อีทอกซีควิน คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่สังเคราะห์ขึ้น (ผลิตขึ้นจากสารอื่น) ซึ่งผ่านการอนุมัติเพื่อนำไปใช้งานหลากหลายรูปแบบ และได้รับการควบคุมโดยองค์กรอาหารและยา (FDA) และสมาคมควบคุมการให้อาหารสัตว์เลี้ยงแห่งอเมริกา (AAFCO) เพื่อนำไปใช้ในการถนอมอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง กลุ่มผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงใช้อีทอกซีควินเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นหืนและช่วยรักษาคุณค่าสารอาหารมาเป็นเวลากว่า 35 ปีแล้ว
อีทอกซีควิน สามารถคงรูปอยู่ได้ในอุณหภูมิสูงที่ใช้ในขั้นตอนขึ้นรูปอาหารสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังสำคัญต่อการเก็บรักษาไขมันและน้ำมันจากการเสื่อมสภาพ ทำให้จำนวนแคลอรี่ลดลง และลดกลิ่นเหม็นหืน
แม้ในความเป็นจริงงานวิจัยทั้งหมดในปัจจุบันจะพิสูจน์แล้วว่า สามารถใช้อีทอกซีควินในอาหารสัตว์ได้อย่างปลอดภัยเมื่อใช้ในปริมาณที่อนุมัติ แต่ก็ยังมีข่าวลือว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง
บุคคลที่ต้องการลดความน่าเชื่อถือของอีทอกซีควินมักจะอ้างอิงผลงานวิจัยบางชิ้นที่แสดงความเป็นพิษในสัตว์ที่กินอีทอกซีควิน แต่บุคคลเหล่านี้ลืมประเด็นสำคัญไปว่า สัตว์ในงานวิจัยดังกล่าวได้รับอีทอกซีควินในปริมาณกว่าที่กำหนดไว้ถึง 20-50 เท่าก่อนจะแสดงอาการไม่พึงประสงค์
ในท้องตลาดมีอาหารลูกแมวที่ใช้วัตถุดิบแตกต่างกันให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก คุณจึงควรทราบว่า วัตถุดิบใดที่จำเป็นกับลูกแมวบ้าง คุณอาจเคยเห็นเมล็ดแฟลกซ์ในรายชื่อวัตถุดิบอาหารแมวชนิดเปียกมาบ้าง แล้วเมล็ดแฟลกซ์ในฐานะแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 จำเป็นต่อลูกแมวหรือไม่
มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเมล็ดแฟลกซ์และผลกระทบต่อสุขภาพลูกแมวกันดีกว่า
เมล็ดแฟลกซ์คือ เมล็ดของต้นแฟลกซ์ที่นำมาบด น้ำมันในต้นแฟลกซ์เป็นแหล่งของกรดโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิก ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิดอื่น
ในอาหารแมว เมล็ดแฟลกซ์มีหน้าที่ให้กรดไขมันโอเมก้า-3 เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอเมก้า-3 กับโอเมก้า-6 ในอาหาร ผลวิจัยจากไอแอมส์เผยให้เห็นว่าปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 ที่สมดุลกันจะช่วยสร้างสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี
การใส่กรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิกลงในอาหารลูกแมวมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
กรดอัลฟาไลโนเลนิกอาจเป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีความสำคัญ แต่ต้องใช้เวลาหลายรุ่นกว่าอาการขาดสารอาหารในแมวจะปรากฏ เมื่อเลือกอาหารให้แมว อย่าลืมว่า เมล็ดแฟลกซ์ช่วยบำรุงสุขภาพลูกแมวในช่วงการเติบโตและพัฒนาการรวดเร็วได้