IAMS TH
dog article
dog article

adp_description_block302
คู่มือการดูแลและการเลี้ยงดูลูกสุนัข

  • แบ่งปัน

ลูกสุนัขตัวเล็กพร้อมนำความสุขมาให้พวกเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าบ้าน และการดูแลพวกเค้าอย่างดีก็กลายเป็นนิสัยติดตัวของเรา เชื่อว่าเจ้าของหลาย ๆ คนอาจมีคำถามว่า “เราควรดูแลลูกสุนัขอย่างไรดี?” บอกได้เลยว่าการดูแลลูกสุนัขนั้นแสนง่ายดาย หากรู้วิธีที่ถูกต้อง ซึ่งไอแอมส์ได้รวบรวมคำตอบและเทคนิคดี ๆ อีกมากมายมาให้คุณแล้ว
 

ทำไมลูกสุนัขถึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ?

เจ้าตัวน้อยสี่ขาต้องการอาหารที่ดีมีคุณภาพ และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพราะพวกเค้าช่างเปราะบาง มีโอกาสเจ็บป่วยและติดโรคร้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีนิสัยชอบเคี้ยวสิ่งของต่าง ๆ จึงต้องคอยระมัดระวังไม่ให้กลืนสิ่งของอันตรายลงท้อง และควรจัดเตรียมของเล่นสำหรับกัดแทะไว้ให้พวกเค้าแทน

 

การดูแลโภชนาการ และการฝึกอย่างเหมาะสมในช่วงวัยลูกสุนัข ส่งผลต่อสุขภาพของพวกเค้าอย่างไรบ้าง?

หากเลือกให้อาหารคุณภาพดีตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข พวกเค้าก็จะเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย การดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มันช่วยลดความเสี่ยงในการล้มป่วยและการมีปัญหาสุขภาพลง นอกจากนี้ควรพาน้องหมาไปออกกำลังกายเป็นประจำ หากไม่ได้ออกกำลังหรือไม่ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเลย อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้  ซึ่งทั้งสองข้อนี้คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน

 

ตามติดพัฒนาการของลูกสุนัขในแต่ละช่วงวัย

ตารางพัฒนาการนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยของเจ้าตัวน้อยที่แสนน่ารักได้ดียิ่งขึ้น:

พัฒนาการลูกสุนัข

0-7 สัปดาห์

7-8 สัปดาห์

8-10 สัปดาห์

8-16 สัปดาห์

4-6 เดือน

6-12 เดือน

12-18 

เดือน

ลักษณะการเปลี่ยนแปลง

ลูกสุนัขเริ่มเรียนรู้พฤติกรรมทางสังคม เช่น การกัด การยอมจำนน การให้ความสนใจ และการโต้ตอบกับน้องหมาตัวอื่น

เป็นช่วงวัยที่ดีที่สุดในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเจ้าของ 

ถือเป็นช่วงเวลาที่ลูกสุนัขอ่อนแอที่สุด อาจเรียกอีกอย่างว่า 'ช่วงเวลาแห่งความกลัว' เป็นการดีที่สุดหากช่วยให้ลูกสุนัขมีประสบการณ์เชิงบวก

สามารถเริ่มฝึกทักษะต่าง ๆ ได้แล้วในช่วงนี้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการลงโทษขณะฝึก 

ลูกสุนัขจะมีความมั่นใจ และต้องการอิสระมากขึ้น

เป็นช่วงเวลาในการปลดปล่อยพลังงาน ควรจัดหากิจกรรมมาให้พวกเค้าทำแก้เบื่อด้วยนะ

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยนี้ ลูกสุนัขจะเริ่มมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคงขึ้น

  

เริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานให้พวกเค้าได้แล้ว 

ควรปลอบโยนเวลาที่พวกเค้ารู้สึกกลัวหรือเสียใจ 

 

สามารถทำหมันได้เมื่อมีอายุ 6 เดือน 

ควรเตรียมของเล่นที่หลากหลายไว้ให้พร้อม 

ในช่วงนี้ น้องหมาจะพยายามขึ้นเป็นจ่าฝูง และพยายามยืนยันสถานะของตัวเอง

 

เคล็ดลับการดูแลสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง

การต้อนรับลูกสุนัขมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องจัดการหลังพาพวกเค้าเข้าบ้านแล้ว และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้การดูแลนั้นง่ายขึ้น:

  • เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ชามสแตนเลส ชามอาหาร ชามน้ำ
  • เตรียมเบาะนอนและผ้าห่มเพิ่มความอบอุ่น
  • ให้เวลาพวกเค้าได้ปรับตัวและทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ 
  • เริ่มต้นก้าวแรกอย่างดีด้วยการเลือกอาหารคุณภาพเยี่ยมให้พวกเค้า
  • เตรียมปลอกคอพร้อมป้ายชื่อที่มีข้อมูลติดต่อของคุณให้เรียบร้อย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลลูกสุนัขตัวน้อย:

  1. การดูแลลูกสุนัขแรกเกิดที่ถูกต้องควรทำอย่างไร?
  2. ในฐานะเจ้าของ คุณต้องเรียนรู้วิธีการดูแล และคำนึงถึงปัจจัยสำคัญเหล่านี้:

    • สิ่งที่สำคัญและถือเป็นการดูแลขั้นพื้นฐาน คือการจัดหาน้ำสะอาด โภชนาการที่เหมาะสม และการนอนหลับที่ดี
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเค้าอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
    • รับมือกับความต้องการทางจิตวิทยา อย่างการฝึกเข้าสังคม

  3. ทำอย่างไรให้ลูกสุนัขแรกเกิดมีสุขภาพที่แข็งแรง?
  4. แนะนำให้ทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยของลูกสุนัขเป็นประจำ ฉีดวัคซีนให้ครบตามการนัดหมายของสัตวแพทย์ หมั่นสังเกตพฤติกรรมและความผิดปกติที่เกิดขึ้น คุณสามารถให้ขนมที่ดีต่อสุขภาพกับพวกเค้าได้ด้วยเช่นกัน

  5. ควรเริ่มฝึกลูกสุนัขตอนไหนดีนะ?
  6. สามารถเริ่มต้นด้วยการฝึกขั้นพื้นฐานโดยใช้คำสั่ง เช่น “นั่ง”, “นอนราบ” และ “อยู่นิ่ง” ได้ เมื่อลูกสุนัขมีอายุประมาณ 7 สัปดาห์ ทั้งนี้คุณควรตั้งชื่อให้พวกเค้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพื่อทำให้พวกเค้าสนใจเมื่อถูกเรียกชื่อ และมีส่วนช่วยให้การฝึกง่ายขึ้นอีกด้วย สุดท้ายนี้ การฝึกลูกสุนัขไม่ควรใจร้อน แต่ควรฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  7. สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากรับเลี้ยงลูกสุนัขคืออะไร?
  8. แนะนำให้กำหนดตารางเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้พวกเค้า หรือทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้:

    1. ฝึกให้น้องหมาทำความคุ้นเคยกับพื้นที่สำหรับขับถ่าย หากพวกเค้าขับถ่ายถูกต้องก็อย่าลืมให้รางวัลด้วยนะ
    2. เตรียมพื้นที่พักผ่อนพร้อมของเล่น และอุปกรณ์ที่จำเป็น และปล่อยให้พวกเค้าทำความคุ้นเคย แต่ถ้าน้องหมาเริ่มกัดแทะสิ่งของ หรือฉี่ทับ ให้รีบย้ายข้าวของออกมาในทันที
    3. สังเกตพฤติกรรมของเจ้าตัวน้อยเมื่ออยู่ในพื้นที่ส่วนตัว แม้จะอยู่ในช่วงปรับตัวกับพื้นที่ใหม่ แต่คุณสามารถชวนพวกเค้าเล่นสนุกด้วยได้นะ
  • Why the Taste of Your Dog’s Food Matters
    Why the Taste of Your Dog’s Food Matters
    adp_description_block213
    ดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องอร่อยด้วย เทคนิคเพิ่มความอร่อยให้อาหารน้องหมา

    • แบ่งปัน

    ความอร่อยของอาหารสุนัขสำคัญอย่างไร?

    อาหารสุนัขคุณภาพดีมีสารอาหารจำเป็นครบถ้วนตรงตามความต้องการของน้องหมา แต่มันจะไม่เกิดประโยชน์ใดเลยหากน้องหมาไม่ยอมกินเข้าไป ดังนั้นนอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว อาหารสุนัขจึงควรได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มีรสชาติอร่อยถูกใจบรรดาเจ้าตัวน้อยสี่ขาด้วย
     

    ส่วนเคล็ดลับความอร่อยของอาหารสุนัขนั้น จะอยู่ที่เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่หลากหลาย รวมถึงการเติมส่วนผสมลับที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอม รสชาติ และเนื้อสัมผัส เช่น ไขมัน เกลือ โปรตีน ยีสต์ และอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อให้อาหารมีรสชาติดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในอาหารเม็ดที่ต้องเพิ่มรสชาติให้ดึงดูดใจน้องหมาได้
     

    อะไรคือความอร่อยสำหรับน้องหมา?

    ความอร่อยสำหรับน้องหมาอาจหมายถึงความพึงพอใจในรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสของอาหาร โดยผู้ผลิตอาหารสุนัขส่วนใหญ่ลงทุนศึกษาวิธีการควบคุมปริมาณและแปรรูปส่วนผสมเพื่อให้ได้อาหารที่มีทั้งคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติอร่อยน่ากิน


    จะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารมีรสชาติอร่อย?

    เราสามารถทดสอบความอร่อยได้ด้วย 2 วิธีต่อไปนี้:
     

    การกินคำแรก: “การกินคำแรก” เป็นการวัดความประทับใจแรกที่น้องหมามีต่อกลิ่นและรูปลักษณ์ของอาหาร
     

    ปริมาณอาหารทั้งหมด: ทั้งนี้ความแปลกใหม่ของอาหารอาจทำให้ผลสรุปคลาดเคลื่อนได้ นอกจากการกินคำแรกแล้ว จึงต้องทดสอบต่อด้วยการวัด “ปริมาณอาหารทั้งหมด” ที่น้องหมากินเข้าไป ซึ่งปริมาณดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งบอกว่าอาหารสามารถดึงดูดใจน้องหมาได้มากน้อยเพียงใดเมื่อเวลาผ่านไป การทดสอบเหล่านี้จะช่วยให้เราเลือกอาหารที่ถูกใจน้องหมาได้ ทั้งในด้านรสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าโภชนาการ

     

    นิสัยเลือกกินของน้องหมาเกิดจากอะไร?

    มีเหตุผลมากมายที่ทำให้น้องหมาติดนิสัยเลือกกิน ซึ่งรวมถึงเหตุผลเหล่านี้ด้วย:

    • ได้รับขนมหรืออาหารของคนมากเกินไป
    • ไม่ชอบส่วนผสมบางอย่างในอาหาร
    • ขาดความหลากหลายของอาหาร
    • ปัญหาด้านสุขภาพ

    น้องหมารู้ได้อย่างไรว่าอาหารอร่อย?

    น้องหมามีต่อมรับกลิ่นมากกว่าต่อมรับรสเมื่อเปรียบเทียบกับคน นั่นหมายความว่าอาหารที่มีกลิ่นแรงจะดึงความสนใจพวกเค้าได้มากกว่า แต่อาหารที่ไม่ค่อยมีกลิ่นอย่างอาหารเม็ดก็มีความน่ากินสำหรับน้องหมาเช่นกัน เนื่องจากน้องหมาสามารถรับรสของไขมันและเกลือ (ไม่จำเป็นต้องเป็นรสเค็มเสมอไป) ได้ค่อนข้างดี อาหารเม็ดส่วนใหญ่จึงมีส่วนผสมของไขมัน เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยโดยไม่ทำให้อาหารมีกลิ่นแรง
     

    แม้ว่ารสชาติและกลิ่นจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้น้องหมาตัดสินว่าอาหารถูกใจหรือไม่ แต่ความอร่อยหรือความน่ากินก็อาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นความชอบเฉพาะตัวของน้องหมา รวมถึงอาหารที่เจ้าของชอบให้กิน และการกำหนดตารางเวลาในการให้อาหารด้วย
     

    ทำอย่างไรให้น้องหมายอมกินอาหาร?

    สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้น้องหมากินอาหาร มีดังนี้:

     

    • วางแผนการให้อาหาร

    ทุกคนในบ้านต้องทำตามแผนอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ หากต้องการให้อาหารอื่นเพิ่มเติม ควรคำนวณปริมาณอาหารและคุณค่าทางโภชนาการที่ควรได้รับในแต่ละวันให้เหมาะสมด้วย

     

    • หลีกเลี่ยงการให้กินอาหารของคน

    การให้กินอาหารของคนบ่อย ๆ จะทำให้น้องหมาติดนิสัยชอบขอและไม่ยอมกินอาหารของตัวเอง นอกจากนี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย ตั้งแต่อาการท้องเสียไปจนถึงภาวะตับอ่อนอักเสบ ถึงแม้ว่าอาหารของคนจะดูน่ากินมากกว่า แต่มันก็มีคุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอต่อความต้องการของน้องหมา

     

    • กำหนดเวลาให้อาหาร

    สำหรับลูกสุนัขตัวน้อยควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็น 2 – 3 มื้อต่อวัน หรือให้ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ เมื่อน้องหมาโตขึ้นก็สามารถลดจำนวนมื้ออาหารลงได้ แต่ต้องเพิ่มปริมาณอาหารแต่ละมื้อให้มากขึ้น คุณอาจเลือกให้อาหารที่หลากหลายได้ แต่ควรคำนวณปริมาณให้เหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวันของพวกเค้าด้วย

     

    การทดสอบความอร่อยของอาหารมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

    การทดสอบควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญและผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลโดยนักโภชนาการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง สำหรับขั้นตอนแรกในการทดสอบ จะเริ่มจากการให้อาหารน้องหมา 2 ชามในเวลาเดียวกัน ชามแต่ละใบจะมีอาหารแตกต่างกันโดยได้รับการชั่งน้ำหนักและบันทึกรายละเอียดเอาไว้แล้ว
     

    จากนั้นผู้เชี่ยวชาญก็จะสังเกตและจดบันทึกการเลือกกินอาหารคำแรกของน้องหมา เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ชามอาหารทั้งสองจะถูกนำออกไปชั่งน้ำหนักเพื่อวัดปริมาณอาหารที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ในแต่ละวันชามอาหารจะถูกเปลี่ยนตำแหน่งจากซ้ายไปขวาตลอดช่วงการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าน้องหมาไม่ได้เลือกกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งจากความคุ้นเคย
     

    การวัดปริมาณอาหารจะคำนวณจากความแตกต่างระหว่างน้ำหนักต้น (ก่อนการทดสอบ) และน้ำหนักสิ้นสุด (หลังการทดสอบ) ของอาหารแต่ละชาม โดยการทดสอบจะทำซ้ำติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน เมื่อครบกำหนดก็จะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อสรุปผลความน่ากินของอาหารแต่ละชนิด

     

    รสชาติที่เจ้าตัวน้อยโปรดปราน

    รสชาติเหล่านี้คือตัวอย่างรสชาติที่สามารถดึงดูดใจน้องหมาได้เป็นอย่างดี


    รสเนื้อ

    • น้องหมาส่วนใหญ่ชอบกินเนื้อสัตว์
    • เนื้อสัตว์มีปริมาณโซเดียมเพียงพอต่อความต้องการของน้องหมา จึงไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมเพิ่ม
    • อาหารสุนัขควรมีส่วนผสมของเนื้อไก่ เนื้อปลาแซลมอน เนื้อไก่งวง เนื้อแกะ หรือเนื้อวัว
    • เนื้อสัตว์ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี แต่ยังช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้อาหารอีกด้วย
       

    ไขมันสัตว์

    • อาหารสุนัขจะมีรสชาติดีขึ้นเมื่อมีส่วนผสมของไขมันสัตว์
    • ไขมันสัตว์ถือเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารสัตว์เลี้ยง
    • ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อคำนวณปริมาณไขมันที่เหมาะสมสำหรับอาหารแต่ละมื้อ
       

     น้ำเกรวี่หรือน้ำซุปเข้มข้น

    • น้องหมาส่วนใหญ่ชอบอาหารเปียกมากกว่าอาหารเม็ด
    • แนะนำให้ผสมอาหารเม็ดเข้ากับน้ำซุปหรือซอสเกรวี่เพื่อเพิ่มความน่ากิน 
    • สามารถเพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหารได้ด้วยน้ำเกรวี่ชุ่มฉ่ำและรสชาติเข้มข้นของเนื้อสัตว์

     

    ปัจจัยใดบ้างที่ช่วยให้อาหารสุนัขมีความอร่อยน่ากิน? 

    ไม่ใช่แค่รสชาติเท่านั้นที่ดึงดูดใจน้องหมาได้ แต่รูปลักษณ์ กลิ่นหอม และเนื้อสัมผัสของอาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่ากินได้เช่นกัน


    จะทำอย่างไรให้อาหารสุนัขอร่อยและน่ากินมากยิ่งขึ้น?

    เคล็ดลับที่ช่วยให้อาหารสุนัขอร่อยและน่ากินมากยิ่งขึ้นมีดังนี้

    1. เลือกโปรตีนคุณภาพดี

      ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดหรืออาหารเปียก สิ่งสำคัญคือการเลือกอาหารที่มีแหล่งโปรตีนคุณภาพดี อาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อแกะ เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ มักจะมีรสชาติอร่อยถูกใจเจ้าตัวน้อย

    2. เติมความอร่อยด้วยไขมัน

      การเพิ่มไขมัน เกลือ และสารปรุงแต่งอื่น ๆ จะช่วยให้อาหารเม็ดมีรสชาติอร่อยและกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น โดยไขมันถือเป็นรสชาติที่น้องหมาชื่นชอบ และต้องการให้มีในทุกมื้ออาหาร อย่างไรก็ตามควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อคำนวณปริมาณไขมันที่เหมาะสมก่อน

    3. เพิ่มส่วนผสมพิเศษ

      อีกหนึ่งเคล็ดลับในการเพิ่มรสชาติความอร่อยคือการใส่ส่วนผสมพิเศษลงไป ตัวอย่างเช่นเนื้อสัตว์หรือน้ำเกรวี่ชุ่มฉ่ำแสนอร่อย

    4. เปลี่ยนมาให้ขนมแสนอร่อย

      จุดประสงค์หลักของอาหารเสริมส่วนใหญ่คือเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ จึงอาจมีส่วนผสมที่น้องหมาไม่ชอบใจ แนะนำให้เปลี่ยนเป็นขนมที่มีเนื้อเหลวหรือเนื้อนุ่มเคี้ยวง่ายแทน เพื่อเพิ่มรสชาติให้อาหารสุนัขโดยที่ยังคงมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน

    ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Liquid digest) คืออะไร และช่วยให้อาหารสุนัขมีรสชาติอร่อยน่ากินได้อย่างไร?

    ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเพียงโปรตีนที่ผ่านการย่อยสลายด้วยเอนไซม์จนกลายเป็นกรดอะมิโน โดยมีการเติมสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดเพื่อให้กระบวนการย่อยหยุดลง และได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ต้องการ เมื่อส่วนผสมทุกอย่างผ่านการปรุงและแปรรูปเป็นเม็ดอาหารเรียบร้อยแล้ว เม็ดอาหารทั้งหมดก็จะถูกฉีดพ่นด้วยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจนทั่ว ซึ่งมีส่วนช่วยให้รสชาติอาหารดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้นอีกด้วย

     

    ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยเพิ่มความอร่อยได้จริงหรือไม่?

    เพิ่มได้จริง เราใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตจากเนื้อไก่กับอาหารเม็ดสำหรับสุนัข เพื่อเพิ่มทั้งความน่ากินและคุณค่าทางโภชนาการ แต่อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงบางชนิดก็ใช้เพียงสารเพิ่มรสชาติอย่างผงหัวหอม เพื่อกลบกลิ่นและรสชาติของส่วนผสมเท่านั้น ไม่มีส่วนช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใด

Close modal