IAMS TH
Your Senior Dog’s Special Nutritional Needs
Your Senior Dog’s Special Nutritional Needs

adp_description_block495
ความต้องการโภชนาการพิเศษสำหรับสุนัขสูงวัย

  • แบ่งปัน

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการให้อาหารสุนัขสูงวัยก็คือควรเลือกอาหารที่มีโภชนาการที่เหมาะสม โดยที่ ไอแอมส์™ เราได้มีการวิจัยเพื่อให้สุนัขสูงวัยได้รับสารอาหารที่เหมาะสมที่สุด อาหารที่มีสารอาหารที่ครบถ้วน สมดุล จะช่วยทำให้สุนัขนั้นมีอายุที่ยาวนานขึ้น มีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไป และยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อและระบบการย่อยอาหารของพวกเค้าดีขึ้นได้อีกด้วย
 

สุนัขอายุเท่าไหร่ ถึงเรียกว่าเป็นสุนัขสูงวัย ?


สุนัขสูงวัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงระบบต่างๆในร่างกายที่เริ่มเสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามขนาดและสายพันธุ์ โดยสุนัขพันธุ์เล็กจะเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่ออายุได้ประมาณ 7 ปี และในสุนัขพันธุ์ใหญ่จะเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่ออายุได้ประมาณ 5 ปี การให้อาหารสุนัขตามช่วงวัยนั้น จะช่วยรักษาสุขภาพสุนัขโดยรวมได้เป็นอย่างดี เมื่อสุนัขมีอายุมากขึ้นและมีสัญญาณของโรคต่างๆ การรักษาและดูแลตั้งแต่เนิ่นๆก็ช่วยให้เค้าได้รับการดูแลรักษาได้เร็วขึ้นเช่นกัน

สายพันธุ์และสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอายุในสุนัข แต่คุณภาพของอาหารและสารอาหารที่พวกเค้าจะได้รับนั้นก็สามารถช่วยชะลอวัยและช่วยให้เค้ามีอายุที่ยืนยาวและแข็งแรงขึ้นได้

เมื่อสุนัขสูงวัยอายุเพิ่มมากขึ้น อาหารที่คุณจัดหามาให้นั้นช่วยได้มาก จากข้อมูลของ นักวิจัยของ ไอแอมส์ ™บอกไว้ว่า สุนัขสูงวัยนั้นก็ต้องการสารอาหารไม่ต่างกับสุนัขวัยรุ่น แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือปริมาณและสารอาหารที่เปลี่ยนไป

Dr. Hayek นักวิจัยของ ไอแอมส์ ™ แนะนำว่าเราไม่ควรเริ่มเปลี่ยนอาหารให้เมื่อสุนัขเข้าสู่วัยชรา แต่ทางที่ดีกว่าคือการให้อาหารพรีเมียมคุณภาพสูง เช่น อาหารสุนัข ไอแอมส์™ ที่มีโภชนาการที่เหมาะสมตั้งแต่ยังเล็ก เราควรจะดูแลสุขภาพพวกเค้าในเชิงรุกมากกว่าที่จะรอให้พวกเค้ามีปัญหาแล้วถึงมาเริ่มดูแลทีหลัง

แต่ถ้าตอนนี้คุณกำลังเลี้ยงสุนัขสูงวัยอยู่ล่ะก็ อย่าลืมมองหาอาหารที่มีคุณภาพสูงมีสารอาหารที่สมดุลและถูกต้องตามความต้องการของพวกเค้า โดยสารมารถดูได้จากสิ่งต่อไปนี้

โปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพดี
ความต้องการด้านโปรตีนของสุนัขนั้นสำคัญมาก เมื่อสุนัขมีอายุมากขึ้น พวกเค้าจะสูญเสียความสมดุลของมวลกล้ามเนื้อไป ดังนั้นพวกเค้าจะต้องการกรดอะมิโนที่จำเป็นในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยปกติสุนัขมักจะต้องการโปรตีนจากสัตว์ เช่น โปรตีนจากเนื้อไก่ หรือ โปรตีนจากเนื้อแกะ มีหลายคนมีความเชื่อว่า สุนัขสูงวัยควรจะได้รับโปรตีนน้อยลงเพื่อป้องกันการเป็นโรคไต อย่างไรก็ตามโรคไตนั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่างไม่ได้มาจากอาหารเพียงอย่างเดียวทางที่ดีคุณควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อให้สัตวแพทย์ได้ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของไตและแนะนำการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมจะดีที่สุด

Dr. Hayek นักวิจัยของ ไอแอมส์ ™ อธิบายว่า ยังไม่มีงานวิจัยชิ้นไหนที่บ่งชี้ว่าอาหารที่มีโปรตีนสูงจะไปเร่งการทำงานของไต รวมถึงยังไม่มีงานวิจัยชิ้นไหนเช่นกันที่บอกว่าอาหารที่มีโปรตีนต่ำจะช่วยชะลอโรคไตได้ ทั้งนี้โปรตีนยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการสร้างมวลกล้ามเนื้อในร่างกายรวมไปถึงช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตในสุนัขอีกด้วย

ไขมันต่ำ

สุนัขสูงวัยนั้นจะมีความต้องการแคลอรีที่น้อยลง ควรเลือกอาหารสุนัขสูงวัยที่มีไขมันอย่างน้อย 10% ให้กับเค้าสำหรับสุนัขสูงวัยนั้น ความต้องการกรดไขมันที่จำเป็นรวมไปถึงกรดไขมันโอเมก้า 3 นั้นจำเป็นมาก เพราะจะช่วยทดแทนการสังเคราะห์ไขมันของพวกเค้าที่จะลดลงไปตามอายุโดยธรรมชาติ

ความเหมาะสมของไฟเบอร์ในอาหารของสุนัขสูงวัย

ในสุนัขสูงวัยปัญหาเรื่องการย่อยอาการเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ไฟเบอร์ในอาหารนั้นไม่ควรเกิน 5 % เพื่อให้พวกเค้ามีลำไส้ที่ดีรวมไปถึงช่วยให้การดูดซึมสารอาหารเป็นไปได้อย่างดี เช่น อาหารสุนัข ไอแอมส์™ ที่มีส่วนประกอบของเยื่อบีทพัลพ์สูตรเฉพาะของไอแอมส์™ ช่วยระบบย่อยและขับถ่ายและยังช่วยรักษาสุขภาพของลำไส้ ด้วยการให้พลังงานแก่เซลล์ในลำไส้ และช่วยให้อุจจาระมีขนาดเล็กและเป็นก้อนอีกด้วย

FRUCTOOLIGOSACCHARIDES (FOS) แหล่งใยอาหารสูตรเฉพาะ

FOS เป็นไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์ ช่วยรักษาสุขภาพของลำไส้ได้เป็นอย่างดี

สารต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระช่วยรักษาความสมดุลในร่างกายของสุนัข โดยจะทำหน้าที่เข้ากำจัดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังทำหน้าที่ชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ดังนั้นควรเลือกอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามินอีและเบต้าแคโรตีนให้กับพวกเค้า

วิตามินและแร่ธาตุ
โดยปกติแล้วในอาหารสุนัขที่มีคุณภาพจะมีสารอาหารและโภชนาการครบถ้วนอยู่แล้ว นั่นรวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุด้วยเช่นกัน สำหรับวิตามินนั้นแนะนำให้สัตวแพทย์เป็นผู้แนะนำในกรณีที่สุนัขต้องการวิตามินหรืออยู่ในกลุ่มที่ขาดวิตามินจะดีที่สุด

 

เมื่อสุนัขเข้าสู่ช่วงสูงวัย

การให้สารอาหารที่ครบถ้วนสมดุลนั้นมีความสำคัญในสุนัขทุกๆช่วงวัย ยิ่งคุณให้อาหารที่ประโยชน์ต่อสุขภาพของพวกเค้าเช่น ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ ซีเนียร์ พลัส ยิ่งทำให้พวกเค้ามีโอกาสที่จะมีชีวิตยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีขึ้น เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยให้สุนัขสูงวัยของคุณมีอายุที่ยาวนานมาฝากกัน

• ลดความเครียดลง หลีกเลี่ยงการให้สุนัขทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะ หรือเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันที่เค้าทำอยู่เป็นประจำ คุณควรค่อยๆให้เวลากับพวกเค้าเพื่อไม่ให้เค้าเครียดจนเกินไป
• ให้ออกกำลังกายเป็นประจำ การพาพวกเค้าออกกำลังกายโดยการเดิน 15 นาทีต่อวันจะช่วยให้กล้ามเนื้อและระบบการย่อยอาหารของเค้าดีขึ้น และยังช่วยป้องกันปัญหาน้ำหนักเกินที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย
• ลดปริมาณอาหารลงแต่ให้บ่อยมากขึ้น จากเดิมที่สุนัขกินอาหารมื้อใหญ่แค่วันละครั้ง ลองปรับเปลี่ยนเป็นให้อาหารมื้อเล็กๆสองหรือสามมื้อต่อวันแทน โดยให้ในปริมาณเท่าเดิม การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารของสุนัขได้ดียิ่งขึ้น • ตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ การดูแลสุขภาพเหงือกและช่องปากของสุนัขรวมไปถึงการหมั่นสังเกตความผิดปกติต่างๆของสุนัขอย่างเป็นประจำ จะช่วยให้สุนัขลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หากคุณพบความผิดปกติเพียงแค่นิดเดียว ให้รีบปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อตรวจหาและรีบรักษาได้อย่างเร็วที่สุด
• เลือกซื้ออาหารที่มีคุณภาพ เมื่อสุนัขของคุณเข้าสู่ช่วงสูงวัย ความสนใจในอาหารของพวกเค้ามักจะลดลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาหารที่มีคุณค่าโภชนาการครบถ้วน ดังนั้น การเลือกซื้ออาหารที่มีคุณภาพจึงสำคัญที่สุด
• Dr. Hayek นักวิจัยของ ไอแอมส์ ™ ชี้ให้เห็นว่ายังมีเรื่องราวของโภชนาการในสุนัขสูงวัยอีกมากมายที่น่าเรียนรู้ แต่สิ่งที่เน้นย้ำก็คือ สุนัขแต่ละช่วงวัยนั้นมีความต้องการที่แตกต่างกัน เราในฐานะผู้เลี้ยงจะต้องหมั่นค่อยสังเกตว่าสุนัขของเรานั้นกำลังเข้าสู่ช่วงสูงวัยแล้วหรือยัง ในสายพันธ์เล็กจะเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่ออายุประมาณ 7 ปี และสำหรับสายพันธุ์ใหญ่ จะเริ่มต้นในช่วงอายุ 5 ปี เราต้องเลือกอาหารที่เหมาะสมให้กับเค้า เพื่อให้เค้ามีชีวิตอย่างแข็งแรงและมีความสุขไปได้นานๆ

  • Does My Dog Need Additional Vitamins?
    Does My Dog Need Additional Vitamins?
    adp_description_block185
    สุนัขต้องการวิตามินเพิ่มเติมหรือไม่

    • แบ่งปัน

    การให้วิตามิน แร่ธาตุและส่วนประกอบทางโภชนาการอื่น ๆ แก่สุนัข มีความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัข วิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนี้คือการให้อาหารที่ครบถ้วนสมดุล และมีคุณภาพ การให้อาหารเสริมมักทำให้สุนัขเสียสมดุลและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมายได้

     

    เหตุผลว่าทำไมเจ้าของถึงมักให้อาหารเสริมแก่สุนัข

    เจ้าของมักให้อาหารเสริมกับสุนัขด้วยเหตุผลที่ต่างกัน:

    • เพื่อเพิ่มความอร่อย หรือ ความหลากหลาย
    • เพื่อความมั่นใจว่าสุนัขจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
    • เพื่ออยากที่จะป็นคนที่เตรียมมื้ออาหารให้สุนัขด้วยตัวเอง 

     

    อาหารเสริมสามารถทำให้อาหารไม่สมดุล

    นี่คือสิ่งสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องตระหนักว่า อาหารสุนัขที่มีคุณภาพนั้นได้รับการคิดค้นขึ้นมาอย่างรอบคอบต่อความต้องการแคลอรี่ของสัตว์ นอกจากนี้ในอาหารยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็น, กรดไขมัน, วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับตามความต้องการทางโภชนาการของสุนัข อาหารคุณภาพดีนั้นมีความครบถ้วนสมดุลอยู่แล้ว เหมาะสำหรับสุนัขแต่ละช่วงวัยหรือสุนัขในทุกไลฟ์สไตล์ การเพิ่มอาหารหรืออาหารเสริมอื่น ๆ อาจทำให้สารอาหารเสียความสมดุลได้

     

    สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับแร่ธาตุและอาหารเสริม

    ปฏิกิริยาระหว่างแร่ธาตุต่างๆเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก โชคดีที่เหล่านักโภชนาการมีความมุ่งมั่นวิจัยมานานหลายปี การวิจัยแสดงให้แห็นว่าไม่ใช่แค่ระดับแร่ธาตุในอาหารมีความสำคัญ แต่รวมถึงความสมดุลที่เหมาะสม แร่ธาตุส่วนเกินชนิดหนึ่งอาจส่งผลต่อการดูดซึมของแร่ธาตุชนิดที่สอง และนำไปสู่การขาดแร่ธาตุชนิดที่สองได้

     

    การเสริมด้วยเนื้อสัตว์เป็นตัวอย่างของปฏิกิริยาระหว่างแร่

    อาหารเสริมทั่วไปคือการเพิ่มเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเนื้อสัตว์มีฟอสฟอรัสมากกว่าแคลเซียม 20 ถึง 40 เท่า การเพิ่มเนื้อสัตว์ลงไปในอาหารที่สมดุล จะทำให้อัตราส่วนแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส (หรือ Ca: P) สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาและบำรุงกระดูกที่เหมาะสม นี่อาจทำให้ร่างกายของสัตว์ดูดซับแคลเซียมจากกระดูกเพื่อรักษาความสมดุล กรณีนี้มักเกิดขึ้นในสัตว์อายุมาก ที่มีการสูญเสียฟัน เนื่องจากการสลายของกระดูกจากกรามล่าง อัตราส่วน Ca:  P ควรอยู่ในช่วงระหว่าง 1.1 ถึง 1.4 ส่วนของแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส 1 ส่วน

     

    แคลเซียมมากไปไม่ได้ดีเสมอไป

    ปริมาณแคลเซียมมากเกินไปเกี่ยวข้องกับโรคกระดูกหลายโรคที่มีผลต่อลูกสุนัขที่กำลังเติบโต เจ้าของลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่เชื่อว่า ลูกสุนัขของพวกเค้าต้องการแคลเซียมสูงเพื่อการพัฒนากระดูกที่เห มาะสม การเพิ่มโยเกิร์ต คอทเทจชีส หรือแคลเซียมอัดเม็ดลงในอาหารของลูกสุนัขนั้นจะทำให้เสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย 

    จำไว้ว่าลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่จะกินอาหารมากขึ้นและได้รับแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการโดยกินในสัดส่วนที่แนะนำ วิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนอัตราการเติบโตตามปกติคือ การให้อาหารสุนัขที่เพียงพอ —แต่ไม่มากเกินไป—และควบคุมปริมาณอาหารให้สมดุล

     

    ควรมั่นใจว่าอาหารสุนัขนั้นสมบูรณ์และสมดุล

    สมาคมควบคุมการผลิตอาหารสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (AAFCO) ควบคุมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงและได้กำหนดข้อกำหนดด้านโภชนาการสำหรับสุนัขและแมว ข้อกำหนดเหล่านี้มีการเผยแพร่เป็นประจำทุกปีใน AAFCO Manual โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวดที่กำหนดโดย AAFCO เท่านั้น ที่สามารถใส่ข้อความ ''ครบถ้วนและสมดุล'' บนฉลากได้

Close modal