IAMS TH
Why You Shouldn’t Supplement Your Dog's Diet
Why You Shouldn’t Supplement Your Dog's Diet

adp_description_block164
ทำไมจึงไม่ควรให้อาหารเสริมกับสุนัข

  • แบ่งปัน

การให้วิตามิน แร่ธาตุและองค์ประกอบทางโภชนาการอื่น ๆ แก่สุนัข มีความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัข วิธีที่ดีที่สุดคือ การให้อาหารที่ครบถ้วนสมดุล และมีคุณภาพ การให้อาหารเสริมมักทำให้สุนัขเสียสมดุลและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย


เหตุผลว่าทำไมเจ้าของถึงมักให้อาหารเสริมแก่สุนัข

เจ้าของมักให้อาหารเสริมกับสุนัขด้วยเหตุผลที่ต่างกัน:

• เพื่อเพิ่มความอร่อย หรือ ความหลากหลาย
• เพื่อความมั่นใจว่าสุนัขจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
• เพื่ออยากที่จะป็นคนที่เตรียมมื้ออาหารให้สุนัขด้วยตัวเอง


การให้อาหารเสริมอาจทำให้อาหารของพวกเค้าไม่สมดุล

นี่คือสิ่งสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องตระหนักว่า อาหารสุนัขที่มีคุณภาพนั้นได้รับการคิดค้นขึ้นมาอย่างรอบคอบต่อความต้องการแคลอรี่ของสัตว์ นอกจากนี้ในอาหารยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็น, กรดไขมัน, วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น สำหรับตามความต้องการทางโภชนาการของสุนัข อาหารคุณภาพดีนั้นมีความครบถ้วนสมดุลอยู่แล้ว เหมาะสำหรับสุนัขแต่ละช่วงวัยหรือสุนัขในทุกไลฟ์สไตล์ การเพิ่มอาหารหรืออาหารเสริมอื่น ๆ อาจทำให้สารอาหารเสียความสมดุลได้

อาหารคุณภาพที่ครบถ้วนและมีความสมดุลสำหรับช่วงวัยหรือไลฟ์สไตล์ที่เฉพาะ การเพิ่มเรื่องที่สนใจตารางหรืออาหารเสริมอื่น ๆ สามารถทำลายสมดุลสารอาหารที่ละเอียดอ่อน


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแร่ธาตุและอาหารเสริม

ปฏิกิริยาระหว่างแร่ธาตุต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก โชคดีที่เหล่านักโภชนาการมีความมุ่งมั่นวิจัยมานานหลายปี การวิจัยแสดงให้แห็นว่าไม่ใช่แค่ระดับแร่ธาตุในอาหารมีความสำคัญ แต่รวมถึงความสมดุลที่เหมาะสม แร่ธาตุส่วนเกินชนิดหนึ่งอาจส่งผลต่อการดูดซึมของแร่ธาตุชนิดที่สอง และนำไปสู่การขาดแร่ธาตุชนิดที่สองได้


ปฎิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นจากการเสริมอาหารด้วยเนื้อสัตว์


อาหารเสริมทั่วไปคือการเพิ่มเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเนื้อสัตว์มีฟอสฟอรัสมากกว่าแคลเซียม 20 ถึง 40 เท่า การเพิ่มเนื้อสัตว์ลงไปในอาหารที่สมดุล จะทำให้อัตราส่วนแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส (หรือ Ca: P) สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาและบำรุงกระดูกที่เหมาะสม

นี่อาจทำให้ร่างกายของสัตว์ดูดซับแคลเซียมจากกระดูกเพื่อรักษาความสมดุล กรณีนี้มักเกิดขึ้นในสัตว์อายุมาก ที่มีการสูญเสียฟัน เนื่องจากการสลายของกระดูกจากกรามล่าง อัตราส่วน Ca: P ควรอยู่ในช่วงระหว่าง 1.1 ถึง 1.4 ส่วนของแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส 1 ส่วน


แคลเซียมมากเกินไปไม่ได้ดีเสมอไป

ปริมาณแคลเซียมมากเกินไปเกี่ยวข้องกับโรคกระดูกหลายโรคที่มีผลต่อลูกสุนัขที่กำลังเติบโต เจ้าของลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่เชื่อว่า ลูกสุนัขของพวกเค้าต้องการแคลเซียมสูงเพื่อการพัฒนากระดูกที่เห มาะสม การเพิ่มโยเกิร์ต คอทเทจชีส หรือแคลเซียมอัดเม็ดลงในอาหารของลูกสุนัขนั้นจะทำให้เสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย

จำไว้ว่าลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่จะกินอาหารมากขึ้นและได้รับแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการโดยกินในสัดส่วนที่แนะนำ วิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนอัตราการเติบโตตามปกติคือ การให้อาหารสุนัขที่เพียงพอ —แต่ไม่มากเกินไป—และควบคุมปริมาณอาหารให้สมดุล


ควรมั่นใจว่าอาหารสุนัขนั้นสมบูรณ์และสมดุล

สมาคมควบคุมการผลิตอาหารสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (AAFCO) ควบคุมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงและได้กำหนดข้อกำหนดด้านโภชนาการสำหรับสุนัขและแมว ข้อกำหนดเหล่านี้มีการเผยแพร่เป็นประจำทุกปีใน AAFCO Manual โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวดที่กำหนดโดย AAFCO เท่านั้น ที่สามารถใส่ข้อความ 'ครบถ้วนและสมดุล' บนฉลากได้

  • How to Decipher Dog Food Labels: Dates and Shelf Life
    How to Decipher Dog Food Labels: Dates and Shelf Life
    adp_description_block85
    วิธีอ่านฉลากอาหารสุนัขอย่างถูกต้อง: วันที่และอายุการเก็บรักษา

    • แบ่งปัน

    'รหัสสินค้าคืออะไร

    รหัสสินค้าคือ ชุดตัวเลขและตัวอักษรที่พิมพ์อยู่บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ โดยผู้ผลิตจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับวันเวลาที่ผลิตสินค้า

    สำหรับรหัสสินค้าบนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัท ไอแอมส์™ นั้น จะระบุ ''วันที่ควรบริโภคก่อน'' หรือก็คือวันที่ผู้ผลิตแนะนำว่าผลิตภัณฑ์อาจจะไมสดใหม่และไม่ควรขายอีกต่อไป โดยมักจะแสดงในรูปแบบ “วันเดือนปี” ในบรรทัดแรก และจะมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เพื่อใช้ในการตรวจสอบและควบคุมสินค้าด้วย

     

    และในบรรทัดที่สองจะแสดงถึงข้อมูลภายในของบริษัท เพื่อใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับ และการควบคุมสินค้าคงคลัง

     

    ทั้งนี้รูปแบบการแสดงข้อมูลอาจจะแตกต่างกันออกไป โดยจะขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์

     

    โดยการอ่านข้อมูลบนฉลาก จะช่วยให้คุณในฐานะผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

     

     

    อายุการเก็บรักษาคืออะไร ?

     

    อายุการเก็บรักษาคือ ช่วงระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์อยู่ในบรรจุภัณฑ์ และถูกจัดเก็บอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาความสดใหม่ โดยจะมีหน่วยวัดเป็นเดือน ยกตัวอย่างเช่น หากผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษา 16 เดือน ผลิตภัณฑ์นั้นจะอยู่ได้นานสูงสุด 16 เดือนนับจากวันที่ผลิต

     

    สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงของ ไอแอมส์™อาหารสุนัขและแมวแบบเม็ดจะมีอายุการเก็บรักษาอยู่ที่ 16 เดือน อาหารเปียกทั้งแบบกระป๋องและซองจะมีอายุการเก็บรักษา 24 เดือน ขนมอย่างบิสกิตจะมีอายุการเก็บรักษา 12 เดือน และอาหารสูตรซอสจะมีอายุการเก็บรักษา 16 เดือน

     

    วิธีการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อาหารเม็ดและอาหารเปียก

     

    อาหารเม็ดที่ยังไม่ได้เปิดควรเก็บในพื้นที่แห้งและเย็น ส่วนอาหารที่ถูกเปิดแล้ว ให้เก็บไว้ในกล่องหรือภาชนะที่สะอาดและสามารถปิดได้อย่างมิดชิด หรืออาจจะเก็บโดยนำไปแช่เย็นก็ได้

     

    ส่วนอาหารเปียกแบบกระป๋องที่เปิดแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นจะดีที่สุด โดยถ่ายใส่ไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทก่อนนำไปแช่ แต่ไม่ควรเก็บไว้เกินสามวันหลังจากเปิดกระป๋อง ผลิตภัณฑ์อาหารเปียกทั้งแบบกระป๋องและแบบซองที่ยังไม่เปิดไม่ควรนำไปแช่แข็ง ควรเปิดและถ่ายใส่ภาชนะอื่นก่อนแล้วค่อยนำไปแช่เย็น'

Close modal