IAMS TH
cat-articcat article detail bannerle-detail-banner
All Natural, Holistic, and Organic Kitten Food

adp_description_block183
อาหารลูกแมวแบบธรรมชาติทั้งหมด โฮลิสติก และออร์แกนิค

  • แบ่งปัน

หากคุณกำลังตัดสินใจระหว่างอาหารแมวแบบธรรมชาติทั้งหมด โฮลิสติก และแบบออร์แกนิคอยู่ เรามีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณอาจยังไม่ทราบ ในปัจจุบันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมีการผลักดันเทรนด์อาหาร “ธรรมชาติทั้งหมด”  “โฮลิสติก” และ “ออร์แกนิค” ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า “ธรรมชาติทั้งหมด” “โฮลิสติก” และ “ออร์แกนิค” นั้นมีประโยชน์จริง ๆ หรือไม่

 

อาหารแมวแบบ “ธรรมชาติทั้งหมด” มีความหมายว่าอะไร ?

 

AAFCO ให้ความหมาย “ธรรมชาติ” ว่า มาจากพืช สัตว์ หรือวัตถุดิบที่ขุดขึ้นเท่านั้น ไม่มีส่วนประกอบของสารปรุงรส หรือสารแปรรูปที่เกิดจากการสังเคราะห์ทางเคมี ยกเว้นในกรณีที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในกระบวนการผลิตอย่างสุจริต

ตีความอย่างง่ายว่า ความหมายนี้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นตาม “ธรรมชาติ” หลายชนิดรวมถึง ยาสูบ หรือยาและสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจาก “ธรรมชาติทั้งหมด” นี้มีประโยชน์ต่อลูกแมวของคุณ จึงควรมีหน่วยงานควบคุมหันมาศึกษาคุณประโยชน์ที่แท้จริงของสารจากธรรมชาติเหล่าทั้งหมดนี้ นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่า ในความหมายที่ระบุอยู่นั้นไม่ได้ยกเว้นผลพลอยได้จากพืชและสัตว์ เพราะนอกจากจะเป็นสารที่มาจาก “ธรรมชาติ” แล้วยังมีคุณค่าทางโภชนาการทั้งในอาหารคนและอาหารสัตว์

 

อาหารแมวแบบ “โฮลิสติก”

 

ไม่มีหน่วยงานควบคุมใดระบุหมายความของอาหารแมวแบบ “โฮลิสติก” ไว้ในหมู่หมวดอาหารอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญเนื่องจากอาหารที่วางจำหน่ายในท้องตลาดทั้งหมดต้อง “ครบถ้วนและสมดุล” กับอายุ หรือระดับพลังงานที่เหมาะสมกับน้องหมาที่กำหนดไว้ หรือกล่าวง่าย ๆ ว่าต้องเป็นอาหารที่ “สมบูรณ์”

 

อาหารแมวแบบ “ออร์แกนิค”

 

อาหารแมวที่ระบุว่าเป็นอาหารแมวแบบ “ออร์แกนิค” ได้นั้นต้องมีผู้รับรองที่รัฐบาลอนุมัติ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบฟาร์มที่ปลูกอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ปลูกปฏิบัติตามมาตรฐานของ USDA ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญยังคงถกเถียงกันอยู่ว่า อาหารแมวแบบออร์แกนิคมีความปลอดภัย หรือมีคุณค่าทางโภชนาการใด ๆ เพิ่มเติมกว่าปกติหรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจนใด ๆ บังคับใช้กับอาหารแมวแบบออร์แกนิคอยู่เลย


ในปัจจุบันความหมายของอาหารแมวแบบ “ธรรมชาติทั้งหมด” “โฮลิสติก” และ “ออร์แกนิก” นั้นมีความคลุมเครืออยู่มาก ทำให้รัฐบาลต่าง ๆ และกลุ่มผู้บริโภคคอยเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งจะทำให้เกิดการให้ความรู้และความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความหมายที่คำศัพท์ต่าง ๆ นี้ คุณจึงควรทำความเข้าใจกับคำศัพท์เหล่านี้ให้ดี

 

  • Feline Rhinotracheitis คืออะไร
    Feline Rhinotracheitis คืออะไร
    adp_description_block464
    Feline Rhinotracheitis คืออะไร

    • แบ่งปัน

    เจ้าเหมียวของคุณฉีดวัคซีนกันแล้วหรือยัง? สำหรับวัคซีน FVRCP หรือชื่อเต็มว่า Feline Viral Rhinotracheitis, Calicivirus และ Panleukopenia เป็นหนึ่งในวัคซีนกลุ่มหลักที่จำเป็นต่อน้องแมวทุกตัว

     

    วัคซีน FVRCP จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ Feline Rhinotracheitis หรือไวรัสอันตรายที่ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในแมว แม้ส่วนใหญ่จะพบในแมวเลี้ยงนอกบ้าน แต่แมวที่เลี้ยงในบ้านก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันเชื้อ Feline Calicivirus ที่ทำให้เกิดแผลในปากและการอักเสบ สุดท้ายคือเชื้อ Feline Panleukopenia ซึ่งมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน จัดเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต 
     

    การติดเชื้อเหล่านี้สร้างความเจ็บปวดและส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของแมวเป็นอย่างมาก การฉีดวัคซีนป้องกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ว่าแล้วก็มาติดตามเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัคซีน FVRCP สำหรับแมวไปด้วยกัน
     

    แมวควรได้รับวัคซีน FVRCP เมื่อใด?

    ถึงตอนนี้เรารู้แล้วว่าวัคซีน FVRCP มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ที่ดีของแมว แต่เราควรพาเจ้าเหมียวไปฉีดวัคซีนนี้ช่วงใด? ฉีดตอนไหนจึงจะเหมาะสม? มาหาคำตอบและทำความเข้าใจวัคซีนชนิดนี้กันให้มากขึ้น

     

    โรคหวัดแมว

    เกิดจากไวรัส Feline Virus Rhinotracheitis (FVR) หรือไวรัส Feline Herpesvirus (FHV-1) ซึ่งเป็นหนึ่งในการติดเชื้อที่ร้ายแรงที่สุดในแมว มักจะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น จาม เยื่อบุตาอักเสบ มีไข้ และมีอาการอ่อนเพลีย เชื้อเหล่านี้แพร่กระจายผ่านของเหลวในร่างกาย ทั้งน้ำลายและน้ำมูก หากไม่ได้รับการตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที แมวอาจเสียชีวิตได้
     

    ไวรัสคาลิไซในแมว

    Feline Calicivirus (FCV) จัดเป็นไวรัสที่อันตรายถึงชีวิตอีกชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วไวรัสนี้จะโจมตีระบบทางเดินหายใจและอวัยวะในช่องปาก หากคุณพบเห็นสัญญาณของการติดเชื้อ แนะนำให้พาเจ้าเหมียวไปพบสัตวแพทย์ทันที อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่น่ากังวลนี้ด้วยการฉีดวัคซีน FVRCP ตามคำแนะนำของคุณหมอ
     

    โรคไข้หัดแมว

    โรคไข้หัดแมวเกิดจากไวรัส Feline Panleukopenia (FPV) เป็นไวรัสที่ติดต่อง่ายและรุนแรง โดยจะโจมตีระบบภูมิคุ้มกันของแมว ลักษณะอาการที่สำคัญคืออาเจียน เบื่ออาหาร และมีไข้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อไขกระดูกและต่อมน้ำเหลือง ทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลง มีอัตราการตายสูง ถึงแม้จะเป็นโรคที่อันตราย แต่ไม่ต้องกังวล! เพราะการฉีดวัคซีน FVRCP ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     

    เพราะเหตุใดวัคซีน FVRCP จึงเป็นวัคซีนหลักสำหรับแมว?

    วัคซีน FVRCP ถือเป็นมาตรการป้องกันที่จำเป็นสำหรับแมวทุกตัวเช่นเดียวกับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เนื่องจาก FVR, FCV และ FPV เป็นไวรัสที่ติดต่อได้ง่าย สามารถแพร่กระจายผ่านของเหลวในร่างกาย การฉีดวัคซีนจะช่วยให้ร่างกายลูกแมวเตรียมแอนติเจนเพื่อต่อต้านไวรัสร้ายแรงเหล่านี้ได้
     

    แมวควรฉีดวัคซีน FVRCP เมื่อมีอายุเท่าไหร่?

    ลูกแมวควรได้รับการฉีดวัคซีน FVRCP ทุก 3 – 4 สัปดาห์ในช่วงอายุระหว่าง 16 – 20 สัปดาห์ โดย จำเป็นต้องฉีดกระตุ้นเพื่อให้แน่ใจว่าระบบภูมิคุ้มกันพร้อมสำหรับการต่อสู้กับไวรัสอันตราย และลูกแมวควรได้รับ FVRCP เข็มสุดท้ายเมื่ออายุครบ 1 ปี หลังจากนั้นควรฉีดวัคซีนชนิดนี้ทุก ๆ สามปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันสมบูรณ์

     

    โดยก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน FVRCP แนะนำให้สอบถามสัตวแพทย์ดังนี้

    1. ผลข้างเคียงของ FVRCP มีอะไรบ้าง และผลข้างเคียงจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน?

    2. ควรดูแลลูกแมวหลังฉีดวัคซีนอย่างไร?

    3. เมื่อพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ อายุ และสายพันธุ์ ลูกแมวต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นกี่เข็ม?

    4. การฉีดวัคซีน FVRCP มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

    ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน FVRCP

    วัคซีน FVRCP อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย ลูกแมวอาจรู้สึกไม่สบายตัวหลังการฉีด โดยอาการที่พบบ่อยที่สุดมีดังนี้

    1. อาการบวมหรือแดงบริเวณที่ฉีด

    2. ไข้ต่ำ

    3. ความอยากอาหารลดลง

    แมวบางตัวอาจมีอาการแพ้วัคซีน หากพบว่าลูกแมวของคุณอาเจียน มีอาการคัน หรือท้องเสีย ควรปรึกษาสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

Close modal