การให้อาหารสุนัขที่มีคุณค่าทางโภชนาการแก่สุนัขของคุณ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าพวกเค้าจะได้รับปริมาณโปรตีน ไขมัน และไฟเบอร์ที่เพียงพอ สารอาหารทั้งสามชนิดมีความสำคัญต่อสุขภาพของสุนัขมาก และทั้งสามก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในทุกผลิตภัณฑ์ของ ไอแอมส์™
โปรตีนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในอาหารสุนัขของไอแอมส์™
โปรตีนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของสุนัขแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมโปรตีนในร่างกาย ซึ่งกรดอะมิโนบางตัวร่างกายก็ไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับผ่านทางอาหารเท่านั้น
อาหารสุนัขของ ไอแอมส์™ ได้รับการทดสอบและการันตีว่ามีโปรตีนที่สกัดจากเนื้อสัตว์คุณภาพดีซึ่งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสุนัข
กรดไขมันที่จำเป็นในอาหารสุนัขของ ไอแอมส์™
ไขมันเป็นแหล่งพลังงาน ซึ่งสุนัขต้องการกรดไขมันสองชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย นั่นก็คือกรดไขมันโอเมก้า 6 และ โอเมก้า 3 โดยกรดไขมันโอเมก้า 6 พบได้ในไขมันไก่และข้าวโพด ส่วนกรดไขมันโอเมก้า 3 พบได้ในคาโนลา เนื้อปลาป่น หรือเมล็ดลินิน กรดทั้งสองชนิดมีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างสุขภาพผิวหนังและเส้นขน รวมถึงโครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ด้วย
เส้นใยอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในอาหารสุนัขของเรา
จากงานวิจัยไอแอมส์™ แสดงให้เห็นว่าเส้นใยอาหารที่ได้จาก บีทพัลป์ นั้น ช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ส่วนของใยอาหารที่ถูกย่อยด้วยจุลินทรีย์และแบคทีเรียในลำไส้ จะช่วยสร้างกรดไขมันขึ้นมา ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งพลังงานสำหรับเซลล์ในลำไส้ ส่วนที่ไม่สามารถย่อยได้ก็จะกลายเป็นอุจจาระตามปกติ
การใช้ไฟเบอร์ที่ถูกย่อยได้ดีเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น เกิดก๊าซส่วนเกินในกระเพาะ ขณะที่ใช้เส้นใยอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้มากไป เช่น เปลือกถั่วลิสง จะทำให้สุนัขอุจจาระมากกว่าปกติ และไม่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่เพียงพอ
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของไอแอมส์™ มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ที่ปรับให้เหมาะสมและมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารของสุนัขแข็งแรง
การเปลี่ยนอาหารสุนัขเป็นอาหารใหม่ต้องใช้การวางแผน เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่มีนิสัยคงเส้นคงวา ชอบอาหารปัจจุบันที่มีอยู่แล้วเช่นเดียวกับเรา พวกเค้าคุ้นเคยกับอาหารเดิมและอาจไม่ตื่นเต้นกับกิจวัตรใหม่ ๆ เคล็ดลับการให้อาหารสุนัขเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขของคุณพึงพอใจ
เมื่อสุนัขของคุณผ่อนคลายพร้อมเปลี่ยนอาหาร ให้คำนึงว่า “ช้าและมั่นคง” เริ่มต้นด้วยการผสมอาหารใหม่ 25% กับอาหารเดิม 75% ปรับสัดส่วนอย่างช้า ๆ ในอีก 3 วันข้างหน้าโดยค่อย ๆ เพิ่มอาหารใหม่และลดปริมาณอาหารเดิม นี่คือตารางการให้อาหารตัวอย่าง :
• วันที่ 1: อาหารใหม่ 25%, อาหารเดิม 75%
• วันที่ 2: อาหารใหม่ 50%, อาหารเดิม 50%
• วันที่ 3: อาหารใหม่ 75%, อาหารเดิม 25%
ในตอนท้ายของกระบวนการเปลี่ยนอาหารนี้ คุณควรให้อาหารใหม่ 100% สุนัขของคุณอาจต้องการกินอาหารเดิมอย่างเดียว หรือไม่กินเลย ไม่ต้องกังวล คุณต้องใช้ความอดทนซักหน่อย เค้าอาจจะไม่กินอาหารได้หนึ่งหรือสองวันโดยไม่ส่งผลให้ป่วย
เมื่อนำอาหารใหม่เข้าไปในบ้านของคุณ ให้เทลงในชามสุนัขของคุณและบอกว่าเค้าควรกินมัน อาจทำให้สุนัขของคุณหิวโหย แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะแสดงว่าใครเป็นเจ้านาย มันดีกว่าที่จะแนะนำอาหารใหม่โดยใช้น้ำเสียงที่ไพเราะ และกระตุ้นให้เขาลองอาหารใหม่
ความเพียรพยายามเป็นกุญแจสำคัญ! ในช่วงสองวันแรกของการเปลี่ยนอาหาร อย่าให้ขนมหรืออาหารเพิ่ม สุนัขเองก็ฝึกเราเท่าที่เราฝึกเค้า การยอมแพ้ต่อความต้องการของเค้า ทำให้เค้าปฏิเสธซ้ำ ๆ และนั่นทำให้ยากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
การเปลี่ยนอาหารอาจมีความท้าทายมากขึ้น เมื่อเปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ด หากสุนัขของคุณยังคงต่อต้านการกินอาหารเม็ดให้ผสมในน้ำอุ่นเล็กน้อย คุณอาจต้องอุ่นอาหารเปียกในไมโครเวฟสักสองสามวินาที หากคุณผสมอาหารกับน้ำ อย่าลืมทิ้งเศษอาหารที่ยังไม่ได้กินหลังจาก 20 นาทีเพื่อป้องกันการเน่าเสีย กฎเดียวกันนี้สามารปรับใช้กับอาหารกระป๋องและอาหารซอง หลังจากที่สุนัขคุ้นเคยกับอาหารเปียกแล้ว คุณก็สามารถเปลี่ยนเค้าให้กินอาหารแห้งได้ การทำเช่นนี้ให้ทำตามคำแนะนำการผสมที่อธิบายไว้ข้างต้น

