IAMS TH
วิธีดูแลลูกสุนัขให้เติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย
วิธีดูแลลูกสุนัขให้เติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย

adp_description_block31
วิธีดูแลลูกสุนัขให้เติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย

  • แบ่งปัน

หากคุณอยากมีเพื่อนเล่นแก้เหงาหรือเพื่อนแท้ที่คอยอยู่เคียงข้าง ขอแนะนำให้รับเลี้ยงลูกสุนัขไว้สักตัว แต่ต้องมั่นใจด้วยว่าคุณสามารถดูแลรับผิดชอบเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ได้ เพราะลูกสุนัขต้องการความรักความเอาใจใส่เพื่อให้เติบโตอย่างมีความสุขและมีสุขภาพดี
 

การดูแลลูกสุนัขไม่ใช่แค่การให้อาหาร มอบความรัก หรือชวนเล่นเป็นครั้งคราว คุณจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสม ฝึกพวกเค้าให้รู้จักขับถ่ายเป็นที่ รวมถึงต้องพาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการดูแลทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณและเจ้าตัวน้อยมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันมากขึ้น คุณจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงการเจริญเติบโตของพวกเค้า สำหรับผู้เลี้ยงที่ไม่มั่นใจหรือมีความกังวล ในบทความนี้จะบอกเคล็ดลับและวิธีดูแลลูกสุนัขในช่วง 2 – 3 เดือนแรกให้ทุกคนได้รู้กัน
 

การนำลูกสุนัขกลับบ้าน

มีอะไรบ้างที่เราควรรู้เกี่ยวกับการดูแลลูกสุนัข? มาเริ่มกันที่การรับลูกสุนัขเข้าบ้านวันแรก คุณควรจัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นอันตรายอยู่รอบ ๆ ตัวลูกสุนัข เช่น สารเคมี สายไฟ ต้นไม้ที่มีพิษ ของมีคม และข้าวของที่แตกหักง่าย เพราะลูกสุนัขก็เปรียบเหมือนทารกตัวน้อย ๆ พวกเค้าบอบบางแต่ก็มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น นอกจากนี้คุณต้องซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม อย่างเช่น ชามอาหาร ปลอกคอ สายจูง และเบาะนอนนุ่ม ๆ สำหรับพักผ่อน
 

การให้อาหารลูกสุนัข

หนึ่งในการดูแลที่สำคัญคือการเลือกโภชนาการที่เหมาะสม ควรเลือกสูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ เนื่องจากพวกเค้ามีความต้องการแตกต่างจากสุนัขวัยอื่น อีกทั้งยังต้องการสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี 
 

การเปลี่ยนมาให้อาหารสำหรับสุนัขโตจะขึ้นอยู่กับขนาดพันธุ์ สำหรับสุนัขพันธุ์เล็กหรือพันธุ์กลาง คุณสามารถเปลี่ยนสูตรอาหารได้เมื่อพวกเค้ามีอายุ 9 – 12 เดือน แต่หากเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ ควรเปลี่ยนเมื่อมีอายุ 12 – 24 เดือน นอกจากการให้อาหารที่ดีและเหมาะสมแล้ว อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มสะอาดไว้ให้พวกเค้าด้วย
 

ตารางการให้อาหารสำหรับลูกสุนัข

  • 6 – 12 สัปดาห์ - 4 มื้อต่อวัน 
  • 3 – 6 เดือน - 3 มื้อต่อวัน
  • 6 – 12 เดือน - 2 มื้อต่อวัน

ไอแอมส์™ มีผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับลูกสุนัขและสุนัขโตให้เลือกหลากหลาย โดยผลิตภัณฑ์ของเราคัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังอุดมด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ มั่นใจได้เลยว่าน้องหมาของคุณจะเพลิดเพลินกับอาหารทุกคำที่พวกเค้าลิ้มรส
 

การพบสัตวแพทย์และการฉีดวัคซีน

การไปพบสัตวแพทย์เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการดูแลลูกสุนัข การเข้าพบครั้งแรกจะช่วยให้คุณรับรู้ข้อมูลสุขภาพโดยรวมของเจ้าตัวน้อย คุณหมอจะแจ้งตารางการฉีดวัคซีนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย

  • ตารางการฉีดวัคซีน
  • การทำหมัน
  • การฝึกขับถ่าย
  • การฝึกทำตามคำสั่งพื้นฐาน
  • การสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ
  • โภชนาการที่เหมาะสม
  • การถ่ายพยาธิ

การฝึกเข้าสังคมให้ลูกสุนัข

ลูกสุนัขควรได้พบเจอกับผู้คน เพื่อนหมาตัวอื่น และเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างความคุ้นเคยและเรียนรู้ที่จะปรับตัว โดยเวลาที่สำคัญที่สุดในการฝึกเข้าสังคมคือช่วงอายุระหว่าง 3 – 12 สัปดาห์ และแนะนำให้ฝึกอย่างต่อเนื่อง
 

การฝึกขับถ่ายให้ลูกสุนัข

คุณควรเริ่มฝึกขับถ่ายให้ลูกสุนัขตั้งแต่วันแรกที่พาเข้าบ้าน เพื่อปลูกฝังให้พวกเค้าขับถ่ายเป็นที่ ไม่ต้องคอยทำความสะอาดทุกครั้ง เริ่มต้นฝึกด้วยการเลือกพื้นที่ขับถ่ายนอกบ้าน จากนั้นพาลูกสุนัขไปที่ดังกล่าวเมื่อถึงเวลาขับถ่าย ให้รางวัลทันทีหลังจากพวกเค้าขับถ่ายเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการทำโทษไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เพราะจะทำให้ลูกสุนัขหวาดกลัวและอาจแสดงท่าทีก้าวร้าว
 

การฝึกที่ดีที่สุดคือการฝึกในเชิงบวก หรือก็คือการให้รางวัลเมื่อพวกเค้าทำได้ดีหรือทำตัวน่ารัก และควรกำหนดระยะเวลาการฝึกเป็นช่วงสั้น ๆ เพื่อไม่ให้ลูกสุนัขรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยจนเกินไป
 

การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน

น้องหมาก็มีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันเช่นเดียวกัน ทั้งการมีกลิ่นปาก ฟันหลุด และโรคปริทันต์ ซึ่งพวกเค้ามักจะไม่แสดงอาการเจ็บปวดให้เห็นอย่างชัดเจน ผู้เลี้ยงจึงควรดูแลช่องปากและฟันของพวกเค้าเป็นประจำ โดยควรเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อยหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการดูแลดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวน้อยของคุณเพิ่มเติมได้
 

การออกกำลังกายสำหรับลูกสุนัข

แม้จะเป็นวัยที่เต็มไปด้วยพลัง แต่ผู้เลี้ยงควรควบคุมปริมาณและเวลาในการออกกำลังกายของลูกสุนัขให้เหมาะสม และปล่อยให้พวกเค้าได้พักผ่อนทุกครั้งที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการให้เล่นเป็นเวลานาน ๆ เพียงครั้งเดียว แนะนำให้พาออกไปเดินเล่นระยะสั้น ๆ วันละสองครั้งแทน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลลูกสุนัข

  1. ควรดูแลลูกสุนัขอย่างไรบ้าง?
  2. สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง ขั้นตอนการดูแลเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรรู้

    • ให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล
    • เตรียมน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอ
    • ใช้วิธีฝึกในเชิงบวก เน้นการให้รางวัลและหลีกเลี่ยงการทำโทษ
    • แบ่งเวลามาเล่นและทำกิจกรรมกับลูกสุนัขเป็นประจำ
    • เข้าพบสัตวแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง
    • เรียนรู้ตารางการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์

     

  3. เราจะรับมือลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ ได้อย่างไร?
  4. ลูกสุนัขเต็มไปด้วยพลังงาน และพวกเค้าอาจทำให้คุณปวดหัวหากไม่ได้ปลดปล่อยมันออกมา คุณจึงควรฝึกและจัดตารางการออกกำลังกายให้พวกเค้าทุกวัน เช่น ไปเดินเล่นหรือเล่นคาบของ เมื่อพวกเค้าเป็นเด็กดีก็ควรให้รางวัล วิธีนี้จะทำให้ลูกสุนัขเรียนรู้ว่าพฤติกรรมที่ดีจะได้รับการตอบแทน

  5. อะไรคือสิ่งแรกที่ควรสอนลูกสุนัข?
  6. น้องหมาไม่รู้วิธีการอยู่ในบ้าน พวกเค้าไม่ได้มีทักษะนี้ตั้งแต่เกิด เราจำเป็นต้องสอนกฎการอยู่ในบ้านและฝึกคำสั่งพื้นฐานบางอย่างให้กับพวกเค้า เริ่มต้นด้วยการสอนให้รู้จักชื่อ จากนั้นจึงฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่และฝึกการเข้าสังคมอย่างเหมาะสม

  • พรีไบโอติก และโปไบโอติกสำหรับสุนัข
    พรีไบโอติก และโปไบโอติกสำหรับสุนัข
    adp_description_block114
    พรีไบโอติก และโปไบโอติกสำหรับสุนัข

    • แบ่งปัน

    เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพโดยรวมของสุนัข เรามักจะมองข้ามสุขภาพของลำไส้ แต่ความจริงแล้ว ลำไส้มีความสำคัญไม่แพ้อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายเลย นี่ทำให้พรีไบโอติกและโปรไบโอติกเริ่มมีบทบาทมากขึ้น สองสิ่งนี้คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของสุนัข มันช่วยเสริมการย่อยอาหาร ต่อสู้กับเชื้อโรค และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

     

    โปรไบโอติกคืออะไร?

    โปรไบโอติกมาจากคำภาษาละติน 'สำหรับ (pro)' และคำภาษากรีก 'ชีวิต (bio)' ซึ่งหมายถึง “สำหรับชีวิต” หรือ “ส่งเสริมชีวิต” โปรไบโอติกเป็นแบคทีเรียและยีสต์ชนิดดีซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพของสุนัข มันช่วยฟื้นฟูและรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ในร่างกายของสุนัขมีโปรไบโอติกอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อยคือ

    • แลคโตบาซิลลัส เอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus Acidophilus)
    • เอ็นเทอโรค็อคคัส ฟีเชียม (Enterococcus Faecium)
    • บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (Bifidobacterium Lactis)
    • แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ (Lactobacillus Casei)
    • บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว (Bifidobacterium Breve)

    พรีไบโอติกคืออะไร?

    หลายคนอาจสับสนและคิดว่าพรีไบโอติกคือตัวยับยั้งโปรไบโอติก แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองทำงานร่วมกัน พรีไบโอติกเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของโปรไบโอติก
     

    ประโยชน์ของโปรไบโอติก

    โปรไบโอติกเป็นส่วนผสมที่จำเป็นในอาหารสุนัข และมีประโยชน์มากมาย เช่น

    • ช่วยเสริมระบบย่อยอาหาร
    • เสริมระบบภูมิคุ้มกัน
    • ต่อสู้กับแบคทีเรียที่เป็นอันตราย
    • บรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น อาการท้องเสียและลำไส้อักเสบ
    • ป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
    • ช่วยเสริมสมดุลของอารมณ์

    เราจะเสริมโปรไบติกให้สุนัขเมื่อความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากความเครียด การเปลี่ยนอาหาร หรือการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยความผิดปกตินี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น อาหารไม่ย่อย

     

    โปรไบโอติกช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและท้องไส้ปั่นป่วนได้หรือไม่?

    โปรไบโอติกมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ด้วยการควบคุมปริมาณและปรับสมดุลแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้

     

    นอกจากจะส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหารแล้ว โปรไบโอติกยังช่วยลดปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะ รวมถึงลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการท้องเสีย ทั้งนี้ในปี 2009 มีผลการศึกษาจากประเทศไอร์แลนด์ โดยพบว่าการเสริม “บิฟิโดแบคทีเรียม อะนิมอลิสสายพันธุ์เฉพาะ” (Bifidobacterium Animalis) ช่วยให้อาการท้องเสียหายเร็วขึ้น จากเจ็ดเหลือเพียงสี่วันเท่านั้น

     

    ให้โปรไบโอติกลูกสุนัขได้หรือไม่?

    คำตอบคือได้ โปรไบโอติกช่วยปรับสมดุลและพัฒนาระบบนิเวศของแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และลดการเกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก รวมไปถึงการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

     

    จำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนให้โปรไบโอติกสุนัขหรือไม่?

    จำเป็นมาก คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนให้โปรไบโอติกหรือพรีไบโอติกสุนัขเสมอ เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะมีคุณภาพสูงและมีได้มาตรฐาน สัตวแพทย์สามารถแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขของคุณได้ 

     

    ควรเลือกโปรไบโอติกให้สุนัขอย่างไร?

    เนื่องจากพ่อแม่สุนัขให้ความสำคัญกับสุขภาพระบบทางเดินอาหารของสุนัขมากขึ้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรไบโอติกจึงมีบทบาทมากขึ้น ขอแนะนำไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมรูปแบบเม็ด มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวง่าย ที่สำคัญคือมีส่วนผสมของพรีไบโอติกและโปรไบโอติกที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีสุขภาพดี

     

    อาการท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด หรืออาเจียน บ่งบอกถึงปัญหาในระบบทางเดินอาหาร หากน้องหมาของคุณมีอาการเหล่านี้ สามารถบรรเทาได้ด้วยการเสริมโปรไบโอติกที่มีบาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus Subtilis) และฟรุคโต โอลิโกแซคคาไรค์ (FOS) โปรไบโอติกทั้งสองชนิดจะช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในอุจจาระ ลดการผลิตแอมโมเนียและกลิ่นอุจจาระ พร้อมทั้งเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้

     

    ประโยชน์ของโปรไบโอติกสำหรับสุนัขนั้นมีมากมาย ช่วยส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหาร ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของสุนัข การเสริมโปรไบโอติกจะช่วยให้น้องหมาสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น

Close modal