สำหรับพ่อแม่ของเจ้าตัวน้อยสี่ขา พวกคุณคงอยากรู้ว่า “อาหารสุนัขสามารถเก็บได้นานแค่ไหน?” เชื่อเลยว่ามันเป็นหนึ่งในคำถามชวนสงสัยอันดับต้น ๆ ซึ่งในบทความนี้เราจะบอกข้อควรรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับวันหมดอายุของอาหารสุนัขให้คุณเอง
น้องหมาควรได้รับปริมาณอาหารและพลังงานที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยเจ้าของสามารถเลือกให้อาหารแบบเม็ดหรือแบบเปียกก็ได้ โดยอาหารเม็ดจะมีความกรุบกรอบ อร่อยเคี้ยวเพลิน ในขณะที่อาหารเปียกจะมีส่วนผสมของชิ้นเนื้อนุ่มและน้ำเกรวี่ที่อุดมไปด้วยธัญพืช วิตามิน และแร่ธาตุ แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารชนิดใด ก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล
อาหารสุนัขที่ดีควรมีโปรตีนสูงและควรมีกรดไขมันจำเป็นอย่างโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยให้สุขภาพผิวหนังของน้องหมาแข็งแรงและมีเส้นขนนุ่มเงางาม นอกจากนี้อาหารสุนัขควรมีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างการทำงานของระบบทางเดินอาหารและเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ
สำหรับการให้อาหารน้องหมา สิ่งสำคัญไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องคุณค่าทางโภชนาการหรือปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น แต่เจ้าของควรตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าอาหารยังคงสดใหม่อยู่ การเสิร์ฟอาหารสุนัขที่หมดอายุอาจทำให้เจ้าตัวน้อยได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นจึงควรอ่านฉลากและเช็กวันหมดอายุก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง
ระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้และเหมาะสำหรับการบริโภคจะเรียกว่าอายุการเก็บรักษา ส่วนวันหมดอายุจะเป็นวันแสดงการสิ้นสุดของคุณภาพของอาหาร โดยหลังจากวันที่กำหนด อาหารอาจเริ่มเน่าเสีย
ซึ่งอาหารสุนัขก็มีวันหมดอายุเช่นเดียวกับอาหารชนิดอื่น ๆ แม้ว่าจะมีการใช้สารกันบูดบางประเภทเพื่อต่ออายุการเก็บรักษาแล้วก็ตาม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของเหล่าน้องหมาตัวน้อย ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงจึงกำหนดวันหมดอายุหรือวันที่ควรบริโภคก่อนเอาไว้บนบรรจุภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น อาหารกระป๋องที่ยังไม่เปิดจะมีอายุการใช้งาน 2 ปีนับจากวันที่ผลิต ในขณะที่อาหารเม็ดมักมีอายุการเก็บรักษา 12 – 18 เดือน
ตามมาดูผลกระทบจากการเสิร์ฟอาหารหมดอายุให้น้องหมากัน:
หลังจากกินอาหารที่หมดอายุหรือเน่าเสียแล้ว น้องหมามักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเช่นเดียวกับคน อาการเหล่านี้อาจรวมถึงการอาเจียน ท้องเสีย และท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารหมดอายุอาจมีแบคทีเรียที่ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล ร่างกายจึงขับของเหลวออกมามากขึ้น นอกจากนี้อาหารสุนัขที่หมดอายุอาจมีเชื้อรา เช่น อาเจียนิท็อกซิน ซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารอย่างรุนแรง
โรคโบทูลิซึมจะสร้างความเสียหายแก่ระบบประสาท ส่งผลให้น้องหมามีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นอัมพาต ถือเป็นภาวะที่พบได้ยาก โดยเกิดจากกินอาหารที่ปนเปื้อน สารพิษจะถูกดูดซึมเข้าสู่ลำไส้และเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้น้องหมาเป็นอัมพาต
อีกหนึ่งผลกระทบจากการให้อาหารหมดอายุคือการขาดสารอาหาร อาหารที่หมดอายุแล้วมักสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุสำคัญไป น้องหมาก็จะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ส่งผลให้พวกเค้าอาจมีอาการเซื่องซึม กระดูกผิดปกติ และการทำงานของอวัยวะล้มเหลว ทั้งนี้ปัญหาขาดสารอาหารที่ควรได้รับการแก้ไขโดยทันที
แม้ว่าอาหารจะยังไม่หมดอายุและอยู่ในสภาพที่ดี แต่การจัดเก็บที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่การปนเปื้อนและการเสื่อมสภาพได้ ต่อไปนี้คือขั้นตอนการจัดเก็บเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและถนอมคุณภาพของอาหาร:
การซื้ออาหารจำนวนมากอาจช่วยให้คุณประหยัดเวลาและไม่ต้องเดินทางไปมาบ่อย ๆ แต่การกักตุนอาหารจำนวนมากก็เพิ่มโอกาสเสี่ยงให้อาหารสุนัขของคุณเสียก่อนที่จะบริโภคหมด
สามารถยืดอายุการเก็บรักษาของอาหารเปียกได้โดยเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง อาหารกระป๋องที่ยังไม่ได้เปิดควรห่อทับด้วยพลาสติก จากนั้นจึงเก็บไว้ในตู้เย็น
อาจใช้คลิปหนีบเพื่อปิดผนึกถุงอาหารและป้องกันความชื้น สามารถเก็บอาหารไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิมได้ แต่ควรจัดเก็บไว้ในพื้นที่ที่เย็นและแห้ง ไม่ค่อยร้อนและมีแสงเพียงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการเปิดบรรจุภัณฑ์ทิ้งไว้นาน ๆ
อาหารสุนัขที่หมดอายุแล้วจะต้องถูกทิ้งทันที โดยอาจนำไปย่อยสลายเป็นปุ๋ยหมักได้
คำตอบสั้น ๆ คือไม่ เมื่ออาหารสุนัขหมดอายุ คุณควรทิ้งทันที อาหารดังกล่าวอาจอยู่ในสภาพที่ไม่น่ากิน และยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของน้องหมาด้วย โดยอาจทำให้พวกเค้ามีอาการอาเจียนหรือท้องเสียได้
โดยทั่วไปจะมีวันหมดอายุระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์ สามารถเช็กได้บริเวณด้านข้างหรือด้านล่างของบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้อาหารเสียเปล่า ควรบริโภคให้หมดก่อนวันหมดอายุ
อาหารสุนัขแบบเม็ดมักจะเก็บไว้ได้นานถึง 18 เดือนหลังการผลิตหากมีการจัดเก็บอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าควรบริโภคให้หมดภายใน 6 สัปดาห์หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์
คุณอาจจะแปลกใจที่รู้ว่าอาหารสุนัขแบบเปียกก็มีวันหมดอายุ โดยอายุการเก็บรักษาคือ 2 ปีหลังจากวันที่ผลิต
น้องหมาที่กินอาหารหมดอายุหรือเน่าเสียเข้าไป อาจมีอาการอาเจียนหรือท้องเสีย
เชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นน้องหมาเจ็บปวด มีอาการตัวสั่น อึดอัด หรือรู้สึกไม่สบายตัว เรารู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้ทำให้พ่อแม่ปวดใจเสมอ
หลาย ๆ คนก็คงตกใจเมื่อน้องหมาอาเจียนหรือมีอาการท้องเสีย รวมถึงสงสัยว่าทำไมน้องหมาถึงอาเจียน น้องหมาท้องเสียเป็นเพราะอะไร? แล้วอาการแบบใดที่บ่งบอกถึงปัญหาที่ร้ายแรง? เรามาหาคำตอบและทำความเข้าใจอาการเหล่านี้ไปด้วยกัน
การอาเจียนเป็นปัญหาทั่วไปที่พบได้บ่อยและเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย มันคือการขับของเหลวในกระเพาะหรือลำไส้ส่วนบนของสุนัขอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้เกิดขึ้นก่อน เช่น น้ำลายไหล เลียริมฝีปาก และกลืนน้ำลายมากผิดปกติ สาเหตุของการอาเจียนไม่ได้ร้ายแรงทุกครั้งไป อาจเป็นเพราะน้องหมากินอาหารเร็วเกินหรือกลืนกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป แต่ในบางกรณีก็เป็นสัญญาณเตือนของปัญหาที่น่ากังวล เช่น การได้รับสารพิษ หรือการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องหมาท้องเสียนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากปัจจัยเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง อาการท้องไส้ปั่นป่วนในทางการแพทย์จะเรียกว่ากระเพาะและลำไส้อักเสบ โดยเกิดจากการอักเสบหรือการระคายเคือง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน การแพ้อาหาร การกินสิ่งแปลกปลอม การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส รวมถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น ตับอ่อนอักเสบหรือไตวาย
พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจสับสนระหว่างการอาเจียนกับการสำรอก โดยทั่วไปแล้วการสำรอกจะเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารไม่นาน และเป็นอาการที่ไม่ต้องเกร็งช่องท้อง อาหารที่ไม่ได้ย่อยจะถูกขับออกมาทางปากโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ในทางกลับกัน การอาเจียนจะอาเจียนเกี่ยวข้องกับการหดตัวของช่องท้อง ส่งผลให้อาหารที่ย่อยแล้วบางส่วนผสมกับน้ำดีถูกขับออกมา
แน่นอนว่าอาการปวดท้องทำให้น้องหมารู้สึกแย่และไม่สบายตัว พ่อแม่จึงควรทำความเข้าใจลักษณะอาการเพื่อดูแลและบรรเทาความเจ็บปวดได้ทันท่วงที โดยอาการที่พบบ่อยมีดังนี้
ในกรณีที่รุนแรง น้องหมาอาจแสดงอาการเหล่านี้
หากน้องหมามีอาการเจ็บปวด เบื่ออาหาร แสดงอาการขาดน้ำ มีไข้ หรือมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย กระสับกระส่าย หรือตัวสั่น ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงปัญหาที่ควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ในกรณีที่รุนแรง อาการท้องเสียอาจทำให้น้องหมาน้ำหนักลดและอาเจียนบ่อย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคตับหรือไต ตับอ่อนอักเสบ และโรคมะเร็ง แนะนำให้หมั่นสังเกตพฤติกรรมและอาการเครียดในสุนัข เนื่องจากมักจะทำให้อาการรุนแรงขึ้นหรือกระตุ้นให้เกิดปัญหากระเพาะอาหาร
สำหรับการรักษาอาการสุนัขท้องเสีย วิธีรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุเป็นส่วนใหญ่ เช่น หากสุนัขถ่ายเหลวจากการเปลี่ยนอาหารหรือการกินอาหารเร็วเกินไป สามารถดูแลรักษาที่บ้านได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการร้ายแรงอื่น ๆ ร่วมด้วย แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติม
เมื่อสุนัขท้องเสีย วิธีรักษาทั่วไปคือ
รู้หรือไม่? การเสริมโพรไบโอติกเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันที่ดีที่สุด ขอแนะนำไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมรูปแบบเม็ดเพื่อสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินอาหาร อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ใช่การรักษาแต่เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราว หากน้องหมาท้องเสียหรืออาเจียนอย่างต่อเนื่อง ควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กอย่างละเอียด
ในบางกรณีที่สุนัขท้องเสีย รักษาเบื้องต้นได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่หากเกิดขึ้นบ่อยหรือมีอาการรุนแรงก็จำเป็นต้องไปพบสัตวแพทย์ อายุและสุขภาพโดยรวมของสุนัขก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลรักษาเช่นกัน การตรวจพบอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้การรักษาง่ายขึ้นและลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยได้ หากน้องหมาอาเจียนหลายครั้งในหนึ่งวัน อาเจียนเสมหะบ่อย หรืออาการไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว
อาหารปรุงเอง เช่น เนื้อไก่ มันฝรั่งต้ม และข้าว เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสุนัขท้องเสีย แต่ไม่ควรให้ติดต่อกันในระยะยาว เพราะสุนัขอาจได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนตามที่ต้องการ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการให้อาหารดิบ เนื่องจากมีเชื้อโรคที่เป็นอันตราย เช่น ซัลโมเนลลา ทางที่ดีควรปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์เพื่อความปลอดภัยของน้องหมาที่คุณรัก
สุนัขท้องร้องโครกคราก วิธีแก้มีอะไรบ้าง? นอกจากการปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์แล้ว คุณสามารถให้อาหารเสริมเพื่อสุขภาพระบบทางเดินอาหารได้ด้วย ลองเลย! ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมรูปแบบเม็ดเพื่อสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินอาหาร มีส่วนประกอบของพรีไบโอติกและโพรไบโอติกที่เป็นประโยชน์กับลำไส้ เนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวง่าย ปราศจากสารสังเคราะห์ สารปรุงแต่งกลิ่นรส และวัตถุกันเสีย จึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเสริมสร้างสุขภาพทางเดินอาหารของสุนัขได้เป็นอย่างดี
การทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาอาการอาเจียนและท้องเสียของสุนัข จะช่วยให้น้องหมามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หากคุณมีข้อสงสัยหรือความกังวลใจ อย่าลังเลที่จะปรึกษาสัตวแพทย์