IAMS TH
How to Care for Your Cat’s Hairball Issues
How to Care for Your Cat’s Hairball Issues

adp_description_block116
วิธีจัดการปัญหาก้อนขนแมว

  • แบ่งปัน

เจ้าของทุกคนย่อมรักแมวและอยากเห็นพวกเค้ามีความสุข ดังนั้นการเห็นเจ้าตัวน้อยส่งเสียงไอก่อนขย้อนก้อนขนออกมาด้วยความเจ็บปวด คงไม่ใช่ภาพที่น่ายินดีเท่าไหร่นัก ไม่เพียงแค่สร้างภาพบาดตาบาดใจ แต่ก้อนขนในแมวยังทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้

 

แล้วการขย้อนก้อนขนในแมวเป็นเรื่องปกติหรือไม่?

ปัญหาก้อนขนถือเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่ความรุนแรงของปัญหาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับน้องแมวแต่ละตัวหรือแต่ละสายพันธุ์ เช่นแมวเมนคูนและแมวเปอร์เซียมีความเสี่ยงต่อปัญหาก้อนขนมากกว่าสายพันธุ์อื่น การที่แมวมีปัญหาก้อนขนอุดตันยังเกิดได้จากพฤติกรรมเลียขนบ่อยผิดปกติอีกด้วย

ที่จริงแล้ว คุณอาจสังเกตเห็นว่าลูกแมวมักไม่มีปัญหาก้อนขนอุดตัน แต่เมื่อโตขึ้น พฤติกรรมก็เริ่มเปลี่ยน แมวโตชอบเลียขนทำความสะอาดตัวเองเป็นประจำ ซึ่งขนที่ถูกเลียและกลืนเข้าไปจะกลายเป็นก้อนขนเข้าไปอยู่ในระบบทางเดินอาหาร

 

การกินอาหารช่วยลดปัญหาก้อนขนในแมวได้อย่างไร?

การเลือกสูตรอาหารคุณภาพดีเป็นวิธีดูแลปัญหาก้อนขนในแมวที่มีประสิทธิภาพ อย่างการเลือกอาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรเฉพาะสำหรับแมวเลี้ยงในบ้าน ซึ่งมีส่วนช่วยในการควบคุมและขับก้อนขนออกจากร่างกาย จากการวิจัยพบว่าอาหารแมวไอแอมส์™ ช่วยให้ก้อนขนกว่า 80% ถูกขับออกมาพร้อมอุจจาระ ด้วยพรีไบโอติกจากธรรมชาติ ไฟเบอร์ และบีทพัลพ์สูตรเฉพาะของไอแอมส์™ ช่วยให้น้องแมวมีระบบย่อยและขับถ่ายที่ดี  นอกจากนี้ยังมีโปรตีนคุณภาพดีและกรดไขมันจำเป็นครบถ้วน ช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพผิวหนังที่ดี ขนนุ่มเงางาม ลดปัญหาขนร่วง และลดการก่อตัวของก้อนขนในแมวได้ดีอีกด้วย

อาการก้อนขนอุดตันในแมว

  • เบื่ออาหาร

การกระตุ้นให้น้องแมวอยากอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการอดอาหารแม้ในเวลาสั้น ๆ ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเค้าได้แล้ว โดยอาการเบื่ออาหารอาจบ่งชี้ว่าน้องแมวมีปัญหาก้อนขนอุดตันในทางเดินอาหาร หรืออาจบ่งบอกถึงปัญหาอื่น แต่ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ควรรีบแก้ปัญหานี้โดยเร็วที่สุด

เบื่ออาหาร
 

  • อ่อนเพลีย

เหนื่อยล้าและเซื่องซึมเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อย ทั้งสองเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพหลายประการในแมว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือปัญหาก้อนขนอุดตัน

อ่อนเพลีย
 

  • ท้องผูก

หมั่นสังเกตกระบะทรายเจ้าตัวน้อยให้ดีว่ามีก้อนขนปะปนอยู่หรือไม่ หากมีทั้งการขย้อนก้อนขนและอาการท้องผูก นี่เป็นสัญญาณอันตรายของการอุดตันซึ่งควรได้รับการรักษาโดยทันที

ท้องผูก
 

  • ท้องเสีย

เป็นอาการที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ยิ่งเกิดขึ้นบ่อยยิ่งอันตราย แมวที่ท้องเสียบ่อยจะขาดน้ำได้เร็ว ดังนั้นควรเช็กให้แน่ใจว่าพวกเค้าดื่มน้ำเพียงพอ อาจเปลี่ยนมาให้อาหารเปียกเพื่อให้รับน้ำเข้าร่างกายได้เพิ่มมากขึ้น หากมีอาการท้องเสียบ่อยอย่างต่อเนื่อง ควรรีบพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์

 

วิธีการดูแลและการรักษาปัญหาก้อนขนอุดตัน

  • แปรงขนเป็นประจำ

การแปรงขนเป็นประจำคือวิธีดูแลปัญหาก้อนขนในแมวที่ดีที่สุด วิธีนี้จะช่วยกำจัดเส้นขนที่หลุดร่วงออกไป ทำให้โอกาสที่น้องแมวจะเลียและกลืนขนลงท้องน้อยลง อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วย

แปรงขนเป็นประจำ
 

  • เลือกอาหารสูตรสำหรับควบคุมก้อนขน

อาหารเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลปัญหาก้อนขนในแมว สูตรอาหารประเภทนี้หาซื้อได้ง่าย มักมีส่วนประกอบของไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพขนที่ดี ช่วยควบคุมและขับก้อนขนออกจากทางเดินอาหาร

เลือกอาหารสูตรสำหรับควบคุมก้อนขน
 

ใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมก้อนขนหรือยาระบาย

มีผลิตภัณฑ์ช่วยขจัดก้อนขนมากมายวางจำหน่ายในท้องตลาด ข้อดีอย่างหนึ่งคือมันเป็นวิธีกำจัดที่ไม่รุนแรง ทำให้ก้อนขนเคลื่อนตัวผ่านทางเดินอาหารได้ง่ายขึ้น แต่แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนการเลือกซื้อหรือใช้ทุกครั้ง

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีการดูแลและการรักษาปัญหาก้อนขนอุดตัน

  1. ปัญหาก้อนขนในแมวร้ายแรงหรือไม่?
  2. เป็นเรื่องปกติที่น้องแมวจะขย้อนก้อนขนออกมาเป็นครั้งคราว แต่หากพบว่าบ่อยขึ้นหรือเกิดขึ้น 2 วันติดต่อกัน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีการอุดตันในระบบทางเดินอาหาร

  3. น้องแมวควรขย้อนก้อนขนบ่อยแค่ไหน?
  4. ไม่ว่าจะมีขนยาวมากแค่ไหน แต่การขย้อนก้อนขนควรเกิดแค่สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น หากพบว่ามีการขย้อนหรืออาเจียนบ่อยผิดปกติ ควรรีบพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์

  5. จะป้องกันปัญหาก้อนขนในแมวได้อย่างไร?
  6. เลือกให้อาหารที่พรีไบโอติกและไฟเบอร์จากธรรมชาติ เพื่อช่วยควบคุมก้อนขน และเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น

  7. ก้อนขนจะถูกขับออกจากร่างกายตอนไหน?
  8. ก้อนขนโดยทั่วไปจะถูกขับออกมาพร้อมอุจจาระ โดยผ่านกระบวนการย่อยนาน 7 - 12 ชั่วโมง บางครั้งก้อนขนอาจเกิดการสะสมอยู่ในท้อง ทำให้ต้องผ่านกระบวนการนานกว่า อาจกินเวลามากถึง 24 - 48 ชั่วโมงก่อนถูกขับออกมา

  9. ก้อนขนในแมวเป็นอันตรายหรือไม่?
  10. ้อนขนอาจเป็นอันตรายได้ เพราะเสี่ยงต่อการอุดตันในระบบทางเดินอาหารอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในภายหลัง ในกรณีที่ร้ายแรงมาก ๆ การอุดตันอาจทำให้น้องแมวเสียชีวิตลงได้เลย

  11. ควรทำอย่างไรหากน้องแมวมีน้ำหนักเกินหรือเข้าสู่ช่วงสูงวัย?
  12. น้องแมวที่มีน้ำหนักตัวเกินต้องการโภชนาการแตกต่างจากแมวทั่วไป เพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่เกณฑ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับน้องแมวสูงวัยที่ร่างกายต้องการสารอาหารแตกต่างจากช่วงวัยอื่น หากน้องแมวทั้งสองมีปัญหาเรื่องก้อนขน การให้อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรเฉพาะสำหรับแมวเลี้ยงในบ้าน (อายุ 7 ปีขึ้นไป) ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและตอบโจทย์ตรงความต้องการ

  13. ควรผสมอาหารอื่นกับอาหารแมวไอแอมส์™ สูตรควบคุมก้อนขนหรือไม่?
  14. การผสมอาหารอื่นกับอาหารแมวของไอแอมส์™ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการดูแลก้อนขนลดลง และน้องแมวอาจได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ถือเป็นการลดคุณประโยชน์ของอาหารแมวไอแอมส์™ลง

  • รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับหมัดในลูกแมว
    รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับหมัดในลูกแมว
    adp_description_block220
    รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับหมัดในลูกแมว

    • แบ่งปัน

    หากพบว่าเจ้าเหมียวเกาหรือกัดตัวเองบ่อยผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของการมีหมัด นอกจากจะทำให้เกิดอาการคันและไม่สบายตัวแล้ว หมัดยังสามารถแพร่โรคได้อีกด้วย ในกรณีที่ร้ายแรง ลูกแมวอาจมีภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับลูกแมวตัวน้อย แต่ไม่ต้องกังวล! เรามีคำแนะนำและวิธีจัดการกับหมัดตัวร้ายเหล่านี้มาฝากกัน

     

    วิธีกำจัดหมัดแมว

    • ประเมินอาการเบื้องต้น

    ก่อนจะเริ่มใช้วิธีรักษาหมัดแมวในรูปแบบต่าง ๆ คุณต้องประเมินสถานการณ์เสียก่อน โดยวิธีการอาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักของลูกแมว

    ข้อควรระวัง

    1. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บหมัดกับลูกแมวที่มีอายุน้อยกว่า 12 สัปดาห์

    2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ป้องกันเหมาะกับอายุและน้ำหนักของลูกแมว

    3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับแมวเท่านั้น
    • ขั้นตอนการกำจัดหมัดแมว

    1. แปรงขน – แปรงหรือหวีซี่เล็กสามารถกำจัดหมัดที่มองเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    2. อาบน้ำ – เมื่อลูกแมวมีอายุที่เหมาะสม อาจเลือกใช้แชมพูกำจัดเห็บหมัดสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนและไม่มีฟองแทนก็ได้ 

    3. ทำความสะอาดบ้าน – ซักผ้าปูที่นอนทั้งหมดด้วยน้ำสบู่และดูดฝุ่นบริเวณพรมเป็นประจำ อาจใช้สเปรย์กำจัดหมัดฉีดรอบ ๆ ตัวบ้านด้วยก็ได้

    4. ทำความสะอาดสวนหรือสนามหญ้า – แม้จะเลี้ยงลูกแมวในบ้าน แต่หมัดก็อาจแอบเข้ามาจากข้างนอกได้ คุณสามารถใช้สเปรย์กำจัดหมัดฉีดให้ทั่วทุกบริเวณเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของหมัด

    • การรักษาหมัดในลูกแมวอายุน้อยกว่า 12 สัปดาห์

    ทางเลือกในการรักษาค่อนข้างมีจำกัด เพราะลูกแมวในวัยนี้ยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะใช้วิธีการรักษาสำหรับแมวโต โดยแนะนำให้วิธีเหล่านี้แทน

    1. สำหรับลูกแมวที่มีอายุต่ำกว่า 8 สัปดาห์ ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคือการใช้หวีกำจัดหมัด โดยให้จุ่มหวีลงในน้ำสบู่ร้อนระหว่างการแปรงขน 

    2. อีกหนึ่งวิธีที่แนะนำคือการอาบน้ำ การอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นและแชมพูสูตรอ่อนโยนช่วยลดจำนวนหมัดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ควรจำกัดเวลาในการอาบน้ำให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันลูกแมวของคุณหนาวหรือรู้สึกกังวลมากจนเกินไป

    • การใช้น้ำมันหอมระเหย

    หลายคนอาจคิดว่าน้ำมันหอมระเหยเป็นสิ่งที่ดีและปลอดภัย แต่ความจริงนั้น น้ำมันหอมระเหยหลายชนิดเป็นพิษต่อแมว แม้จะใช้เพียงปริมาณเล็กน้อยก็ตาม ยากำจัดหมัดบางชนิดก็มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย แนะนำให้อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกซื้อทุกครั้ง และหากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติม

    • การป้องกันเห็บหมัดในลูกแมว

    สำหรับลูกแมวที่มีอายุมากกว่า 8 – 10 สัปดาห์และมีน้ำหนักมากกว่า 1 กก. คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเฉพาะจุดได้ แต่ต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกนั้นเหมาะกับอายุและน้ำหนักของลูกแมว

    • วิธีรักษาหมัดแมวที่ดีที่สุด

    สิ่งสำคัญคือความปลอดภัยของลูกแมวและประสิทธิภาพในการกำจัดหมัด วิธีที่ดีที่สุดคือการรักษาตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บหมัดที่มีจำหน่ายทั่วไปได้เช่นกัน แต่แนะนำให้อ่านฉลากอย่างละเอียดและหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่เป็นอันตราย เช่น เพอร์เมทรินและน้ำมันหอมระเหยบางชนิด

    การรักษาหมัดอาจใช้เวลานาน แต่หากคุณมีความอดทนและรักษาอย่างถูกวิธี แมวของคุณก็จะปราศจากหมัดและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ทั้งนี้ก่อนการรักษาด้วยตนเองหรือก่อนการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อความปลอดภัยของลูกแมว

Close modal