'คุณรู้จักอาหารที่คุณซื้อให้ลูกสุนัขของคุณมากน้อยแค่ไหน เมื่อซื้ออาหารลูกสุนัข คุณควรให้ความใส่ใจกับฉลากอาหารสุนัขทั้งสามส่วนนี้
1. แถบส่วนผสม
ส่วนนี้แสดงรายการส่วนผสมทั้งหมดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ ส่วนผสมที่ระบุไว้ในลำดับจากมากไปน้อยตามน้ำหนักก่อนปรุงอาหาร หากคุณมองหาแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงจากสัตว์เช่น เนื้อไก่ หรือเนื้อแกะ เช่น สุนัขกินโปรตีนจากสัตว์เพื่อเจริญเติบโตสามารถอ่านได้จากตรงส่วนนี้
ผู้ผลิตที่ใช้โปรตีนจากพืชในปริมาณมากอาจช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิตอาหาร— แต่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม — ทางโภชนาการ คุณควรหลีกอาหารสุนัขที่ผ่านการแต่งสีและรสชาติเทียมเนื่องจากไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการกับสุนัข
2. การวิเคราะห์สารอาหาร
ใกล้แถบส่วนผสมต้องมีแผนผังเปอร์เซ็นต์สารอาหารที่เรียกว่า ''การวิเคราะห์สารอาหาร'' ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสารอาหารพื้นฐานของสูตรอาหารสุนัขและปริมาณโปรตีน อาหารสุนัขที่มีคุณภาพควรระบุเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำของโปรตีนและไขมัน และเปอร์เซ็นต์สูงสุดของไฟเบอร์และความชื้น (น้ำ) เอาไว้ด้วย
3. ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิต
ข้อมูลนี้จะต้องรวมอยู่ในฉลากตามกฎหมาย เบอร์คอลเซนเตอร์หรือที่อยู่เว็บสำหรับผู้ผลิตอาจมีการระบุไว้ ผู้ผลิตที่แสดงหมายเลขโทรศัพท์เช่น ไอแอมส์™ ยินดีรับสายและตอบคำถามของผู้บริโภค หากคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไอแอมส์™ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราหรือโทรหาเราโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่หมายเลข 800-525-4267'

การมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในบ้านคงทำให้ทุก ๆ วันของพ่อแม่มะหมามีทั้งความสุขและความสนุก สำหรับพ่อแม่บางคน นี่คือความฝันที่กลายเป็นจริงในที่สุด แต่การเลี้ยงน้องหมาไม่ได้ง่ายอย่างที่หลาย ๆ คนคาดคิด โดยเฉพาะเมื่อพวกเค้าไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม
หากผู้เลี้ยงละเลยการฝึกฝนอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ ลูกสุนัขอาจมีพฤติกรรมไม่น่ารัก ทำลายข้าวของในบ้าน และไม่เชื่อฟังคำสั่ง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณและครอบครัวหัวหมุนได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม มือใหม่หัดเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับวิธีจัดการและควบคุมเจ้าตัวน้อยแสนซน หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น นี่คือทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฝึกลูกสุนัขที่บ้าน
กระบวนการฝึกต้องใช้เวลา ความอดทน และความตั้งใจ ไม่สามารถทำเล่น ๆ หรือทำแบบขอไปทีได้ ผู้เลี้ยงต้องทำเป็นกิจวัตรเพื่อให้น้องหมาคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกใส่สายจูงหรือการขับถ่ายให้เป็นที่
ข้อควรรู้ – น้องหมาต้องใช้เวลาปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่ คุณอาจต้องวางแผนการฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่งรัดและกดดันพวกเค้าจนเกินไป
วิธีนี้จะส่งผลดีในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเราหรือน้องหมา การกำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้น้องหมาเรียนรู้ว่าเวลาไหนต้องกินอาหาร เล่น นอน หรือขับถ่าย ซึ่งช่วยลดปัญหาขับถ่ายเรี่ยราดได้ดี
การพาน้องหมาออกไปเดินเล่นและขับถ่ายนอกบ้านควรทำเป็นเวลา แนะนำให้พาพวกเค้าออกไปเดินเล่นทันทีหลังจากตื่นนอน เมื่อถึงเวลาเล่นสนุก และหลังจากกินอาหารเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ควรเว้นระยะห่างระหว่างมื้ออาหารและเวลานอนให้เหมาะสม ลูกสุนัขจะได้ไม่ต้องกลั้นปัสสาวะนานจนเกินไป
เมื่อลูกสุนัขโตขึ้น พวกเค้าจะกลั้นปัสสาวะได้นานขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกสุนัขวัย 2 เดือน จะกลั้นขับถ่ายได้นาน 2 ชั่วโมง แต่ระยะเวลามากสุดที่น้องหมาทำได้คือ 6 ชั่วโมง ไม่ควรปล่อยให้กลั้นนานเกินกว่านี้
การใช้คำสั่งจะช่วยให้เราสื่อสารกับน้องหมาได้ดีขึ้น หากใช้คำสั่งซ้ำ ๆ กับการกระทำบางอย่าง น้องหมาจะเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างคำพูดและการกระทำของคุณ เช่น พูดว่า “ไปคาบมา” ในขณะที่คุณโยนของเล่นหรือกิ่งไม้ น้องหมาจะเข้าใจว่าต้องไปเอาของกลับมา ในทำนองเดียวกัน เมื่อพาพวกเค้าไปขับถ่าย ให้พูดว่า “อึ” หรือ “เบ่ง” โดยชี้ไปที่จุดใดจุดหนึ่งด้วย สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเค้าเรียนรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป
การให้รางวัลช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับน้องหมา รางวัลเหล่านี้อาจอยู่ในรูปแบบของขนม คำชม หรือช่วงเวลาเล่นกับของเล่นชิ้นโปรด นอกจากนี้การให้รางวัลยังช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี ทำให้พวกเค้าฝึกคำสั่งใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น คุณสามารถให้รางวัลก่อนหรือหลังการฝึกก็ได้ แต่หลีกเลี่ยงการให้กลางคัน เช่น ระหว่างการขับถ่าย ควรรอให้พวกเค้าขับถ่ายเสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ข้อควรระวัง – หากการฝึกขับถ่ายได้ผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้ผลเลย ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดจากปัญหาทางสุขภาพ เช่น การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ
คุณต้องเข้าใจว่าการฝึกเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน ลูกสุนัขอาจใช้เวลาในการเรียนรู้มากน้อยแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม หากฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ พวกเค้าจะเชื่อฟังและเรียนรู้ได้ดีขึ้น ต่อไปนี้คือเรื่องที่เจ้าของควรรู้ก่อนเริ่มต้นฝึกลูกสุนัข