สุนัขพันธุ์ใหญ่จะเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่อมีอายุ 5 ปี แตกต่างจากสุนัขพันธุ์เล็กที่จะเปลี่ยนแปลงช้ากว่า โดยจะเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่อมีอายุประมาณ 7 ปี ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ช่วงสูงวัย ความต้องการทางโภชนาการของพวกเค้าก็จะเปลี่ยนไปด้วย ในฐานะเจ้าของ คุณสามารถดูแลให้พวกเค้ามีความสุขและสุขภาพดีได้ด้วยอาหารสูตรพิเศษที่ย่อยง่าย มีสารอาหารครบถ้วนและสมดุล
สัญญาณที่บอกว่าสุนัขของคุณกำลังเข้าสู่ช่วงสูงวัย
เมื่อเข้าสู่ช่วงสูงวัย สุนัขของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย คุณอาจสังเกตได้จากผิวหนังที่เริ่มหยาบ แห้งกร้าน และลอกเป็นขุย พวกเค้าจะทำกิจกรรมน้อยลง และอาจมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้บ่อยครั้ง มีภาวะข้อเสื่อม และสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ทั้งนี้สุนัขพันธุ์เล็กสูงวัยมีความต้องการพลังงานจากอาหารลดน้อยลง แต่ยังคงต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง และมีสารอาหารที่สมดุล
อาหารแบบไหนที่เหมาะสมกับสุนัขพันธุ์เล็กสูงวัย ?
การเลือกอาหารที่เหมาะสมกับพวกเค้า ควรเลือกอาหารสำหรับสุนัขพันธุ์เล็กสูงวัยโดยเฉพาะ มีสารอาหารที่เพียงพอกับความต้องการของช่วงวัย และเป็นอาหารที่ย่อยง่ายเหมาะกับระบบเผาผลาญของพวกเค้า นอกจากนี้คุณอาจจะมองหาตัวเลือกอื่นเพิ่มเติมได้ โดยเลือกจากสารอาหารที่จำเป็นต่อช่วงวัยดังนี้
• มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน E และเบต้าแคโรทีน ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
• มีโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์คุณภาพดี เพื่อช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อในร่างกาย
• มีใยอาหารจาก บีทพัลป์ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และช่วยในเรื่องการดูดซับสารอาหารที่จำเป็น
• มีคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากธัญพืชหลากหลายชนิด เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ
สารอาหารเหล่านี้เป็นหัวใจหลักของโภชนาการที่ดี ไม่ว่าคุณจะเลือกให้อาหารแบบเม็ดหรือแบบเปียกก็ควรมีสาอาหารดังกล่าวอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้สุนัขพันธุ์เล็กยังมีช่องปากและกระเพาะขนาดเล็ก สูตรอาหารที่เหมาะกับพวกเค้าจึงควรเป็นสูตรที่มีเม็ดอาหารขนาดเล็ก เคี้ยวง่าย
ความต้องการของสุนัขพันธุ์เล็กสูงวัย
สุนัขสูงวัยมีโอกาสน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เพราะทำกิจกรรมน้อยลง การใช้พลังงานก็น้อยลง ดังนั้นเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานหรือมีภาวะข้อเสื่อม คุณควรดูแลให้สุนัขของคุณมีน้ำหนักที่เหมาะสม โดยเลือกอาหารที่มีส่วนประกอบสำคัญเหล่านี้
• เลือกสูตรอาหารที่มีไขมันลดลง แต่ยังคงมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างให้ผิวหนังและเส้นขนมีสุขภาพดี
• มีแอล-คาร์นิทีน สารอาหารหลักที่ช่วยเผาผลาญไขมันในช่วงลดน้ำหนัก
• มีคาร์โบไฮเดรต เพื่อช่วยรักษาพลังงานในขณะที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
ถึงแม้ว่าพวกเค้าจะมีความต้องการทางโภชนาการ ลักษณะทางร่างกาย และพฤติกรรมทีเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าต้องใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุขนะ คุณสามารถช่วยให้พวกเค้าทำกิจกรรมและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ด้วยการเลือกอาหารที่พัฒนามาเพื่อสุนัขพันธุ์เล็กโดยเฉพาะให้กับพวกเค้า


ในช่วง 6 เดือนแรก ลูกสุนัขของคุณจะมีการเปลี่ยนอาหารที่รวดเร็ว คุณเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และวิธีการเลี้ยงลูกสุนัขโดยพิจารณาจากพัฒนาการที่สำคัญที่ลูกสุนัขจะได้สัมผัส
ทำไมการเรียนรู้พัฒนาการของลูกสุนัขจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
เนื่องจากความแตกต่างของสายพันธุ์และบุคลิกของลูกสุนัขแต่ละตัว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถรู้ได้แน่นอนว่าวันไหนหรือเมื่อไหร่การเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกสุนัขจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเรียนรู้ได้จากเหตุการณ์สำคัญต่อไปนี้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเจริญเติบโต , ปัญหาทางพัฒนาการที่สามารถสังเกตเห็นและป้องกันได้ในช่วงแรก เมื่อรู้ถึงเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ คุณก็จะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ลูกสุนัขพร้อมที่จะหย่านมแล้ว
พัฒนาการของลูกสุนัข
เมื่อลูกสุนัขของคุณพร้อมที่จะเริ่มหย่านมแล้ว (โดยพิจารณาจากอายุ สุนัขที่กินนมแม่จะพร้อมหย่านมช่วงอายุ 4 สัปดาห์ และสุนัขที่ไม่มีแม่คอยเลี้ยงจะพร้อมหย่านมช่วงอายุ 3 สัปดาห์) โดยสามารถทำให้สุนัขหย่านมได้ที่ละขั้นตอน ดังนี้:
| อายุ | พัฒนาการของลูกสุนัข |
| อายุ 7-10 วัน | ลูกสุนัขจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มเป็นสองเท่าจากแรกคลอด ลูกสุนัขเริ่มปัสสาวะและถ่ายอุจจาระด้วยตัวเอง |
| อายุ 10-18 วัน | ลูกสุนัขพยายามที่จะยืน ดวงตาของลูกสุนัขเริ่มเปิด หูของลูกสุนัขเริ่มเปิด |
| อายุ 18-21 วัน | ลูกสุนัขได้ยินและตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน ลูกสุนัขเริ่มเดิน |
| อายุ 3 สัปดาห์ | เริ่มหย่านมสำหรับลูกสุนัขกำพร้า ลูกสุนัขเริ่มเปล่งเสียงตอบสนอง ฟันน้ำนม (ทารก) จะเริ่มขึ้น |
| อายุ 4 สัปดาห์ | เริ่มกระบวนการหย่านมสำหรับลูกสุนัขที่เลี้ยงด้วยนมแม่ |
| อายุ 3 - 6 เดือน | ฟันแท้ของลูกสุนัขเริ่มขึ้น |
วิธีหย่านมลูกสุนัขด้วยไอแอมส์™
1. ให้เตรียมจานตื่น ๆ และใส่น้ำไว้เล็กน้อย โดยส่วนใหญ่แล้วลูกสุนัขจะชอบเล่นน้ำ ในช่วง 4-5 วัน ลูกสุนัขจะเริ่มมีพัฒนาการในการเลียกินน้ำจากจาน แต่ในลูกสุนัขบางตัวอาจต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกนานกว่านี้ ดังนั้น คุณอย่าเพิ่งท้อแท้ถ้าหากว่าลูกสุนัขจะต่อต้านการฝึกการในน้ำในชาม
2. เริ่มต้นผสมไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรลูกสุนัข สูตรดังเดิมกับน้ำ อย่าลืมเตรียมจานสำหรับน้ำสะอาดเอาไว้ให้ลูกสุนัขกินด้วย
3. ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณของอาหาร ไปพร้อม ๆ กับลดปริมาณน้ำในส่วนผสมจนกว่าลูกสุนัขของคุณจะกินอาหารได้เต็มที่
4. ทำขั้นตอนเดิมเหมือนผสมอาหารไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรลูกสุนัข ในปริมาณที่เหมาะสมแล้วเพิ่มอาหารเม็ดในขณะที่ลดปริมาณอาหารอ่อนลงจนกว่าการเปลี่ยนได้สมบูรณ์
กระบวนการทั้งหมดควรใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์

