IAMS TH
What’s the Difference Between Mature and Senior Dogs?
What’s the Difference Between Mature and Senior Dogs?

adp_description_block116
สุนัขโตเต็มวัยและสุนัขสูงวัยแตกต่างกันอย่างไร?

  • แบ่งปัน

การเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายเป็นตัวบ่งชี้ว่าสุนัขของคุณโตเต็มวัยแล้วหรือยัง ด้วยอายุที่มากขึ้น ระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานได้ช้าลง เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การซ่อมแซมส่วนสึกหรอกลับช้าลง แค่หากคุณดูแลพวกเค้าอย่างใกล้ชิด และเลือกให้อาหารสูตรเฉพาะที่เหมาะกับช่วงวัยของพวกเค้า ก็ช่วยจะให้พวกเค้ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้

เมื่อสุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น ควรหมั่นสังเกตสิ่งที่บ่งบอกถึงความชรา เช่น ผิวหนังหยาบ ผิวแห้งและลอกเป็นขุย ข้อต่อไม่แข็งแรง ไม่มีเรี่ยวแรง น้ำหนักเพิ่มขึ้น กินน้ำมากขึ้น มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหาร และท้องผูกบ่อยครั้ง อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากความชราหรืออาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรสังเกตเป็นประจำ และเมื่อพบสิ่งผิดปกติก็ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์

พันธุกรรมและสภาพแวดล้อมส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยของสุนัข โภชนาการเองก็เป็นส่วนที่สำคัญ การเลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพ จะช่วยให้สุนัขของุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ส่งผลให้พวกเค้ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

เมื่อสุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายก็มีประสิทธิภาพลดลง อาหารจึงกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่จะช่วยเสริมส่วนที่ร่างกายขาดแคลน อ้างอิงจากสัตวแพทย์และนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของสุนัขสูงวัย Michael Hayek กล่าวว่า สุนัขที่สูงวัยต้องการสารอาหารแบบเดียวกับสุนัขโตเต็มวัย เพียงแต่มีวิธีการให้อาหารและปริมาณที่ควรได้รับแตกต่างออกไป

  • How to Help Your Overweight Dog
    How to Help Your Overweight Dog
    adp_description_block356
    ทำอย่างไรถึงจะช่วยสุนัขของคุณที่มีน้ำหนักเกินได้

    ทำอย่างไรถึงจะช่วยสุนัขของคุณที่มีน้ำหนักเกินได้

    • แบ่งปัน

    ความหมาย สาเหตุ และปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคอ้วนในสุนัข

    โรคอ้วนหมายถึง การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวที่เกินข้อจำกัดของโครงสร้างกระดูกและร่างกายเป็นผลมาจากการสะสมของไขมันในร่างกายส่วนเกิน

    โรคอ้วนหมายถึง การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวที่เกินข้อจำกัดของโครงสร้างกระดูกและร่างกาย เป็นผลมาจากการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกาย

    โรคอ้วนมีสาเหตุมาจากปริมาณแคลอรี่ที่สูงเกินกว่าแคลอรี่ที่ใช้ไป นี่หมายความว่าสุนัขกินอาหารทีให้พลังงาน (แคลอรี่) มากกว่าที่ใช้และเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ในรูปแบบของไขมัน



    มีหลายปัจจัยที่สามารถนำไปสู่โรคอ้วน เช่น :

    • การให้อาหารมากเกินไป
    • การเคลื่อนไหวน้อย
    • สายพันธุ์
    • อายุและเพศ
    • การทำหมัน
    • โรคเบาหวาน
    • ภาวะที่มีการทำงานของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตมากเกิน
    • ไฮโปไทรอยด์
    • น้ำหนักของเจ้าของ

    กรดไขมัน ไฟเบอร์ และกรดไขมันในโปรแกรมลดน้ำหนักสุนัขของคุณ
     

    ไขมัน

    • สุนัขใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานหลัก
    • คาร์โบไฮเดรตเป็นทางเลือกที่ให้แคลอรีต่ำซึ่งเป็นอาหารที่ทดแทนไขมันได้และย่อยสลายง่าย คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้นั้นมีปริมาณแคลอรี่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณไขมันที่เท่ากัน และไม่มีข้อเสียเหมือนกับไฟเบอร์ที่ย่อยไม่ได้
    • ไฟเบอร์และกรดไขมัน
    • ไฟเบอร์ระดับปกติของแหล่งไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์ปานกลางช่วยสร้างและรักษาลำไส้ให้แข็งแรง นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสุนัขที่กำลังอยู๋ในแผนการลดน้ำหนัก
    • ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักสำหรับสุนัขบางชนิดจะลดแคลอรี่ด้วยไฟเบอร์ในปริมาณสูง อาหารที่มีไฟเบอร์สูงอาจลดความสามารถในการย่อยและดูดซึมสารอาหารหลายชนิดรวมถึงไขมัน อาหารที่มีไฟเบอร์สูงเหล่านี้อาจส่งผลให้อุจจาระมีขนาดใหญ่ ขับถ่ายบ่อย และสภาพผิวหนังและขนที่ลดแย่ลง
    • อาหารที่ให้ระดับกรดไขมันที่ปรับแล้วจะช่วยรักษาผิวหนังและขนของสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพดีแม้จะลดระดับไขมันลงก็ตาม
    คาร์โบไฮเดรตและส่วนผสมพิเศษในโปรแกรมลดน้ำหนักสุนัขของคุณ
    คาร์โบไฮเดรตและส่วนผสมพิเศษ
    • การให้อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตจากข้าวโพด คาร์โบไฮเดรตข้าวฟ่าง และ/หรือข้าวบาร์เลย์อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือด และอินซูลินลดลงเมื่อเทียบกับการให้อาหารที่มีข้าวเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตหลัก ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินที่ลดลงสามารถช่วยรักษาน้ำหนักที่เหมาะสมได้
    นอกจากนี้อาหารที่มี L-carnitine สามารถช่วยให้สุนัขเผาผลาญไขมันได้ L-carnitine เป็นสารประกอบคล้ายวิตามินที่ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้
    การลดน้ำหนักสำหรับสุนัขของคุณควรค่อยเป็นค่อยไป
    • เป้าหมายของโปรแกรมลดน้ำหนักที่ดีควรเป็นการลดน้ำหนักทีละน้อย สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในแมว เนื่องจากข้อจำกัดของสารอาหารอย่างรุนแรงอาจส่งผลให้เกิดไขมันในตับ (การสะสมไขมันผิดปกติในตับ)
    • สุนัขควรลดน้ำหนัก 1 ถึง 2% ของน้ำหนักเริ่มต้นต่อสัปดาห์
    • วิธีที่ดีในการเริ่มโปรแกรมลดน้ำหนักคือการลดปริมาณแคลอรี่ โดยเปลี่ยนไปใช้สูตรควบคุมน้ำหนักหรือลดไขมัน สุนัขและแมวที่ตอบสนองช้า

     

    ควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับโปรแกรมลดน้ำหนักแบบพิเศษ
    โปรแกรมการควบคุมน้ำหนักโดยรวมสามารถนำไปสู่การลดน้ำหนักที่ประสบความสำเร็จได้ แนะนำว่าควรให้สัตวแพทย์เป็นผู้ประเมินการลดน้ำหนักให้ และเจ้าของจำต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จ

    สัตวแพทย์แนะนำ ผลิตภัณฑ์จาก ไอแอมส์™ ที่ให้สารอาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขในโปรแกรมลดน้ำหนักอีกด้วย

Close modal