IAMS TH
5-Tips-to-Help-Your-Kitten-Live-a-Long-and-Healthy-Life banner
5-Tips-to-Help-Your-Kitten-Live-a-Long-and-Healthy-Life

adp_description_block496
5 เคล็ดลับเพื่อช่วยให้ลูกแมวของคุณสุขภาพดีมีอายุยืน

  • แบ่งปัน

คุณสามารถช่วยให้ลูกแมวสุขภาพดีมีอายุยืนได้หรือไม่ แม้จะไม่สามารถคาดเดาสุขภาพของแมวได้อย่างแม่นยำนัก แต่คุณก็สามารถเพิ่มโอกาสที่เค้าจะมีทั้งสุขภาพที่ดีขึ้นและมีอายุยืนขึ้นได้ ผ่านการดูแลที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มเลี้ยงเค้าใหม่ ๆ สัตวแพทย์สามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมถึงข้อควรพิจารณา 5 ข้อเกี่ยวกับการดูแลลูกแมว ดังนี้

วิธีดูแลลูกแมว

 

1. ให้อาหารที่มีคุณภาพ

ให้อาหารแมวที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการด้านสารอาหารในแต่ละช่วงวัย เนื่องจากความต้องการด้านสารอาหารของแมวจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัยและไลฟ์สไตล์ แต่ไม่ว่าเค้าจะอายุเท่าไร สัตว์กินเนื้อก็ต้องการสารอาหารจากโปรตีนและไขมันสัตว์เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีเสมอ

 

2. ให้ออกกำลังกาย

ลดภาวะอ้วนในแมวด้วยการควบคุมอาหารอย่างเข้มงวดและให้เค้าได้ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายจะช่วยลดอาการเครียด ลดความดุร้าย และช่วยให้แมวตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพียงวันละ 15-30 นาที ก็ช่วยให้เค้ามีน้ำหนักสมส่วนแถมยังได้สานสัมพันธ์กับคุณให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น นอกจากนี้การสอนให้ลูกแมวชินกับเวลาเล่นตั้งแต่เด็ก ๆ จะช่วยให้คุณชินกับการเล่นกับแมวเป็นประจำ

 

3. มอบสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย

เลี้ยงแมวไว้ในบ้านเพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ การต่อสู้ และโรคภัยต่าง ๆ เมื่อแมวอายุมากขึ้นคุณสามารถลดความเครียดจากการถูกสัตว์อื่นรังแกด้วยการให้เค้าอยู่ในบ้าน แต่อย่าลืมดูแลบ้านให้ปลอดภัยจากอันตรายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาดและควันบุหรี่ แมวส่วนใหญ่ใช้ลิ้นเพื่อทำความสะอาดตัวเอง แค่สารเคมีปริมาณนิดเดียวก็สามารถก่ออาการที่ไม่พึงประสงค์ได้

 

4. นัดตรวจร่างกายและช่องปากเป็นประจำ

แปรงขนให้ลูกแมวตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อให้เค้าคุ้นเคยกับการแปรงขน ระหว่างที่แปรงอยู่อย่าลืมเช็กดูรอยแผล หรือความผิดปกติอื่น ๆ รวมถึงรีบปรึกษาสัตวแพทย์หากเจออะไรที่น่าสงสัย พาแมวไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพโดยรวมอย่างต่ำปีละ 1 ครั้ง และปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตว์แพทย์เกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรค สัตวแพทย์ยังสามารถนัดทำความสะอาดฟันโดยผู้เชี่ยวชาญได้เป็นระยะ ซึ่งจะช่วยยืดอายุเค้าได้อีกหลายปี

 

5. ใส่ใจเค้าเยอะ ๆ

ท้ายที่สุดอย่าลืมมอบความรักให้เค้า! แม้แมวบางตัวจะดูหยิ่งและไม่สนใจคุณแต่แมวทุกตัวล้วนชอบความใส่ใจ ทั้งคุณและเค้าจะได้ประโยชน์จากการใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพ

 

ตารางเทียบอายุแมว
 

มีความเชื่อว่าเวลา 1 ปีของเราเท่ากับ 7 ปีของแมว ด้านล่างเป็นตารางอายุฉบับปรับปรุงให้คุณดูอายุแมวได้อย่างถูกต้อง

อายุแมว อายุคน

6 เดือน 10 ปี
8 เดือน 13 ปี
10 เดือน 14 ปี
12 เดือน 15 ปี
18 เดือน 20 ปี
2 ปี 24 ปี
3 ปี 28 ปี
4 ปี 32 ปี
5 ปี 36 ปี
6 ปี 40 ปี
7 ปี 44 ปี
8 ปี 48 ปี
9 ปี 52 ปี
10 ปี 56 ปี
11 ปี 60 ปี
12 ปี 64 ปี
13 ปี 68 ปี
14 ปี 72 ปี
15 ปี 76 ปี
16 ปี 80 ปี
17 ปี 84 ปี
18 ปี 88 ปี
19 ปี 92 ปี
20 ปี 96 ปี
21 ปี 100 ปี

  • การรักษาโรคผิวหนังแมว
    การรักษาโรคผิวหนังแมว
    adp_description_block144
    การรักษาโรคผิวหนังแมว

    • แบ่งปัน

    ผิวหนังและเส้นขนเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของสุขภาพโดยรวมของแมว โดยลักษณะขนที่มีสุขภาพดีจะต้องสวยเงางามและไม่หยาบกระด้าง ส่วนผิวหนังจะต้องอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น ไม่มัน ไม่เป็นขุยหรือขรุขระ การเลือกโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับแมวจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวหนังและเส้นขนที่ดี เช่นเดียวกับการดูแลขนและการอาบน้ำแมวเป็นประจำ

     

    เราสามารถดูแลสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของแมวได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การให้อาหารคุณภาพดีไปจนถึงการลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลที่เหมาะสม การดูแลรักษาโรคผิวหนังของแมวก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก อ่านบทความของเราเพื่อทำความเข้าใจสภาพผิวหนังของแมว พร้อมเรียนรู้วิธีดูแลสุขภาพผิวหนังและเส้นขนให้แข็งแรง

     

    ลักษณะผิวหนังที่มีสุขภาพดี

    เนื่องจากแมวแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะขนต่างกัน ขนที่มีสุขภาพดีจึงมีลักษณะต่างกันด้วย เช่น

    • มีขนปกคลุมบาง ๆ เหมือนไร้ขน (แมวพันธุ์สฟิงซ์)

    • ขนหยิก หลุดร่วงเล็กน้อย (แมวพันธุ์เร็กซ์)

    • ขนสั้นและเรียบลื่น (แมวพันธุ์โอเรียนทัล)

    • แมวบ้านมักจะมีขนชั้นนอกสั้นและขนชั้นในที่อ่อนนุ่มเพื่อเพิ่มความอบอุ่น

    • ขนยาว นุ่มและเรียบ แต่ขนพันกันง่าย

    สารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขนของแมว

    เนื่องจากเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย การดูแลผิวหนังจึงมีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ โดยผิวของแมวส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยขนที่หลุดร่วงและขนที่งอกขึ้นมาใหม่ วิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรักษาสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของแมวคือการให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล อาหารแมวที่ดีควรประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุคุณภาพสูงที่ย่อยได้ง่าย ซึ่งนอกจากจะทำให้แมวได้รับพลังงานเพียงพอต่อความต้องการแล้ว มันยังช่วยให้ตับและไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

     

    กรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 คือสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของลูกแมว สารอาหารสองชนิดนี้ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ควรมีอยู่ในอาหารแมว กรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น กรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) และกรดไอโคซาเพนตะอิโนอิก (EPA) จะช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขน รวมถึงช่วยรักษาระดับการซึมผ่านของน้ำในผิวหนังด้วย ส่วนกรดไขมันโอเมก้า 6 เช่น กรดไลโนเลอิกและกรดอะราซิโดนิก จะช่วยให้เนื้อเยื่อบุผิวในร่างกายของแมวมีสุขภาพดี

     

    คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อค้นหาอาหารที่เหมาะกับช่วงวัยและความต้องการของแมวได้ หากพบว่าแมวผิวแห้ง มีขนหยาบกระด้างและหลุดร่วงมากผิดปกติ ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติม

     

    วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของแมว

    วิตามินเป็นสารอาหารที่สำคัญ และแมวควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสม วิตามินที่สำคัญพบได้ในส่วนผสมหลายชนิดในอาหารแมว การกินอาหารคุณภาพดีมีคุณค่าครบถ้วนและสมดุลจึงเป็นกุญแจสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดี สำหรับวิตามินที่แมวควรได้รับจากอาหารมีดังนี้

    1. วิตามินเอ – จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินที่ละลายในไขมัน วิตามินเอช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและการมองเห็น อย่างไรก็ตาม วิตามินเอในปริมาณมากอาจเป็นพิษต่อแมว ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแมวของคุณ

    2. วิตามินซี – เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยสมานแผลและช่วยให้แมวใช้โปรตีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    3. วิตามินดี – ช่วยกักเก็บฟอสฟอรัสและแคลเซียมในร่างกายของแมว เป็นที่รู้จักกันในนาม “วิตามินแสงแดด” เนื่องจากช่วยให้กระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นประสาททำงานได้ดี

    4. วิตามินบี 1 (ไทอามีน) – จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินที่ละลายน้ำได้ มันมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบการเผาผลาญ รวมถึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและการส่งกระแสประสาท

    5. วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) – ช่วยให้สลายคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน เพื่อผลิตพลังงานและช่วยขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย วิตามินชนิดนี้ยังช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังและเส้นขนอีกด้วย

    6. วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) – เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ซึ่งจะถูกกำจัดออกทางปัสสาวะ แมวควรได้รับวิตามินชนิดนี้เป็นประจำ มันช่วยเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท และยังมีส่วนช่วยให้ผิวหนังของแมวแข็งแรง

    7. วิตามินบี 6 – ช่วยสลายไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตเพื่อผลิตพลังงานและจ่ายออกซิเจนไปทั่วร่างกาย

    เช่นเดียวกับวิตามิน แร่ธาตุก็จำเป็นต่อร่างกายของแมวเช่นกัน มันช่วยส่งเสริมการสร้างเอนไซม์ การลำเลียงออกซิเจน การนำสารอาหารไปใช้ และการรักษาความสมดุลของความเป็นกรดด่าง (pH) โดยอาหารของแมวควรมีแร่ธาตุต่อไปนี้

    1. แคลเซียม

    2. ธาตุเหล็ก

    3. โซเดียม

    4. แมกนีเซียม

    5. คลอไรด์

    อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบปริมาณวิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสมสำหรับแมวของคุณ

     

    โรคผิวหนังในแมวที่พบบ่อยและวิธีการรักษา

    โรคผิวหนังของแมวที่พบได้บ่อย เช่น เชื้อราในแมว แมวคันผิวหนัง ทำให้เกาหรือเลียมากผิดปกติ ผิวหนังมีรอยแดงและบวม ขนร่วง หรือคุณอาจพบว่าแมวผิวเป็นสะเก็ดและเป็นขุย ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คุณสามารถทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันการเกิดปัญหา

    1. ให้อาหารแมวคุณภาพดี

    ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกอาหารที่ดีที่สุดสำหรับแมว เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล วิธีนี้จะช่วยให้แมวได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญในการสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของแมวด้วย

    1. แปรงขนเป็นประจำ

    การแปรงขนเป็นประจำช่วยให้ผิวหนังและขนของแมวมีสุขภาพดีได้จริง มันช่วยป้องกันปัญหาขนสังกะตังและขนพันกันเป็นก้อน ปัญหาเหล่านี้มักจะทำให้แมวรู้สึกไม่สบายตัว ขนร่วง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ด้วย แนะนำให้เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับลักษณะขนของแมว เพื่อลดอาการระคายเคืองหรือความรู้สึกไม่สบาย

    1. อาบน้ำเพื่อรักษาสภาพผิวหนัง

    การอาบน้ำแมวไม่จำเป็นต้องทำบ่อย เนื่องจากแมวมีนิสัยชอบดูแลตัวเอง และส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบอาบน้ำ อย่างไรก็ตาม หากแมวเริ่มเกาตัวบ่อยขึ้นหรือเนื้อตัวเริ่มสกปรก ควรอาบน้ำให้พวกเค้าด้วยแชมพูที่ออกแบบมาเพื่อแมวโดยเฉพาะ ไม่แนะนำให้ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยเนื่องจากเป็นพิษต่อผิวหนังและขนของแมว ทั้งนี้คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการอาบน้ำแมวและการเลือกแชมพูที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้

    1. ป้องกันเห็บหมัด

    การติดเชื้อเห็บหมัดเป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยที่สุดในแมว และควรได้รับการรักษาทันที การติดเชื้ออาจทำให้แมวคันผิวหนัง แมวอาจเกาและเลียตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมักจะทำให้เกิดบาดแผลหรือขนร่วงเป็นหย่อม

    1. จัดการกับความเครียด

    หากแมวมีอาการวิตกกังวลและเครียดอย่างรุนแรง พวกเค้ามักจะเลียขนบ่อยจนผิดปกติ พฤติกรรมนี้อาจทำให้ขนร่วงเป็นจำนวนมาก นอกจากจะส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ความเครียดและความวิตกกังวลยังทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น โรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว หากพบว่าแมวเลียตัวบ่อยเกินไป แนะนำให้พาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายเพิ่มเติม

     

    สภาพผิวหนังของแมวมักเป็นสัญญาณของความไม่สมดุลในร่างกาย หากคุณสังเกตสัญญาณเตือนของโรคผิวหนังในแมว เช่น เชื้อราในแมว แมวผิวแห้ง ผิวหนังบวมและแดง แมวผิวเป็นสะเก็ดหรือเป็นขุย ขนร่วงและหยาบกระด้าง ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

Close modal