IAMS TH
The Importance of Taurine in Cat Food
The Importance of Taurine in Cat Food

adp_description_block106
คุณประโยชน์ของทอรีนในอาหารแมว

  • แบ่งปัน

ทอรีนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในอาหารแมวของไอแอมส์™ เช่น อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับแมวโต

 

ทอรีนเป็นกรดอะมิโนอิสระที่พบอยู่ในเนื้อเยื่อและอวัยวะของร่างกาย เช่น หัวใจและดวงตา โดยจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การมองเห็น และการสืบพันธุ์ในลูกแมว รวมถึงจำเป็นต่อการผลิตน้ำดีที่ช่วยในการย่อยอาหารด้วย ทั้งนี้ทอรีนแตกต่างจากกรดอะมิโนชนิดอื่นตรงที่ไม่ใช่ในการสร้างโปรตีน

 

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่สามารถผลิตทอรีนเองได้ แต่สำหรับแมวนั้น ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอ จึงต้องรับเพิ่มจากอาหารเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยทอรีนพบได้ในส่วนผสมที่เป็นเนื้อสัตว์ หรืออาจมาในรูปแบบอาหารเสริม

ทอรีนมีประโยชน์อย่างไร?

ทอรีนช่วยเสริมสร้างการมองเห็น การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน การตั้งท้องและพัฒนาการของลูกในท้อง โดยสามารถพบทอรีนได้ในโปรตีนจากสัตว์เท่านั้น

การสร้างทอรีนของสุนัขและแมว

  • สุนัข

น้องหมาสามารถสังเคราะห์ทอรีนได้จากกรดอะมิโน 2 ชนิด ได้แก่ ซิสเทอีนและเมไทโอนีน พวกเค้าจึงไม่ต้องการทอรีนในอาหาร แต่เพราะทอรีนมีประโยชน์มากมาย จึงยังเป็นสารอาหารสำคัญที่อยู่ในอาหารสุนัข

ทั้งนี้ยังไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับปริมาณทอรีนในอาหารสุนัข หากกังวลว่าน้องหมาได้รับทอรีนไม่เพียงพอ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

  • แมว

เนื่องจากน้องแมวไม่สามารถสังเคราะห์ทอรีนเองได้ จึงจำเป็นต้องมีทอรีนในอาหารของพวกเค้า หากในอาหารมีทอรีนน้อยเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญหลายประการ เช่น อาจทำให้จอประสาทตาเสื่อม และน้องแมวอาจตาบอดได้ นอกจากนี้การขาดทอรีนทำให้การเจริญเติบโตช้าลง และส่งผลต่อความสามารถในการสืบพันธุ์

ตามมาตรฐาน AAFCO นั้น อาหารเม็ดสำหรับแมวโต ต้องมีปริมาณทอรีนอย่างน้อย 25 มก./100 แคลอรี ส่วนอาหารเปียกต้องมี 50 มก./100 แคลอรี อย่างไรก็ตาม น้องแมวแต่ละตัวมีความต้องการทอรีนแตกต่างกัน จึงควรปรึกษาสัตวแพทย์หากมีความกังวลว่าพวกเค้าได้รับทอรีนไม่เพียงพอ

 ทำไม ไอแอมส์™ จึงเพิ่มทอรีนในอาหารแมว?

อาหารแมวชนิดเม็ดของ ไอแอมส์™ มีส่วนผสมของโปรตีนจากเนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มทอรีนให้เจ้าเหมียวได้ เช่น เนื้อไก่ ไข่ เนื้อแกะ และปลา ทั้งนี้ปริมาณทอรีนที่ได้จะแตกต่างกัน และอาจต้องเพิ่มปริมาณทอรีนเพื่อให้แน่ใจว่ามีทอรีนอยู่ระดับที่เหมาะสมที่สุด

ความสำคัญของทอรีนสำหรับแมว

ประโยชน์ของทอรีน

ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ในเนื้อเยื่อและอวัยวะอื่น ๆ เช่น กล้ามเนื้อ หัวใจ สมอง และดวงตา โดยจะแตกต่างจากกรดอะมิโนส่วนใหญ่ เพราะทอรีนไม่ได้สร้างโปรตีนในเซลล์ แต่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่างซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้องแมว ดังนี้

  • ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
  • ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี
  • ช่วยดูแลจอประสาทตาและการมองเห็น
  • เสริมสร้างระบบสืบพันธุ์
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมตามอายุ

ทำไมน้องแมวถึงต้องการทอรีน?

การขาดทอรีนอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เนื่องจากจำเป็นต่อการทำงานของหลาย ๆ ส่วนในร่างกาย โดยปัญหาที่พบได้จากการขาดทอรีน มีดังนี้

  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ – หายจากการเจ็บป่วยช้า
  • พลังงานต่ำ – ระดับพลังงานได้รับผลกระทบจากการขาดสารอาหาร
  • ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจในแมว – เป็นภาวะที่หัวใจขยายใหญ่ขึ้น
  • ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร – ท้องเสียหรืออาเจียน
  • ปัญหาจอประสาทตา – สูญเสียการมองเห็นตามอายุ
  • ปัญหาการสืบพันธุ์ – มีลูกยากหรือลูกแมวที่เกิดมามีน้ำหนักแรกเกิดน้อยและเจริญเติบโตได้ไม่ดี
  • ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ – ทอรีนส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นการขาดทอรีนอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้
  • ผิวหนังไม่แข็งแรงและขนหยาบกระด้าง – หากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ น้องแมวอาจมีขนแข็งหยาบกระด้าง และมีสะเก็ดรังแค
  • ปัญหาสุขภาพฟัน – การสะสมของหินปูน ฟันผุ และมีกลิ่นปาก

การน้องแมวขาดทอรีนส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?

  • สูญเสียการมองเห็น

ทอรีนมีความสำคัญต่อพัฒนาการและการทำงานของเซลล์ในจอประสาทตา หากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดความเสื่อมบริเวณส่วนกลางของจอประสาทตา ส่งผลให้การมองเห็นบกพร่องและตาบอดในที่สุด

  • โรคหัวใจ

การขาดทอรีนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ภาวะนี้เรียกว่า Dilated Cardiomyopathy ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถบีบตัวได้เป็นปกติ เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต

  • การเจริญเติบโตลดลง

ทอรีนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของน้องแมว โดยในช่วงตั้งท้องและให้นมลูกนั้น ทั้งแม่แมวและลูกแมวต้องรักษาระดับทอรีนให้เพียงพอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวจะมีพัฒนาการที่เหมาะสม

  • ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน

ระบบภูมิคุ้มกันของน้องแมวอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เป็นผลให้พวกเค้าไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้และมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคได้ง่าย

  • ระดับพลังงานลดลง

น้องแมวที่มีพลังงานน้อยอาจดูเหนื่อยล้าและมักจะอยู่นิ่ง ไม่ค่อยขยับตัว

  • ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

ทอรีนมีส่วยช่วยในการผลิตน้ำดีซึ่งจำเป็นต่อการย่อยไขมัน น้องแมวอาจท้องเสียและมีปัญหาในระบบทางเดินอาหารหากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ

  • ความสามารถในการสืบพันธุ์

น้องแมวที่ขาดทอรีนอาจมีปัญหาการสืบพันธุ์ได้

  • ปัญหาสุขภาพฟัน

ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้ฟันแข็งแรง ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุได้ดี

ทอรีนและอาหารแมวของไอแอมส์™

อาหารแมวไอแอมส์™ มีโปรตีนคุณภาพดีเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ยังเสริมด้วยทอรีนเพื่อให้แน่ใจว่ามีกรดอะมิโนจำเป็นชนิดนี้ในระดับที่เหมาะสมและสมดุล

อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับแมวโต รสไก่และแซลมอน เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดสำหรับน้องแมวที่คุณรัก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล มีโปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมถึงมีไฟเบอร์และพรีไบโอติกจากธรรมชาติ ช่วยให้ระบบย่อยและขับถ่ายดี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทอรีนในอาหารแมว

  1. ทอรีนมีผลกระทบต่อน้องแมวหรือไม่?
  2. หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อร่างกาย แต่หากได้รับมากเกินไป น้องแมวอาจมีอาการอาเจียนเล็กน้อย

  3. ทอรีนมีประโยชน์สำหรับน้องแมวหรือไม่?
  4. ในช่วงปลายปีทศวรรษที่ 1980 ทอรีนกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารแมว และตั้งแต่นั้นมา อาหารแมวทุกชนิดก็อุดมไปด้วยทอรีนในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของน้องแมวแต่ละตัว

  5. &lt;ol&gt;<br> &lt;li&gt;<br> &lt;h3&gt;อะไรเป็นสาเหตุของการขาดทอรีนในแมว?&lt;/h3&gt;<br> &lt;/li&gt;<br> &lt;/ol&gt;
  6. เพราะการให้อาหารคุณภาพต่ำและมีสารอาหารไม่ครบถ้วน ทำให้น้องแมวจำนวนมากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ เนื่องจากน้องแมวไม่สามารถสังเคราะห์ทอรีนได้ด้วยตัวเอง ทอรีนจึงเป็นสารอาหารสำคัญที่ควรมีอยู่ในอาหารแมว

  • สาเหตุของแมวอ้วกและวิธีการรักษา
    สาเหตุของแมวอ้วกและวิธีการรักษา
    adp_description_block485
    สาเหตุของแมวอ้วกและวิธีการรักษา

    • แบ่งปัน

    สำหรับคนเลี้ยงแมว คุณคงเคยเห็นแมวอาเจียนบ้างเป็นครั้งคราว บางครั้งแมวก็อ้วกออกมาเป็นก้อนขน หรือบางครั้งคุณอาจพบว่าแมวอ้วกเป็นอาหารที่กินเข้าไป การอาเจียนแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่แมวที่มีสุขภาพดีไม่ควรอาเจียนบ่อยเกินไป การอาเจียนบ่อยครั้งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทางที่ดีควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่และรับการรักษาอย่างทันท่วงที

     

    ดังที่กล่าวไปแล้ว การอาเจียนเป็นครั้งคราวไม่ใช่เรื่องน่ากังวล คุณไม่จำเป็นต้องรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์ แต่ควรไปพบเมื่อแมวอ้วกหลังอาหารทุกมื้อหรือทุกวัน อ่านบทความของเราเพื่อเรียนรู้สาเหตุและวิธีดูแลรักษาอาการอาเจียนในแมวเพิ่มเติม

     

    แมวอาเจียนเพราะอะไร?

    การอาเจียนของแมวเกิดได้จากหลายสาเหตุ แมวอาจอาเจียนเมื่อสัมผัสกับสารพิษ เช่น พืชบางชนิด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการอาเจียนเรื้อรังได้ นอกจากนี้แมวยังมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น พวกเค้าอาจรับสารพิษเข้าไปแบบไม่รู้ตัวในขณะที่สำรวจสิ่งต่าง ๆ จนนำไปสู่การอาเจียนในที่สุด

     

    การอาเจียนไม่สามารถระบุความเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อที่เฉพาะเจาะจงได้ โรคในแมวเกือบทั้งหมดส่งผลให้แมวมีอาการอาเจียน ทั้งนี้เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง คุณจะต้องพาเจ้าเหมียวไปพบสัตวแพทย์ โดยการอาเจียนอาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ ความผิดปกติของอวัยวะ ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร อาหาร การติดเชื้อ โรคมะเร็ง และอื่น ๆ

     

    สาเหตุของการอาเจียนในแมว

    สาเหตุที่ทำให้แมวอ้วกมีอะไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

    1. ก้อนขนอุดตัน – 

    แมวชอบดูแลตัวเอง พวกเค้ามักจะเลียทำความสะอาดตัวเองอยู่เสมอ และลิ้นที่มีหนามเล็ก ๆ อาจเกี่ยวติดขนที่ใกล้หลุดร่วงออกมา ทำให้แมวกลืนขนบางส่วนลงไป ขนเหล่านี้จะสะสมอยู่ในท้องจนเกิดการอุดตัน แมวจึงต้องขย้อนมันออกมา การขย้อนก้อนขนเป็นเรื่องปกติและไม่น่ากังวล แต่หากแมวขย้อนก้อนขนบ่อยเกินไป นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาระบบทางเดินอาหาร ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์

     

    1. ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร – 

    อาจเรียกว่าเป็นอาการท้องไส้ปั่นป่วนก็ได้ สาเหตุนี้อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยา ปัญหาเกี่ยวกับอาหาร และการได้รับสารพิษ ปัญหาในระบบทางเดินอาหารส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและหายได้เอง ในขณะที่สาเหตุอื่น ๆ อาจก่อให้เกิดอาการเรื้อรังและต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ

    • สิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งกีดขวาง – หากแมวของคุณชอบกัดหรือเคี้ยวสิ่งของ มันก็มีโอกาสที่พวกเค้าจะกลืนชิ้นส่วนเล็ก ๆ ลงไป ทำให้เกิดการอุดตันในระบบทางเดินอาหารและเกิดการอาเจียนได้ ในกรณีนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน ทางที่ดีควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กอาการเพิ่มเติม

    • อาการภูมิแพ้แมวและโรคลำไส้อักเสบ – การแพ้อาหารจะเกิดขึ้นเมื่อแมวได้กินอาหารบางชนิดเข้าไป ซึ่งอาจทำให้แมวอ้วกออกมาทันทีเนื่องจากการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร บางครั้งการแพ้อาหารก็ทำให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรังได้เช่นกัน

    • อาการเจ็บป่วย – โรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น ตับอ่อนอักเสบ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป โรคไต และอื่น ๆ อาจทำให้แมวรู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนได้ หากแมวอ้วกบ่อยจนผิดปกติ คุณควรพาพวกเค้าไปตรวจเช็กร่างกายเพื่อค้นหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่

    • การติดเชื้อปรสิต – ปรสิตตัวร้ายมักจะทำให้ลูกแมวมีอาการอาเจียน แต่สาเหตุนี้เกิดขึ้นได้กับแมวทุกวัยเช่นกัน แนะนำให้ตรวจสอบอาเจียนของแมวเพื่อหาพยาธิที่มีชีวิต ข่าวดีคือการอาเจียนจากปรสิตสามารถรักษาให้หายได้ 100%

    • โรคมะเร็ง – มะเร็งในระบบทางเดินอาหารพบได้บ่อยมากในแมว ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แมวมีอาการอาเจียน อย่างไรก็ตาม มะเร็งในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็อาจทำให้อาเจียนได้เช่นกัน

    ลักษณะอาเจียนของแมว

    ลักษณะของอาเจียนมีความสำคัญต่อการรักษา เนื่องจากสามารถบ่งบอกถึงสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงได้ แนะนำให้สังเกตหรือตรวจดูอาเจียนของแมวเพื่อแจ้งให้สัตวแพทย์ทราบ โดยลักษณะอาเจียนของแมวที่พบบ่อยมีดังนี้

     

    อาเจียนสีเหลือง

    แมวอ้วกเป็นสีเหลืองอาจเป็นเพราะอาหารย่อยได้แค่บางส่วนหรือเป็นน้ำดีในท้อง

    อาเจียนสีใส

    อาเจียนสีใสอาจเกิดขึ้นจากอาการท้องว่างหรือการสำรอกน้ำลายออกจากหลอดอาหาร

    อาเจียนสีขาว มีฟอง

    การขย้อนก้อนขนในขณะท้องว่างอาจทำให้แมวอาเจียนเป็นฟองสีขาวได้

    อาเจียนเป็นเลือด 

    อาเจียนเป็นเลือดอาจเกิดจากการอักเสบในกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร หรือลำไส้ส่วนบน

    อาเจียนสีน้ำตาล มีกลิ่น

    อาเจียนสีน้ำตาลและมีกลิ่นอาจเป็นสัญญาณของการมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังอาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับไตหรือตับด้วย

     

    ป้องกันไม่ให้แมวอาเจียนได้อย่างไร?

    เราสามารถป้องกันไม่ให้แมวอ้วกได้หลายวิธี แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลเรื่องอาหารการกิน ในกรณีที่มีอาการภูมิแพ้แมวหรือมีอาการแพ้อาหาร ควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากสัตวแพทย์ วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาอาเจียนเรื้อรังได้

     

    ขอแนะนำให้เลือกอาหารแมวที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุล หลีกเลี่ยงการให้อาหารของคน คอยจับตาดูแมวขณะเล่นและอย่าปล่อยให้พวกเค้ากินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป สำหรับปัญหาก้อนขนอุดตัน คุณอาจเปลี่ยนมาให้อาหารสูตรลดก้อนขนหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่สัตวแพทย์แนะนำเพิ่มเติมได้

     

    การรักษาอาการอาเจียนในแมว

    การสังเกตลักษณะอาเจียนเป็นส่วนสำคัญในการรักษา คุณควรสังเกตว่าอาเจียนของแมวเป็นแบบใด แมวอ้วกเป็นอาหารที่กินเข้าไปหรือแมวอาเจียนเป็นฟองสีขาว ทั้งนี้พ่อแม่แมวหลายคนพยายามหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันหรือลดการอาเจียนมาใช้กับแมว แต่การอาเจียนเกิดจากหลายสาเหตุ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาจึงเป็นเรื่องยาก หากแมวของคุณอาเจียนเพราะปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะในร่างกายหรือโรคมะเร็ง สิ่งแรกที่ควรทำคือเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม แต่หากแมวของคุณมีอาการอาเจียนเพียงเล็กน้อย สัตวแพทย์อาจสั่งยาแก้อาเจียนหรือยาลดกรดให้ สำหรับปัญหาระบบทางเดินอาหาร คุณอาจต้องเปลี่ยนสูตรอาหารที่เหมาะสมกับอาการ 

     

    การวินิจฉัยและการตรวจสอบโดยสัตวแพทย์

    สัตวแพทย์จะตัดสินใจว่าควรทดสอบและใช้วิธีการรักษาแบบใดโดยพิจารณาจากประเด็นเหล่านี้

    1. แมวมีไข้ อ่อนเพลีย หรือเซื่องซึมหรือไม่

    2. แมวมีอาการเบื่ออาหารไหม? น้ำหนักลดลงหรือเปล่า?

    3. แมวอ้วกเป็นเลือดหรือไม่?

    4. แมวมีอาการเจ็บปวดหรือไม่สบายตัวไหม?

    5. ช่องท้องของแมวได้รับผลกระทบหรือไม่?

    6. แมวอ้วกบ่อยครั้งในหนึ่งวันหรือแค่หลังมื้ออาหาร?

    7. อาเจียนของแมวมีกลิ่นเหม็นไหม? แล้วอาเจียนมีสีอะไร?

    8. คุณเพิ่งเปลี่ยนอาหารให้แมวใหม่หรือเปล่า มีการให้อาหารเสริมหรือไม่?

    9. แมวของคุณชอบเคี้ยวของเล่นหรือกินอาหารอื่นเข้าไปหรือเปล่า?

    10. แมวตัวอื่นในบ้านมีอาการเหมือนกันไหม?

    การตรวจวินิจฉัยและการรักษาวิธีอื่น

    หากแมวของคุณอาเจียนบ่อยครั้งและคุณสงสัยว่าพวกเค้ามีปัญหาสุขภาพอื่นแอบแฝง สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ทำการทดสอบเพิ่มเติมและทำการรักษาในเชิงรุก หากแมวสูญเสียเลือดหรืออิเล็กโทรไลต์จำนวนมากจากการอาเจียนบ่อย ๆ คุณอาจต้องพาพวกเค้าไปรักษาในโรงพยาบาล

     

    สาเหตุอื่น ๆ ของการอาเจียนในแมว

    ก่อนจะเรียนรู้วิธีรักษาอาการอาเจียนของแมว เรามาดูสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้แมวอาเจียนกันก่อน

    1. สารพิษ

    • การอาเจียนจากการได้รับสารพิษขณะเลียขนเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด

    • แมวชอบเคี้ยวใบไม้ดอกไม้ในบ้าน ซึ่งพืชบางชนิดก็เป็นพิษกับแมว

    • ขณะที่เราทำความสะอาดบ้านด้วยสารเคมีต่าง ๆ แมวอาจสูดดมหรือเลียเข้าไป ทำให้เกิดการอาเจียนได้

    1. อาหาร

    • หากแมวไม่ยอมกินอาหารหรือกินช้าลงกว่าปกติ คุณอาจพบว่าแมวอ้วกเป็นอาหารที่ไม่ได้ย่อยออกมา

    • อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แมวอาเจียนบ่อยคือการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน คุณควรเปลี่ยนอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ โดยค่อย ๆ ปรับปริมาณอาหารเดิมให้น้อยลง และเพิ่มปริมาณอาหารใหม่ให้มากขึ้น

    1. ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

    • การได้รับสิ่งแปลกปลอม มลพิษ หรือผลข้างเคียงของยา อาจทำให้เกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหารได้ เช่น มีอาการปวดท้อง

    • บางกรณีอาจไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่บางกรณีอาจร้ายแรงและควรได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์

    1. ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้

    • การกลืนสิ่งแปลกปลอม เช่น เชือกหรือของเล่นชิ้นเล็ก ๆ อาจทำให้เกิดการอุดตันที่กระเพาะหรือลำไส้ 

    • ลำไส้อุดตันเป็นภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการดูแลรักษาทันที อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพ เช่น เนื้องอก หรือการบีบตัวผิดปกติของลำไส้

    • อาการที่สังเกตได้ทั่วไป เช่น แมวอ้วกบ่อย ไม่สามารถกลืนน้ำหรืออาหารได้

    1. ความผิดปกติของอวัยวะ

    • ความผิดปกติเรื้อรัง เช่น ตับอ่อนอักเสบ โรคไต และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนเรื้อรังในแมวได้

    • การระบุโรคที่เป็นต้นเหตุเป็นสิ่งสำคัญเพื่อค้นหาวิธีดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม อาการเจ็บป่วยเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต

    1. ปัญหาต่อมไร้ท่อ

    • หนึ่งในโรคต่อมไร้ท่อในแมวที่พบบ่อยที่สุดคือไฮเปอร์ไทรอยด์ หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป 

    • การทำงานมากเกินไปของต่อมไทรอยด์เกิดจากเนื้องอก (โดยปกติจะไม่เป็นอันตราย)

    • อัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้แมวอาเจียนได้

    อาการอาเจียนแบบใดที่น่ากังวล?

    พ่อแม่แมวไม่ควรละเลยหากแมวอาเจียนอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาเจียนแบบไหนถือว่าผิดปกติ? หากแมวอ้วก 1 – 3 ครั้งต่อเดือน จะถือว่าเป็นเรื่องปกติ

     

    กรณีที่ร้ายแรงหรือน่ากังวลคือแมวอ้วกวันละสองครั้งเป็นเวลาสองหรือสามวัน หากแมวของคุณไม่ยอมกินอาหาร มีอาการปวดท้อง อาเจียนอย่างต่อเนื่องหรืออาเจียนมีเลือดปน ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

Close modal