IAMS TH
Understanding Antioxidants in IAMS™ Dog Food
Understanding Antioxidants in IAMS™ Dog Food

adp_description_block388
สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัข ไอแอมส์™

  • แบ่งปัน

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารอาหารสำคัญที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพสุนัขให้แข็งแรง โดยชะลอกระบวนการออกซิเดชั่นของโมเลกุลของเซลล์ ซึ่ง ไอแอมส์™ ก็มีการวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับสุนัขสูงวัยขึ้นมา เพื่อส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น

เรามาดูกันว่าสารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์อาหารของ ไอแอมส์™จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพสุนัขในด้านใดบ้าง

ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระเกิดขึ้นเองได้ในร่างกาย และสามารถพบได้ในพืชผักผลไม้ สารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสารประกอบที่เรียกว่าแคโรทีนอยด์ (เช่นลูทีนและเบต้าแคโรทีน) ทั้งนี้สารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์กับร่างกายของสุนัข ดังต่อไปนี้



• ชะลอกระบวนการออกซิเดชั่นที่เกิดในร่างกาย
• ชะลอความเสื่อมต่างๆ ของร่างกาย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน



การทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ

โดยปกติแล้วในร่างกายจะมีการสร้างโมเลกุลที่เรียกว่าอนุมูลอิสระ ซึ่งหากมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้นมากเกินไป มันจะเข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เช่น ไขมัน โปรตีน และส่วนประกอบของเซลล์ดีเอ็นเอ

สารอนุมูลอิสระเกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน เมื่อเกิดขึ้นก็จะทำปฏิกิริยาต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ และเข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย

ซึ่งความจริงมันเป็นกระบวนการที่มีประโยชน์ เพราะช่วยทำลายเชื้อโรคและปรสิตได้ แต่หากมีการสร้างสารอนุมูลอิสระมากเกินไป เซลล์ที่ดีในร่างกายก็จะถูกทำลายไปด้วย ส่งผลให้มีความเสี่ยงของการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

โดยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างอนุมูลอิสระและหยุดการทำลายเซลล์ที่ดีในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสุนัขโตเต็มวัยและลูกสุนัขของไอแอมส์™

จากงานวิจัยล่าสุดพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของสุนัข โดยจากการการศึกษาชี้ให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

ไอแอมส์™ สูตรสำหรับสุนัขโตและลูกสุนัขมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ ดังต่อไปนี้

 

สารต้านอนุมูลอิสระ (ANTIOXIDANT)แหล่งที่มาการทำงาน
วิตามิน Eสารสกัดน้ำมันพืชและโทโคฟีรอลการกระตุ้น T-cell ของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เบต้าแคโรทีวิตามินพร้อมผสม ข้าวโพด ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่และไขมันไก่เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือด และเพิ่มระดับแอนติบอดีในเลือด


 

article understanding antioxidants in article dog food header
  • Guide to Feeding Your Mature Dog
    Guide to Feeding Your Mature Dog-mob
    adp_description_block496
    คำแนะนำในการให้อาหารสุนัขสูงวัย

    • แบ่งปัน

    สุนัขพันธุ์เล็กจะเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่อมีอายุประมาณ 7 ปี (5 ปีสำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่) มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเค้าจะอยู่ได้นานถึง 15 ปี ในขณะที่สุนัขของคุณเข้าสู่ช่วงสูงวัย พวกเค้าจะทำกิจกรรมน้อยลง และมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคข้ออักเสบ โรคเบาหวาน และโรคไต

    Tom Carpenter DVM ประธานสมาคมโรงพยาบาลสัตว์อเมริกันกล่าวไว้ว่า การติดตามพฤติกรรมการกินของสุนัขที่มีอายุมากนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยทั่วไปสุนัขที่มีอายุมากไม่ต้องการโปรตีน โซเดียม และฟอสฟอรัสมาก แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่สุนัขแต่ละตัวด้วย

    สุนัขสูงวัยบางตัวมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วน เพื่อทดสอบว่าสุนัขของคุณมีน้ำหนักที่เหมาะสมหรือไม่ ให้ขยับมือสัมผัสไปที่ข้างลำตัวของพวกเค้า หากคุณรู้สึกถึงกระดูกซี่โครงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ามีชั้นไขมันปกคลุมหรือสังเกตเห็นหน้าท้องกลมอย่างเห็นได้ชัด แปลว่าพวกเค้าอาจมีน้ำหนักเกินแล้ว การออกกำลังกายยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุนัขสูงวัย และหากพวกเค้ามีน้ำหนักเพิ่มขึ้น คุณอาจต้องการอาหารสูตรสำหรับควบคุมน้ำหนักที่มีไขมันต่ำ มีน้ำมันปลาที่อุดมไปด้วยวิตามิน  (ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรสุนัขสูงวัยเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเลยล่ะ)

    สุนัขบางตัวอาจมีนิสัยเลือกกินและน้ำหนักลดลง Carpenter กล่าวว่า สุนัขที่อายุมากอาจต้องการอาหารที่มีแคลอรี่มากขึ้น และอาจสูญเสียความสามารถในการดมกลิ่น รวมถึงเคี้ยวอาหารได้ยากขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการเคี้ยว คุณสามารถใช้วิธีผสมน้ำอุ่นเข้ากับอาหารเม็ดได้ นอกจากนี้สุนัขสูงวัยยังมีโอกาสมีภาวะขาดน้ำได้ อย่าลืมเตรียมน้ำสะอาดไว้ให้พวกเค้าด้วยล่ะ

    ทั้งนี้หากสุนัขของคุณน้ำหนักขึ้นหรือลงแบบฉับพลัน นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้าย ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์

    guide to feeding your mature dog
Close modal