IAMS TH
Why You Shouldn’t Supplement Your Dog's Diet
Why You Shouldn’t Supplement Your Dog's Diet

adp_description_block198
ทำไมจึงไม่ควรให้อาหารเสริมกับสุนัข

  • แบ่งปัน

การให้วิตามิน แร่ธาตุและองค์ประกอบทางโภชนาการอื่น ๆ แก่สุนัข มีความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัข วิธีที่ดีที่สุดคือ การให้อาหารที่ครบถ้วนสมดุล และมีคุณภาพ การให้อาหารเสริมมักทำให้สุนัขเสียสมดุลและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย


เหตุผลว่าทำไมเจ้าของถึงมักให้อาหารเสริมแก่สุนัข

เจ้าของมักให้อาหารเสริมกับสุนัขด้วยเหตุผลที่ต่างกัน:

• เพื่อเพิ่มความอร่อย หรือ ความหลากหลาย
• เพื่อความมั่นใจว่าสุนัขจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
• เพื่ออยากที่จะป็นคนที่เตรียมมื้ออาหารให้สุนัขด้วยตัวเอง


การให้อาหารเสริมอาจทำให้อาหารของพวกเค้าไม่สมดุล

นี่คือสิ่งสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องตระหนักว่า อาหารสุนัขที่มีคุณภาพนั้นได้รับการคิดค้นขึ้นมาอย่างรอบคอบต่อความต้องการแคลอรี่ของสัตว์ นอกจากนี้ในอาหารยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็น, กรดไขมัน, วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น สำหรับตามความต้องการทางโภชนาการของสุนัข อาหารคุณภาพดีนั้นมีความครบถ้วนสมดุลอยู่แล้ว เหมาะสำหรับสุนัขแต่ละช่วงวัยหรือสุนัขในทุกไลฟ์สไตล์ การเพิ่มอาหารหรืออาหารเสริมอื่น ๆ อาจทำให้สารอาหารเสียความสมดุลได้

อาหารคุณภาพที่ครบถ้วนและมีความสมดุลสำหรับช่วงวัยหรือไลฟ์สไตล์ที่เฉพาะ การเพิ่มเรื่องที่สนใจตารางหรืออาหารเสริมอื่น ๆ สามารถทำลายสมดุลสารอาหารที่ละเอียดอ่อน


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแร่ธาตุและอาหารเสริม

ปฏิกิริยาระหว่างแร่ธาตุต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก โชคดีที่เหล่านักโภชนาการมีความมุ่งมั่นวิจัยมานานหลายปี การวิจัยแสดงให้แห็นว่าไม่ใช่แค่ระดับแร่ธาตุในอาหารมีความสำคัญ แต่รวมถึงความสมดุลที่เหมาะสม แร่ธาตุส่วนเกินชนิดหนึ่งอาจส่งผลต่อการดูดซึมของแร่ธาตุชนิดที่สอง และนำไปสู่การขาดแร่ธาตุชนิดที่สองได้


ปฎิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นจากการเสริมอาหารด้วยเนื้อสัตว์


อาหารเสริมทั่วไปคือการเพิ่มเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเนื้อสัตว์มีฟอสฟอรัสมากกว่าแคลเซียม 20 ถึง 40 เท่า การเพิ่มเนื้อสัตว์ลงไปในอาหารที่สมดุล จะทำให้อัตราส่วนแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส (หรือ Ca: P) สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาและบำรุงกระดูกที่เหมาะสม

นี่อาจทำให้ร่างกายของสัตว์ดูดซับแคลเซียมจากกระดูกเพื่อรักษาความสมดุล กรณีนี้มักเกิดขึ้นในสัตว์อายุมาก ที่มีการสูญเสียฟัน เนื่องจากการสลายของกระดูกจากกรามล่าง อัตราส่วน Ca: P ควรอยู่ในช่วงระหว่าง 1.1 ถึง 1.4 ส่วนของแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส 1 ส่วน


แคลเซียมมากเกินไปไม่ได้ดีเสมอไป

ปริมาณแคลเซียมมากเกินไปเกี่ยวข้องกับโรคกระดูกหลายโรคที่มีผลต่อลูกสุนัขที่กำลังเติบโต เจ้าของลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่เชื่อว่า ลูกสุนัขของพวกเค้าต้องการแคลเซียมสูงเพื่อการพัฒนากระดูกที่เห มาะสม การเพิ่มโยเกิร์ต คอทเทจชีส หรือแคลเซียมอัดเม็ดลงในอาหารของลูกสุนัขนั้นจะทำให้เสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย

จำไว้ว่าลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่จะกินอาหารมากขึ้นและได้รับแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการโดยกินในสัดส่วนที่แนะนำ วิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนอัตราการเติบโตตามปกติคือ การให้อาหารสุนัขที่เพียงพอ —แต่ไม่มากเกินไป—และควบคุมปริมาณอาหารให้สมดุล


ควรมั่นใจว่าอาหารสุนัขนั้นสมบูรณ์และสมดุล

สมาคมควบคุมการผลิตอาหารสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (AAFCO) ควบคุมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงและได้กำหนดข้อกำหนดด้านโภชนาการสำหรับสุนัขและแมว ข้อกำหนดเหล่านี้มีการเผยแพร่เป็นประจำทุกปีใน AAFCO Manual โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวดที่กำหนดโดย AAFCO เท่านั้น ที่สามารถใส่ข้อความ 'ครบถ้วนและสมดุล' บนฉลากได้

  • Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog
    Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog
    adp_description_block104
    อาการบ่งบอกและวิธีดูแลสุนัขท้องอืดหรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร

    • แบ่งปัน

    อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกตัว แต่อาจพบได้บ่อยในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่มีหน้าอกลึกและแคบ ปัญหานี้ถือเป็นภาวะอันตรายที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นการเรียนรู้วิธีสังเกตและดูแลเมื่อน้องหมามีอาการท้องอืดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม

    อาการท้องอืดคืออะไร?

    อาการท้องอืดหรืออีกชื่อหนึ่งคือภาวะกระเพาะอาหารขยายและบิดตัว เกิดจากการมีปริมาณลมหรือแก๊สสะสมมากกว่าปกติจนทำให้กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและบิดหมุน ส่งผลให้ความดันภายในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น เกิดการกดทับของอวัยวะรอบข้าง ซึ่งทำให้ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติจนน้องหมาเกิดภาวะช็อกได้ และนอกจากลักษณะของอาการที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับอาการท้องอืดที่เจ้าของควรรู้ดังนี้: 

    • อาการท้องอืดจัดเป็นภาวะอันตรายต้องได้รับการดูแลรักษาโดยทันที
    • ภาวะท้องอืดอาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ
    • สาเหตุของอาการท้องอืดยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน
    • แต่ละปีในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีน้องหมากว่า 36,000 ตัวมีอาการท้องอืด และ 30% ของน้องหมาที่มีอาการเสียชีวิต
    • อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกช่วงวัย
    • น้องหมาบางสายพันธุ์มีโอกาสท้องอืดมากกว่าน้องหมาทั่วไป โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีหน้าอกลึกและแคบ
    • การที่กระเพาะอาหารขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณช่องท้องลดลง

     ลักษณะของอาการท้องอืด

    ในระยะแรกของอาการ น้องหมาจะรู้สึกอึดอัดมาก อาจจะเดินวนไปมาและส่งเสียงร้อง หรือพยายามขยับไปมาเพื่อหาท่าทางที่สบายตัว พวกเค้าอาจมีท่าทีกังวล เลียหรือจ้องไปที่ท้องของตัวเอง รวมถึงอาจมีอาการคล้ายอาเจียน แต่ไม่มีอะไรออกมา

     

    นอกจากนี้อาจพบอาการอื่น ๆ เพิ่มด้วยได้ เช่น อ่อนแรง ท้องพองขยายตัว และอาจเกิดภาวะช็อก ซึ่งส่งผลให้น้องหมาหัวใจเต้นเร็วและมีอาการหอบ;
     

    หากพบว่าน้องหมามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ในทันที!

    • หอนหรือส่งเสียงร้องครวญคราง
    • มีท่าทางไม่สบายตัว ดูอึดอัด
    • กระสับกระส่าย
    • เหงือกซีด
    • พยายามอาเจียนแต่ไม่มีอะไรออกมา
    • หอบหรือหายใจเร็ว
    • อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
    • วิตกกังวล
    • อ่อนแรง
    • ท้องบวม (โดยเฉพาะด้านซ้าย)
       

     อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้เมื่อน้องหมาท้องอืด มีดังนี้:
     

    กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้น:

    เนื่องจากมีลมหรือแก๊สสะสมในท้อง


    น้ำลายไหลมาก:

    ปัญหาในระบบทางเดินอาหารอาจทำให้น้องหมาน้ำลายไหลมากกว่าปกติ
     

    พฤติกรรมกระสับกระส่าย:

    อาการกระสับกระส่ายเป็นสัญญาณที่พบได้ทั่วไปเมื่อน้องหมาท้องอืด และพวกเค้าอาจส่งเสียงร้องเมื่อโดนกดที่บริเวณท้อง
     

    หอบ หายใจสั้น:

    การขยายตัวของกระเพาะอาหารทำให้น้องหมาหายใจลำบาก
     

    หัวใจเต้นเร็วขึ้น:

    เนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมถูกกดไม่สามารถขยายตัวได้ ส่งผลให้เกิดภาวะหายใจลำบากและหัวใจมีอัตราการเต้นเร็วกว่าปกติ

     

    สาเหตุของอาการท้องอืด

    แม้ว่าจะหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็มีส่วนที่ทำให้น้องหมามีอาการท้องอืด:

    • กินอาหารปริมาณมากในมื้อเดียว แทนการแบ่งมื้ออาหารเป็น 2 – 3 ครั้งต่อวัน
    • กินมากเกินไปและดื่มน้ำเร็วเกินไป
    • อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น ต้องอยู่ในกรงหรือต้องไปพบสัตวแพทย์
    • วิ่งเล่นทันทีหลังกินอาหาร

     

    วิธีป้องกันอาการท้องอืด

    การทำตามคำแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยป้องกันอาการท้องอืดในสุนัขได้ แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่อาจรับประกันได้ว่าคำแนะนำจะเกิดผลจริงกับน้องหมาทุกตัว 

    • ให้กินอาหารทีละน้อย ๆ อาจแบ่งให้อาหารเป็น 2 – 3 มื้อต่อวัน
    • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเป็นเวลา  1 – 2 ชั่วโมงหลังกินอาหาร
    • อย่าให้น้องหมาดื่มน้ำปริมาณมากก่อนหรือหลังกินอาหารและหลังออกกำลังกาย
    • หากที่บ้านมีน้องหมา 2 ตัวขึ้นไป ควรแยกให้อาหาร เพื่อป้องกันพฤติกรรมกินเร็วและภาวะเครียด
    • หากเป็นไปได้ ควรกำหนดเวลาให้อาหารในช่วงเวลาที่คุณว่างและสามารถสังเกตพฤติกรรมหลังการกินของพวกเค้าได้
    • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน
    • หากพบว่าน้องหมามีอาการท้องอืด ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ทันที


    การดูแลรักษาอาการท้องอืด 
     

    อาการท้องอืดสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่?

    อาการท้องอืดในสุนัขจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยทันที ในกรณีที่น้องหมาท้องอืดไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการกระเพาะบิด อาจได้รับการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา แต่หากตรวจพบว่ามีอาการท้องบวม กระเพาะขยายและบิดตัว บางกรณีก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัด

     

    ตัวเลือกในการรักษาอาการท้องอืด

    การระบายลมหรือแก๊สออกมาโดยใช้วิธีสอดท่อเข้าไปในกระเพาะอาหาร จะช่วยบรรเทาแรงกดต่ออวัยวะโดยรอบและป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อของกระเพาะอาหารเสื่อมสภาพ แต่ในบางกรณีก็ไม่สามารถใช้วิธีสอดท่อได้เพียงเดียว อาจมีต้องการผ่าตัดร่วมด้วย

     

    นอกจากนี้ยังมีการรักษาโดยให้ของเหลวที่เสริมด้วยอิเล็กโทรไลต์ทางเส้นเลือดเพื่อปรับการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะที่สำคัญได้ตามปกติ ในหลายกรณีจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ และยาที่มีฤทธิ์ในการรักษาภาวะเลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลงอีกด้วย

     

    เมื่อน้องหมาอยู่ในอาการคงที่พร้อมผ่าตัดแล้ว สัตวแพทย์จะทำการผ่าตัดที่เรียกว่า “Gastropexy” เพื่อทำให้กระเพาะอาหารกลับสู่ตำแหน่งปกติพร้อมเอาเนื้อเยื่อผนังกระเพาะอาหารที่ตายแล้วออกไป รวมถึงจะยึดผนังกระเพาะเข้ากับผนังของลำตัว ทำให้โอกาสที่กระเพาะอาหารจะบิดหมุนลดลง และช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้ดีขึ้น

     

    เลือกให้อาหารที่ย่อยง่าย

    อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้คือการเลือกอาหารสุนัขคุณภาพดี มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ ช่วยให้ย่อยง่าย 
     

    การดูแลเรื่องอาหารถือเป็นวิธีลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาที่ดีสุด อย่างน้อยก็จนกว่าจะสามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการท้องอืดได้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลเต็ม 100% แต่ก็ช่วยลดจำนวนน้องหมาที่ต้องเผชิญกับภาวะร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตนี้ลงได้

     

    สายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องอืด

    • เยอรมัน เชพเพิร์ด
    • บูวีเย เด ฟล็องเดรอะ
    • เกรทเดน
    • บ็อกเซอร์
    • เซนต์เบอร์นาร์ด
    • โดเบอร์แมน
    • เยอรมัน ชอร์ตแฮร์ พอยน์เตอร์
    • ไอริช เซทเทอร์
    • กอร์ดอน เซทเทอร์
    • บอร์ซอย
    • ไอริช วูล์ฟฮาวด์
    • ดัชชุน
    • ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์
    • บาสเซ็ต ฮาวด์

Close modal