IAMS TH
ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข
ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข

adp_description_block16
ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข

  • แบ่งปัน

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารเคมีที่ร่างกายใช้ยับยั้งหรือชะลอการเกิดของอนุมูลอิสระ ซึ่งหากมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้นมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดความผิดปกติ และความเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ โดยที่สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างอนุมูลอิสระและหยุดการทำลายเซลล์ที่ดีในร่างกาย 
 

นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังมีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยง โดยมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ซึ่งนี่คือเหตุผลที่อาหารสุนัขไอแอมส์™ ทุกสูตรมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ
 

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารอาหารสำคัญที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีส่วนช่วยให้ร่างกายของน้องหมาแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย อีกทั้งยังช่วยชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ ทั้งนี้ไอแอมส์™ ได้ทำการวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับน้องหมาสูงวัยโดยเฉพาะ
 

ตามมาดูกันเลยว่าสารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขของไอแอมส์™ มีประโยชน์ต่อร่างกายของน้องหมาอย่างไรบ้าง

 

คุณประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ

โดยทั่วไปร่างกายสามารถผลิตสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาเองได้ รวมถึงสามารถพบได้ในพืชผักผลไม้บางชนิด สารต้านอนุมูลอิสระที่พบบ่อย ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสารประกอบที่เรียกว่าแคโรทีนอยด์ (เช่นลูทีนและเบต้าแคโรทีน) สำหรับอาหารสุนัขที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจะมีคุณประโยชน์ดังนี้:

  • ชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เกิดในร่างกาย
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับสุนัขสูงวัย
     

การทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ

สารอนุมูลอิสระจะถูกสร้างขึ้นในร่างกายโดยธรรมชาติและมีหน้าที่สำคัญในหลาย ๆ กระบวนการที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ แต่สารอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่มีความไม่เสถียรสูง และมักจับคู่กับโมเลกุลของเซลล์อื่น ๆ เช่น ไขมัน โปรตีน หรือดีเอ็นเอ (DNA) ซึ่งการจับคู่นี้ส่งผลให้เกิดความเสียหายตามมา
 

เนื่องจากการทำปฏิกิริยากับโมเลกุลต่าง ๆ ทำให้เซลล์ในร่างกายขาดความสมดุล สุดท้ายก็ทำให้เซลล์ร่างกายเสียหายและตายไป โดยกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่าเปอร์ออกซิเดชัน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นกระบวนการที่มีประโยชน์ เพราะช่วยทำลายเซลล์ร่างกายที่หมดอายุออกไป อีกทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อโรคและปรสิต อย่างไรก็ตามหากเกิดกระบวนการนี้มากจนเกินไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและส่งผลให้เซลล์ที่ดีถูกทำลายไปด้วย
 

สารต้านอนุมูลอิสระจะทำปฏิกิริยากับสารอนุมูลอิสระ เพื่อยับยั้งความเสียหายของเซลล์ในร่างกาย และช่วยเสริมให้เซลล์มีความเสถียรมากยิ่งขึ้นด้วย
 

หากมีสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอที่จะยับยั้งกระบวนการเปอร์ออกซิเดชัน สารอนุมูลอิสระจะเริ่มทำลายเซลล์ร่างกายที่ดี ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันเสียหายจนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

 

สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัขไอแอมส์™ สูตรสำหรับสุนัขโตและลูกสุนัข

ทำไมสารต้านอนุมูลอิสระจึงมีความสำคัญสำหรับน้องหมา?

น้องหมามีโอกาสได้รับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าเรา สารต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับน้องหมา เนื่องจากมีส่วนช่วยป้องกันความเสียหาย รวมถึงช่วยยับยั้งสารอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยและโรคร้ายต่าง ๆ 


นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยส่งเสริมการทำงานของตับที่มีหน้าที่ทำให้สารพิษสามารถละลายในน้ำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สามารถขับออกจากร่างกายผ่านทางเดินอาหารและไตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 

ทั้งนี้จากผลงานวิจัยล่าสุดพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดมีผลต่อการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของน้องหมา โดยชี้ให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง


อาหารสุนัขไอแอมส์™ สูตรสำหรับสุนัขโตและลูกสุนัขมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ ดังต่อไปนี้:

 

สารต้านอนุมูลอิสระ

แหล่งที่มา

การทำงาน

วิตามิน อี

สารสกัดน้ำมันพืชและโทโคฟีรอล

การกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เบต้าแคโรทีน

วิตามินรวม ข้าวโพดบดละเอียด ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่และไขมันไก่

เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือด และเพิ่มระดับแอนติบอดีในเลือด


เมื่อทราบถึงประโยชน์และความจำเป็นของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีต่อน้องหมาแล้ว ต่อไปนี้คือรายชื่อสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดสำหรับน้องหมา

 

สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีสำหรับน้องหมา
 

วิตามิน ซี

  • หนึ่งในวิตามินที่สำคัญที่สุดสำหรับสุขภาพร่างกายของน้องหมา
  • มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมบาดแผลและลดการอักเสบ
  • เพิ่มพลังงานให้น้องหมาสามารถทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่


วิตามิน อี

  • หนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดสำหรับน้องหมาที่ป่วยเป็นมะเร็ง
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • บำรุงหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและโรคหัวใจ


เบต้าแคโรทีน

  • ถือเป็นอาหารเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับน้องหมา
  • ช่วยเพิ่มจำนวนแอนติบอดีในเลือด และช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคในน้องหมาสูงวัย


โพลีฟีนอล

  • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม เนื่องจากช่วยให้สุขภาพร่างกายของน้องหมาแข็งแรง
  • ป้องกันจากโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งและเบาหวาน
     

สารต้านอนุมูลอิสระหาได้จากที่ไหนบ้าง?

สารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติพบได้ในสิ่งเหล่านี้:
 

ผักและผลไม้

สารต้านอนุมูลอิสระพบได้มากในผักและผลไม้ เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยสามารถพบสารต้านอนุมูลอิสระได้ในบลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี ลูกแพร์ กะหล่ำปลีแดง และคะน้า ทั้งนี้ควรตรวจสอบก่อนว่ามีผักและผลไม้ชนิดใดบ้างที่ปลอดภัยหรือเป็นอันตรายกับน้องหมา
 

อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

เพื่อให้เจ้าตัวน้อยร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดี เจ้าของควรเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินที่ดี เหมาะกับความต้องการในแต่ละช่วงวัย 
 

โดยเริ่มจากการมองหาอาหารสุนัขที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ พรีไบโอติก วิตามิน แร่ธาตุ และมีสารที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เพื่อให้สารอาหารสำคัญดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของน้องหมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารอาหารเหล่านี้มีอัตราส่วนที่เหมาะสมต่อความต้องการของพวกเค้าด้วย
 

เพื่อสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก แนะนำให้เลือกอาหารสุนัขไอแอมส์™ สูตรโปรแอคทีฟ เฮลท์™ โดยคุณสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับน้องหมาที่สุดจากการเลือกตามช่วงอายุของพวกเค้า

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข

  1. อาหารชนิดใดบ้างที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ?
  2. ผลไม้ ถั่ว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และผัก คือแหล่งที่มาของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี การให้อาหารที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยลดความเครียดในสุนัขได้ดี และลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้อีกด้วย

  3. อาหารชนิดใดบ้างที่มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมร่างกาย?
  4. อาหารจำพวกเครื่องในสัตว์ เห็ด น้ำซุปจากการเคี่ยวกระดูกสัตว์ และนมแพะ มีส่วนช่วยให้ร่างกายรักษาบาดแผลได้เร็วยิ่งขึ้น

  5. หากน้องหมาได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากเกินไปจะเป็นอันตรายหรือไม่?
  6. ถึงแม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อคำนวณปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่เหมาะสมสำหรับน้องหมาของคุณ

  7. สารต้านอนุมูลอิสระหลักทั้ง 3 ชนิด มีอะไรบ้าง?
  8. สารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่สุด 3 ชนิด ได้แก่ วิตามินอี วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน

  9. สารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์กับน้องหมาจริงหรือไม่?
  10. อาหารสุนัขที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยป้องกันความเสียหายในร่างกายอันเกิดจากสารอนุมูลอิสระ และยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอีกด้วย

  • ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?
    ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?
    adp_description_block393
    ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?

    • แบ่งปัน

    การนำลูกสุนัขตัวใหม่เข้าบ้านเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่ายินดี แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มาพร้อมความรับผิดชอบมากมาย หนึ่งในนั้นคือการพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อตรวจเช็กปัญหาสุขภาพแอบแฝงและสุขภาพโดยรวม อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ผู้เลี้ยงจะปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน การให้อาหาร การฝึกสอน และวิธีการดูแลต่าง ๆ หากไม่แน่ใจว่าควรพาลูกสุนัขไปพบคุณหมอเมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน ติดตามคำตอบและเรื่องน่ารู้อีกมากมายได้ในบทความนี้

     

    ลูกสุนัขต้องพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?

    ลูกสุนัขเป็นช่วงวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ผู้เลี้ยงควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทุก ๆ 3 – 4 สัปดาห์ แต่หากจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษอาจมีการนัดพบบ่อยขึ้น ทั้งนี้ก่อนพาเจ้าตัวน้อยไปพบคุณหมอ คุณควรสอบถามข้อมูลการฉีดวัคซีนหรือการรักษาต่าง ๆ จากฟาร์มหรือผู้เพาะพันธุ์ให้เรียบร้อย และในกรณีที่รับเลี้ยงสุนัขไร้บ้านก็ควรแจ้งให้คุณหมอทราบเช่นกัน

    หากคุณสังเกตพบอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบพาเจ้าตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์ในทันที

    • บาดแผลบริเวณดวงตา
    • อาการลมพิษ
    • แผลเปิด
    • อาการชัก
    • เป็นลม หมดสติ
    • มีรอยกัด
    • หายใจลำบาก
    • อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
    • อาเจียน
    • ท้องเสีย
    • อาการเจ็บป่วยอื่น ๆ

    ข้อควรรู้ – แม้จะมีสมุดฉีดวัคซีนหรือหลักฐานการตรวจยืนยันจากผู้เพาะพันธุ์ คุณก็ควรพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เพิ่มเติม
     

    การตรวจสุขภาพประจำปี

    ลูกสุนัขจำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีเช่นเดียวกับคน นอกจากการฉีดวัคซีนกระตุ้นแล้ว คุณหมอจะตรวจเช็กสุขภาพหัวใจ ปอด ดวงตา หู พร้อมมองหาอาการผิดปกติต่าง ๆ และอาจทำการทดสอบพื้นฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
     

    หลังการตรวจเช็กสุขภาพ คุณหมออาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนสูตรอาหาร เพิ่มหรือลดการออกกำลังกาย รวมถึงอาจต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดียิ่งขึ้น ผู้เลี้ยงควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าตัวน้อยที่คุณรัก อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสุขภาพประจำปี คุณสามารถสอบถามหรือขอปรึกษาเรื่องเหล่านี้จากสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้

    • การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
    • รายงานสุขภาพ
    • โภชนาการที่เหมาะสม
    • คำถามเกี่ยวกับการดูแล การฝึก หรือปัญหาที่สงสัย

    ลูกสุนัขฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

    ลูกสุนัขเกิดมาพร้อมระบบภูมิคุ้มกันที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ อย่างไรก็ตาม พวกเค้าจะเริ่มสูญเสียภูมิคุ้มกันเหล่านี้เมื่ออายุ 6 – 8 สัปดาห์ จึงจำเป็นต้องเริ่มฉีดวัคซีนในช่วงเวลาดังกล่าว บวกกับนิสัยชอบดมและเลียเพื่อสำรวจทุกสิ่งรอบตัว ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการฉีดวัคซีนสามารถป้องกันไวรัสและโรคร้ายแรงได้ การฉีดวัคซีนจะเริ่มเมื่อลูกสุนัขมีอายุ 6 – 8 สัปดาห์ และต้องฉีดกระตุ้นซ้ำทุก 2 – 4 สัปดาห์จนกว่าลูกสุนัขจะมีอายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป บางกรณีสัตวแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 4 สัปดาห์ เนื่องจากมีการระบาดของโรคหรือเมื่อแม่หมาที่ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน คุณสามารถขอตารางการฉีดวัคซีนของลูกสุนัขจากสัตวแพทย์ได้
     

    การฉีดวัคซีนสำหรับสุนัข

    สุนัขจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัด และโรคตับอักเสบในสุนัข โดยวัคซีนทั่วไปที่สุนัขจำเป็นต้องได้รับมีดังนี้

    • เชื้อพาร์โวไวรัสในสุนัข
    • โรคไข้หัด
    • โรคตับอักเสบ
    • โรคพิษสุนัขบ้า
    • โรคติดเชื้อในทางเดินหายใจ
    • โรคลำไส้อักเสบติดต่อจากเชื้อโคโรนาไวรัสในสุนัข
    • โรคหลอดลมอักเสบติดต่อของสุนัข
    • โรคเลบโตสไปโรซีสหรือโรคไข้ฉี่หนู

    การฉีดวัคซีนข้างต้นอาจมีการผสมที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

Close modal