IAMS TH
How to Care for Your Cat’s Hairball Issues
How to Care for Your Cat’s Hairball Issues

adp_description_block479
วิธีจัดการปัญหาก้อนขนแมว

  • แบ่งปัน

เจ้าของทุกคนย่อมรักแมวและอยากเห็นพวกเค้ามีความสุข ดังนั้นการเห็นเจ้าตัวน้อยส่งเสียงไอก่อนขย้อนก้อนขนออกมาด้วยความเจ็บปวด คงไม่ใช่ภาพที่น่ายินดีเท่าไหร่นัก ไม่เพียงแค่สร้างภาพบาดตาบาดใจ แต่ก้อนขนในแมวยังทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้

 

แล้วการขย้อนก้อนขนในแมวเป็นเรื่องปกติหรือไม่?

ปัญหาก้อนขนถือเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่ความรุนแรงของปัญหาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับน้องแมวแต่ละตัวหรือแต่ละสายพันธุ์ เช่นแมวเมนคูนและแมวเปอร์เซียมีความเสี่ยงต่อปัญหาก้อนขนมากกว่าสายพันธุ์อื่น การที่แมวมีปัญหาก้อนขนอุดตันยังเกิดได้จากพฤติกรรมเลียขนบ่อยผิดปกติอีกด้วย

ที่จริงแล้ว คุณอาจสังเกตเห็นว่าลูกแมวมักไม่มีปัญหาก้อนขนอุดตัน แต่เมื่อโตขึ้น พฤติกรรมก็เริ่มเปลี่ยน แมวโตชอบเลียขนทำความสะอาดตัวเองเป็นประจำ ซึ่งขนที่ถูกเลียและกลืนเข้าไปจะกลายเป็นก้อนขนเข้าไปอยู่ในระบบทางเดินอาหาร

 

การกินอาหารช่วยลดปัญหาก้อนขนในแมวได้อย่างไร?

การเลือกสูตรอาหารคุณภาพดีเป็นวิธีดูแลปัญหาก้อนขนในแมวที่มีประสิทธิภาพ อย่างการเลือกอาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรเฉพาะสำหรับแมวเลี้ยงในบ้าน ซึ่งมีส่วนช่วยในการควบคุมและขับก้อนขนออกจากร่างกาย จากการวิจัยพบว่าอาหารแมวไอแอมส์™ ช่วยให้ก้อนขนกว่า 80% ถูกขับออกมาพร้อมอุจจาระ ด้วยพรีไบโอติกจากธรรมชาติ ไฟเบอร์ และบีทพัลพ์สูตรเฉพาะของไอแอมส์™ ช่วยให้น้องแมวมีระบบย่อยและขับถ่ายที่ดี  นอกจากนี้ยังมีโปรตีนคุณภาพดีและกรดไขมันจำเป็นครบถ้วน ช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพผิวหนังที่ดี ขนนุ่มเงางาม ลดปัญหาขนร่วง และลดการก่อตัวของก้อนขนในแมวได้ดีอีกด้วย

อาการก้อนขนอุดตันในแมว

  • เบื่ออาหาร

การกระตุ้นให้น้องแมวอยากอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการอดอาหารแม้ในเวลาสั้น ๆ ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเค้าได้แล้ว โดยอาการเบื่ออาหารอาจบ่งชี้ว่าน้องแมวมีปัญหาก้อนขนอุดตันในทางเดินอาหาร หรืออาจบ่งบอกถึงปัญหาอื่น แต่ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ควรรีบแก้ปัญหานี้โดยเร็วที่สุด

เบื่ออาหาร
 

  • อ่อนเพลีย

เหนื่อยล้าและเซื่องซึมเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อย ทั้งสองเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพหลายประการในแมว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือปัญหาก้อนขนอุดตัน

อ่อนเพลีย
 

  • ท้องผูก

หมั่นสังเกตกระบะทรายเจ้าตัวน้อยให้ดีว่ามีก้อนขนปะปนอยู่หรือไม่ หากมีทั้งการขย้อนก้อนขนและอาการท้องผูก นี่เป็นสัญญาณอันตรายของการอุดตันซึ่งควรได้รับการรักษาโดยทันที

ท้องผูก
 

  • ท้องเสีย

เป็นอาการที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ยิ่งเกิดขึ้นบ่อยยิ่งอันตราย แมวที่ท้องเสียบ่อยจะขาดน้ำได้เร็ว ดังนั้นควรเช็กให้แน่ใจว่าพวกเค้าดื่มน้ำเพียงพอ อาจเปลี่ยนมาให้อาหารเปียกเพื่อให้รับน้ำเข้าร่างกายได้เพิ่มมากขึ้น หากมีอาการท้องเสียบ่อยอย่างต่อเนื่อง ควรรีบพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์

 

วิธีการดูแลและการรักษาปัญหาก้อนขนอุดตัน

  • แปรงขนเป็นประจำ

การแปรงขนเป็นประจำคือวิธีดูแลปัญหาก้อนขนในแมวที่ดีที่สุด วิธีนี้จะช่วยกำจัดเส้นขนที่หลุดร่วงออกไป ทำให้โอกาสที่น้องแมวจะเลียและกลืนขนลงท้องน้อยลง อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วย

แปรงขนเป็นประจำ
 

  • เลือกอาหารสูตรสำหรับควบคุมก้อนขน

อาหารเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลปัญหาก้อนขนในแมว สูตรอาหารประเภทนี้หาซื้อได้ง่าย มักมีส่วนประกอบของไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพขนที่ดี ช่วยควบคุมและขับก้อนขนออกจากทางเดินอาหาร

เลือกอาหารสูตรสำหรับควบคุมก้อนขน
 

ใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมก้อนขนหรือยาระบาย

มีผลิตภัณฑ์ช่วยขจัดก้อนขนมากมายวางจำหน่ายในท้องตลาด ข้อดีอย่างหนึ่งคือมันเป็นวิธีกำจัดที่ไม่รุนแรง ทำให้ก้อนขนเคลื่อนตัวผ่านทางเดินอาหารได้ง่ายขึ้น แต่แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนการเลือกซื้อหรือใช้ทุกครั้ง

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีการดูแลและการรักษาปัญหาก้อนขนอุดตัน

  1. ปัญหาก้อนขนในแมวร้ายแรงหรือไม่?
  2. เป็นเรื่องปกติที่น้องแมวจะขย้อนก้อนขนออกมาเป็นครั้งคราว แต่หากพบว่าบ่อยขึ้นหรือเกิดขึ้น 2 วันติดต่อกัน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีการอุดตันในระบบทางเดินอาหาร

  3. น้องแมวควรขย้อนก้อนขนบ่อยแค่ไหน?
  4. ไม่ว่าจะมีขนยาวมากแค่ไหน แต่การขย้อนก้อนขนควรเกิดแค่สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น หากพบว่ามีการขย้อนหรืออาเจียนบ่อยผิดปกติ ควรรีบพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์

  5. จะป้องกันปัญหาก้อนขนในแมวได้อย่างไร?
  6. เลือกให้อาหารที่พรีไบโอติกและไฟเบอร์จากธรรมชาติ เพื่อช่วยควบคุมก้อนขน และเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น

  7. ก้อนขนจะถูกขับออกจากร่างกายตอนไหน?
  8. ก้อนขนโดยทั่วไปจะถูกขับออกมาพร้อมอุจจาระ โดยผ่านกระบวนการย่อยนาน 7 - 12 ชั่วโมง บางครั้งก้อนขนอาจเกิดการสะสมอยู่ในท้อง ทำให้ต้องผ่านกระบวนการนานกว่า อาจกินเวลามากถึง 24 - 48 ชั่วโมงก่อนถูกขับออกมา

  9. ก้อนขนในแมวเป็นอันตรายหรือไม่?
  10. ้อนขนอาจเป็นอันตรายได้ เพราะเสี่ยงต่อการอุดตันในระบบทางเดินอาหารอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในภายหลัง ในกรณีที่ร้ายแรงมาก ๆ การอุดตันอาจทำให้น้องแมวเสียชีวิตลงได้เลย

  11. ควรทำอย่างไรหากน้องแมวมีน้ำหนักเกินหรือเข้าสู่ช่วงสูงวัย?
  12. น้องแมวที่มีน้ำหนักตัวเกินต้องการโภชนาการแตกต่างจากแมวทั่วไป เพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่เกณฑ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับน้องแมวสูงวัยที่ร่างกายต้องการสารอาหารแตกต่างจากช่วงวัยอื่น หากน้องแมวทั้งสองมีปัญหาเรื่องก้อนขน การให้อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรเฉพาะสำหรับแมวเลี้ยงในบ้าน (อายุ 7 ปีขึ้นไป) ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและตอบโจทย์ตรงความต้องการ

  13. ควรผสมอาหารอื่นกับอาหารแมวไอแอมส์™ สูตรควบคุมก้อนขนหรือไม่?
  14. การผสมอาหารอื่นกับอาหารแมวของไอแอมส์™ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการดูแลก้อนขนลดลง และน้องแมวอาจได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ถือเป็นการลดคุณประโยชน์ของอาหารแมวไอแอมส์™ลง

  • Your Cat’s Language: What Meows, Chirps and Yowls Mean
    Your Cat’s Language: What Meows, Chirps and Yowls Mean
    adp_description_block481
    ความหมายของเสียงแมว

    • แบ่งปัน

    เสียงร้องของแมว

    สงสัยกันไหมว่าเสียงร้องเพอร์ของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร? มันไม่ใช่การเปล่งเสียงทั่วไป แต่เกิดจากการหดตัวและคลายกล้ามเนื้อกล่องเสียงอย่างรวดเร็ว ประมาณ 150 ครั้งต่อวินาที และในขณะที่แมวหายใจแต่ละครั้ง อากาศจะถูกดันออกผ่านกล้ามเนื้อที่สั่นสะเทือนเหล่านี้ ทำให้คุณได้ยินเสียงครางต่ำที่ผ่อนคลายและก้องกังวาน 

    แมวร้องเพอร์เพราะอะไร?

    เสียงร้องเป็นหนึ่งในวิธีการสื่อสาร เป็นวิธีบอกความต้องการ และเรียกร้องความสนใจ แม่แมวจะร้องเพอร์เพื่อสร้างสายสัมพันธ์กับลูก ๆ ส่วนลูกแมวจะตอบกลับเพื่อส่งสัญญาณให้แม่รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี สำหรับแมวโตนั้น พวกเค้าจะร้องเพอร์เมื่อมีความสุขและสบายใจ แต่ในบางครั้งก็เกิดขึ้นเมื่อพวกเค้ารู้สึกเครียด เจ็บปวด หรือแม้กระทั่งเวลาที่หิว 

    เพื่อทำความเข้าใจเจ้าเหมียว เรามาเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับเสียงร้องของแมวแบบต่าง ๆ ไปด้วยกันในบทความนี้

    เสียงร้องเพอร์ หมายความอย่างไร?

    ไม่ใช่แค่ความน่ารักเท่านั้นที่ทำให้เราหลงใหล แต่ความลึกลับน่าค้นหาก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้แมวดูน่าสนใจ อย่างการร้องเพอร์เบา ๆ ที่เราต่างชื่นชอบ เสียงนี้หมายถึงอะไร? พวกเค้าต้องการบอกอะไรกันนะ?

    1. มีความสุข

      เมื่อได้พักผ่อนในมุมโปรด ได้นอนอาบแดดยามบ่าย หรือขดตัวอยู่บนตักของคุณ แมวมักจะส่งเสียงร้องเพอร์ออกมาเบา ๆ มันเป็นสัญญาณของความพึงพอใจอย่างแท้จริง ในภาษาแมวอาจแปลว่า “ชีวิตช่างมีความสุขเหลือเกิน”

    2. แสดงความรักความผูกพัน

      แมวรักอิสระ หวงเนื้อหวงตัว แต่หากเจ้าตัวน้อยเหล่านี้เข้ามาคลอเคลียพร้อมส่งเสียงเพอร์ มันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความรักและความผูกพัน เหมือนเป็นการบอกกลาย ๆ ว่า “คุณเป็นทาสคนโปรดของฉัน และฉันรักคุณนะ”

    3. เป็นสัญญาณบอกตำแหน่ง

      เคยเจอไหม? ได้ยินเสียงร้องเพอร์แต่ไม่เห็นตัวเจ้าเหมียว นั่นคือวิธีประกาศการมีอยู่ของพวกเค้า เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า “อย่ากังวล เหมียวอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง”

    4. บอกความเจ็บปวด

      เสียงเพอร์ไม่ได้บ่งบอกถึงความสุขและความพึงพอใจเสมอไป แมวอาจร้องเพอร์เมื่อเจ็บปวดหรือไม่สบาย ซึ่งอาจคล้ายกับเสียงของลูกแมวหรือเสียงร้องครวญคราง

    5. รักษาตัวเอง

      แมวสามารถรักษาตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง โดยเสียงร้องเพอร์เป็นหนึ่งในวิธีรักษาและบรรเทาความเจ็บปวด การสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นมีส่วนช่วยส่งเสริมการรักษากระดูกและเนื้อเยื่อ การร้องในรูปแบบนี้คล้ายกับเสียงแม่แมวที่ปลอบโยนและบอกรักลูกแมวตัวน้อย

    6. ตอบรับการสัมผัส

      หากแมวร้องเพอร์เมื่อคุณลูบขนหรือเกาพุง มันเป็นเสียงหัวเราะเวอร์ชันแมว เป็นการตอบสนองอย่างสนุกสนาน พวกเค้ารักทุกช่วงเวลาที่คุณให้ความสนใจ

    7. บรรเทาความเครียด

      การส่งเสียงเพอร์เป็นกลไกบรรเทาความเครียด เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด แมวจะเริ่มส่งเสียงเพอร์เพื่อสงบสติอารมณ์

    8. รู้สึกหิว

      แมวมักจะส่งเสียงดังเวลาที่หิว หากคุณได้ยินเสียงร้องเพอร์ที่ดังกว่าปกติ อาจแปลว่าถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว มันเหมือนกับการขออาหารอย่างสุภาพของแมวเหมียว

      หลังได้เรียนรู้ความหมายของเสียงเพอร์กันไปแล้ว เราหวังว่าคุณจะถอดรหัสข้อความที่เจ้าเหมียวต้องการจะบอกได้ดีมากยิ่งขึ้น

    ทำไมแมวชอบร้อง “เมี้ยววว” ?

    หากเจ้าเหมียวของคุณมีนิสัยช่างพูดช่างคุย ชอบส่งเสียงเจื้อยแจ้ว คุณอาจจะสงสัยว่าพวกเค้าต้องการบอกอะไร แมวมักจะแสดงอารมณ์ผ่านการส่งเสียง และความหมายของเสียงแต่ละแบบก็แตกต่างกันไป อาจเป็นการเรียกร้องความสนใจ แสดงความหิว ต่อสู้กับความเหงา เป็นสัญญาณของความเครียดหรือความเจ็บปวด แมวสูงอายุอาจร้องบ่อยขึ้นเนื่องจากการรับรู้เปลี่ยนไป และบางครั้งความเบื่อก็ทำให้แมวส่งเสียงร้องมากขึ้นเช่นกัน การใส่ใจกับบริบทและรูปแบบการร้องของแมวจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและรับประกันความเป็นอยู่ที่ดีของแมวได้

    เสียงร้องของแมวแบบต่าง ๆ 

    แมวแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้ดีกว่าที่เราคิดนะ ต่อไปนี้เป็นเสียงร้อง 5 เสียงที่พบบ่อยที่สุด พร้อมความหมายโดยทั่วไป

    1. เสียงเมี้ยว

      ถือเป็นเสียงอเนกประสงค์ในภาษาแมว เจ้าเหมียวอาจร้องเพื่อเรียกร้องความสนใจ ขออาหาร หรือเพียงแค่ทักทาย น้ำเสียงและความดังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้เช่นกัน ตั้งแต่การทักทายที่เป็นมิตรไปจนถึงความต้องการเร่งด่วน

    2. เสียงขู่

      นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความไม่พอใจหรือความกลัว เมื่อแมวส่งเสียงขู่ มันเป็นการเตือนให้ถอยออกไป และทางที่ดีควรเคารพขอบเขตและความเป็นส่วนตัวของพวกเค้า

    3. เสียงนกร้อง

      เสียงแปลก ๆ นี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวเห็นนกหรือเหยื่อผ่านหน้าต่าง มันเหมือนกับการแสดงออกถึงความตื่นเต้นหงุดหงิดที่ไม่สามารถจับมันได้

    4. เสียงคำราม

      เสียงนี้เป็นสัญญาณว่าแมวกำลังรู้สึกว่าถูกคุกคามหรือถูกบุกรุกอาณาเขต เป็นเสียงต่ำที่ดังจากลำคอเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกเข้ามา

    5. เสียงครวญคราง

      เป็นเสียงที่บ่งบอกว่าเจ้าเหมียวกำลังเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ เป็นเหมือนการร้องหาคู่ มักพบในแมวตัวเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน

      การทำความเข้าใจเสียงเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเจ้าเหมียวได้ดีขึ้น รวมถึงยังสามารถตอบสนองต่อความต้องการและอารมณ์ของพวกเค้าได้อย่างเหมาะสมด้วย

Close modal