ในท้องตลาดมีอาหารลูกแมวที่ใช้วัตถุดิบแตกต่างกันให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก คุณจึงควรทราบว่า วัตถุดิบใดที่จำเป็นกับลูกแมวบ้าง คุณอาจเคยเห็นเมล็ดแฟลกซ์ในรายชื่อวัตถุดิบอาหารแมวชนิดเปียกมาบ้าง แล้วเมล็ดแฟลกซ์ในฐานะแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 จำเป็นต่อลูกแมวหรือไม่
มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเมล็ดแฟลกซ์และผลกระทบต่อสุขภาพลูกแมวกันดีกว่า
เมล็ดแฟลกซ์คือ เมล็ดของต้นแฟลกซ์ที่นำมาบด น้ำมันในต้นแฟลกซ์เป็นแหล่งของกรดโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิก ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิดอื่น
ในอาหารแมว เมล็ดแฟลกซ์มีหน้าที่ให้กรดไขมันโอเมก้า-3 เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอเมก้า-3 กับโอเมก้า-6 ในอาหาร ผลวิจัยจากไอแอมส์เผยให้เห็นว่าปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 ที่สมดุลกันจะช่วยสร้างสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี
การใส่กรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิกลงในอาหารลูกแมวมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
กรดอัลฟาไลโนเลนิกอาจเป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีความสำคัญ แต่ต้องใช้เวลาหลายรุ่นกว่าอาการขาดสารอาหารในแมวจะปรากฏ เมื่อเลือกอาหารให้แมว อย่าลืมว่า เมล็ดแฟลกซ์ช่วยบำรุงสุขภาพลูกแมวในช่วงการเติบโตและพัฒนาการรวดเร็วได้
หากคุณกำลังตัดสินใจระหว่างอาหารแมวแบบธรรมชาติทั้งหมด โฮลิสติก และแบบออร์แกนิคอยู่ เรามีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณอาจยังไม่ทราบ ในปัจจุบันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมีการผลักดันเทรนด์อาหาร “ธรรมชาติทั้งหมด” “โฮลิสติก” และ “ออร์แกนิค” ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า “ธรรมชาติทั้งหมด” “โฮลิสติก” และ “ออร์แกนิค” นั้นมีประโยชน์จริง ๆ หรือไม่
AAFCO ให้ความหมาย “ธรรมชาติ” ว่า มาจากพืช สัตว์ หรือวัตถุดิบที่ขุดขึ้นเท่านั้น ไม่มีส่วนประกอบของสารปรุงรส หรือสารแปรรูปที่เกิดจากการสังเคราะห์ทางเคมี ยกเว้นในกรณีที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในกระบวนการผลิตอย่างสุจริต
ตีความอย่างง่ายว่า ความหมายนี้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นตาม “ธรรมชาติ” หลายชนิดรวมถึง ยาสูบ หรือยาและสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจาก “ธรรมชาติทั้งหมด” นี้มีประโยชน์ต่อลูกแมวของคุณ จึงควรมีหน่วยงานควบคุมหันมาศึกษาคุณประโยชน์ที่แท้จริงของสารจากธรรมชาติเหล่าทั้งหมดนี้ นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่า ในความหมายที่ระบุอยู่นั้นไม่ได้ยกเว้นผลพลอยได้จากพืชและสัตว์ เพราะนอกจากจะเป็นสารที่มาจาก “ธรรมชาติ” แล้วยังมีคุณค่าทางโภชนาการทั้งในอาหารคนและอาหารสัตว์
ไม่มีหน่วยงานควบคุมใดระบุหมายความของอาหารแมวแบบ “โฮลิสติก” ไว้ในหมู่หมวดอาหารอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญเนื่องจากอาหารที่วางจำหน่ายในท้องตลาดทั้งหมดต้อง “ครบถ้วนและสมดุล” กับอายุ หรือระดับพลังงานที่เหมาะสมกับน้องหมาที่กำหนดไว้ หรือกล่าวง่าย ๆ ว่าต้องเป็นอาหารที่ “สมบูรณ์”
อาหารแมวที่ระบุว่าเป็นอาหารแมวแบบ “ออร์แกนิค” ได้นั้นต้องมีผู้รับรองที่รัฐบาลอนุมัติ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบฟาร์มที่ปลูกอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ปลูกปฏิบัติตามมาตรฐานของ USDA ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญยังคงถกเถียงกันอยู่ว่า อาหารแมวแบบออร์แกนิคมีความปลอดภัย หรือมีคุณค่าทางโภชนาการใด ๆ เพิ่มเติมกว่าปกติหรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจนใด ๆ บังคับใช้กับอาหารแมวแบบออร์แกนิคอยู่เลย
ในปัจจุบันความหมายของอาหารแมวแบบ “ธรรมชาติทั้งหมด” “โฮลิสติก” และ “ออร์แกนิก” นั้นมีความคลุมเครืออยู่มาก ทำให้รัฐบาลต่าง ๆ และกลุ่มผู้บริโภคคอยเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งจะทำให้เกิดการให้ความรู้และความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความหมายที่คำศัพท์ต่าง ๆ นี้ คุณจึงควรทำความเข้าใจกับคำศัพท์เหล่านี้ให้ดี