IAMS TH
Corn-Ingredients-and-Their-Use-in-Our-Cat-Foods-banner
Corn-Ingredients-and-Their-Use-in-Our-Cat-Foods-banner

adp_description_block196
ไขข้อสงสัย แมวกินข้าวโพดได้ไหม?

  • แบ่งปัน

ใคร ๆ ก็ชอบข้าวโพด แค่นึกภาพข้าวโพดอบเนยหวานมันแสนอร่อยก็น้ำลายสอแล้ว ทาสแมวหลายคนอาจสงสัยว่าแมวกินข้าวโพดได้ไหม คำตอบคือได้ แถมข้าวโพดยังเป็นประโยชน์ต่อน้องแมวอีกด้วย เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ข้าวโพดจึงเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารแมวหลายยี่ห้อ

ประโยชน์ของข้าวโพด

แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ พวกเค้าจึงต้องการโปรตีนในปริมาณมากสำหรับการทำงานของร่างกาย ข้าวโพดฝักกลาง 1 ฝักมีโปรตีนประมาณ 3.5 กรัม ซึ่งน้องแมวต้องการโปรตีนอย่างน้อย 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 0.5 กิโลกรัม สมมติถ้าน้องแมวหนัก 3.5 กิโลกรัม พวกเค้าจะต้องการโปรตีนอย่างน้อย 14 กรัม นั่นแปลว่าต้องให้แมวกินข้าวโพดอย่างน้อย 4 ฝัก ซึ่งไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะจะได้รับแคลอรี่สูงเกินไป ข้าวโพดจึงควรเป็นส่วนหนึ่งในอาหารมากกว่าเป็นอาหารมื้อหลัก และควรให้แมวได้รับโปรตีนจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม แต่ถึงอย่างนั้นข้าวโพดก็ยังมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

  • เป็นแหล่งพลังงานชั้นดี

    • คาร์โบไฮเดรตอาจไม่ใช่สารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับแมวเหมียว แต่มันช่วยให้เจ้าตัวน้อยมีพลังเต็มเปี่ยมตลอดทั้งวัน และเมื่อน้องแมวได้รับคาร์โบไฮเดรตเพียงพอ พวกเค้าก็ไม่จำเป็นเปลี่ยนโปรตีนเป็นพลังงาน ซึ่งทำให้ร่างกายนำโปรตีนไปใช้ประโยชน์ในส่วนสำคัญได้อย่างเต็มที่ เช่น การเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
  • ป้องกันอาการอักเสบ

    • ข้าวโพดอุดมไปด้วยกรดไขมันที่ช่วยให้ผิวหนังมีสุขภาพดีและป้องกันการอักเสบ ซึ่งร่างกายของแมวไม่สามารถผลิตกรดไขมันเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง จึงต้องให้แมวกินข้าวโพดหรืออาหารอื่น ๆ ที่มีกรดไขมันเท่านั้น 
  • อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

    • สารต้านอนุมูลอิสระมีความจำเป็นต่อสุขภาพ เพราะช่วยป้องกันการทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่อ โดยวิตามินอีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ T-cell ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิต้านทานชนิดหนึ่ง ส่วนบีตา-แคโรทีนจะช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันและช่วยให้วัคซีนทำงานได้ดีขึ้น ข่าวดีคือข้าวโพดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระทั้งสองชนิดนี้!

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับข้าวโพดในอาหารแมว

ข้าวโพดหลากหลายรูปแบบถูกใช้เป็นส่วนผสมในอาหารแมว เช่น เมล็ดข้าวโพดป่น เมล็ดข้าวโพดบดละเอียด ปลายข้าวโพด แป้งข้าวโพด และรำข้าวโพด โดยคุณอาจสังเกตเห็นส่วนผสมของข้าวโพดอย่างน้อย 1 ชนิดบนบรรจุภัณฑ์อาหารแมว

 

ส่วนผสมจากข้าวโพด

ลักษณะและที่มา

เมล็ดข้าวโพดป่น หรือเมล็ดข้าวโพดบดละเอียด

เป็นการนำเมล็ดข้าวโพดทั้งหมดมาบดให้ละเอียด

ปลายข้าวโพด

บางส่วนของข้าวโพดบด โดยมีรำข้าว (ไฟเบอร์) หรือจมูกข้าว (ส่วนโปรตีนเล็ก ๆ ที่ปลายเมล็ด) เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย 

รำข้าวโพด 

เปลือกนอกของเมล็ดข้าวโพด ซึ่งให้ไฟเบอร์สูง

แป้งข้าวโพด

เป็นโปรตีนที่หลงเหลือจากรำข้าวโพด และผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว โดยจะกลายแหล่งเป็นคาร์โบไฮเดรตต่อไป 

 

ขนมข้าวโพดที่เหมาะสำหรับแมวเหมียว

แม้ว่าข้าวโพดจะอุดมไปสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่ขนมจากข้าวโพดบางชนิดก็ไม่เหมาะสำหรับน้องแมว ควรหลีกเลี่ยงการให้แมวกินข้าวโพดทอด ข้าวโพดคั่ว และเปลือกข้าวโพด แต่สามารถให้ข้าวโพดย่างหรือต้มโดยไม่ปรุงรสใด ๆ แทน

 

ข้าวโพดในอาหารแมวไอแอมส์™

ข้าวโพดเป็นหนึ่งในส่วนผสมของอาหารแมวไอแอมส์™ ทุกสูตร ทั้งไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับแมวโต และไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับลูกแมว โดยเราเลือกใช้ “กลูเทนข้าวโพด” แทน “ฝักข้าวโพด” หากจะอธิบายความแตกต่างให้เห็นภาพ ก็คือการใช้ข้าวโพดปรุงสุกแทนข้าวโพดดิบนั่นเอง นอกจากนี้เรายังคัดสรรเฉพาะข้าวโพดคุณภาพดี และแยกเปลือกนอกของเมล็ดแต่ละเมล็ดออกก่อนนำไปบดละเอียด จากนั้นจึงนำไปปรุงสุกเพื่อให้ข้าวโพดนั้นย่อยง่ายยิ่งขึ้น

อาหารแมวไอแอมส์™ มีส่วนประกอบของปลายข้าวโพดและเมล็ดข้าวโพดบดละเอียด ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตคุณภาพดีและเป็นแหล่งพลังงานชั้นเยี่ยม อีกทั้งข้าวโพดยังไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงเหมือนกับข้าว จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับน้องแมวสูงอายุและน้องแมวที่มีน้ำหนักเกิน

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประโยชน์ของข้าวโพดสำหรับแมวเหมียว

  1. โปรตีนจากข้าวโพดดีสำหรับแมวเหมียวหรือไม่?
  2. โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งโครงสร้างโปรตีนในข้าวโพดมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพของแมวเหมียว ด้วยประโยชน์ที่มีมากมาย ก็อย่าลืมมองหาส่วนผสมนี้ในอาหารแมวกันด้วย

  3. กลูเทนข้าวโพดดีสำหรับแมวเหมียวหรือไม่?
  4. กลูเทนข้าวโพดปลอดภัยสำหรับน้องแมว อย่างไรก็ตาม น้องแมวบางตัวอาจแพ้ข้าวโพดได้ โดยลักษณะของการแพ้คือเป็นผื่นบริเวณผิวหนัง หรือติดเชื้อในทางเดินอาหาร

  5. ส่วนผสมใดบ้างที่ไม่ควรอยู่ในอาหารแมว?
  6. กระเทียม ถั่วเหลือง ข้าว น้ำตาลเคี่ยวไหม้ และน้ำตาลกลูโคสเป็นส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง

  7. อะไรคือส่วนผสมสำคัญที่ควรมีในอาหารแมว?
  8. แหล่งโปรตีนคุณภาพดีจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลาแซลมอน และเนื้อแกะ ควรเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารแมว

  • cat article detail banner
    cat article detail banner
    adp_description_block175
    เคล็ดลับการให้อาหารฉบับแมวเหมียว

    • แบ่งปัน

    น้องแมวต้องการกรดไขมันและโปรตีนมากกว่าคน รวมไปถึงสารอาหารจำเป็นอื่น ๆ อีกมากมาย พวกเค้ามีนิสัยกินทีละนิดทีละหน่อยแต่กินหลายมื้อต่อวัน ดังนั้นการเลือกอาหารจึงสำคัญมาก และอาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรแมวโต รสไก่ คือตัวเลือกที่ดีเลย นอกจากรสชาติอร่อยถูกใจเจ้าเหมียวแล้ว ยังคงความสดใหม่ได้ยาวนานอีกด้วย

    เคล็ดลับการให้อาหารฉบับแมวเหมียว

    คุณค่าทางโภชนาการที่เจ้าเหมียวต้องการ

    แมวเหมียวต้องการโปรตีนจากสัตว์ พร้อมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ ในอัตราส่วนที่ครบถ้วนและสมดุล เพื่อเสริมให้พวกเค้ามีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารเสริมที่ไม่จำเป็น เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอีกมากมาย ในการเลือกอาหารให้เจ้าเหมียวตัวน้อย ควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้:

    • โปรตีนคุณภาพดีจากเนื้อสัตว์ เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือไข่ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมไปถึงระบบภูมิต้านทาน และอวัยวะต่าง ๆ
    • กรดอะมิโนทอรีน ซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น ทั้งเนื้อไก่และปลา ช่วยให้มีสุขภาพดวงตาที่ดี นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยเสริมการทำงานของระบบสืบพันธุ์ การเจริญเติบโตของลูกแมวในท้อง และพัฒนาการด้านต่าง ๆ
    • วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น วิตามิน A ซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น และวิตามิน E ที่ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
    • อัตราส่วนที่สมดุลของกรดไขมัน ช่วยให้สุขภาพผิวหนังดี และมีขนนุ่มเงางาม
    • ไฟเบอร์คุณภาพดี เช่น บีทพัลพ์ ที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบย่อยและขับถ่าย

    เคล็ดลับการให้อาหารฉบับแมวเหมียว

    โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับแมวเหมียว

    • แม่แมวตั้งท้อง หรือ แม่แมวที่กำลังให้นมลูก

       แม่แมวที่กำลังตั้งท้องต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นถึง 50% จากปริมาณปกติ โดยเราสามารถให้อาหารสูตรลูกแมวในช่วง 2-3 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งท้องกับพวกเค้าได้ เพราะมีสารอาหารจำเป็นครบถ้วนตรงกับความต้องการ หลังคลอด แม่แมวต้องการพลังเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 75% โดยจะมากกว่าปกติถึงสองเท่าในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด และเพิ่มเป็นสามเท่าเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สาม ระหว่างสัปดาห์สามถึงสี่จะเป็นช่วงที่แม่แมวต้องการพลังงานมากที่สุด เพราะต้องให้นมลูกแมวตัวน้อยที่ยังไม่สามารถกินอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกได้ เมื่อลูกแมวถึงวัยหย่านม แม่แมวจึงจะสามารถกลับมากินอาหารสูตรทั่วไปได้

    เคล็ดลับการให้อาหารฉบับแมวเหมียว

    • ควบคุมน้ำหนัก

      สำหรับปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตัวอย่างเช่น แมวโตเต็มวัยต้องการสารอาหารแตกต่างจากลูกแมว และแมวสูงวัย ดังนั้นการเพิ่มปริมาณอาหารที่ไม่เหมาะกับช่วงวัยเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการทางโภชนาการ ก็อาจเป็นสาเหตุให้เจ้าเหมียวอ้วนได้ ซึ่งนี่เป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
      โดยทั่วไปแมวที่เลี้ยงในบ้านมีความเสี่ยงจะมีภาวะน้ำหนักเกินได้ง่าย เพราะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย แต่ในฐานะเจ้าของ คุณต้องใส่ใจกับปริมาณอาหารที่เจ้าเหมียวได้รับในแต่ละวัน หรืออาจเลือกให้อาหารสูตรใหม่ที่มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักก็ได้ ตามมาดูเคล็ดลับการให้อาหารที่จะช่วยให้เจ้าเหมียวของคุณมีน้ำหนักตัวตามมาตรฐาน และมีสุขภาพแข็งแรงกัน

    what shape

     

    แม้จะเลือกสูตรอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก แต่ก็ควรกำหนดปริมาณอาหารตามคำแนะนำอย่างเหมาะสมนะ

    • ป้องกันปัญหาก้อนขนอุดตัน

      โดยทั่วไปเจ้าเหมียวมักเลียขนเป็นประจำ และนั่นอาจทำให้พวกเค้ากลืนขนตัวเองลงไป ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาก้อนขนอุดตันในช่องท้องได้ หากก้อนขนเหล่านั้นไม่สามารถเคลื่อนผ่านลำไส้มาได้ เจ้าเหมียวอาจพยายามสำรอกมันออกมา การเลือกอาหารสูตรพิเศษจะช่วยป้องกันการเกิดก้อนขนอุดตันได้ แต่ประสิทธิภาพอาจลดลงหากผสมกับอาหารสูตรอื่น

    ความแตกต่างทางพฤติกรรมการกินของแมวน้ำหนักน้อยกับแมวอ้วน

    • แมวน้ำหนักน้อย:

      น้องแมวที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ต้องการสารอาหารมากขึ้น เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นในที่สุด นอกจากนี้การเพิ่มปริมาณแคลอรี่ก็จำเป็นเช่นกัน เพื่อให้พวกเค้ามีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ทั้งนี้ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับเจ้าตัวน้อยของคุณ
    • แมวอ้วน:

      แมวที่มีภาวะอ้วนควรควบคุมปริมาณอาหารอย่างเคร่งครัด และควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง แต่ไขมันต่ำ

    ปริมาณอาหารที่น้องแมวควรได้รับในแต่ละวันคือเท่าใด?

    ปริมาณอาหารที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับช่วงวัย ขนาดตัว และกิจวัตรประจำวันของพวกเค้า หรือจะเลือกให้อาหารตามตารางแนะนำที่ระบุไว้บนซองอาหารแมว ทุกซองของไอแอมส์™ ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้สามารถปรับเปลี่ยนปริมาณอาหารตามความต้องการของน้องแมวได้ และอย่าลืมแบ่งสัดส่วนให้เหมาะสมหากคุณให้อาหารพวกเค้ามากกว่า 1 ครั้งต่อวัน ทีนี้ตามมาดูไปพร้อมกันเลยว่าควรให้อาหารเจ้าหมียวปริมารเท่าใดบ้าง:

    น้ำหนักของแมว (กก.)กรัม/วัน
    345
    455
    560
    670
    780
    890

     

    อาหารแมวไอแอมส์™ ช่วยแก้ปัญหาการกินมากเกินไปหรือน้อยเกินไปได้อย่างไรบ้าง?

    อาหารแมวไอแอมส์™ อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดีเหมาะกับแมวที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว ซึ่งอาหารแมวไอแอมส์™ สูตรควบคุมน้ำหนักและก้อนขน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับน้องแมวที่ต้องการเพิ่มหรือลดน้ำหนัก เพราะอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ดังต่อไปนี้:

    • ผลิตจากเนื้อไก่คุณภาพดี
    • มีส่วนผสมของแอล – คาร์นิทีน ซึ่งมีส่วนช่วยให้น้องแมวกลับมามีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม
    • เป็นสูตรอาหารที่สัตวแพทย์แนะนำ
    • ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินปัสสาวะ

Close modal