้านสุขภาพ

น้องหมารู้ได้อย่างไรว่าอาหารอร่อย?

น้องหมามีต่อมรับกลิ่นมากกว่าต่อมรับรสเมื่อเปรียบเทียบกับคน นั่นหมายความว่าอาหารที่มีกลิ่นแรงจะดึงความสนใจพวกเค้าได้มากกว่า แต่อาหารที่ไม่ค่อยมีกลิ่นอย่างอาหารเม็ดก็มีความน่ากินสำหรับน้องหมาเช่นกัน เนื่องจากน้องหมาสามารถรับรสของไขมันและเกลือ (ไม่จำเป็นต้องเป็นรสเค็มเสมอไป) ได้ค่อนข้างดี อาหารเม็ดส่วนใหญ่จึงมีส่วนผสมของไขมัน เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยโดยไม่ทำให้อาหารมีกลิ่นแรง
 

แม้ว่ารสชาติและกลิ่นจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้น้องหมาตัดสินว่าอาหารถูกใจหรือไม่ แต่ความอร่อยหรือความน่ากินก็อาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นความชอบเฉพาะตัวของน้องหมา รวมถึงอาหารที่เจ้าของชอบให้กิน และการกำหนดตารางเวลาในการให้อาหารด้วย
 

ทำอย่างไรให้น้องหมายอมกินอาหาร?

สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้น้องหมากินอาหาร มีดังนี้:

 

  • วางแผนการให้อาหาร

ทุกคนในบ้านต้องทำตามแผนอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ หากต้องการให้อาหารอื่นเพิ่มเติม ควรคำนวณปริมาณอาหารและคุณค่าทางโภชนาการที่ควรได้รับในแต่ละวันให้เหมาะสมด้วย

 

  • หลีกเลี่ยงการให้กินอาหารของคน

การให้กินอาหารของคนบ่อย ๆ จะทำให้น้องหมาติดนิสัยชอบขอและไม่ยอมกินอาหารของตัวเอง นอกจากนี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย ตั้งแต่อาการท้องเสียไปจนถึงภาวะตับอ่อนอักเสบ ถึงแม้ว่าอาหารของคนจะดูน่ากินมากกว่า แต่มันก็มีคุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอต่อความต้องการของน้องหมา

 

  • กำหนดเวลาให้อาหาร

สำหรับลูกสุนัขตัวน้อยควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็น 2 – 3 มื้อต่อวัน หรือให้ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ เมื่อน้องหมาโตขึ้นก็สามารถลดจำนวนมื้ออาหารลงได้ แต่ต้องเพิ่มปริมาณอาหารแต่ละมื้อให้มากขึ้น คุณอาจเลือกให้อาหารที่หลากหลายได้ แต่ควรคำนวณปริมาณให้เหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวันของพวกเค้าด้วย

 

การทดสอบความอร่อยของอาหารมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

การทดสอบควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญและผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลโดยนักโภชนาการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง สำหรับขั้นตอนแรกในการทดสอบ จะเริ่มจากการให้อาหารน้องหมา 2 ชามในเวลาเดียวกัน ชามแต่ละใบจะมีอาหารแตกต่างกันโดยได้รับการชั่งน้ำหนักและบันทึกรายละเอียดเอาไว้แล้ว
 

จากนั้นผู้เชี่ยวชาญก็จะสังเกตและจดบันทึกการเลือกกินอาหารคำแรกของน้องหมา เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ชามอาหารทั้งสองจะถูกนำออกไปชั่งน้ำหนักเพื่อวัดปริมาณอาหารที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ในแต่ละวันชามอาหารจะถูกเปลี่ยนตำแหน่งจากซ้ายไปขวาตลอดช่วงการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าน้องหมาไม่ได้เลือกกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งจากความคุ้นเคย
 

การวัดปริมาณอาหารจะคำนวณจากความแตกต่างระหว่างน้ำหนักต้น (ก่อนการทดสอบ) และน้ำหนักสิ้นสุด (หลังการทดสอบ) ของอาหารแต่ละชาม โดยการทดสอบจะทำซ้ำติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน เมื่อครบกำหนดก็จะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อสรุปผลความน่ากินของอาหารแต่ละชนิด

 

รสชาติที่เจ้าตัวน้อยโปรดปราน

รสชาติเหล่านี้คือตัวอย่างรสชาติที่สามารถดึงดูดใจน้องหมาได้เป็นอย่างดี


รสเนื้อ

  • น้องหมาส่วนใหญ่ชอบกินเนื้อสัตว์
  • เนื้อสัตว์มีปริมาณโซเดียมเพียงพอต่อความต้องการของน้องหมา จึงไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมเพิ่ม
  • อาหารสุนัขควรมีส่วนผสมของเนื้อไก่ เนื้อปลาแซลมอน เนื้อไก่งวง เนื้อแกะ หรือเนื้อวัว
  • เนื้อสัตว์ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี แต่ยังช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้อาหารอีกด้วย
     

ไขมันสัตว์

  • อาหารสุนัขจะมีรสชาติดีขึ้นเมื่อมีส่วนผสมของไขมันสัตว์
  • ไขมันสัตว์ถือเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารสัตว์เลี้ยง
  • ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อคำนวณปริมาณไขมันที่เหมาะสมสำหรับอาหารแต่ละมื้อ
     

 น้ำเกรวี่หรือน้ำซุปเข้มข้น

  • น้องหมาส่วนใหญ่ชอบอาหารเปียกมากกว่าอาหารเม็ด
  • แนะนำให้ผสมอาหารเม็ดเข้ากับน้ำซุปหรือซอสเกรวี่เพื่อเพิ่มความน่ากิน 
  • สามารถเพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหารได้ด้วยน้ำเกรวี่ชุ่มฉ่ำและรสชาติเข้มข้นของเนื้อสัตว์

 

ปัจจัยใดบ้างที่ช่วยให้อาหารสุนัขมีความอร่อยน่ากิน? 

ไม่ใช่แค่รสชาติเท่านั้นที่ดึงดูดใจน้องหมาได้ แต่รูปลักษณ์ กลิ่นหอม และเนื้อสัมผัสของอาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่ากินได้เช่นกัน


จะทำอย่างไรให้อาหารสุนัขอร่อยและน่ากินมากยิ่งขึ้น?

เคล็ดลับที่ช่วยให้อาหารสุนัขอร่อยและน่ากินมากยิ่งขึ้นมีดังนี้

  1. เลือกโปรตีนคุณภาพดี

    ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดหรืออาหารเปียก สิ่งสำคัญคือการเลือกอาหารที่มีแหล่งโปรตีนคุณภาพดี อาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อแกะ เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ มักจะมีรสชาติอร่อยถูกใจเจ้าตัวน้อย

  2. เติมความอร่อยด้วยไขมัน

    การเพิ่มไขมัน เกลือ และสารปรุงแต่งอื่น ๆ จะช่วยให้อาหารเม็ดมีรสชาติอร่อยและกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น โดยไขมันถือเป็นรสชาติที่น้องหมาชื่นชอบ และต้องการให้มีในทุกมื้ออาหาร อย่างไรก็ตามควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อคำนวณปริมาณไขมันที่เหมาะสมก่อน

  3. เพิ่มส่วนผสมพิเศษ

    อีกหนึ่งเคล็ดลับในการเพิ่มรสชาติความอร่อยคือการใส่ส่วนผสมพิเศษลงไป ตัวอย่างเช่นเนื้อสัตว์หรือน้ำเกรวี่ชุ่มฉ่ำแสนอร่อย

  4. เปลี่ยนมาให้ขนมแสนอร่อย

    จุดประสงค์หลักของอาหารเสริมส่วนใหญ่คือเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ จึงอาจมีส่วนผสมที่น้องหมาไม่ชอบใจ แนะนำให้เปลี่ยนเป็นขนมที่มีเนื้อเหลวหรือเนื้อนุ่มเคี้ยวง่ายแทน เพื่อเพิ่มรสชาติให้อาหารสุนัขโดยที่ยังคงมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Liquid digest) คืออะไร และช่วยให้อาหารสุนัขมีรสชาติอร่อยน่ากินได้อย่างไร?

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเพียงโปรตีนที่ผ่านการย่อยสลายด้วยเอนไซม์จนกลายเป็นกรดอะมิโน โดยมีการเติมสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดเพื่อให้กระบวนการย่อยหยุดลง และได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ต้องการ เมื่อส่วนผสมทุกอย่างผ่านการปรุงและแปรรูปเป็นเม็ดอาหารเรียบร้อยแล้ว เม็ดอาหารทั้งหมดก็จะถูกฉีดพ่นด้วยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจนทั่ว ซึ่งมีส่วนช่วยให้รสชาติอาหารดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้นอีกด้วย

 

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยเพิ่มความอร่อยได้จริงหรือไม่?

เพิ่มได้จริง เราใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตจากเนื้อไก่กับอาหารเม็ดสำหรับสุนัข เพื่อเพิ่มทั้งความน่ากินและคุณค่าทางโภชนาการ แต่อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงบางชนิดก็ใช้เพียงสารเพิ่มรสชาติอย่างผงหัวหอม เพื่อกลบกลิ่นและรสชาติของส่วนผสมเท่านั้น ไม่มีส่วนช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความอร่อยของอาหารสุนัข

  1. อาหารรสชาติอร่อยสำหรับสุนัขคืออาหารแบบใด?  
  2. มีอาหารสุนัขมากมายหลากหลายแบรนด์ที่มีความอร่อยน่ากิน โดยอาหารเหล่านี้มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์คุณภาพดีอุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการเจริญเติบโตของน้องหมา

     

  3. อาหารชนิดใดที่น้องหมาส่วนใหญ่โปรดปราน?  
  4. น้องหมามักชอบกินเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไปจนถึงเนื้อแกะ น้องหมายังชอบกินอาหารเปียกมากกว่าอาหารเม็ดด้วย นอกจากนี้ยังชอบความหลากหลาย และอาจรู้สึกเบื่อหากต้องกินแต่อาหารแบบเดิม ๆ

     

  5. จะทำให้น้องหมากินยากยอมกินอาหารได้หรือไม่?
  6. ได้ เพราะสุดท้ายแล้วน้องหมาที่มีนิสัยเลือกกินหรือกินยากก็จะยอมกินอาหารที่คุณเสิร์ฟให้เมื่อพวกเค้าหิว แต่คุณอาจต้องใช้ความอดทนมากหน่อย เพราะน้องหมาอาจปฏิเสธอาหารบางมื้อ แต่เมื่อรู้สึกหิวมาก ๆ พวกเค้าก็จะยอมกินอาหารที่มีด้วยตัวเอง 

     

  7. ทำไมน้องหมาไม่ค่อยชอบกินอาหารเม็ด?
  8. น้องหมาบางตัวก็ชอบกินอาหารทุกชนิด แต่บางตัวก็อาจช่างเลือกและจุกจิกเรื่องอาหารการกินมากเป็นพิเศษ ซึ่งพวกเค้าก็อาจชอบกินอาหารเปียกมากกว่าอาหารเม็ด

     

  9. อาหารชนิดใดเหมาะกับน้องหมาเลือกกิน?
  10. เน้นให้อาหารที่หลากหลายกับน้องหมาที่เลือกกิน หรืออาจปรุงอาหารง่าย ๆ ให้พวกเค้า โดยใช้ส่วนผสม เช่น ไข่ ซุปผัก ผักสดหรือแช่แข็ง

     

  • ก่อนเปิดบ้านต้อนรับลูกสุนัขตัวใหม่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
    ก่อนเปิดบ้านต้อนรับลูกสุนัขตัวใหม่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
    adp_description_block400
    ก่อนเปิดบ้านต้อนรับลูกสุนัขตัวใหม่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

    • แบ่งปัน

    ยินดีด้วย! หากคุณเพิ่งได้รับลูกสุนัขตัวใหม่ เรารู้ดีว่าการพาลูกสุนัขเข้าบ้านครั้งแรกเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกและตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกัน การเลี้ยงเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมความท้าทายและความรับผิดชอบใหม่ ๆ ซึ่งหน้าที่แรกของพ่อแม่มือใหม่คือการเตรียมสิ่งของที่จำเป็นให้พร้อม เจ้าตัวน้อยของคุณจะได้อยู่ในบ้านหลังใหม่อย่างมีความสุข
     

    โดยควรเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นหลังรับลูกสุนัขเข้าบ้านแล้ว ทั้งนี้พ่อแม่มือใหม่บางคนอาจรู้สึกกังวลเมื่อต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัย เราจึงรวบรวมรายชื่อสิ่งของที่จำเป็น พร้อมด้วยเคล็ดลับดี ๆ อีกมากมายที่จะช่วยให้การต้อนรับลูกสุนัขตัวใหม่ของคุณง่ายยิ่งขึ้น
     

    วิธีอุ้มลูกสุนัขที่ถูกต้อง

    ความน่ารักน่ากอดของลูกสุนัขไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนอดรนทนไม่ไหว ต้องอุ้มพวกเค้าขึ้นมากอดมาคลอเคลียทุกครั้งที่พบเจอ อย่างไรก็ตาม ลูกสุนัขอยู่ในช่วงวัยกำลังพัฒนา หากอุ้มผิดวิธีอาจทำให้พวกเค้ารู้สึกไม่สบายตัวหรือถึงขั้นได้รับบาดเจ็บ จึงขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

    1. ขั้นตอนที่ 1 – วางมือข้างหนึ่งไว้ใต้สะโพกของลูกสุนัข ส่วนอีกมือหนึ่งให้วางไว้ใต้หน้าอก
    2. ขั้นตอนที่ 2 – ยกลูกสุนัขขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง คุณสามารถใช้เทคนิคนี้กับสุนัขตัวเล็กได้ แต่สำหรับสุนัขตัวใหญ่ ให้โอบแขนทั้งสองข้างรอบขา จากนั้นดึงไปที่หน้าอกแล้วค่อยยกขึ้น

    รวมสิ่งของที่จำเป็นสำหรับลูกสุนัข

    เช็กลิสต์สิ่งจำเป็นที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนพาเจ้าตัวน้อยกลับบ้าน มีดังนี้

    1. อาหารสุนัข – แนะนำให้เลือกสูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ เนื่องจากพวกเค้าต้องการแคลเซียม ฟอสฟอรัส ไขมัน และโปรตีนปริมาณมาก ซึ่งทำให้อาหารสำหรับลูกสุนัขมีปริมาณแคลอรีสูงกว่าสูตรอื่น ๆ ทั้งนี้โภชนาการมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี ผู้เลี้ยงจึงควรเลือกอาหารคุณภาพดี เหมาะกับขนาดและช่วงวัย อย่างอาหารสุนัขไอแอมส์™ ที่ผลิตจากวัตถุดิบเกรดพรีเมียม ย่อยง่าย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดี มั่นใจได้เลยว่าเจ้าตัวน้อยของคุณจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนแม้ว่าจะกินในปริมาณน้อย
    2. ขนมสำหรับสุนัข – ขนมสำหรับสุนัขมักจะแบ่งเป็น 2 ชนิด คือขนมสูตรเฮลตี้ ดีต่อสุขภาพ เช่น ขนมขัดฟัน และขนมสำหรับใช้ฝึก
    3. เตียงนอน – น้องหมาควรได้ทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่ม ๆ หลังออกไปผจญภัยหรือวิ่งเล่นกันมาทั้งวัน โดยเตียงนอนที่ดีต้องเหมาะกับขนาดตัวของน้องหมา อาจเตรียมหมอนหนุนหรือผ้าห่มเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้พวกเค้าเพิ่มเติมได้
    4. ชามอาหารและชามน้ำ – เป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญสำหรับน้องหมาทุกตัว โดยแนะนำให้เลือกจากขนาดและวิธีการกินของลูกสุนัข ไม่ควรใช้ชามใบเดียวกันทั้งสำหรับให้อาหารและให้น้ำ อาจเลือกใช้เป็นชามสเตนเลส เนื่องจากแข็งแรงทนทาน ทำความสะอาดง่าย และไม่ดูดซับกลิ่น
    5. กรงหรือกระเป๋าสำหรับสุนัข – ถือเป็นตัวช่วยที่ดีเมื่อต้องพาน้องหมาออกนอกบ้านหรือเดินทางไกล ทั้งกรงและกระเป๋ามีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่ควรเลือกให้เหมาะกับขนาดและสายพันธุ์ของน้องหมา หรือหากต้องการพาน้องหมาขึ้นเครื่องบิน ก็ควรเลือกรูปแบบที่ได้รับการรับรองจากสายการบินนั้น ๆ เพราะจะทำให้เดินทางได้ง่ายขึ้น
    6. เสื้อผ้า – ในช่วงที่มีอากาศเย็นหรืออากาศชื้น ควรใส่เสื้อผ้าที่แห้งและสะอาดให้กับน้องหมา เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและป้องกันไม่ให้เจ้าตัวน้อยของคุณเป็นหวัด ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าเนื้อผ้าไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง
    7. ปลอกคอและสายจูง – ขนาดของปลอกคอและสายจูงเป็นสิ่งสำคัญ น้องหมาต้องหายใจสะดวก ไม่อึดอัด และเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเมื่อสวมใส่ ควรเลือกปลอกคอที่ปรับขนาดได้และถอดออกง่าย เมื่อใส่แล้วควรมีพื้นที่ว่างระหว่างปลอกคอประมาณสองนิ้วมือ ส่วนสายจูงควรเลือกที่ทำจากเชือกไนลอนยาว 6 ฟุตหรือประมาณ 1.8 เมตร และควรมีความกว้างประมาณ ½ - ¾ นิ้ว
    8. ของเล่น – เพื่อความสุขและความสนุกของเจ้าตัวน้อย ผู้เลี้ยงควรเตรียมของเล่นหลาย ๆ ชนิดติดบ้านเอาไว้ เช่น ของเล่นสำหรับกัดแทะ ตุ๊กตานุ่มนิ่มสำหรับกอดนอน และของเล่นสำหรับฝึกทักษะ ของเล่นเหล่านี้จะช่วยให้พวกเค้ากระฉับกระเฉงและสดชื่น หลีกเลี่ยงการซื้อของเล่นขนาดเล็ก เพื่อป้องกันน้องหมากินหรือกลืนเข้าไปจนเกิดอันตราย
    9. ถุงเก็บมูลสัตว์ – เมื่อพาน้องหมาออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะ เจ้าของควรเตรียมถุงเก็บมูลสัตว์เพื่อทำความสะอาดหลังน้องหมาขับถ่าย เพราะในหลายพื้นที่มีกฎและข้อกำหนดสำหรับเรื่องนี้ หากไม่ทำตามอาจถูกปรับและโดนตักเตือนได้
    10. อุปกรณ์สำหรับการกรูมมิ่ง – แชมพู แปรงและหวี กรรไกรตัดเล็บ ยาสีฟันและแปรงสีฟัน น้ำยาทำความสะอาดสำหรับสุนัข ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดูแลเจ้าตัวน้อยของคุณ
    11. ป้ายชื่อ – อย่าลืมสั่งทำป้ายชื่อน่ารัก ๆ ห้อยกับปลอกคอของเจ้าตัวน้อยกันด้วย ป้ายชื่อควรระบุชื่อของลูกสุนัข หมายเลขโทรศัพท์ของคุณ หรือหมายเลขโทรศัพท์คลินิกสัตว์ที่คุณไปประจำ
    12. รั้วหรือประตูกั้น – สิ่งสุดท้ายที่ควรมีคือรั้วหรือประตูกั้น สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการรบกวนเมื่อคุณต้องการเวลาส่วนตัวหรือเมื่อมีเด็กเล่นในบ้านได้เป็นอย่างดี

    การเตรียมพร้อมเพื่อช่วยให้ลูกสุนัขปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น

    ผู้เลี้ยงอาจต้องจัดเตรียมพื้นที่และสิ่งของบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ลูกสุนัขปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดียิ่งขึ้น โดยคุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้

    1. ขั้นตอนที่ 1 – จัดเตรียมพื้นที่ขับถ่ายให้พร้อมและเริ่มฝึกพวกเค้าให้ขับถ่ายเป็นที่ตั้งแต่เนิ่น ๆ หากลูกสุนัขขับถ่ายในที่ที่ถูกต้อง ก็ควรให้ขนมเป็นรางวัล
    2. ขั้นตอนที่ 2 – วางกรงและเบาะนอนของลูกสุนัขไว้ในที่เฉพาะ เลือกพื้นที่ที่สงบและห่างจากความวุ่นวาย เพื่อให้พวกเค้าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในช่วงวันแรก ๆ
    3. ขั้นตอนที่ 3 – ปล่อยให้เจ้าตัวน้อยได้สำรวจบ้านใหม่และทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ บ้าน แต่ก่อนอื่นควรเก็บกวาดบ้านให้เรียบร้อย เก็บของมีคมหรือข้าวของอันตรายให้มิดชิด และอย่าปล่อยให้พื้นลื่น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
    4. ขั้นตอนที่ 4 – แนะนำทุกคนให้รู้จักกับลูกสุนัขตัวใหม่กันตั้งแต่วันแรก คุณอาจพบว่าลูกสุนัขจะตื่นเต้นมากและจะพยายามคลุกคลีกับทุกคนรอบตัว โดยสามารถชวนลูกสุนัขเล่นด้วยได้ แต่ต้องไม่บังคับหรือทำให้พวกเค้ารู้สึกเครียด หากพวกเค้าพยายามซ่อนตัว ก็ควรปล่อยให้ใช้เวลาตามลำพัง อาจลองให้ขนมหรือลูบตัวเบา ๆ เพื่อให้พวกเค้ารู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

    การเลี้ยงลูกสุนัขตัวใหม่ให้อยู่ร่วมกับเด็กเล็ก

    ควรให้โอกาสลูก ๆ ของคุณมีส่วนร่วมในการรับเลี้ยงลูกสุนัขตัวใหม่ เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกผูกพันกับสมาชิกใหม่ของครอบครัวมากขึ้น เมื่อได้ลูกสุนัขกลับบ้านแล้ว คุณสามารถปล่อยให้พวกเค้าเล่นด้วยกันได้ แต่ควรจำกัดเวลาการเล่นให้อยู่ในช่วง 15 – 30 นาที สองครั้งหรือสามครั้งต่อวัน เนื่องจากลูกสุนัขอยู่ในวัยที่ต้องการเวลาพักผ่อนมาก นอกจากนี้ช่วงเวลาที่เด็ก ๆ อยู่กับลูกสุนัข ควรมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย
     

    การแนะนำลูกสุนัขตัวใหม่กับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น

    ลูกสุนัขส่วนใหญ่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นและยังคงไร้เดียงสา จึงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อต้องแนะนำให้พวกเค้ารู้จักกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการปะทะ เริ่มด้วยการพาลูกสุนัขไปหาสุนัขที่โตกว่า ปล่อยให้พวกเค้าใช้เวลาร่วมกัน ไม่ต้องกังวลหากพวกเค้าจะดมหรือเลียกันเพราะเป็นการทักทายกันตามปกติ แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มกัดหรือเห่าใส่กัน ให้รีบเข้าไปแยกออก
     

    แม้ว่าการนำลูกสุนัขกลับบ้านจะเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนาน แต่อย่าลืมเตรียมสิ่งของที่จำเป็นทั้งหมดให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นอาหาร อุปกรณ์ดูแลขน เตียงนอน และขนมแสนอร่อย นอกจากนี้คุณควรสร้างสภาพแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัยและมั่นคงเพื่อให้ลูกสุนัขเติบโตอย่างแข็งแรง