IAMS TH
ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?
ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?

adp_description_block345
ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?

  • แบ่งปัน

การนำลูกสุนัขตัวใหม่เข้าบ้านเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่ายินดี แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มาพร้อมความรับผิดชอบมากมาย หนึ่งในนั้นคือการพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อตรวจเช็กปัญหาสุขภาพแอบแฝงและสุขภาพโดยรวม อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ผู้เลี้ยงจะปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน การให้อาหาร การฝึกสอน และวิธีการดูแลต่าง ๆ หากไม่แน่ใจว่าควรพาลูกสุนัขไปพบคุณหมอเมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน ติดตามคำตอบและเรื่องน่ารู้อีกมากมายได้ในบทความนี้

 

ลูกสุนัขต้องพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?

ลูกสุนัขเป็นช่วงวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ผู้เลี้ยงควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทุก ๆ 3 – 4 สัปดาห์ แต่หากจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษอาจมีการนัดพบบ่อยขึ้น ทั้งนี้ก่อนพาเจ้าตัวน้อยไปพบคุณหมอ คุณควรสอบถามข้อมูลการฉีดวัคซีนหรือการรักษาต่าง ๆ จากฟาร์มหรือผู้เพาะพันธุ์ให้เรียบร้อย และในกรณีที่รับเลี้ยงสุนัขไร้บ้านก็ควรแจ้งให้คุณหมอทราบเช่นกัน

หากคุณสังเกตพบอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบพาเจ้าตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์ในทันที

  • บาดแผลบริเวณดวงตา
  • อาการลมพิษ
  • แผลเปิด
  • อาการชัก
  • เป็นลม หมดสติ
  • มีรอยกัด
  • หายใจลำบาก
  • อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
  • อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • อาการเจ็บป่วยอื่น ๆ

ข้อควรรู้ – แม้จะมีสมุดฉีดวัคซีนหรือหลักฐานการตรวจยืนยันจากผู้เพาะพันธุ์ คุณก็ควรพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เพิ่มเติม
 

การตรวจสุขภาพประจำปี

ลูกสุนัขจำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีเช่นเดียวกับคน นอกจากการฉีดวัคซีนกระตุ้นแล้ว คุณหมอจะตรวจเช็กสุขภาพหัวใจ ปอด ดวงตา หู พร้อมมองหาอาการผิดปกติต่าง ๆ และอาจทำการทดสอบพื้นฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
 

หลังการตรวจเช็กสุขภาพ คุณหมออาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนสูตรอาหาร เพิ่มหรือลดการออกกำลังกาย รวมถึงอาจต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดียิ่งขึ้น ผู้เลี้ยงควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าตัวน้อยที่คุณรัก อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสุขภาพประจำปี คุณสามารถสอบถามหรือขอปรึกษาเรื่องเหล่านี้จากสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้

  • การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
  • รายงานสุขภาพ
  • โภชนาการที่เหมาะสม
  • คำถามเกี่ยวกับการดูแล การฝึก หรือปัญหาที่สงสัย

ลูกสุนัขฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

ลูกสุนัขเกิดมาพร้อมระบบภูมิคุ้มกันที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ อย่างไรก็ตาม พวกเค้าจะเริ่มสูญเสียภูมิคุ้มกันเหล่านี้เมื่ออายุ 6 – 8 สัปดาห์ จึงจำเป็นต้องเริ่มฉีดวัคซีนในช่วงเวลาดังกล่าว บวกกับนิสัยชอบดมและเลียเพื่อสำรวจทุกสิ่งรอบตัว ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการฉีดวัคซีนสามารถป้องกันไวรัสและโรคร้ายแรงได้ การฉีดวัคซีนจะเริ่มเมื่อลูกสุนัขมีอายุ 6 – 8 สัปดาห์ และต้องฉีดกระตุ้นซ้ำทุก 2 – 4 สัปดาห์จนกว่าลูกสุนัขจะมีอายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป บางกรณีสัตวแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 4 สัปดาห์ เนื่องจากมีการระบาดของโรคหรือเมื่อแม่หมาที่ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน คุณสามารถขอตารางการฉีดวัคซีนของลูกสุนัขจากสัตวแพทย์ได้
 

การฉีดวัคซีนสำหรับสุนัข

สุนัขจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัด และโรคตับอักเสบในสุนัข โดยวัคซีนทั่วไปที่สุนัขจำเป็นต้องได้รับมีดังนี้

  • เชื้อพาร์โวไวรัสในสุนัข
  • โรคไข้หัด
  • โรคตับอักเสบ
  • โรคพิษสุนัขบ้า
  • โรคติดเชื้อในทางเดินหายใจ
  • โรคลำไส้อักเสบติดต่อจากเชื้อโคโรนาไวรัสในสุนัข
  • โรคหลอดลมอักเสบติดต่อของสุนัข
  • โรคเลบโตสไปโรซีสหรือโรคไข้ฉี่หนู

การฉีดวัคซีนข้างต้นอาจมีการผสมที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์

  1. ควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?
  2. ในช่วงปีแรก คุณอาจต้องพาเจ้าตัวน้อยไปพบคุณหมอบ่อย ๆ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันที่จำเป็น และเมื่อฉีดวัคซีนครบถ้วนดีแล้ว คุณหมอจะเป็นผู้กำหนดนัดหมายเพิ่มเติม ทั้งนี้คุณจำเป็นต้องพาพวกเค้าไปตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาสุขภาพแอบแฝงด้วย

  3. เช็กลิสต์การตรวจสุขภาพครั้งแรกของลูกสุนัข มีอะไรบ้าง?
  4. หากเป็นการพบสัตวแพทย์ครั้งแรกของลูกสุนัข คุณควรพูดคุยกับผู้เพาะพันธุ์หรือศูนย์พักพิงเพื่อขอข้อมูลการฉีดวัคซีน การถ่ายพยาธิ หรือการรักษาต่าง ๆ ในกรณีที่ลูกสุนัขกำลังใช้ยาหรืออาหารเสริมอยู่ ให้พกติดตัวไปด้วย รวมถึงควรแจ้งสัตวแพทย์เกี่ยวกับอาหารหรือประเด็นปัญหาที่คุณพบเจอ

  5. ลูกสุนัขต้องเข้าพบสัตวแพทย์กี่ครั้ง?
  6. หากลูกสุนัขอายุน้อยกว่า 4 เดือน คุณควรพาลูกสุนัขไปหาสัตวแพทย์ทุก ๆ 3 หรือ 4 สัปดาห์ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยที่ต้องเริ่มฉีดวัคซีนแล้ว สัตวแพทย์จะจัดตารางเวลานัดหมายให้ คุณควรพาลูกสุนัขไปพบตามกำหนดเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเค้าจะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน

  • ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข
    ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข
    adp_description_block371
    ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข

    • แบ่งปัน

    สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารเคมีที่ร่างกายใช้ยับยั้งหรือชะลอการเกิดของอนุมูลอิสระ ซึ่งหากมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้นมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดความผิดปกติ และความเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ โดยที่สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างอนุมูลอิสระและหยุดการทำลายเซลล์ที่ดีในร่างกาย 
     

    นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังมีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยง โดยมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ซึ่งนี่คือเหตุผลที่อาหารสุนัขไอแอมส์™ ทุกสูตรมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ
     

    สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารอาหารสำคัญที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีส่วนช่วยให้ร่างกายของน้องหมาแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย อีกทั้งยังช่วยชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ ทั้งนี้ไอแอมส์™ ได้ทำการวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับน้องหมาสูงวัยโดยเฉพาะ
     

    ตามมาดูกันเลยว่าสารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขของไอแอมส์™ มีประโยชน์ต่อร่างกายของน้องหมาอย่างไรบ้าง

     

    คุณประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ

    โดยทั่วไปร่างกายสามารถผลิตสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาเองได้ รวมถึงสามารถพบได้ในพืชผักผลไม้บางชนิด สารต้านอนุมูลอิสระที่พบบ่อย ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสารประกอบที่เรียกว่าแคโรทีนอยด์ (เช่นลูทีนและเบต้าแคโรทีน) สำหรับอาหารสุนัขที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจะมีคุณประโยชน์ดังนี้:

    • ชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เกิดในร่างกาย
    • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับสุนัขสูงวัย
       

    การทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ

    สารอนุมูลอิสระจะถูกสร้างขึ้นในร่างกายโดยธรรมชาติและมีหน้าที่สำคัญในหลาย ๆ กระบวนการที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ แต่สารอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่มีความไม่เสถียรสูง และมักจับคู่กับโมเลกุลของเซลล์อื่น ๆ เช่น ไขมัน โปรตีน หรือดีเอ็นเอ (DNA) ซึ่งการจับคู่นี้ส่งผลให้เกิดความเสียหายตามมา
     

    เนื่องจากการทำปฏิกิริยากับโมเลกุลต่าง ๆ ทำให้เซลล์ในร่างกายขาดความสมดุล สุดท้ายก็ทำให้เซลล์ร่างกายเสียหายและตายไป โดยกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่าเปอร์ออกซิเดชัน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นกระบวนการที่มีประโยชน์ เพราะช่วยทำลายเซลล์ร่างกายที่หมดอายุออกไป อีกทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อโรคและปรสิต อย่างไรก็ตามหากเกิดกระบวนการนี้มากจนเกินไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและส่งผลให้เซลล์ที่ดีถูกทำลายไปด้วย
     

    สารต้านอนุมูลอิสระจะทำปฏิกิริยากับสารอนุมูลอิสระ เพื่อยับยั้งความเสียหายของเซลล์ในร่างกาย และช่วยเสริมให้เซลล์มีความเสถียรมากยิ่งขึ้นด้วย
     

    หากมีสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอที่จะยับยั้งกระบวนการเปอร์ออกซิเดชัน สารอนุมูลอิสระจะเริ่มทำลายเซลล์ร่างกายที่ดี ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันเสียหายจนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

     

    สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัขไอแอมส์™ สูตรสำหรับสุนัขโตและลูกสุนัข

    ทำไมสารต้านอนุมูลอิสระจึงมีความสำคัญสำหรับน้องหมา?

    น้องหมามีโอกาสได้รับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าเรา สารต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับน้องหมา เนื่องจากมีส่วนช่วยป้องกันความเสียหาย รวมถึงช่วยยับยั้งสารอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยและโรคร้ายต่าง ๆ 


    นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยส่งเสริมการทำงานของตับที่มีหน้าที่ทำให้สารพิษสามารถละลายในน้ำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สามารถขับออกจากร่างกายผ่านทางเดินอาหารและไตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
     

    ทั้งนี้จากผลงานวิจัยล่าสุดพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดมีผลต่อการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของน้องหมา โดยชี้ให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง


    อาหารสุนัขไอแอมส์™ สูตรสำหรับสุนัขโตและลูกสุนัขมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ ดังต่อไปนี้:

     

    สารต้านอนุมูลอิสระ

    แหล่งที่มา

    การทำงาน

    วิตามิน อี

    สารสกัดน้ำมันพืชและโทโคฟีรอล

    การกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

    เบต้าแคโรทีน

    วิตามินรวม ข้าวโพดบดละเอียด ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่และไขมันไก่

    เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือด และเพิ่มระดับแอนติบอดีในเลือด


    เมื่อทราบถึงประโยชน์และความจำเป็นของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีต่อน้องหมาแล้ว ต่อไปนี้คือรายชื่อสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดสำหรับน้องหมา

     

    สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีสำหรับน้องหมา
     

    วิตามิน ซี

    • หนึ่งในวิตามินที่สำคัญที่สุดสำหรับสุขภาพร่างกายของน้องหมา
    • มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมบาดแผลและลดการอักเสบ
    • เพิ่มพลังงานให้น้องหมาสามารถทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่


    วิตามิน อี

    • หนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดสำหรับน้องหมาที่ป่วยเป็นมะเร็ง
    • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
    • บำรุงหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและโรคหัวใจ


    เบต้าแคโรทีน

    • ถือเป็นอาหารเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับน้องหมา
    • ช่วยเพิ่มจำนวนแอนติบอดีในเลือด และช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคในน้องหมาสูงวัย


    โพลีฟีนอล

    • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม เนื่องจากช่วยให้สุขภาพร่างกายของน้องหมาแข็งแรง
    • ป้องกันจากโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งและเบาหวาน
       

    สารต้านอนุมูลอิสระหาได้จากที่ไหนบ้าง?

    สารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติพบได้ในสิ่งเหล่านี้:
     

    ผักและผลไม้

    สารต้านอนุมูลอิสระพบได้มากในผักและผลไม้ เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยสามารถพบสารต้านอนุมูลอิสระได้ในบลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี ลูกแพร์ กะหล่ำปลีแดง และคะน้า ทั้งนี้ควรตรวจสอบก่อนว่ามีผักและผลไม้ชนิดใดบ้างที่ปลอดภัยหรือเป็นอันตรายกับน้องหมา
     

    อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

    เพื่อให้เจ้าตัวน้อยร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดี เจ้าของควรเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินที่ดี เหมาะกับความต้องการในแต่ละช่วงวัย 
     

    โดยเริ่มจากการมองหาอาหารสุนัขที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ พรีไบโอติก วิตามิน แร่ธาตุ และมีสารที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เพื่อให้สารอาหารสำคัญดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของน้องหมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารอาหารเหล่านี้มีอัตราส่วนที่เหมาะสมต่อความต้องการของพวกเค้าด้วย
     

    เพื่อสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก แนะนำให้เลือกอาหารสุนัขไอแอมส์™ สูตรโปรแอคทีฟ เฮลท์™ โดยคุณสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับน้องหมาที่สุดจากการเลือกตามช่วงอายุของพวกเค้า

     

Close modal