เนื่องจากสุนัขสูงวัยเริ่มมีปัญหาด้านสภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ปัญหากระดูกและข้อต่อ ดังนั้นสัตวแพทย์จึงแนะนำอาหารสูตรสำหรับสุนัขสูงวัยโดยเฉพาะ เพื่อให้พวกเค้าได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเจ้าของที่มีสุนัขเข้าสู่ช่วงสูงวัยควรเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงและวิธีการดูแลสุขภาพของพวกเค้าเหล่านั้นเพิ่มเติม
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถช่วยให้สุนัขสูงวัยของคุณจัดการกับปัญหาสุขภาพทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้นกันเถอะ
สุนัขสูงวัยมักมีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม โดยสาเหตุเกิดจากอัตราการเผาผลาญในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นพวกเค้าต้องได้รับปริมาณอาหารที่มีไขมันและแคลอรี่ลดลง
งานวิจัยล่าสุดของ ไอแอมส์™ได้ทำการศึกษาวิจัยแล้วพบว่า แอล - คาร์นิทีน สามารถช่วยลดน้ำหนักในสุนัขที่มีปัญหาน้ำหนักเกินได้ โดยการเป็นตัวพาไขมันเข้าไปสู่ไมโตรคอนเดรียภายในเซลล์ เพื่อเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน
โปรตีนเป็นสารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง โดยล่าสุดทางบริษัท IAMS ได้ออกมาเผยว่าการที่ให้สุนัขสูงวัยกินอาหารที่มีโปรตีนสูง จะช่วยเสริมสร้างสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น ทำให้พวกเค้าสามารถเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างดียิ่งขึ้น
แต่ผลการวิจัยนี้ก็จะไม่ตรงกับความเชื่อที่ว่าสุนัขสูงวัยควรได้รับโปรตีนในระดับต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไตทำงานหนัก แต่อย่างไรก็ตามพบว่า สุนัขที่ไตทำงานหนักจากอาหารโปรตีนสูง มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าสุนัขที่ได้รับสารอาหารโปรตีนต่ำ
เมื่อสุนัขเข้าสู่ช่วงสูงวัย กระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ก็เริ่มเสื่อมสภาพลง ดังนั้นการดูแลเรื่องโภชนาการก็สามารถช่วยเสริมสร้างให้พวกเค้ามีกระดูกและข้อต่อที่ดีขึ้นได้ โดยมีตัวช่วยดังนี้
• การได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสม จะช่วยในการเสริมสร้างกระดูก และเส้นประสาทให้กลับมามีประสิทธิภาพ
• ปรับสมดุลในโภชนาการของกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ให้เหมาะสมต่อการเสริมสร้างข้อต่อ
ผู้ผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงบางรายเชื่อว่าหากสุนัขสูงวัยได้รับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณมาก จะทำให้มีอันตรายต่อไต แต่อย่างไรก็ตามมีการวิจัยพบว่า ไม่มีการสะสมของแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ทำให้เกิดอันตรายต่อไตของสุนัขสูงวัยที่ได้รับการบำรุงด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสตลอดระยะเวลา 4 ปี (อ้างอิงโดยงานวิจัย “ผลกระทบของความชราและการบริโภคโปรตีนในอาหารของสุนัขสูงวัยที่ไม่ได้รับการผ่าตัด” ของ Finco, DR. ในวารสารวิจัยสัตวแพทย์แห่งอเมริกา ฉบับที่ 55)
* DR. Finco “ ผลของการความชราและการบริโภคโปรตีนในอาหารของสุนัขสูงอายุที่ไม่ได้รับการผ่าตัด” วารสารวิจัยสัตวแพทย์แห่งอเมริกา; ฉบับที่ 55, No. 9. สิงหาคม 1994 .

'Q: เมื่อต้องฝึกลูกสุนัข สามารถให้อาหารของคนเป็นรางวัลได้หรือไม่?
A: โดยส่วนตัวแล้ว ฉันจะไม่ใช้ขนมหรืออาหารในการฝึกเลย แต่จะใช้ภาษากายและการให้คำชมเป็นรางวัลในการฝึกแทน ซึ่งมันก็ได้ผลดีเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อสุนัขบางตัวไม่ได้สนใจหรือถูกดึงดูดใจด้วยอาหาร
ถึงแม้คนส่วนมากมักจะใช้วิธีนี้และประสบความสำเร็จ แต่ฉันก็ไม่แนะนำวิธีนี้อยู่ดี การให้อาหาร (ของคน) เป็นรางวัล อาจทำให้สุนัขมีความคิดว่าพวกเค้าสามารถกินอาหารของคุณได้ ซึ่งมันอาจกระตุ้นให้พวกเค้าขโมยอาหารจากโต๊ะ หรือจากคนโดยเฉพาะเด็กๆ หรือแขกที่บ้านได้
นอกจากนี้อาหารบางอย่างของคนก็เป็นพิษต่อสุนัข ตัวอย่างเช่นช็อกโกแลต, องุ่น, ลูกเกด, ถั่วแมคาเดเมียและไซลิทอล (สารให้ความหวานมักจะใช้ในหมากฝรั่ง, ขนม, และขนมอบ)
แทนที่จะให้อาหารของคน คุณสามารถใช้ขนมสำหรับสุนัขแทนได้ โดยเลือกสูตรที่มีไขมันต่ำ ผลิตจากเนื้อสัตว์คุณภาพดี และเหมาะกับการฝึก ไม่ควรเลือกขนมที่เคี้ยวง่าย เพราะอาจจะมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง เวลาซื้อขนมให้พวกเค้า อย่าลืมอ่านฉลากเพื่อดูส่วนประกอบให้แน่ชัดซะก่อน
ในระหว่างการฝึกระวังอย่าให้ขนมพวกเค้ามากจนเกินไป และไม่ควรให้ขนมแทนอาหารหลัก ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณแคลอรี่ที่พวกเค้าควรได้รับในแต่ละวัน
ทั้งนี้ในการฝึกแต่ละครั้ง ไม่ควรใช้เวลานานแต่เน้นฝึกบ่อยครั้งแทน อย่างการฝึกลูกสุนัขแต่ละครั้งควรใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที
และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ควรใช้การฝึกแบบเชิงบวก หากคุณเริ่มหงุดหงิดเพราะลูกสุนัขเริ่มไม่สนใจและไม่ยอมอยู่นิ่ง ให้หยุดพักก่อน พยายามให้การฝึกแต่ละครั้งจบแบบสนุกสนาน เพื่อกระตุ้นให้พวกเค้าอยากฝึกอีกในครั้งต่อไป
คำแนะนำโดย Janet Tobiassen, สัตวแพทย์ในรัฐวอชิงตัน ที่ทำการศึกษาและเขียนบทความวิชาการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงตั้งแต่ปี 2542 โดยเธอเริ่มฝึกสุนัขตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยผ่านการฝึกจากชมรม 4-H รวมถึงได้เข้าฝึกอบรมเรื่องการบำบัดและการฝึกสัตว์เลี้ยงเมื่อตอนเรียนคณะสัตวแพทย์ศาสตร์'
