IAMS TH
Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog
Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog

adp_description_block388
อาการบ่งบอกและวิธีดูแลสุนัขท้องอืดหรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร

  • แบ่งปัน

อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกตัว แต่อาจพบได้บ่อยในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่มีหน้าอกลึกและแคบ ปัญหานี้ถือเป็นภาวะอันตรายที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นการเรียนรู้วิธีสังเกตและดูแลเมื่อน้องหมามีอาการท้องอืดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม

อาการท้องอืดคืออะไร?

อาการท้องอืดหรืออีกชื่อหนึ่งคือภาวะกระเพาะอาหารขยายและบิดตัว เกิดจากการมีปริมาณลมหรือแก๊สสะสมมากกว่าปกติจนทำให้กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและบิดหมุน ส่งผลให้ความดันภายในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น เกิดการกดทับของอวัยวะรอบข้าง ซึ่งทำให้ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติจนน้องหมาเกิดภาวะช็อกได้ และนอกจากลักษณะของอาการที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับอาการท้องอืดที่เจ้าของควรรู้ดังนี้: 

  • อาการท้องอืดจัดเป็นภาวะอันตรายต้องได้รับการดูแลรักษาโดยทันที
  • ภาวะท้องอืดอาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ
  • สาเหตุของอาการท้องอืดยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน
  • แต่ละปีในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีน้องหมากว่า 36,000 ตัวมีอาการท้องอืด และ 30% ของน้องหมาที่มีอาการเสียชีวิต
  • อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกช่วงวัย
  • น้องหมาบางสายพันธุ์มีโอกาสท้องอืดมากกว่าน้องหมาทั่วไป โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีหน้าอกลึกและแคบ
  • การที่กระเพาะอาหารขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณช่องท้องลดลง

 ลักษณะของอาการท้องอืด

ในระยะแรกของอาการ น้องหมาจะรู้สึกอึดอัดมาก อาจจะเดินวนไปมาและส่งเสียงร้อง หรือพยายามขยับไปมาเพื่อหาท่าทางที่สบายตัว พวกเค้าอาจมีท่าทีกังวล เลียหรือจ้องไปที่ท้องของตัวเอง รวมถึงอาจมีอาการคล้ายอาเจียน แต่ไม่มีอะไรออกมา

 

นอกจากนี้อาจพบอาการอื่น ๆ เพิ่มด้วยได้ เช่น อ่อนแรง ท้องพองขยายตัว และอาจเกิดภาวะช็อก ซึ่งส่งผลให้น้องหมาหัวใจเต้นเร็วและมีอาการหอบ;
 

หากพบว่าน้องหมามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ในทันที!

  • หอนหรือส่งเสียงร้องครวญคราง
  • มีท่าทางไม่สบายตัว ดูอึดอัด
  • กระสับกระส่าย
  • เหงือกซีด
  • พยายามอาเจียนแต่ไม่มีอะไรออกมา
  • หอบหรือหายใจเร็ว
  • อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
  • วิตกกังวล
  • อ่อนแรง
  • ท้องบวม (โดยเฉพาะด้านซ้าย)
     

 อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้เมื่อน้องหมาท้องอืด มีดังนี้:
 

กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้น:

เนื่องจากมีลมหรือแก๊สสะสมในท้อง


น้ำลายไหลมาก:

ปัญหาในระบบทางเดินอาหารอาจทำให้น้องหมาน้ำลายไหลมากกว่าปกติ
 

พฤติกรรมกระสับกระส่าย:

อาการกระสับกระส่ายเป็นสัญญาณที่พบได้ทั่วไปเมื่อน้องหมาท้องอืด และพวกเค้าอาจส่งเสียงร้องเมื่อโดนกดที่บริเวณท้อง
 

หอบ หายใจสั้น:

การขยายตัวของกระเพาะอาหารทำให้น้องหมาหายใจลำบาก
 

หัวใจเต้นเร็วขึ้น:

เนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมถูกกดไม่สามารถขยายตัวได้ ส่งผลให้เกิดภาวะหายใจลำบากและหัวใจมีอัตราการเต้นเร็วกว่าปกติ

 

สาเหตุของอาการท้องอืด

แม้ว่าจะหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็มีส่วนที่ทำให้น้องหมามีอาการท้องอืด:

  • กินอาหารปริมาณมากในมื้อเดียว แทนการแบ่งมื้ออาหารเป็น 2 – 3 ครั้งต่อวัน
  • กินมากเกินไปและดื่มน้ำเร็วเกินไป
  • อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น ต้องอยู่ในกรงหรือต้องไปพบสัตวแพทย์
  • วิ่งเล่นทันทีหลังกินอาหาร

 

วิธีป้องกันอาการท้องอืด

การทำตามคำแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยป้องกันอาการท้องอืดในสุนัขได้ แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่อาจรับประกันได้ว่าคำแนะนำจะเกิดผลจริงกับน้องหมาทุกตัว 

  • ให้กินอาหารทีละน้อย ๆ อาจแบ่งให้อาหารเป็น 2 – 3 มื้อต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเป็นเวลา  1 – 2 ชั่วโมงหลังกินอาหาร
  • อย่าให้น้องหมาดื่มน้ำปริมาณมากก่อนหรือหลังกินอาหารและหลังออกกำลังกาย
  • หากที่บ้านมีน้องหมา 2 ตัวขึ้นไป ควรแยกให้อาหาร เพื่อป้องกันพฤติกรรมกินเร็วและภาวะเครียด
  • หากเป็นไปได้ ควรกำหนดเวลาให้อาหารในช่วงเวลาที่คุณว่างและสามารถสังเกตพฤติกรรมหลังการกินของพวกเค้าได้
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน
  • หากพบว่าน้องหมามีอาการท้องอืด ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ทันที


การดูแลรักษาอาการท้องอืด 
 

อาการท้องอืดสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่?

อาการท้องอืดในสุนัขจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยทันที ในกรณีที่น้องหมาท้องอืดไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการกระเพาะบิด อาจได้รับการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา แต่หากตรวจพบว่ามีอาการท้องบวม กระเพาะขยายและบิดตัว บางกรณีก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัด

 

ตัวเลือกในการรักษาอาการท้องอืด

การระบายลมหรือแก๊สออกมาโดยใช้วิธีสอดท่อเข้าไปในกระเพาะอาหาร จะช่วยบรรเทาแรงกดต่ออวัยวะโดยรอบและป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อของกระเพาะอาหารเสื่อมสภาพ แต่ในบางกรณีก็ไม่สามารถใช้วิธีสอดท่อได้เพียงเดียว อาจมีต้องการผ่าตัดร่วมด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีการรักษาโดยให้ของเหลวที่เสริมด้วยอิเล็กโทรไลต์ทางเส้นเลือดเพื่อปรับการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะที่สำคัญได้ตามปกติ ในหลายกรณีจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ และยาที่มีฤทธิ์ในการรักษาภาวะเลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลงอีกด้วย

 

เมื่อน้องหมาอยู่ในอาการคงที่พร้อมผ่าตัดแล้ว สัตวแพทย์จะทำการผ่าตัดที่เรียกว่า “Gastropexy” เพื่อทำให้กระเพาะอาหารกลับสู่ตำแหน่งปกติพร้อมเอาเนื้อเยื่อผนังกระเพาะอาหารที่ตายแล้วออกไป รวมถึงจะยึดผนังกระเพาะเข้ากับผนังของลำตัว ทำให้โอกาสที่กระเพาะอาหารจะบิดหมุนลดลง และช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้ดีขึ้น

 

เลือกให้อาหารที่ย่อยง่าย

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้คือการเลือกอาหารสุนัขคุณภาพดี มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ ช่วยให้ย่อยง่าย 
 

การดูแลเรื่องอาหารถือเป็นวิธีลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาที่ดีสุด อย่างน้อยก็จนกว่าจะสามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการท้องอืดได้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลเต็ม 100% แต่ก็ช่วยลดจำนวนน้องหมาที่ต้องเผชิญกับภาวะร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตนี้ลงได้

 

สายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องอืด

  • เยอรมัน เชพเพิร์ด
  • บูวีเย เด ฟล็องเดรอะ
  • เกรทเดน
  • บ็อกเซอร์
  • เซนต์เบอร์นาร์ด
  • โดเบอร์แมน
  • เยอรมัน ชอร์ตแฮร์ พอยน์เตอร์
  • ไอริช เซทเทอร์
  • กอร์ดอน เซทเทอร์
  • บอร์ซอย
  • ไอริช วูล์ฟฮาวด์
  • ดัชชุน
  • ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์
  • บาสเซ็ต ฮาวด์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการท้องอืดในสุนัข

  1. จะดูแลน้องหมาท้องอืดได้อย่างไรบ้าง?
  2. การรักษาน้องหมาท้องอืดทำได้โดยการให้ของเหลวที่มีอิเล็กโทรไลต์ผ่านทางเส้นเลือดและการให้ยาแก้ปวด วิธีนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและลดการเกิดภาวะช็อก อีกทั้งยังอาจป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อสำคัญตายเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ

     

  3. ทำไมน้องหมาถึงท้องใหญ่ขึ้นเมื่อมีอาการท้องอืด?
  4. ท้องของน้องหมาอาจบวมและใหญ่ขึ้นเนื่องจากมีแก๊สสะสมอยู่มาก ซึ่งการสะสมที่มากเกินไปนี้ทำให้กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับอวัยวะรอบข้าง รวมถึงไปขัดขวางการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดและระบบย่อยอาหาร

     

  5. อาการท้องอืดสามารถหายเองได้มั้ย?
  6. หากเป็นอาการท้องอืดท้องเฟ้อแบบไม่รุนแรง อาการอาจดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก็ถือว่ายังมีโอกาสเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาของอาการ

     

  7. สัญญาณเตือนเริ่มแรกของอาการท้องอืดมีอะไรบ้าง?
  8. อาการท้องอืดมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีการเตือนใด ๆ น้องหมาอาจเดินวนไปมา หอบ น้ำลายไหล หรือพยายามอาเจียนโดยที่ไม่มีอะไรออกมา อาการอื่น ๆ ที่สามารถพบได้อีก ได้แก่ วิตกกังวล มีท่าทีอึดอัด และไม่สบายท้อง ในกรณีที่มีอาการรุนแรง น้องหมาอาจหมดสติ หัวใจเต้นเร็ว และเหงือกสีซีด

     

     

  9. อาการท้องอืดในแต่ละครั้งจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน?
  10. อาการท้องอืดในสุนัขมักจะเกิดขึ้นไม่เกิน 24 ชั่วโมงหากได้รับการรักษาและดูแลอย่างเหมาะสม รวมถึงควรระมัดระวังเลือกการกำหนดปริมาณอาหารและการออกกำลังกายหลังการกินให้มากขึ้นด้วย

     

  • คู่มือการลดน้ำหนักสุนัข
    คู่มือการลดน้ำหนักสุนัข
    adp_description_block95
    3 วิธีช่วยลดน้ำหนักให้สุนัขของคุณ

    • แบ่งปัน

    เคยสงสัยไหมว่าทำไมน้องหมาบางตัวถึงมีหุ่นอวบอ้วนกว่าที่ควรจะเป็น? น้องหมาก็เหมือนกับเราที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำหนักตัว ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องดูแลให้น้องหมามีน้ำหนักและรูปร่างที่เหมาะสม ถึงแม้ว่าจะมีขนมหลากหลายชนิดยั่วยวนใจและข้อจำกัดในการออกกำลังกายมากขึ้นก็ตาม การรับมือกับปัญหาน้ำหนักเกินในสุนัขอาจเป็นเรื่องยากหากคุณไม่รู้วิธีลดอย่างถูกต้อง อ่านบทความของเราเพื่อเรียนรู้วิธีการดูแลและการเลือกอาหารลดน้ำหนักสุนัขอย่างเหมาะสม

     

    ในปัจจุบันพบว่าสุนัขมีน้ำหนักตัวเกินมากขึ้น ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตรูปร่างและร่างกายของน้องหมาให้ละเอียดยิ่งขึ้น สัมผัสลำตัวแล้วพบกระดูกซี่โครงไหม? มองเห็นช่วงเอวหรือไม่? การสังเกตเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการประเมินว่าสุนัขอ้วนหรือผอมเกินไปหรือไม่ หากพบว่าน้องหมามีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักตัว คุณควรจัดการในทันที 
     

    เพราะอะไรการลดน้ำหนักสุนัขจึงเป็นสิ่งสำคัญ?

    การรักษาน้ำหนักให้เหมาะสมส่งผลดีต่อสุขภาพ รูปลักษณ์ภายนอก และความเป็นอยู่ สุนัขที่มีน้ำหนักเกินมักจะเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจ ผู้เลี้ยงควรทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้สุนัขน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะมันเป็นก้าวแรกในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและยืดอายุให้ยืนยาวขึ้น
     

    การลดน้ำหนักสุนัข มีวิธีใดบ้าง?

    เรารู้ดีว่าการลดน้ำหนักหมามักจะทำให้ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่กังวลและเครียด แต่ทุกอย่างจะง่ายขึ้น หากคุณเริ่มต้นลดน้ำหนักให้น้องหมาด้วยวิธีเหล่านี้

    • เลือกโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุล

    โภชนาการที่ดีจะประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสุนัข ขอแนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนมื้ออาหารที่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก โดยอาหารลดน้ำหนักสุนัขควรผลิตจากส่วนผสมคุณภาพสูงและมีแคลอรีต่ำ สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดปริมาณอาหารให้เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

    • ออกกำลังกายเป็นประจำ 

    การออกกำลังกายคือวิธีลดน้ำหนักสุนัขที่ได้ผลดีที่สุด แต่ควรปรับให้เหมาะกับสายพันธุ์และอายุของสุนัขด้วย คุณอาจชวนพวกเค้าเล่นหรือทำกิจกรรมสนุก ๆ เช่น เล่นคาบของ วิ่งล่าเหยื่อ หรือว่ายน้ำ เพื่อกระตุ้นให้น้องหมาเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นและระยะเวลาของการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักทีละน้อย ควบคู่ไปกับการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    • จัดการกับปัญหาสุขภาพ 

    น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ แนะนำให้ไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจเช็กร่างกายและค้นหาสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์อาจทำให้สุนัขมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยสัตวแพทย์สามารถแนะนำแนวทางการรักษา การใช้ยา และการเลือกอาหารลดน้ำหนักสุนัขที่เหมาะสมได้

    • ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด 

    หมั่นสังเกตพฤติกรรมและความเปลี่ยนแปลงของน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ อาจจะต้องปรับแผนตามความจำเป็น การลดน้ำหนักหมาแบบค่อยเป็นค่อยไปช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ดี ควรทำตามแผนการอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ แม้น้องหมาจะมีน้ำหนักตัวตามที่คาดหวังแล้วก็ควรควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตาม หากพบว่าน้องหมามีน้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียด

    • ประเมินผลการลดน้ำหนัก 

    แม้ว่าการทำตามแผนลดน้ำหนักอย่างเคร่งครัดจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ควรลดน้ำหนักเร็วเกินไปหรือเลือกใช้วิธีลดน้ำหนักสุนัขที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
     

    สุนัขน้ำหนักลดลงผิดปกติ

    สิ่งสำคัญในการลดน้ำหนักสุนัขคือการเลือกวิธีที่ดีต่อสุขภาพ ต้องไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว และน้ำหนักต้องไม่ลดลงเร็วจนเกินไป โดยปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรระมัดระวังมากเป็นพิเศษในช่วงลดน้ำหนัก

    • ออกกำลังกายมากเกินไป – หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายมากเกินไป เพราะอาจนำไปสู่ความเครียดหรือการบาดเจ็บ ควรสังเกตสัญญาณของความเหนื่อยล้าหรือความไม่สบายตัวระหว่างออกกำลังกายด้วย
    • ความเครียด – การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ความอยากอาหาร หรือระดับพลังงานอาจบ่งบอกถึงความเครียด คุณควรสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและเป็นมิตรเพื่อให้น้องหมารู้สึกปลอดภัย
    • ปัญหาสุขภาพ – น้ำหนักลดอย่างกะทันหันอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ หากพบการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ ขอแนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

    การควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเป็นอยู่โดยรวมของสุนัข การเลือกใช้วิธีลดน้ำหนักหมาที่ดีต่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับการปรึกษาสัตวแพทย์และสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้น้องหมาของคุณมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น

Close modal