IAMS TH
Puppy Basics: Health Care Essentials
Puppy Basics: Health Care Essentials

adp_description_block327
การตรวจสุขภาพของลูกสุนัขตัวใหม่

  • แบ่งปัน

ลูกสุนัขก็เหมือนกับเด็กทารกตัวน้อย ๆ พวกเค้าต้องการความรัก ความเอาใจใส่ และการดูแลอย่างดีในช่วงเจริญเติบโต โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและโภชนาการที่มีความสำคัญมากในช่วงเดือนแรก ลูกสุนัขควรได้รับการดูแลป้องกันควบคู่ไปกับการให้อาหารที่เหมาะสม สำหรับพ่อแม่มือใหม่ที่สงสัยว่ารายการตรวจสุขภาพของลูกสุนัขมีอะไรบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กันเลย
 

การดูแลสุขภาพที่สำคัญสำหรับลูกสุนัข

หน้าที่สำคัญที่สุดของผู้เลี้ยงทุกคนคือการดูแลสุขภาพของเจ้าตัวน้อยให้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้าย ซึ่งการดูแลป้องกันที่สำคัญมีดังนี้

  • การพบสัตวแพทย์ – สัตวแพทย์จะตรวจร่างกายลูกสุนัขอย่างละเอียดเพื่อวินิจฉัยอาการแพ้หรือปัญหาสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลป้องกันและการกรูมมิ่งอย่างถูกต้อง การนัดพบสัตวแพทย์จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อกำหนดด้านสุขภาพและพฤติกรรมของเจ้าตัวน้อยมากยิ่งขึ้น 
  • การถ่ายพยาธิ – การติดเชื้อพยาธิเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในลูกสุนัข สัตวแพทย์จึงมักจะแนะนำให้ตรวจอุจจาระเพื่อหาพยาธิและปรสิต รวมถึงจะให้ถ่ายพยาธิกันตั้งแต่การนัดพบครั้งแรก
  • การฉีดวัคซีน – ลูกสุนัขควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อและโรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น โรคตับอักเสบ โรคไข้หัด โรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา พาร์โวไวรัส และโรคปอดอักเสบ หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนก็สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้
  • การป้องกันเห็บหมัด – เห็บและหมัดก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อย มันส่งผลต่อสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีของลูกสุนัข เนื่องจากปรสิตเหล่านี้จะดูดเลือดและสารอาหารจากร่างกาย อีกทั้งยังสร้างความระคายเคืองให้กับลูกสุนัขด้วย จึงควรป้องกันเห็บและหมัดเป็นประจำ
  • การจัดตารางออกกำลังกาย – เนื่องจากลูกสุนัขอยู่ในวัยชอบสำรวจและเต็มไปด้วยพลัง ผู้เลี้ยงจึงควรจัดตารางออกกำลังกายหรือหากิจกรรมให้พวกเค้าทำเป็นประจำ วิธีนี้จะช่วยให้ลูกสุนัขเพลิดเพลินและมีสุขภาพดี การใช้เวลาเล่นกับลูกสุนัขยังช่วยสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และเป็นโอกาสดีที่จะสังเกตลูกสุนัขเพื่อประเมินพัฒนาการ สุขภาพ และอารมณ์
  • การเลือกอาหาร – แม้จะมีขนาดตัวเล็ก แต่ลูกสุนัขต้องการพลังงานมากเนื่องจากอยู่ในวัยเจริญเติบโต ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเค้าได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ และคาร์โบไฮเดรต รวมถึงควรให้อาหารพวกเค้าอย่างน้อย 3 – 4 มื้อต่อวัน เพื่อรองรับความต้องการทางโภชนาการและการเติบโตอย่างแข็งแรง

ขอแนะนำไอแอมส์™ อาหารลูกสุนัขเกรดพรีเมียม อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูง ย่อยง่าย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น
 

การดูแลรักษาลูกสุนัข

ลูกสุนัขยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจว่าอะไรดีหรือไม่ดี พวกเค้าขาดทักษะการรับรู้และการประเมินความเสี่ยง อีกทั้งยังมีความกระตือรือร้นสูง อยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น และชอบกัดแทะสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งบางอย่างก็อาจเป็นอันตรายและเป็นพิษต่อร่างกาย จึงควรดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเค้าจะเติบโตและมีพัฒนาการที่ดี

  •  การพบสัตวแพทย์ – การพูดคุยกับสัตวแพทย์จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์และช่วยให้ลูกสุนัขมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ก่อนตัดสินเลือกสัตวแพทย์ประจำตัวลูกสุนัข คุณควรตรวจสอบรายละเอียดที่สำคัญให้เรียบร้อย เช่น ประสบการณ์ทางการแพทย์ ความชำนาญพิเศษของคุณหมอ และสถานที่ตั้งของคลินิกหรือโรงพยาบาล
  • การตรวจสุขภาพ – สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ทำการทดสอบบางอย่างเพื่อวินิจฉัยและรักษาความผิดปกติหรือโรคต่าง ๆ เช่น การตรวจอุจจาระเพื่อหาพยาธิ หรือการตรวจร่างกายตั้งแต่หัวจรดหาง ทั้งเส้นขน ดวงตา ใบหู และช่องปาก
  • การให้ยา – สัตวแพทย์อาจสั่งจ่ายยาหรืออาหารเสริมเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยและทดแทนสารอาหารบางชนิดที่ขาดไป อย่างไรก็ตาม การให้ยาลูกสุนัขนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พ่อแม่ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
  1. ขั้นตอนที่ 1 – เริ่มต้นด้วยการชวนเล่นเพื่อให้ลูกสุนัขรู้สึกผ่อนคลาย พูดชมเชยเมื่อพวกเค้าเป็นเด็กดี และนั่งลงใกล้ ๆ เมื่อพวกเค้ามีท่าทีที่สงบลง
  2. ขั้นตอนที่ 2 – ถือยาไว้ในมือข้างหนึ่ง และค่อย ๆ เปิดปากลูกสุนัขโดยใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่
  3. ขั้นตอนที่ 3 – วางยาไว้ที่ปลายลิ้นของลูกสุนัข จากนั้นให้รีบปิดปากลูกสุนัขของคุณแล้วเป่าเบา ๆ ไปที่จมูก การเป่าลมที่จมูกจะทำให้ลูกสุนัขกลืนเม็ดยาลงไป
  4. ขั้นตอนที่ 4 – ให้ขนมแสนอร่อยเป็นรางวัลและชวนพวกเค้าเล่นกันต่ออีกสักพัก

นอกจากการตรวจสุขภาพร่างกายแล้ว ผู้เลี้ยงควรจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็นสำหรับลูกสุนัขให้พร้อมด้วย การฝึกทำตามคำสั่งและการเข้าสังคมก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน อย่างการฝึกขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อเสริมสร้างสุขอนามัยและพฤติกรรมที่ดีให้กับเจ้าตัวน้อยของคุณ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพลูกสุนัข

  1. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกสุนัขมีสุขภาพดี?
  2. ต้องหมั่นสังเกตลูกสุนัขทุกวัน คอยเช็กสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพหรืออาการผิดปกติต่าง ๆ หากพบว่าลูกสุนัขมีการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ ลักษณะทางกายภาพ การขับถ่าย สุขภาพเส้นขน หรือมีพฤติกรรมที่ผิดแปลกไป แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

  3. สัญญาณสุขภาพดี 5 ประการของลูกสุนัขมีอะไรบ้าง?
  4. ขนนุ่มเงางาม หูสะอาด ดวงตาสดใส จมูกโล่ง และร่าเริง ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกสุนัขของคุณมีสุขภาพดี

  5. ลูกสุนัขที่เจ็บป่วยมักจะมีอาการใดบ้าง?
  6. ลูกสุนัขที่ป่วยมักจะมีอาการผิดปกติ เช่น ท้องเสีย อาเจียน คันเนื้อคันตัว ส่งเสียงครวญคราง และมีอาการอ่อนเพลีย

  • คู่มือการเลือกอาหารให้ลูกสุนัข
    คู่มือการเลือกอาหารให้ลูกสุนัข
    adp_description_block274
    คู่มือการเลือกอาหารให้ลูกสุนัข

    • แบ่งปัน

    โภชนาการถือเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุนัข เพราะอาหารเป็นหนึ่งในความต้องการขั้นพื้นฐาน เราจึงต้องใส่ใจและเลือกสรรโภชนาการให้เจ้าตัวน้อยอย่างพิถีพิถัน มันอาจเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องเลือกอาหารสุนัขมากมายหลายแบบในท้องตลาด แต่ไม่ต้องกังวลไป! ด้วยคู่มือการให้อาหารที่เรานำมาฝากกันนี้ คุณสามารถวางแผนการให้อาหารที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสมกับลูกสุนัขตัวน้อยได้อย่างแน่นอน
     

    การให้อาหารลูกสุนัขในช่วงปีแรก

    ลูกสุนัขโตเร็วกว่าเด็กประมาณ 12 เท่า นั่นเป็นเหตุผลที่ช่วงปีแรกของชีวิตเป็นช่วงที่สำคัญ และเป็นช่วงที่จะกำหนดพัฒนาการต่อ ๆ ไปของพวกเค้าด้วย โภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโต ทั้งนี้เพื่อให้เลือกอาหารสำหรับลูกสุนัขได้อย่างเหมาะสม คุณสามารถทำตามวิธีดังต่อไปนี้ได้

    • 6 – 12 สัปดาห์ – ช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรกของการเจริญเติบโตเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกสุนัข คุณต้องดูแลพวกเค้าให้ดีที่สุด อาหารควรเลือกเป็นสูตรสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ และควรให้อาหาร 4 มื้อต่อวัน เนื่องจากเจ้าตัวน้อยเหล่านี้มีความต้องการทางโภชนาการแตกต่างจากสุนัขในวัยอื่น
    • 3 – 6 เดือน – แนะนำให้ค่อย ๆ ลดจำนวนมื้ออาหารลง ให้เหลือเพียง 3 มื้อต่อวัน เมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ 12 สัปดาห์ คุณอาจพบว่าพุงน้อย ๆ ของพวกเค้ายุบลง แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ยังไม่ต้องปรับจำนวนมื้ออาหารลง ให้จำนวนเท่าเดิมไปจนกว่าคุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง
    • 6 – 12 เดือน – เมื่อลูกสุนัขของคุณอายุ 6 ถึง 12 เดือน ให้เริ่มให้อาหารมันเพียงวันละสองครั้ง อาจปรึกษาสัตวแพทย์ว่าควรเปลี่ยนมาให้อาหารสำหรับสุนัขโตเมื่อใดและอย่างไร รวมถึงควรเริ่มวางแผนการทำหมันในช่วงวัยนี้ด้วยเช่นกัน

    ความต้องการทางโภชนาการของลูกสุนัข

    ลูกสุนัขต้องการปริมาณโปรตีนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับสุนัขโตเต็มวัย เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ นอกจากนี้อาหารลูกสุนัขยังควรมีธาตุเหล็กที่ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และแคลเซียมเพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เมื่อลูกสุนัขเติบโตขึ้น พวกเค้าจะเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเพื่อให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีพัฒนาการที่ดี คุณควรเลือกอาหารที่มีดีเอชเอ ซึ่งช่วยเสริมการพัฒนาสมองและการมองเห็น สุดท้ายคือต้องมีพรีไบโอติกส์เพื่อเสริมการทำงานของลำไส้ ลูกสุนัขของคุณจะได้มีระบบย่อยและขับถ่ายที่แข็งแรง!
     

    แนะนำให้เลือกสูตรอาหารที่เหมาะกับช่วงวัยและขนาดพันธุ์ของสุนัข อย่างสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีระบบเผาผลาญไม่ดีเท่าสุนัขพันธุ์เล็กหรือพันธุ์กลาง พวกเค้าจึงต้องการอาหารที่แคลอรีน้อยกว่า ส่วนสุนัขพันธุ์เล็กก็ต้องการเม็ดอาหารที่เหมาะกับขนาดช่องปาก ต้องเคี้ยวง่ายแต่ยังคงอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน
     

    หากคุณกำลังมองหาโภชนาการสำหรับเจ้าตัวน้อย อาหารสุนัขไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรสำหรับแม่และลูกสุนัขคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ! เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นอย่างโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ผ่านการคิดค้นทางวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการฝึกและพัฒนาการทางสมองของลูกสุนัข มั่นใจได้เลยว่าลูกสุนัขของคุณจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล นอกจากนี้อาหารของเรายังเหมาะสำหรับแม่สุนัขมือใหม่ด้วย โดยจะช่วยเพิ่มการผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพต่อการเติบโตอย่างแข็งแรงของลูกสุนัข
     

    อาหารต้องห้ามสำหรับลูกสุนัข

    ได้เรียนรู้โภชนาการที่เหมาะสมไปแล้ว ถึงเวลาของอาหารต้องห้ามกันบ้าง โดยรายการอาหารที่เป็นอันตรายต่อลูกสุนัข มีดังนี้

    • ไซลิทอล (สารให้ความหวาน)
    • องุ่น
    • ลูกเกด
    • หัวหอม
    • กระเทียม
    • ช็อกโกแลต
    • ถั่วแมคาเดเมีย

    การดูแลและควบคุมน้ำหนักของลูกสุนัข

    การมีรูปร่างอ้วนจ้ำม่ำอาจทำให้ลูกสุนัขดูน่ารักน่ากอด แต่ในความเป็นจริง มันส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเค้ามากกว่าที่เราคิด โรคอ้วนมักนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนและปัญหาสุขภาพมากมาย ผู้เลี้ยงจึงควรกำหนดปริมาณอาหารและขนมในแต่ละวันอย่างเหมาะสม เราไม่จำเป็นต้องให้รางวัลเป็นขนมเสมอไป สามารถเปลี่ยนเป็นการพูดชมหรือสัมผัสตัวเบา ๆ แทนได้

Close modal