IAMS TH
Making the Most of Your Dog’s Mature Years
Making the Most of Your Dog’s Mature Years

adp_description_block358
การใช้เวลาร่วมกับสุนัขสูงวัยของคุณ

  • แบ่งปัน

เมื่อสุนัขของคุณเข้าสู่ช่วงสูงวัย เจ้าของอย่างคุณควรจดจำเคล็ดลับเหล่านี้ไว้ให้ดี
 

• ลดความเครียดและการเปลี่ยนแปลง ควรลดความเครียดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้พวกเค้าไม่เคลื่อนไหวร่างกายแบบแรง ๆ
• ให้เขาออกกำลังกายเป็นประจำ พาสุนัขออกกำลังกายเป็นประจำ โดยการพาพวกเค้าไปเดินเล่นทุกวัน เป็นเวลา 15 นาที เพื่อช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ให้ระบบย่อยมีประสิทธิภาพ และช่วยป้องกันเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
• ให้อาหารพวกเค้าในปริมาณที่น้อยลง แต่ควรให้จำนวนบ่อยครั้งมากขึ้น เช่น จากปกติส่วนใหญ่ให้มื้อใหญ่วันละมื้อ ลองเปลี่ยนเป็นให้ปริมาณน้อยลงแต่เพิ่มจำนวนเป็นวันละ 2-3 มื้อ การทำแบบนี้จะช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญของพวกเค้า
• ควรพาสุนัขสูงวัยไปตรวจสุขภาพร่างกายอย่างละเอียดเป็นประจำ และหากคุณพบสิ่งผิดปกติในร่างกายของเค้า ให้รีบพามาพบสัตวแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการตรวจหาและรักษาป้องกันโรค ก่อนที่จะสายเกินไป
• ควรใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสุนัขสูงวัย โดยพวกเค้าจะต้องได้รับคุณค่าทางโภชนาการได้อย่างเหมาะสมครบถ้วนและดีต่อระบบการย่อยอาหารในร่างกาย



Dr. Michael Hayek ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการสำหรับสุนัขสูงวัยของสถาบันการไอแอมส์™ ได้ชี้ว่า โภชนาการสำหรับสุนัขสูงวัยยังเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และทำการวิจัยกันอีกมาก ซึ่งสุนัขในแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกัน ดังนั้นวิธีการดูแลก็ย่อมไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะสุนัขสูงวัยที่คุณควรปรับเปลี่ยนเรื่องพฤติกรรมการให้อาหาร ซึ่งอาจจะปรึกษาสัตวแพทย์หรือเลือกผลิตภัณฑ์จากสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้เค้าอยู่กับคุณได้อีกนาน
 

  • ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?
    ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?
    adp_description_block393
    ควรพาลูกสุนัขตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?

    • แบ่งปัน

    การนำลูกสุนัขตัวใหม่เข้าบ้านเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่ายินดี แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มาพร้อมความรับผิดชอบมากมาย หนึ่งในนั้นคือการพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อตรวจเช็กปัญหาสุขภาพแอบแฝงและสุขภาพโดยรวม อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ผู้เลี้ยงจะปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน การให้อาหาร การฝึกสอน และวิธีการดูแลต่าง ๆ หากไม่แน่ใจว่าควรพาลูกสุนัขไปพบคุณหมอเมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน ติดตามคำตอบและเรื่องน่ารู้อีกมากมายได้ในบทความนี้

     

    ลูกสุนัขต้องพบสัตวแพทย์บ่อยแค่ไหน?

    ลูกสุนัขเป็นช่วงวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ผู้เลี้ยงควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทุก ๆ 3 – 4 สัปดาห์ แต่หากจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษอาจมีการนัดพบบ่อยขึ้น ทั้งนี้ก่อนพาเจ้าตัวน้อยไปพบคุณหมอ คุณควรสอบถามข้อมูลการฉีดวัคซีนหรือการรักษาต่าง ๆ จากฟาร์มหรือผู้เพาะพันธุ์ให้เรียบร้อย และในกรณีที่รับเลี้ยงสุนัขไร้บ้านก็ควรแจ้งให้คุณหมอทราบเช่นกัน

    หากคุณสังเกตพบอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบพาเจ้าตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์ในทันที

    • บาดแผลบริเวณดวงตา
    • อาการลมพิษ
    • แผลเปิด
    • อาการชัก
    • เป็นลม หมดสติ
    • มีรอยกัด
    • หายใจลำบาก
    • อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
    • อาเจียน
    • ท้องเสีย
    • อาการเจ็บป่วยอื่น ๆ

    ข้อควรรู้ – แม้จะมีสมุดฉีดวัคซีนหรือหลักฐานการตรวจยืนยันจากผู้เพาะพันธุ์ คุณก็ควรพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เพิ่มเติม
     

    การตรวจสุขภาพประจำปี

    ลูกสุนัขจำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีเช่นเดียวกับคน นอกจากการฉีดวัคซีนกระตุ้นแล้ว คุณหมอจะตรวจเช็กสุขภาพหัวใจ ปอด ดวงตา หู พร้อมมองหาอาการผิดปกติต่าง ๆ และอาจทำการทดสอบพื้นฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
     

    หลังการตรวจเช็กสุขภาพ คุณหมออาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนสูตรอาหาร เพิ่มหรือลดการออกกำลังกาย รวมถึงอาจต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดียิ่งขึ้น ผู้เลี้ยงควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าตัวน้อยที่คุณรัก อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสุขภาพประจำปี คุณสามารถสอบถามหรือขอปรึกษาเรื่องเหล่านี้จากสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้

    • การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
    • รายงานสุขภาพ
    • โภชนาการที่เหมาะสม
    • คำถามเกี่ยวกับการดูแล การฝึก หรือปัญหาที่สงสัย

    ลูกสุนัขฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

    ลูกสุนัขเกิดมาพร้อมระบบภูมิคุ้มกันที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ อย่างไรก็ตาม พวกเค้าจะเริ่มสูญเสียภูมิคุ้มกันเหล่านี้เมื่ออายุ 6 – 8 สัปดาห์ จึงจำเป็นต้องเริ่มฉีดวัคซีนในช่วงเวลาดังกล่าว บวกกับนิสัยชอบดมและเลียเพื่อสำรวจทุกสิ่งรอบตัว ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการฉีดวัคซีนสามารถป้องกันไวรัสและโรคร้ายแรงได้ การฉีดวัคซีนจะเริ่มเมื่อลูกสุนัขมีอายุ 6 – 8 สัปดาห์ และต้องฉีดกระตุ้นซ้ำทุก 2 – 4 สัปดาห์จนกว่าลูกสุนัขจะมีอายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป บางกรณีสัตวแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 4 สัปดาห์ เนื่องจากมีการระบาดของโรคหรือเมื่อแม่หมาที่ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน คุณสามารถขอตารางการฉีดวัคซีนของลูกสุนัขจากสัตวแพทย์ได้
     

    การฉีดวัคซีนสำหรับสุนัข

    สุนัขจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัด และโรคตับอักเสบในสุนัข โดยวัคซีนทั่วไปที่สุนัขจำเป็นต้องได้รับมีดังนี้

    • เชื้อพาร์โวไวรัสในสุนัข
    • โรคไข้หัด
    • โรคตับอักเสบ
    • โรคพิษสุนัขบ้า
    • โรคติดเชื้อในทางเดินหายใจ
    • โรคลำไส้อักเสบติดต่อจากเชื้อโคโรนาไวรัสในสุนัข
    • โรคหลอดลมอักเสบติดต่อของสุนัข
    • โรคเลบโตสไปโรซีสหรือโรคไข้ฉี่หนู

    การฉีดวัคซีนข้างต้นอาจมีการผสมที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

Close modal