IAMS TH
Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog
Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog

adp_description_block219
อาการบ่งบอกและวิธีดูแลสุนัขท้องอืดหรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร

  • แบ่งปัน

อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกตัว แต่อาจพบได้บ่อยในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่มีหน้าอกลึกและแคบ ปัญหานี้ถือเป็นภาวะอันตรายที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นการเรียนรู้วิธีสังเกตและดูแลเมื่อน้องหมามีอาการท้องอืดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม

อาการท้องอืดคืออะไร?

อาการท้องอืดหรืออีกชื่อหนึ่งคือภาวะกระเพาะอาหารขยายและบิดตัว เกิดจากการมีปริมาณลมหรือแก๊สสะสมมากกว่าปกติจนทำให้กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและบิดหมุน ส่งผลให้ความดันภายในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น เกิดการกดทับของอวัยวะรอบข้าง ซึ่งทำให้ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติจนน้องหมาเกิดภาวะช็อกได้ และนอกจากลักษณะของอาการที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับอาการท้องอืดที่เจ้าของควรรู้ดังนี้: 

  • อาการท้องอืดจัดเป็นภาวะอันตรายต้องได้รับการดูแลรักษาโดยทันที
  • ภาวะท้องอืดอาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ
  • สาเหตุของอาการท้องอืดยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน
  • แต่ละปีในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีน้องหมากว่า 36,000 ตัวมีอาการท้องอืด และ 30% ของน้องหมาที่มีอาการเสียชีวิต
  • อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกช่วงวัย
  • น้องหมาบางสายพันธุ์มีโอกาสท้องอืดมากกว่าน้องหมาทั่วไป โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีหน้าอกลึกและแคบ
  • การที่กระเพาะอาหารขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณช่องท้องลดลง

 ลักษณะของอาการท้องอืด

ในระยะแรกของอาการ น้องหมาจะรู้สึกอึดอัดมาก อาจจะเดินวนไปมาและส่งเสียงร้อง หรือพยายามขยับไปมาเพื่อหาท่าทางที่สบายตัว พวกเค้าอาจมีท่าทีกังวล เลียหรือจ้องไปที่ท้องของตัวเอง รวมถึงอาจมีอาการคล้ายอาเจียน แต่ไม่มีอะไรออกมา

 

นอกจากนี้อาจพบอาการอื่น ๆ เพิ่มด้วยได้ เช่น อ่อนแรง ท้องพองขยายตัว และอาจเกิดภาวะช็อก ซึ่งส่งผลให้น้องหมาหัวใจเต้นเร็วและมีอาการหอบ;
 

หากพบว่าน้องหมามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ในทันที!

  • หอนหรือส่งเสียงร้องครวญคราง
  • มีท่าทางไม่สบายตัว ดูอึดอัด
  • กระสับกระส่าย
  • เหงือกซีด
  • พยายามอาเจียนแต่ไม่มีอะไรออกมา
  • หอบหรือหายใจเร็ว
  • อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
  • วิตกกังวล
  • อ่อนแรง
  • ท้องบวม (โดยเฉพาะด้านซ้าย)
     

 อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้เมื่อน้องหมาท้องอืด มีดังนี้:
 

กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้น:

เนื่องจากมีลมหรือแก๊สสะสมในท้อง


น้ำลายไหลมาก:

ปัญหาในระบบทางเดินอาหารอาจทำให้น้องหมาน้ำลายไหลมากกว่าปกติ
 

พฤติกรรมกระสับกระส่าย:

อาการกระสับกระส่ายเป็นสัญญาณที่พบได้ทั่วไปเมื่อน้องหมาท้องอืด และพวกเค้าอาจส่งเสียงร้องเมื่อโดนกดที่บริเวณท้อง
 

หอบ หายใจสั้น:

การขยายตัวของกระเพาะอาหารทำให้น้องหมาหายใจลำบาก
 

หัวใจเต้นเร็วขึ้น:

เนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมถูกกดไม่สามารถขยายตัวได้ ส่งผลให้เกิดภาวะหายใจลำบากและหัวใจมีอัตราการเต้นเร็วกว่าปกติ

 

สาเหตุของอาการท้องอืด

แม้ว่าจะหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็มีส่วนที่ทำให้น้องหมามีอาการท้องอืด:

  • กินอาหารปริมาณมากในมื้อเดียว แทนการแบ่งมื้ออาหารเป็น 2 – 3 ครั้งต่อวัน
  • กินมากเกินไปและดื่มน้ำเร็วเกินไป
  • อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น ต้องอยู่ในกรงหรือต้องไปพบสัตวแพทย์
  • วิ่งเล่นทันทีหลังกินอาหาร

 

วิธีป้องกันอาการท้องอืด

การทำตามคำแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยป้องกันอาการท้องอืดในสุนัขได้ แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่อาจรับประกันได้ว่าคำแนะนำจะเกิดผลจริงกับน้องหมาทุกตัว 

  • ให้กินอาหารทีละน้อย ๆ อาจแบ่งให้อาหารเป็น 2 – 3 มื้อต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเป็นเวลา  1 – 2 ชั่วโมงหลังกินอาหาร
  • อย่าให้น้องหมาดื่มน้ำปริมาณมากก่อนหรือหลังกินอาหารและหลังออกกำลังกาย
  • หากที่บ้านมีน้องหมา 2 ตัวขึ้นไป ควรแยกให้อาหาร เพื่อป้องกันพฤติกรรมกินเร็วและภาวะเครียด
  • หากเป็นไปได้ ควรกำหนดเวลาให้อาหารในช่วงเวลาที่คุณว่างและสามารถสังเกตพฤติกรรมหลังการกินของพวกเค้าได้
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน
  • หากพบว่าน้องหมามีอาการท้องอืด ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ทันที


การดูแลรักษาอาการท้องอืด 
 

อาการท้องอืดสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่?

อาการท้องอืดในสุนัขจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยทันที ในกรณีที่น้องหมาท้องอืดไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการกระเพาะบิด อาจได้รับการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา แต่หากตรวจพบว่ามีอาการท้องบวม กระเพาะขยายและบิดตัว บางกรณีก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัด

 

ตัวเลือกในการรักษาอาการท้องอืด

การระบายลมหรือแก๊สออกมาโดยใช้วิธีสอดท่อเข้าไปในกระเพาะอาหาร จะช่วยบรรเทาแรงกดต่ออวัยวะโดยรอบและป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อของกระเพาะอาหารเสื่อมสภาพ แต่ในบางกรณีก็ไม่สามารถใช้วิธีสอดท่อได้เพียงเดียว อาจมีต้องการผ่าตัดร่วมด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีการรักษาโดยให้ของเหลวที่เสริมด้วยอิเล็กโทรไลต์ทางเส้นเลือดเพื่อปรับการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะที่สำคัญได้ตามปกติ ในหลายกรณีจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ และยาที่มีฤทธิ์ในการรักษาภาวะเลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลงอีกด้วย

 

เมื่อน้องหมาอยู่ในอาการคงที่พร้อมผ่าตัดแล้ว สัตวแพทย์จะทำการผ่าตัดที่เรียกว่า “Gastropexy” เพื่อทำให้กระเพาะอาหารกลับสู่ตำแหน่งปกติพร้อมเอาเนื้อเยื่อผนังกระเพาะอาหารที่ตายแล้วออกไป รวมถึงจะยึดผนังกระเพาะเข้ากับผนังของลำตัว ทำให้โอกาสที่กระเพาะอาหารจะบิดหมุนลดลง และช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้ดีขึ้น

 

เลือกให้อาหารที่ย่อยง่าย

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้คือการเลือกอาหารสุนัขคุณภาพดี มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ ช่วยให้ย่อยง่าย 
 

การดูแลเรื่องอาหารถือเป็นวิธีลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาที่ดีสุด อย่างน้อยก็จนกว่าจะสามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการท้องอืดได้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลเต็ม 100% แต่ก็ช่วยลดจำนวนน้องหมาที่ต้องเผชิญกับภาวะร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตนี้ลงได้

 

สายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องอืด

  • เยอรมัน เชพเพิร์ด
  • บูวีเย เด ฟล็องเดรอะ
  • เกรทเดน
  • บ็อกเซอร์
  • เซนต์เบอร์นาร์ด
  • โดเบอร์แมน
  • เยอรมัน ชอร์ตแฮร์ พอยน์เตอร์
  • ไอริช เซทเทอร์
  • กอร์ดอน เซทเทอร์
  • บอร์ซอย
  • ไอริช วูล์ฟฮาวด์
  • ดัชชุน
  • ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์
  • บาสเซ็ต ฮาวด์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการท้องอืดในสุนัข

  1. จะดูแลน้องหมาท้องอืดได้อย่างไรบ้าง?
  2. การรักษาน้องหมาท้องอืดทำได้โดยการให้ของเหลวที่มีอิเล็กโทรไลต์ผ่านทางเส้นเลือดและการให้ยาแก้ปวด วิธีนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและลดการเกิดภาวะช็อก อีกทั้งยังอาจป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อสำคัญตายเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ

     

  3. ทำไมน้องหมาถึงท้องใหญ่ขึ้นเมื่อมีอาการท้องอืด?
  4. ท้องของน้องหมาอาจบวมและใหญ่ขึ้นเนื่องจากมีแก๊สสะสมอยู่มาก ซึ่งการสะสมที่มากเกินไปนี้ทำให้กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับอวัยวะรอบข้าง รวมถึงไปขัดขวางการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดและระบบย่อยอาหาร

     

  5. อาการท้องอืดสามารถหายเองได้มั้ย?
  6. หากเป็นอาการท้องอืดท้องเฟ้อแบบไม่รุนแรง อาการอาจดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก็ถือว่ายังมีโอกาสเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาของอาการ

     

  7. สัญญาณเตือนเริ่มแรกของอาการท้องอืดมีอะไรบ้าง?
  8. อาการท้องอืดมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีการเตือนใด ๆ น้องหมาอาจเดินวนไปมา หอบ น้ำลายไหล หรือพยายามอาเจียนโดยที่ไม่มีอะไรออกมา อาการอื่น ๆ ที่สามารถพบได้อีก ได้แก่ วิตกกังวล มีท่าทีอึดอัด และไม่สบายท้อง ในกรณีที่มีอาการรุนแรง น้องหมาอาจหมดสติ หัวใจเต้นเร็ว และเหงือกสีซีด

     

     

  9. อาการท้องอืดในแต่ละครั้งจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน?
  10. อาการท้องอืดในสุนัขมักจะเกิดขึ้นไม่เกิน 24 ชั่วโมงหากได้รับการรักษาและดูแลอย่างเหมาะสม รวมถึงควรระมัดระวังเลือกการกำหนดปริมาณอาหารและการออกกำลังกายหลังการกินให้มากขึ้นด้วย

     

  • 5 เหตุผลที่สุนัขของคุณนอนหลับนาน
    5 เหตุผลที่สุนัขของคุณนอนหลับนาน
    adp_description_block352
    5 เหตุผลที่สุนัขของคุณนอนหลับนาน

    • แบ่งปัน

    ใครเคยเป็นบ้าง? อยากสลับตัวกับน้องหมา เพราะอิจฉาที่น้องหมาได้นอนทั้งวัน ไม่ต้องทำงาน แค่พักผ่อนสบาย ๆ อยู่ในบ้าน แม้ว่าจะนอนหลับเต็มอิ่มมาตลอดทั้งคืนแล้ว แต่น้องหมาก็ยังสามารถงีบหลับได้ในช่วงกลางวัน อาจเห็นพวกเค้านอนอาบแดด หลับไปบนโซฟา หรือแค่งีบหลับอยู่ใกล้ ๆ ตัวเรา และเมื่อตื่นขึ้นมาหลังจากงีบหลับไป เจ้าตัวน้อยของคุณก็จะเต็มไปด้วยพลังและพร้อมสำหรับการเล่นอย่างจริงจัง

     

    ทำไมสุนัขของฉันถึงนอนมาก? สุนัขนอนกลางคืนกี่ชั่วโมง? สุนัขนอนทั้งวันผิดปกติหรือไม่? คำถามเหล่านี้พบบ่อยมากในหมู่ผู้เลี้ยงสุนัข เพราะสัตว์หลายชนิด รวมถึงสุนัขด้วย มีพฤติกรรมการนอนแตกต่างจากคน นอกจากนี้วงจรการนอนหลับของสุนัขก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ สุขภาพ และรูปแบบการใช้ชีวิต อ่านบทความของเราเพื่อค้นหาคำตอบว่าน้องหมานอนวันละกี่ชั่วโมง พร้อมทำความเข้าใจพฤติกรรมการนอนของพวกเค้ากันให้มากขึ้น
     

    สุนัขนอนกี่ชั่วโมงในแต่ละวัน?

    สุนัขจำเป็นต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งระยะเวลาในการนอนอาจมากกว่าเรา และเพราะเป็นสัตว์กินเนื้อจึงนอนหลับมากกว่าสัตว์กินพืช เนื่องจากการนอนเป็นอันตรายต่อสัตว์ที่เป็นเหยื่อมากกว่า ระยะเวลาในการนอนหลับของสุนัขจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สุขภาพโดยรวม และรูปแบบการใช้ชีวิต โดยอายุถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลมากที่สุด
     

    สุนัขนอนทั้งวันจริงหรือไม่? โดยทั่วไป สุนัขจะนอนหลับประมาณ 12 – 14 ชั่วโมงต่อวัน แต่สำหรับลูกสุนัขอาจนอนนานกว่านี้ เนื่องจากลูกสุนัขจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกายในช่วง 2 – 3 เดือนแรกของชีวิต เรามาดูกันว่าอายุส่งผลต่อวงจรการนอนหลับของสุนัขอย่างไรบ้าง

    • ลูกสุนัข

    ลูกสุนัขต้องนอนมากเท่าที่ร่างกายต้องการเพื่อการเจริญเติบโตและการฟื้นฟู เป็นเรื่องปกติหากลูกสุนัขจะนอนหลับเกือบทั้งวัน ความจริงแล้ว ลูกสุนัขมักจะนอนหลับในช่วงกลางวันและนอนน้อยลงในช่วงกลางคืน

    • สุนัขโต

    สุนัขโตเต็มวัยจะนอนประมาณ 8 – 13 ชั่วโมง หรือโดยเฉลี่ย 11 ชั่วโมงต่อวัน สุนัขโตมักจะนอนได้นานขึ้นในตอนกลางคืน ขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวันของพวกเค้าและผู้เลี้ยง อย่างไรก็ตาม การงีบหลับในช่วงกลางวันก็ยังคงเกิดขึ้นตามปกติ พวกเค้าอาจนอนสองสามชั่วโมงระหว่างวัน

    • สุนัขสูงวัย

    สุนัขสูงอายุนอนหลับได้มากเท่ากับลูกสุนัข มักจะไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกและงีบหลับเป็นเวลาหลายชั่วโมงตลอดทั้งวัน การนอนหลับช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และฟื้นตัวได้ดีเมื่อมีอายุมากขึ้น
     

    สุนัขนอนหลับมากเกินไปหรือเปล่า?

    น้องหมานอนเยอะมาก พฤติกรรมนี้ผิดปกติหรือเปล่า? สุนัขทุกช่วงวัยนอนหลับเฉลี่ยประมาณ 15 ชั่วโมงต่อวัน น้องหมาแต่ละตัวมีความแตกต่างกัน ทั้งความต้องการ สุขภาพ และกิจวัตรประจำวัน หากคุณหมั่นสังเกตพฤติกรรม ในไม่ช้า คุณก็จะเข้าใจวิธีการทำงานของร่างกายและวงจรการนอนหลับของน้องหมา
     

    หากคุณกังวลที่น้องหมานอนเยอะเกินไป อย่าลังเลที่จะปรึกษาสัตวแพทย์ เป็นการดีกว่าเสมอที่จะคลายข้อสงสัยของคุณและพาเจ้าตัวน้อยไปตรวจสุขภาพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากปัญหาสุขภาพเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้องหมานอนเยอะกว่าปกติ เช่น โรคเบาหวาน อาการซึมเศร้า และความวิตกกังวล
     

    สาเหตุที่สุนัขนอนหลับมาก

    มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้น้องหมานอนหลับมากหรือนอนนานเกินไป โดยปัญหาสุขภาพเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย จึงแนะนำให้หมั่นพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ แต่นอกจากปัญหาสุขภาพแล้ว น้องหมาอาจนอนหลับนานขึ้นเพราะสาเหตุเหล่านี้ได้เช่นกัน

    • ความเครียด ความวิตกกังวล และความเบื่อหน่าย

    หากbbที่ง่ายที่สุดคือความเบื่อหน่าย บางครั้งน้องหมาก็เลือกที่จะนอนเพียงเพราะไม่มีอะไรทำ แต่บางครั้งก็อาจเกิดจากความเครียดและความวิตกกังวล โดยคุณจะพบว่าน้องหมามีอาการเซื่องซึมและเผลอหลับบ่อย ๆ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการสร้างกิจวัตรประจำวัน พยายามแบ่งเวลาเล่นและออกกำลังกายให้เพียงพอต่อความต้องการของพวกเค้า

    • โรคเบาหวาน

    น้องหมาอาจเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหากร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ในปริมาณที่ต้องการ สุนัขบางพันธุ์มีความเสี่ยงต่อโรคนี้สูงกว่าพันธุ์อื่น ๆ ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ

    • การติดเชื้อไวรัส

    การติดเชื้อไวรัสในสุนัขติดต่อได้ง่ายและอาจส่งผลต่อร่างกายอย่างรุนแรง น้องหมาจะไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ และอาจมีภาวะขาดโปรตีนด้วย การฟื้นตัวจากโรคนี้มักจะใช้เวลานานพอสมควร แนะนำให้ฉีดวัคซีนลูกสุนัขตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

    • การติดเชื้อแบคทีเรีย

    การติดเชื้อแบคทีเรียเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสุนัข อีกทั้งยังติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสปัสสาวะของสุนัขตัวอื่น และสามารถแพร่กระจายมาสู่คนได้เช่นกัน การติดเชื้อนี้อาจทำให้ร่างกายหมดพลังงาน ส่งผลให้น้องหมานอนหลับบ่อยผิดปกติ

    • การได้รับสารพิษ

    หากน้องหมาไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมและชอบกินของแปลกปลอม ความเสี่ยงต่อการได้รับพิษก็จะมากขึ้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารของคนหลายชนิด เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสุนัข เช่น อะโวคาโด เครื่องเทศ กาแฟ และชีสบางชนิด
     

    ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าในหนึ่งวันสุนัขนอนกี่ชั่วโมง หากพบว่าน้องหมามีอาการผิดปกติหรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์ทันที

Close modal