IAMS TH
dog article
dog article

adp_description_block313
คู่มือการดูแลและการเลี้ยงดูลูกสุนัข

  • แบ่งปัน

ลูกสุนัขตัวเล็กพร้อมนำความสุขมาให้พวกเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าบ้าน และการดูแลพวกเค้าอย่างดีก็กลายเป็นนิสัยติดตัวของเรา เชื่อว่าเจ้าของหลาย ๆ คนอาจมีคำถามว่า “เราควรดูแลลูกสุนัขอย่างไรดี?” บอกได้เลยว่าการดูแลลูกสุนัขนั้นแสนง่ายดาย หากรู้วิธีที่ถูกต้อง ซึ่งไอแอมส์ได้รวบรวมคำตอบและเทคนิคดี ๆ อีกมากมายมาให้คุณแล้ว
 

ทำไมลูกสุนัขถึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ?

เจ้าตัวน้อยสี่ขาต้องการอาหารที่ดีมีคุณภาพ และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพราะพวกเค้าช่างเปราะบาง มีโอกาสเจ็บป่วยและติดโรคร้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีนิสัยชอบเคี้ยวสิ่งของต่าง ๆ จึงต้องคอยระมัดระวังไม่ให้กลืนสิ่งของอันตรายลงท้อง และควรจัดเตรียมของเล่นสำหรับกัดแทะไว้ให้พวกเค้าแทน

 

การดูแลโภชนาการ และการฝึกอย่างเหมาะสมในช่วงวัยลูกสุนัข ส่งผลต่อสุขภาพของพวกเค้าอย่างไรบ้าง?

หากเลือกให้อาหารคุณภาพดีตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข พวกเค้าก็จะเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย การดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มันช่วยลดความเสี่ยงในการล้มป่วยและการมีปัญหาสุขภาพลง นอกจากนี้ควรพาน้องหมาไปออกกำลังกายเป็นประจำ หากไม่ได้ออกกำลังหรือไม่ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเลย อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้  ซึ่งทั้งสองข้อนี้คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน

 

ตามติดพัฒนาการของลูกสุนัขในแต่ละช่วงวัย

ตารางพัฒนาการนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยของเจ้าตัวน้อยที่แสนน่ารักได้ดียิ่งขึ้น:

พัฒนาการลูกสุนัข

0-7 สัปดาห์

7-8 สัปดาห์

8-10 สัปดาห์

8-16 สัปดาห์

4-6 เดือน

6-12 เดือน

12-18 

เดือน

ลักษณะการเปลี่ยนแปลง

ลูกสุนัขเริ่มเรียนรู้พฤติกรรมทางสังคม เช่น การกัด การยอมจำนน การให้ความสนใจ และการโต้ตอบกับน้องหมาตัวอื่น

เป็นช่วงวัยที่ดีที่สุดในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเจ้าของ 

ถือเป็นช่วงเวลาที่ลูกสุนัขอ่อนแอที่สุด อาจเรียกอีกอย่างว่า 'ช่วงเวลาแห่งความกลัว' เป็นการดีที่สุดหากช่วยให้ลูกสุนัขมีประสบการณ์เชิงบวก

สามารถเริ่มฝึกทักษะต่าง ๆ ได้แล้วในช่วงนี้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการลงโทษขณะฝึก 

ลูกสุนัขจะมีความมั่นใจ และต้องการอิสระมากขึ้น

เป็นช่วงเวลาในการปลดปล่อยพลังงาน ควรจัดหากิจกรรมมาให้พวกเค้าทำแก้เบื่อด้วยนะ

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยนี้ ลูกสุนัขจะเริ่มมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคงขึ้น

  

เริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานให้พวกเค้าได้แล้ว 

ควรปลอบโยนเวลาที่พวกเค้ารู้สึกกลัวหรือเสียใจ 

 

สามารถทำหมันได้เมื่อมีอายุ 6 เดือน 

ควรเตรียมของเล่นที่หลากหลายไว้ให้พร้อม 

ในช่วงนี้ น้องหมาจะพยายามขึ้นเป็นจ่าฝูง และพยายามยืนยันสถานะของตัวเอง

 

เคล็ดลับการดูแลสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง

การต้อนรับลูกสุนัขมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องจัดการหลังพาพวกเค้าเข้าบ้านแล้ว และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้การดูแลนั้นง่ายขึ้น:

  • เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ชามสแตนเลส ชามอาหาร ชามน้ำ
  • เตรียมเบาะนอนและผ้าห่มเพิ่มความอบอุ่น
  • ให้เวลาพวกเค้าได้ปรับตัวและทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ 
  • เริ่มต้นก้าวแรกอย่างดีด้วยการเลือกอาหารคุณภาพเยี่ยมให้พวกเค้า
  • เตรียมปลอกคอพร้อมป้ายชื่อที่มีข้อมูลติดต่อของคุณให้เรียบร้อย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลลูกสุนัขตัวน้อย:

  1. การดูแลลูกสุนัขแรกเกิดที่ถูกต้องควรทำอย่างไร?
  2. ในฐานะเจ้าของ คุณต้องเรียนรู้วิธีการดูแล และคำนึงถึงปัจจัยสำคัญเหล่านี้:

    • สิ่งที่สำคัญและถือเป็นการดูแลขั้นพื้นฐาน คือการจัดหาน้ำสะอาด โภชนาการที่เหมาะสม และการนอนหลับที่ดี
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเค้าอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
    • รับมือกับความต้องการทางจิตวิทยา อย่างการฝึกเข้าสังคม

  3. ทำอย่างไรให้ลูกสุนัขแรกเกิดมีสุขภาพที่แข็งแรง?
  4. แนะนำให้ทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยของลูกสุนัขเป็นประจำ ฉีดวัคซีนให้ครบตามการนัดหมายของสัตวแพทย์ หมั่นสังเกตพฤติกรรมและความผิดปกติที่เกิดขึ้น คุณสามารถให้ขนมที่ดีต่อสุขภาพกับพวกเค้าได้ด้วยเช่นกัน

  5. ควรเริ่มฝึกลูกสุนัขตอนไหนดีนะ?
  6. สามารถเริ่มต้นด้วยการฝึกขั้นพื้นฐานโดยใช้คำสั่ง เช่น “นั่ง”, “นอนราบ” และ “อยู่นิ่ง” ได้ เมื่อลูกสุนัขมีอายุประมาณ 7 สัปดาห์ ทั้งนี้คุณควรตั้งชื่อให้พวกเค้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพื่อทำให้พวกเค้าสนใจเมื่อถูกเรียกชื่อ และมีส่วนช่วยให้การฝึกง่ายขึ้นอีกด้วย สุดท้ายนี้ การฝึกลูกสุนัขไม่ควรใจร้อน แต่ควรฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  7. สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากรับเลี้ยงลูกสุนัขคืออะไร?
  8. แนะนำให้กำหนดตารางเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้พวกเค้า หรือทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้:

    1. ฝึกให้น้องหมาทำความคุ้นเคยกับพื้นที่สำหรับขับถ่าย หากพวกเค้าขับถ่ายถูกต้องก็อย่าลืมให้รางวัลด้วยนะ
    2. เตรียมพื้นที่พักผ่อนพร้อมของเล่น และอุปกรณ์ที่จำเป็น และปล่อยให้พวกเค้าทำความคุ้นเคย แต่ถ้าน้องหมาเริ่มกัดแทะสิ่งของ หรือฉี่ทับ ให้รีบย้ายข้าวของออกมาในทันที
    3. สังเกตพฤติกรรมของเจ้าตัวน้อยเมื่ออยู่ในพื้นที่ส่วนตัว แม้จะอยู่ในช่วงปรับตัวกับพื้นที่ใหม่ แต่คุณสามารถชวนพวกเค้าเล่นสนุกด้วยได้นะ
  • Important Nutrients in Our Dog Foods
    Important Nutrients in Our Dog Foods
    adp_description_block34
    สารอาหารที่สุนัขของคุณต้องการสำหรับขนและผิวหนังที่ดี

    • แบ่งปัน

    หากผิวหนังและขนของสุนัขมีสุขภาพที่ดีก็มั่นใจได้ว่าสุนัขนั้นก็มีสุขภาพดีเช่นกัน ทั้งนี้เพราะผิวหนังและเส้นขนจะช่วยป้องกันน้ำและความร้อนไม่ให้ออกจากร่างกายของสุนัข และช่วยป้องกันไวรัสและแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้มั่นใจได้ว่าผิวหนังและขนของสุนัขจะมีสุขภาพที่ดี ก็คือการให้อาหารที่มีคุณภาพกับสุนัข

    สารอาหารอย่างโปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุมีความสำคัญต่อผิวหนังและขนของสุนัข ขนสุนัขของคุณประกอบด้วยโปรตีนเกือบทั้งหมด  หากอาหารของเขามีโปรตีนปริมาณไม่เพียงพอและไม่มีคุณภาพ ขนอาจหลุดร่วงหรือแห้งกร้านอ่อนแอและเปราะได้  ในทำนองเดียวกัน ผิวของเขาเกิดจากเซลล์แบนที่อัดแน่นด้วยเยื่อหุ้มเซลล์ที่ทำจากโปรตีนและไขมัน  หากไม่มีสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เยื่อหุ้มเซลล์จะอ่อนตัวลงทำให้ น้ำ แบคทีเรียและไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น

    ต้องมั่นใจว่าสุนัขของคุณได้รับสารอาหารต่อไปนี้เพื่อให้ขนและผิวหนังของเขาแข็งแรง 

    สารอาหารเพื่อผิวและขนที่มีสุขภาพดีในสุนัข

     

    กรดอะมิโนที่จำเป็น

    โปรตีนพบได้ทั้งส่วนผสมจากสัตว์และพืช อย่างไรก็ตาม โปรตีนจากสัตว์มีกรดอะมิโนจำเป็นทั้งหมดที่สุนัขต้องการในขณะที่โปรตีนจากพืชอาจมีกรดอะมิโนจำเป็นบางชนิดไม่เพียงพอ

     

    กรดไขมัน

    ไขมันยังพบได้ในส่วนผสมจากสัตว์และพืชและรวมอยู่ในเซลล์ผิวในรูปแบบของกรดไขมัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรดไลโนเลอิกเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพของผิวหนังและขน  สุนัขที่มีกรดไลโนเลอิกไม่เพียงพออาจมีอาการเซื่องซึมและขนแห้งขาด ขนร่วง ผิวหนังเหนียวเนอะและเสี่ยงต่อการอักเสบของผิวหนังสูง

    กรดไลโนเลอิกพบในไขมันจากไก่และน้ำมันพืช (เช่นข้าวโพดและถั่วเหลือง)  การวิจัยของ ไอแอมส์™  ยังพบว่ากรดไขมันในน้ำมันปลาอุดมไปด้วยวิตามินช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวและขนที่ดีเยี่ยม

    วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ

    สุนัขของคุณต้องการวิตามินและแร่ธาตุเพื่อที่จะนำไปช่วยดูแลให้ผิวและขนที่แข็งแรง วิธีที่ดีที่สุดในการให้สารอาหารเหล่านี้คือ การให้อาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่ครบถ้วนและสมดุล แทนที่จะให้อาหารเสริมแก่สุนัข

     

    วิตามินหรือแร่ธาตุความสำคัญต่อสุขภาพของผิวหนังและขน
    วิตามิน Aจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและซ่อมแซมผิวหนัง
    วิตามิน Eปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
    วิตามิน Cช่วยสมานแผล
    ไบโอตินช่วยในการใช้โปรตีนที่มีประโยนช์
    ไรโบเฟลวิน (RIBOFLAVIN, B2)จำเป็นสำหรับการเผาผลาญไขมันและโปรตีน
    ซิงค์จำเป็นสำหรับการเผาผลาญไขมันและโปรตีน
    คอปเปอร์การสร้างเนื้อเยื่อ เม็ดสี และการสังเคราะห์โปรตีน

     

     

    อะไรเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพขนของสุนัข

    อาหารอาจเป็นปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวและการผลัดขน แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ จากฤดูกาลและการเปลี่ยนแปลงช่วงวัย เมื่อใกล้ฤดูหนาว สุนัขส่วนใหญ่จะมีขนหนาเพื่อช่วยรักษาความร้อนและป้องกันอากาศเย็น พวกเขาก็จะผลัดขนหนา ๆ ออกเมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้น

    ลูกสุนัขส่วนใหญ่เกิดมามีขนนุ่มปุย แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีขนที่หยาบมากขึ้น สุนัขที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอาจมีการผลัดขนหรือขนร่วงได้ ขนสุนัขอาจบางลงและกลายหยาบขึ้นและขาว เมื่อพวกเขาเข้าสู่ช่วงวัยชราเช่นเดียวกับมนุษย์

    ไฟเบอร์ในอาหารนั้นจำเป็นแค่ไหน?

    ไฟเบอร์มีความสำคัญต่อสุขภาพสุนัข ช่วยในการเคลื่อนอาหารปริมาณมากผ่านทางลำไส้ ไฟเบอร์บางประเภทสามารถย่อยสลายโดยแบคทีเรียในระบบทางเดินลำไส้  กระบวนการนี้สร้างกรดไขมันสายสั้น (SCFA) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับเซลล์ชั้นบุในลำไส้

     

    สิ่งที่ดีสำหรับคุณอาจไม่ดีสำหรับสุนัข

    คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับไฟเบอร์ที่อยู่ในอาหาร ประโยชน์ของระดับไฟเบอร์ที่สูงมีผลให้มนุษย์มีวิธีคิดเกี่ยวกับอาหารของตัวเองและอาหารของสุนัข เป็นผลให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์บางคนเริ่มคิดเหมือนนักโภชนาการของมนุษย์และทำอาหารที่มีไฟเบอร์สูงสำหรับสุนัข แต่อาหารที่มีไฟเบอร์สูงและระบบทางเดินอาหารที่สั้นของสุนัขนั้นมักจะทำงานร่วมกันได้ไม่ดี  ไฟเบอร์ในระดับที่สูงจะทำให้สุนัขเกิดปัญหาในการย่อยอาหารและรบกวนการดูดซึมสารอาหารที่เหมาะสม ซึ่งต่างจากมนุษย์ สุนัขเป็นสัตว์กินเนื้อซึ่งหมายถึงพวกเขาพอใจที่จะกินเนื้อสัตว์มากกว่าการกินอาหารจากพืช

     

    ระดับปริมาณไฟเบอร์และความสามารถในการย่อย

    ตลอด 60 ปีของการวิจัยเกี่ยวกับโภชนาการของอาหารสุนัขสูตรพรีเมียม ไอแอมส์™ ได้ศึกษาอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการพิเศษของสุนัข การวิจัยของ IAMS แสดงให้เห็นว่าระดับไฟเบอร์ดิบที่เหมาะสมสำหรับสุนัขที่มีสุขภาพดีอยู่ในช่วง 1.4 ถึง 3.5%  ความสามารถในการย่อยได้ของสารอาหารจะสูงสุดในระดับเหล่านี้

    ลักษณะที่สำคัญของไฟเบอร์คือความสามารถในการหมักหรือว่าความสามารถในการย่อยสลายแบคทีเรียที่อยู่ตามปกติในลำไส้ของสุนัขได้ดี การย่อยสลายตัวของไฟเบอร์นี้สร้างกรดไขมันสายสั้นที่ให้พลังงานกับเซลล์ที่เยื่อบุลำไส้ ความสามารถในการบ่อยขึ้นอยู่กับชนิดของไฟเบอร์ด้วย

    แหล่งไฟเบอร์ที่ใช้ในอาหารสัตว์ได้แก่ เซลลูโลส บีทพัลป์ และยางไม้และเพกติน

    การวิจัยแสดงให้เห็นว่าไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์ปานกลาง เช่นบีทพัลป์ให้ประโยชน์ด้านพลังงานสำหรับเยื่อบุลำไส้ของสุนัข และเพิ่มขนาดโดยไม่มีผลเสียกับอุจจาระหรือก๊าซมากเกินไป

     

    ใยอาหารสูงและการลดน้ำหนัก

    ไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์ได้ไม่ดีในปริมาณสูงจะถูกใช้ในอาหารลดน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงเพื่อลดปริมาณแคลอรี่ในอาหาร  จากการวิจัยของ ไอแอมส์™  พบว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ดีเพราะไฟเบอร์ในระดับปริมาณมากสามารถลดการย่อยได้ของสารอาหารอื่น ๆ ลงได้  คุณอาจเห็นกองอุจจาระของสุนัขในสนามมากขึ้น เนื่องจากใยอาหารที่ย่อยไม่ได้

     

    ไฟเบอร์ในอาหารสุนัขของ ไอแอมส์™

    สิ่งสำคัญที่ต้องจำคือความต้องการไฟเบอร์ของสุนัขไม่เหมือนกันกับของคุณ  ไฟเบอร์ เช่น บีทพัลป์ ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าจะให้ประโยชน์ทางโภชนาการสำหรับสุนัข อาหารที่มีไฟเบอร์ที่ย่อยโดยจุลินทรีย์ได้ยากในปริมาณสูงช่วยลดปริมาณแคลอรี่แต่ไม่ได้ให้ประโยชน์ทางโภชนาการกับสุนัข

    ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ IAMS รวมถึง ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรสุนัขโตเป็นสูตรที่มีปริมาณที่เหมาะสมของไฟเบอร์ เพื่อส่งเสริมระบบทางเดินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัขของคุณ

Close modal