IAMS TH
dog article
dog article

adp_description_block23
คู่มือการดูแลและการเลี้ยงดูลูกสุนัข

  • แบ่งปัน

ลูกสุนัขตัวเล็กพร้อมนำความสุขมาให้พวกเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าบ้าน และการดูแลพวกเค้าอย่างดีก็กลายเป็นนิสัยติดตัวของเรา เชื่อว่าเจ้าของหลาย ๆ คนอาจมีคำถามว่า “เราควรดูแลลูกสุนัขอย่างไรดี?” บอกได้เลยว่าการดูแลลูกสุนัขนั้นแสนง่ายดาย หากรู้วิธีที่ถูกต้อง ซึ่งไอแอมส์ได้รวบรวมคำตอบและเทคนิคดี ๆ อีกมากมายมาให้คุณแล้ว
 

ทำไมลูกสุนัขถึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ?

เจ้าตัวน้อยสี่ขาต้องการอาหารที่ดีมีคุณภาพ และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพราะพวกเค้าช่างเปราะบาง มีโอกาสเจ็บป่วยและติดโรคร้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีนิสัยชอบเคี้ยวสิ่งของต่าง ๆ จึงต้องคอยระมัดระวังไม่ให้กลืนสิ่งของอันตรายลงท้อง และควรจัดเตรียมของเล่นสำหรับกัดแทะไว้ให้พวกเค้าแทน

 

การดูแลโภชนาการ และการฝึกอย่างเหมาะสมในช่วงวัยลูกสุนัข ส่งผลต่อสุขภาพของพวกเค้าอย่างไรบ้าง?

หากเลือกให้อาหารคุณภาพดีตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข พวกเค้าก็จะเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย การดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มันช่วยลดความเสี่ยงในการล้มป่วยและการมีปัญหาสุขภาพลง นอกจากนี้ควรพาน้องหมาไปออกกำลังกายเป็นประจำ หากไม่ได้ออกกำลังหรือไม่ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเลย อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้  ซึ่งทั้งสองข้อนี้คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน

 

ตามติดพัฒนาการของลูกสุนัขในแต่ละช่วงวัย

ตารางพัฒนาการนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยของเจ้าตัวน้อยที่แสนน่ารักได้ดียิ่งขึ้น:

พัฒนาการลูกสุนัข

0-7 สัปดาห์

7-8 สัปดาห์

8-10 สัปดาห์

8-16 สัปดาห์

4-6 เดือน

6-12 เดือน

12-18 

เดือน

ลักษณะการเปลี่ยนแปลง

ลูกสุนัขเริ่มเรียนรู้พฤติกรรมทางสังคม เช่น การกัด การยอมจำนน การให้ความสนใจ และการโต้ตอบกับน้องหมาตัวอื่น

เป็นช่วงวัยที่ดีที่สุดในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเจ้าของ 

ถือเป็นช่วงเวลาที่ลูกสุนัขอ่อนแอที่สุด อาจเรียกอีกอย่างว่า 'ช่วงเวลาแห่งความกลัว' เป็นการดีที่สุดหากช่วยให้ลูกสุนัขมีประสบการณ์เชิงบวก

สามารถเริ่มฝึกทักษะต่าง ๆ ได้แล้วในช่วงนี้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการลงโทษขณะฝึก 

ลูกสุนัขจะมีความมั่นใจ และต้องการอิสระมากขึ้น

เป็นช่วงเวลาในการปลดปล่อยพลังงาน ควรจัดหากิจกรรมมาให้พวกเค้าทำแก้เบื่อด้วยนะ

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยนี้ ลูกสุนัขจะเริ่มมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคงขึ้น

  

เริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานให้พวกเค้าได้แล้ว 

ควรปลอบโยนเวลาที่พวกเค้ารู้สึกกลัวหรือเสียใจ 

 

สามารถทำหมันได้เมื่อมีอายุ 6 เดือน 

ควรเตรียมของเล่นที่หลากหลายไว้ให้พร้อม 

ในช่วงนี้ น้องหมาจะพยายามขึ้นเป็นจ่าฝูง และพยายามยืนยันสถานะของตัวเอง

 

เคล็ดลับการดูแลสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง

การต้อนรับลูกสุนัขมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องจัดการหลังพาพวกเค้าเข้าบ้านแล้ว และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้การดูแลนั้นง่ายขึ้น:

  • เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ชามสแตนเลส ชามอาหาร ชามน้ำ
  • เตรียมเบาะนอนและผ้าห่มเพิ่มความอบอุ่น
  • ให้เวลาพวกเค้าได้ปรับตัวและทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ 
  • เริ่มต้นก้าวแรกอย่างดีด้วยการเลือกอาหารคุณภาพเยี่ยมให้พวกเค้า
  • เตรียมปลอกคอพร้อมป้ายชื่อที่มีข้อมูลติดต่อของคุณให้เรียบร้อย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลลูกสุนัขตัวน้อย:

  1. การดูแลลูกสุนัขแรกเกิดที่ถูกต้องควรทำอย่างไร?
  2. ในฐานะเจ้าของ คุณต้องเรียนรู้วิธีการดูแล และคำนึงถึงปัจจัยสำคัญเหล่านี้:

    • สิ่งที่สำคัญและถือเป็นการดูแลขั้นพื้นฐาน คือการจัดหาน้ำสะอาด โภชนาการที่เหมาะสม และการนอนหลับที่ดี
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเค้าอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
    • รับมือกับความต้องการทางจิตวิทยา อย่างการฝึกเข้าสังคม

  3. ทำอย่างไรให้ลูกสุนัขแรกเกิดมีสุขภาพที่แข็งแรง?
  4. แนะนำให้ทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยของลูกสุนัขเป็นประจำ ฉีดวัคซีนให้ครบตามการนัดหมายของสัตวแพทย์ หมั่นสังเกตพฤติกรรมและความผิดปกติที่เกิดขึ้น คุณสามารถให้ขนมที่ดีต่อสุขภาพกับพวกเค้าได้ด้วยเช่นกัน

  5. ควรเริ่มฝึกลูกสุนัขตอนไหนดีนะ?
  6. สามารถเริ่มต้นด้วยการฝึกขั้นพื้นฐานโดยใช้คำสั่ง เช่น “นั่ง”, “นอนราบ” และ “อยู่นิ่ง” ได้ เมื่อลูกสุนัขมีอายุประมาณ 7 สัปดาห์ ทั้งนี้คุณควรตั้งชื่อให้พวกเค้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพื่อทำให้พวกเค้าสนใจเมื่อถูกเรียกชื่อ และมีส่วนช่วยให้การฝึกง่ายขึ้นอีกด้วย สุดท้ายนี้ การฝึกลูกสุนัขไม่ควรใจร้อน แต่ควรฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  7. สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากรับเลี้ยงลูกสุนัขคืออะไร?
  8. แนะนำให้กำหนดตารางเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้พวกเค้า หรือทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้:

    1. ฝึกให้น้องหมาทำความคุ้นเคยกับพื้นที่สำหรับขับถ่าย หากพวกเค้าขับถ่ายถูกต้องก็อย่าลืมให้รางวัลด้วยนะ
    2. เตรียมพื้นที่พักผ่อนพร้อมของเล่น และอุปกรณ์ที่จำเป็น และปล่อยให้พวกเค้าทำความคุ้นเคย แต่ถ้าน้องหมาเริ่มกัดแทะสิ่งของ หรือฉี่ทับ ให้รีบย้ายข้าวของออกมาในทันที
    3. สังเกตพฤติกรรมของเจ้าตัวน้อยเมื่ออยู่ในพื้นที่ส่วนตัว แม้จะอยู่ในช่วงปรับตัวกับพื้นที่ใหม่ แต่คุณสามารถชวนพวกเค้าเล่นสนุกด้วยได้นะ
  • 4 Tips for Changing Your Dog’s Diet
    4 Tips for Changing Your Dog’s Diet-mob
    adp_description_block164
    4 เคล็ดลับในการเปลี่ยนอาหารสุนัข

    • แบ่งปัน

    การเปลี่ยนอาหารสุนัขเป็นอาหารใหม่ต้องใช้การวางแผน เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่มีนิสัยคงเส้นคงวา ชอบอาหารปัจจุบันที่มีอยู่แล้วเช่นเดียวกับเรา พวกเค้าคุ้นเคยกับอาหารเดิมและอาจไม่ตื่นเต้นกับกิจวัตรใหม่ ๆ เคล็ดลับการให้อาหารสุนัขเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขของคุณพึงพอใจ
     

    4 เคล็ดลับในการเปลี่ยนสุนัขของคุณเป็นอาหารใหม่ให้ประสบความสำเร็จ
     

    1. ค่อย ๆ แนะนำอาหารใหม่


    เมื่อสุนัขของคุณผ่อนคลายพร้อมเปลี่ยนอาหาร ให้คำนึงว่า “ช้าและมั่นคง” เริ่มต้นด้วยการผสมอาหารใหม่ 25% กับอาหารเดิม 75% ปรับสัดส่วนอย่างช้า ๆ ในอีก 3 วันข้างหน้าโดยค่อย ๆ เพิ่มอาหารใหม่และลดปริมาณอาหารเดิม นี่คือตารางการให้อาหารตัวอย่าง :

    • วันที่ 1: อาหารใหม่ 25%, อาหารเดิม 75% 
    • วันที่ 2: อาหารใหม่ 50%, อาหารเดิม 50% 
    • วันที่ 3: อาหารใหม่ 75%, อาหารเดิม 25%
     
    ในตอนท้ายของกระบวนการเปลี่ยนอาหารนี้ คุณควรให้อาหารใหม่ 100% สุนัขของคุณอาจต้องการกินอาหารเดิมอย่างเดียว หรือไม่กินเลย ไม่ต้องกังวล คุณต้องใช้ความอดทนซักหน่อย เค้าอาจจะไม่กินอาหารได้หนึ่งหรือสองวันโดยไม่ส่งผลให้ป่วย

    2. ดูภาษากายของคุณ

    เมื่อนำอาหารใหม่เข้าไปในบ้านของคุณ ให้เทลงในชามสุนัขของคุณและบอกว่าเค้าควรกินมัน อาจทำให้สุนัขของคุณหิวโหย แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะแสดงว่าใครเป็นเจ้านาย มันดีกว่าที่จะแนะนำอาหารใหม่โดยใช้น้ำเสียงที่ไพเราะ และกระตุ้นให้เขาลองอาหารใหม่

    3. อย่ายอมแพ้กับความต้องการ

    ความเพียรพยายามเป็นกุญแจสำคัญ! ในช่วงสองวันแรกของการเปลี่ยนอาหาร อย่าให้ขนมหรืออาหารเพิ่ม สุนัขเองก็ฝึกเราเท่าที่เราฝึกเค้า การยอมแพ้ต่อความต้องการของเค้า ทำให้เค้าปฏิเสธซ้ำ ๆ และนั่นทำให้ยากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

    4. ต้องอดทนเมื่อเปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ด

    การเปลี่ยนอาหารอาจมีความท้าทายมากขึ้น เมื่อเปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ด หากสุนัขของคุณยังคงต่อต้านการกินอาหารเม็ดให้ผสมในน้ำอุ่นเล็กน้อย คุณอาจต้องอุ่นอาหารเปียกในไมโครเวฟสักสองสามวินาที หากคุณผสมอาหารกับน้ำ อย่าลืมทิ้งเศษอาหารที่ยังไม่ได้กินหลังจาก 20 นาทีเพื่อป้องกันการเน่าเสีย กฎเดียวกันนี้สามารปรับใช้กับอาหารกระป๋องและอาหารซอง หลังจากที่สุนัขคุ้นเคยกับอาหารเปียกแล้ว คุณก็สามารถเปลี่ยนเค้าให้กินอาหารแห้งได้ การทำเช่นนี้ให้ทำตามคำแนะนำการผสมที่อธิบายไว้ข้างต้น

    4 Tips for Changing Your Dog’s Diet
    4 Tips for Changing Your Dog’s Diet
Close modal