IAMS TH
stomach-issues-in-cats-why-cats-vomit-and-what-to-do-banner
stomach-issues-in-cats-why-cats-vomit-and-what-to-do-banner

adp_description_block251
ปัญหาปวดท้องในแมว: สาเหตุและวิธีรับมือเมื่อแมวอาเจียน

  • แบ่งปัน

เจ้าของแมวล้วนคุ้นเคยกับอาการที่บ่งบอกว่าเจ้าเหมียวกำลังปวดท้องเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงครางเจ็บปวด การขย้อนอาหาร หรืออาการคลื่นไส้ แต่เมื่อเค้าแสดงอาการเหล่านี้แล้ว เจ้าเหมียวก็กลับไปร่าเริงเหมือนปกติ ปล่อยให้เจ้าของทำความสะอาดคราบบนพื้นที่กองอยู่

ซินเธีย โบเวนแห่งคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอก็คุ้นชินกับเหตุการณ์ทำนองนี้เป็นอย่างดี ในฐานะเจ้าของแมวเมนคูน 4 ตัว ซินเธียผ่านการเช็ดคราบอาเจียนของเจ้าเหมียวมาไม่น้อย “ฉันเจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ประมาณ 2-3 เดือนครั้ง” เธอกล่าว “แต่นอกจากนี้แล้วเค้าก็ดูแข็งแรงดี”

แม้ว่าจะไม่ใช่หัวข้อที่น่าอภิรมย์สักเท่าไร แต่การอาเจียนดูจะเป็นอาการที่เจ้าเหมียวทำเป็นปกติ เจ้าของแมวส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่านี่เป็นเรื่องธรรมชาติเมื่อเป็นเจ้าของแมว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป การทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เจ้าเหมียวปวดท้องและวิธีรับมือจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคุณและเค้าให้สนิทกันมากขึ้น
 

ทำไมแมวจึงอาเจียน ?

เจ้าของแมวส่วนใหญ่เชื่อว่ามาจากปัญหาเรื่องก้อนขน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว “การเดาว่าอาการอาเจียนส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากก้อนขนดูจะเป็นการรีบด่วนสรุปไปหน่อย” ดร.วิลเลียม ฟอล์เจอร์ สัตวแพทย์แห่งเมืองฮิวสตันกล่าว อีกสองสาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่ การกินอาหารเร็วเกินไป และนิสัยขี้สงสัยของแมว
 

การกินอาหารเร็วเกินไป

บางครั้งเจ้าเหมียวก็รีบกินอาหารครั้งละมาก ๆ ทำให้กระเพาะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดการสำรอกอาหารได้ ในเหตุการณ์ทำนองนี้ คราบอาเจียนบนพื้นจะเป็นอาหารที่ถูกสำรอกออกมา ไม่ใช่การอาเจียนจริง ๆ ในลักษณะนี้จะเรียกว่าการสำรอก เมื่อแมวสำรอกของเหลวและอาหารจะไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหารและออกทางปาก ซึ่งต่างกับการอาเจียนที่มักมีการขย้อนและคลื่นไส้ร่วมด้วย

อาหารที่สำรอกออกมาจะยังเหลือรูปร่างและมีกลิ่นคล้ายอาหารหมัก “แมวที่รีบกินอาหารเพราะตะกละหรือเครียดเนื่องจากต้องแย่งกันกินจะสำรอกอาหารทันทีหลังจากกินเสร็จ” ดร.ซาร่า สตีเฟนส์ สัตวแพทย์จากมอนทาน่ากล่าว แต่อย่ารีบด่วนสรุปว่าการสำรอกอาหารมีสาเหตุมาจากการรีบกินอาหารเท่านั้น เพราะยังมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น ปัญหาภายในหลอดอาหาร ทางเดินอาหารอุดตัน ก้อนขน หรือการขาดน้ำ หากคุณสอนให้เจ้าเหมียวกินอาหารช้าลงแล้วยังพบปัญหาอยู่ ให้ปรึกษาสัตวแพทย์
 

Stomach Issues

 

ความขี้สงสัย

หญ้า ผ้าปูพื้น และกระดาษชำระ ล้วนแต่เป็นของที่แมวอาจกินเข้าไปและอาเจียนออกมาทีหลังได้ การอาเจียนในลักษณะนี้มาจากกลไกการป้องกันตัวเอง ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติเพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย บางครั้งความขี้สงสัยของเจ้าเหมียวก็นำไปสู่ปัญหาร้ายแรงได้ นอกจากนี้ ของโปรดของเจ้าเหมียวอย่าง เชือก ชิ้นส่วนของเล่น หรือขนนกอาจติดอยู่ในลำไส้หรือกระเพาะได้ ซึ่งทำให้เกิดการอาเจียนบ่อย ๆ ร่วมด้วยภาวะเครียดรุนแรง หากพบว่าแมวของคุณมีอาการเหล่านี้ รีบพาเค้าไปหาสัตวแพทย์ทันที ส่วนใหญ่การนำสิ่งของออกจำเป็นต้องอาศัยการผ่าตัด
 

เหตุกังวลใจเมื่อแมวอาเจียน ?

เจ้าของไม่ควรมองข้ามเมื่อแมวที่เลี้ยงอาเจียนซ้ำ ๆ เนื่องจากจะนำไปสู่ภาวะขาดน้ำได้ แต่ถ้าแมวอาเจียนเป็นเรื่องปกติ คุณจะแยกออกได้อย่างไร … “คำแนะนำเบื้องต้นคือหากแมวของคุณอาเจียนเดือนละ 1-3 ครั้ง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ” ดร.ฟอล์เจอร์กล่าว

คุณหมอถือว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรงต่อเมื่อแมวอาเจียนสองครั้งภายในสามวัน ยิ่งหากแมวของคุณไม่ยอมกินอาหาร แสดงอาการปวดท้อง หรืออาเจียนปนกับเลือด ควรรีบพาเค้าไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน และอย่าลืมว่าหากคุณสงสัยว่ามีปัญหากวนใจใด ๆ ที่อาจกลายเป็นปัญหารุนแรงกับแมว ให้รีบติดต่อสัตวแพทย์ หรือพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทีนทีก็สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดของแมว รวมถึงคลายความกังวลของคุณได้
 

วิธีป้องกันไม่ให้แมวอาเจียน

เจ้าของแมวอาจจะคิดว่าการอาเจียนเป็นพฤติกรรมปกติของแมว ที่อาจเกิดขึ้นได้เพราะแมวมีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหารมากกว่าในคน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีวิธีป้องกันแมวอาเจียน
 

Stomach Issues

 

สอนให้แมวกินอาหารช้าลง

วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือการสอนให้แมวของคุณกินอาหารช้าลงหรือน้อยลง ดร.สตีเฟนส์แนะนำให้ ให้อาหารในปริมาณที่น้อยลง ยกภาชนะให้สูงขึ้นเล็กน้อย หรือใส่สิ่งของ เช่นลูกบอลเล็ก ๆ ลงในชามอาหาร ทำให้เจ้าเหมียวกินช้าลงเนื่องจากต้องคอยหลบลูกบอล แต่หากเลือกใช้วิธีนี้ต้องมั่นใจว่าลูกบอลมีขนาดใหญ่เกินกว่าเจ้าเหมียวจะกลืนได้ หรืออีกวิธีสำหรับบ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัว คือให้อาหารแต่ละตัวคนละเวลา คนละที่กันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแย่งกันกิน
 

ปรับเปลี่ยนอาหารแมวของคุณ
 

หากวิธีเบื้องต้นไม่ได้ผล ให้สังเกตพฤติกรรมการกินของเค้าแล้วปรับอาหาร อย่างเช่น โบเวนที่เปลี่ยนแบรนด์อาหารแมว “ตั้งแต่เปลี่ยนมาให้ไอแอมส์™ เค้าก็ไม่ค่อยอาเจียนอีกเลย” โบเวนกล่าว

“ปกติแล้วพอคุณเปลี่ยนมาใช้อาหารที่คุณภาพสูงขึ้น ก็มักจะไม่ค่อยเกิดปัญหา” สตีเฟนส์กล่าว เคล็ดลับในการเปลี่ยนอาหารที่ได้ผลและไม่ลำบากใจเจ้าเหมียว ได้แก่

ค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ ปรับอาหารเพื่อให้แมวมีเวลาปรับตัว “ตรวจดูว่าแมวได้กินอาหารทุกวัน” ดร.สตีเฟนส์แนะนำ “แมวที่หยุดกินอาหารทันทีอาจก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตับได้”

เพิ่มความน่าทาน การเปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ด หรือจากอาหารเม็ดเป็นอาหารเปียกก็ควรค่อย ๆ เปลี่ยนเช่นเดียวกัน แมวส่วนใหญ่ชื่นชอบอาหารเปียกมากกว่า หากคุณเปลี่ยนมาให้อาหารเม็ด ให้เติมน้ำและอุ่นให้พอร้อนเพื่อเพิ่มความน่าทาน นำอาหารที่ไม่ได้กินเกิน 20 นาทีทิ้งเพื่อป้องกันอาหารเสีย 

ตวงอาหาร ควรให้อาหารแมวเท่าไรดี? … อย่าลืมพิจารณาอายุ เพศ สายพันธุ์ การทำกิจกรรมในแต่ละวัน รวมถึงสุขภาพโดยรวมของแมว ปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณและอ่านคำแนะนำของผู้ผลิตอาหาร อาหารระดับพรีเมียมอย่างไอแอมส์™ มีสารอาหารอัดแน่นกว่าอาหารทั่วไป จึงไม่ต้องแปลกใจหากพบว่าต้องให้อาหารปริมาณน้อยลง

อีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ นอกจากการตวงอาหารแล้ว อย่าลืมชั่งน้ำหนักแมวเป็นประจำและปรับสัดส่วนอาหารตามความเหมาะสมหลังจากเปลี่ยนมาให้อาหารระดับพรีเมียม เจ้าเหมียวอาจรู้สึกชอบใจเมื่อได้กินอาหารเยอะกว่าปกติ แต่ในระยะยาวจะทำให้เค้าน้ำหนักเกินได้

หากแมวของคุณอาเจียนมากกว่าเดือนละ 3 ครั้งหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารเรื้อรัง คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อบรรเทาอาการของเค้าได้ เพียงแค่การได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์และความพยายามของคุณในการดูแลเจ้าเหมียวอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถจัดการปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดท้องได้

 

  • โภชนาการของแมวและความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว
    โภชนาการของแมวและความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว
    adp_description_block25
    โภชนาการของแมวและความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว

    • แบ่งปัน

    โภชนาการที่ดีเป็นกุญแจสำคัญของการมีชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดีสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แมวเองก็เช่นกัน พวกเค้าต้องการอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนและสมดุลเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต รักษาร่างกาย เพิ่มพลังงาน และต่อสู้กับความเจ็บป่วย ในการเลือกอาหารที่ดีสำหรับแมวหรืออาหารแมวเพื่อสุขภาพ พ่อแม่แมวจำเป็นต้องเรียนรู้ส่วนผสมและสารอาหารที่จำเป็นกันก่อน

     

    แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ สารอาหารที่พวกเค้าต้องการก็พบอยู่ในเนื้อสัตว์เป็นหลัก เดิมทีแมวเป็นนักล่าและจะกินเหยื่อเพื่อให้ได้โปรตีนในปริมาณสูง ไขมันในปริมาณปานกลาง และคาร์โบไฮเดรตบางส่วนเพื่อตอบสนองความต้องการของร่างกาย แม้ว่าแมวบ้านทุกวันนี้จะไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์แล้ว แต่พวกเค้ายังคงต้องการสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เช่น แร่ธาตุ วิตามิน กรดไขมัน และกรดอะมิโน

     

    โภชนาการแมวควรมีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยส่วนผสมที่หลากหลายจะเป็นแหล่งสารอาหารและพลังงานที่ดีให้กับแมว อย่างแคลเซียมจะได้มาจากผลิตภัณฑ์นม เครื่องใน กระดูกป่น เนื้อสัตว์ พืชตระกูลถั่ว และแร่ธาตุเสริม การวางแผนโภชนาการอาหารแมวคือการดูแลให้พวกเค้าได้รับโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ และน้ำในปริมาณที่เหมาะสม อ่านบทความของเราเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่จำเป็นต่อความเป็นอยู่ที่ดีของแมวเพิ่มเติม

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของโปรตีนในอาหารแมว

    เนื่องจากเป็นสัตว์กินเนื้อ แมวจึงจำเป็นต้องกินโปรตีนมากขึ้นเมื่อเทียบกับสัตว์ชนิดอื่น โปรตีนสำหรับแมวถือเป็นแหล่งพลังงานหลักและตัวช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงรักษาผิวหนัง เส้นขน กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อ แอนติบอดี ฮอร์โมน และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยตับจะผลิตเอนไซม์เพื่อเผาผลาญโปรตีนเป็นพลังงาน หากแมวกินโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายจะเริ่มสลายกล้ามเนื้อของตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงาน

     

    แหล่งโปรตีนหลักที่ใช้ในอาหารแมวคือโปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์ แต่โปรตีนจากพืชอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากมีสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ สารอาหารบางชนิดมีอยู่ในโปรตีนจากสัตว์เท่านั้น เช่น ทอรีน เมทไธโอนีน และซิสตีน

     

    โปรตีนจากสัตว์ในอาหารแมวมักจะมาจากไก่ ไก่งวง เนื้อแกะ เนื้อวัว และปลา อาหารแมวที่มีส่วนผสมของผลพลอยได้จากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ก็มีจำหน่ายมากมายในท้องตลาดเช่นกัน แม้ว่าพ่อแม่แมวหลาย ๆ คนจะคิดว่าอาหารเหล่านี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี แต่แท้จริงแล้วพวกมันเป็นแหล่งโปรตีนที่ยอดเยี่ยม

     

    แมวต้องการโปรตีนมากน้อยแค่ไหน?

    ความต้องการโปรตีนสำหรับแมวขึ้นอยู่กับอายุหรือช่วงวัย แมวโตต้องการโปรตีนสูงเมื่อเทียบกับสุนัข คน หรือสัตว์ชนิดอื่น แม้ว่าสัดส่วนที่แน่นอนจะแตกต่างกันไป แต่แมวโตต้องการโปรตีนประมาณ 26% ในมื้ออาหาร โดยคุณสามารถเลือกอาหารแมวที่มีโปรตีนสูงให้กับพวกเค้าได้ ส่วนความต้องการโปรตีนสำหรับลูกแมวอาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและสุขภาพโดยรวม ทางที่ดีควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวของคุณได้รับสารอาหารที่เหมาะสม

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของวิตามินในอาหารแมว

    เมื่อพูดถึงความสำคัญของวิตามินสำหรับแมว ต้องบอกเลยว่ามันเป็นสารอาหารที่สำคัญเช่นกัน วิตามินจำเป็นต่อการทำงานของระบบเผาผลาญ เอนไซม์หลายชนิดที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญจะไม่สามารถทำหน้าที่ได้หากไม่มีวิตามิน 

     

    อาหารหลายชนิดเป็นแหล่งที่มาของวิตามิน เช่น ผลไม้ ผัก เนื้อเยื่อของสัตว์ น้ำมันพืช ธัญพืช และเมล็ดพืช แต่มันเป็นเรื่องยากมากที่จะควบคุมปริมาณวิตามินให้เหมาะสมจากการกินอาหารชนิดต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ อาหารแมวจึงจำเป็นต้องมีวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม

     

    แมวต้องการวิตามินมากน้อยแค่ไหน?

    หากแมวของคุณมีสุขภาพดี กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล คุณก็ไม่จำเป็นต้องให้อาหารเสริมและวิตามินสำหรับแมวเพิ่มเติม ในบางกรณี วิตามินเสริมอาจเป็นอันตรายได้ ทางที่ดีควรปรึกษาสัตวแพทย์และดูแลโภชนาการแมวให้เหมาะสม

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของแร่ธาตุในอาหารแมว

    แมวต้องการแร่ธาตุเพื่อเสริมการทำงานของร่างกาย แร่ธาตุหลายชนิดที่แมวต้องการได้มาจากเนื้อสัตว์และพืช อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โภชนาการอาหารแมวมีความสมดุล ผู้ผลิตมักจะเพิ่มแร่ธาตุลงในอาหารแมว

     

    แมวต้องการแร่ธาตุมากน้อยแค่ไหน?

    ในอาหารของแมวควรมีแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก โซเดียม คลอไรด์ ทองแดง สังกะสี แมงกานีส ไอโอดีน และซีลีเนียม แร่ธาตุเหล่านี้ช่วยควบคุมการทำงานของเส้นประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมการทำงานของเอนไซม์ ส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย สนับสนุนการเจริญเติบโตของโครงสร้างกระดูก และอื่น ๆ อีกมากมาย โภชนาการแมวจึงควรมีแร่ธาตุเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวของคุณได้รับสารอาหารตรงตามความต้องการ ขอแนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการอาหารแมวที่เหมาะสม

     

    ปริมาณไขมัน (Crude fat) คืออะไร?

    การวิเคราะห์ปริมาณไขมันในอาหารสัตว์ทำได้โดยการสกัดด้วยตัวทำละลาย และปริมาณไขมันในอาหารทุกสูตรจะแสดงอยู่บนฉลากบรรจุภัณฑ์

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของไขมันในอาหารแมว

    ไขมันถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นมาก โปรตีนอาจจะเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับแมว แต่ไขมันเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมากที่สุด และยังช่วยส่งผ่านกระแสประสาทอีกด้วย แหล่งไขมันที่จำเป็น เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวหนังและเส้นขน

     

    ไขมันและกรดไขมันจำเป็นอื่น ๆ พบได้ในสูตรอาหารที่มีส่วนผสมของตับ ไก่ เนื้อวัว ไก่งวง และปลา ในบางครั้ง ผู้ผลิตจะเพิ่มแหล่งไขมันพิเศษลงในสูตรอาหาร เช่น น้ำมันปลา ไขมันวัว และน้ำมันถั่วเหลือง โดยคุณสามารถตรวจสอบรายการส่วนผสมและแหล่งที่มาของไขมันได้จากฉลากผลิตภัณฑ์

     

    แมวต้องการไขมันมากน้อยแค่ไหน?

    แมวจำเป็นต้องควบคุมน้ำหนักและรักษารูปร่างให้เหมาะสมเพื่อความกระฉับกระเฉง จึงไม่แนะนำให้แมวกินอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง พวกเค้าไม่ควรได้รับไขมันมากเกินความจำเป็นในแต่ละวัน หากได้รับไขมันมากเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาน้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วนได้ คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกสูตรอาหารที่มีปริมาณไขมันเหมาะสมกับแมวของคุณได้ หรือหากแมวมีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน คุณหมออาจแนะนำให้เลือกอาหารแมวควบคุมน้ำหนักแทน

     

    แหล่งที่มาและความสำคัญของคาร์โบไฮเดรตในอาหารแมว

    สัตว์หลายชนิดต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้ได้พลังงาน แต่เนื่องจากแมวได้รับพลังงานส่วนใหญ่จากโปรตีนและไขมันแล้ว คาร์โบไฮเดรตจึงไม่ได้มีความสำคัญมากนัก อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าอาหารแมวไม่จำเป็นต้องมีคาร์โบไฮเดรตเลย แมวยังต้องการคาร์โบไฮเดรตในปริมาณเล็กน้อย แต่ไม่แนะนำให้แมวกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตปริมาณมาก เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำหนักตัวเกินและอาจนำไปสู่โรคร้ายอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน 

     

    แมวต้องการคาร์โบไฮเดรตมากน้อยแค่ไหน?

    อาหารของแมวไม่ควรมีคาร์โบไฮเดรตเกิน 10% อาหารเม็ดอาจมีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง แต่การผสมอาหารเม็ดและอาหารเปียกจะช่วยให้ป้องกันไม่ให้แมวได้รับคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป

     

    อาหารที่ดีสำหรับแมว

    อาหารแมวที่ดีควรประกอบไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ต้องมีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ และน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของแมว หากคุณกังวลเกี่ยวกับการเลือกอาหาร หรือสงสัยว่าอาหารแบบใดคืออาหารแมวเพื่อสุขภาพ ควรกำหนดปริมาณอาหารในแต่ละวันอย่างไร และแมวของคุณจำเป็นต้องกินอาหารแมวควบคุมน้ำหนักหรือไม่ คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้เสมอ

Close modal