การตรวจเช็ครูปร่างของสุนัขอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการประเมินภาวะโภชนาการของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในกรณีที่สุนัขมีแนวโน้มว่าจะมีน้ำหนักน้อยเกินไปหรือมากเกินไป พวกเค้าต้องได้รับการตรวจเช็ครูปร่างและประเมินสภาพร่างกายก่อนเลือกวิธีควบคุมน้ำหนักหรือเลือกโภชนาการที่เหมาะสม
แผนภูมิสภาพร่างกายสุนัข
สุนัขที่ขาดอาหาร
เห็นกระดูกซี่โครง กระดูกสันหลัง และกระดูกเชิงกรานได้อย่างชัดเจน ไม่มีไขมันใต้ผิวหนัง ช่วงเอวคอด มองไม่เห้นหน้าท้อง
สุนัขที่อยู่ในภาวะผอมหรือมีน้ำหนักน้อยเกินไป
เห็นกระดูกซี่โครงได้อย่างชัดเจน มีไขมันใต้ผิวหนังเพียงเล็กน้อย สามารถเห็นส่วนเว้าช่วงเอวได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านบน และหน้าท้องแฟ่บเมื่อมองจากด้านข้าง
สุนัขที่มีรูปร่างสมส่วน
สามารถมองเห็นกระดูกซี่โครงได้ แต่ไม่ได้เห็นชัด เห็นช่วงเอวคอดเล็กน้อยเมื่อมองจากด้านข้าง มีหน้าท้องยื่นออกมาเล็กน้อย แต่ยังเห็นส่วนเว้าที่ชัดเจาเมื่อมองจากด้านข้าง
สุนัขอยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน
มองเห็นชั้นไขมันบริเวณซี่โครง แต่ยังคงเห็นกระดูกซี่โครงอยู่บ้าง เอวหาย มองเห็นเป็นทรงกลม มีหน้าท้องยื่นออกมา
สุนัขอยู่ในภาวะอ้วนจนอาจทำให้เกิดโรค
ไม่สามารถมองเห็นกระดูกซี่โครงและกระดูกสันหลัง มีชั้นไขมันปกคลุมอย่างชัดเจน ไม่มีส่วนเว้าตรงช่วงเอว หน้าท้องย้อย ลงพุง

การนำลูกสุนัขตัวใหม่เข้าบ้านเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่ายินดี แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มาพร้อมความรับผิดชอบมากมาย หนึ่งในนั้นคือการพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อตรวจเช็กปัญหาสุขภาพแอบแฝงและสุขภาพโดยรวม อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ผู้เลี้ยงจะปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน การให้อาหาร การฝึกสอน และวิธีการดูแลต่าง ๆ หากไม่แน่ใจว่าควรพาลูกสุนัขไปพบคุณหมอเมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน ติดตามคำตอบและเรื่องน่ารู้อีกมากมายได้ในบทความนี้
ลูกสุนัขเป็นช่วงวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ผู้เลี้ยงควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทุก ๆ 3 – 4 สัปดาห์ แต่หากจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษอาจมีการนัดพบบ่อยขึ้น ทั้งนี้ก่อนพาเจ้าตัวน้อยไปพบคุณหมอ คุณควรสอบถามข้อมูลการฉีดวัคซีนหรือการรักษาต่าง ๆ จากฟาร์มหรือผู้เพาะพันธุ์ให้เรียบร้อย และในกรณีที่รับเลี้ยงสุนัขไร้บ้านก็ควรแจ้งให้คุณหมอทราบเช่นกัน
หากคุณสังเกตพบอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบพาเจ้าตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์ในทันที
ข้อควรรู้ – แม้จะมีสมุดฉีดวัคซีนหรือหลักฐานการตรวจยืนยันจากผู้เพาะพันธุ์ คุณก็ควรพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เพิ่มเติม
ลูกสุนัขจำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีเช่นเดียวกับคน นอกจากการฉีดวัคซีนกระตุ้นแล้ว คุณหมอจะตรวจเช็กสุขภาพหัวใจ ปอด ดวงตา หู พร้อมมองหาอาการผิดปกติต่าง ๆ และอาจทำการทดสอบพื้นฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
หลังการตรวจเช็กสุขภาพ คุณหมออาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนสูตรอาหาร เพิ่มหรือลดการออกกำลังกาย รวมถึงอาจต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดียิ่งขึ้น ผู้เลี้ยงควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าตัวน้อยที่คุณรัก อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสุขภาพประจำปี คุณสามารถสอบถามหรือขอปรึกษาเรื่องเหล่านี้จากสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้
ลูกสุนัขเกิดมาพร้อมระบบภูมิคุ้มกันที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ อย่างไรก็ตาม พวกเค้าจะเริ่มสูญเสียภูมิคุ้มกันเหล่านี้เมื่ออายุ 6 – 8 สัปดาห์ จึงจำเป็นต้องเริ่มฉีดวัคซีนในช่วงเวลาดังกล่าว บวกกับนิสัยชอบดมและเลียเพื่อสำรวจทุกสิ่งรอบตัว ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการฉีดวัคซีนสามารถป้องกันไวรัสและโรคร้ายแรงได้ การฉีดวัคซีนจะเริ่มเมื่อลูกสุนัขมีอายุ 6 – 8 สัปดาห์ และต้องฉีดกระตุ้นซ้ำทุก 2 – 4 สัปดาห์จนกว่าลูกสุนัขจะมีอายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป บางกรณีสัตวแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 4 สัปดาห์ เนื่องจากมีการระบาดของโรคหรือเมื่อแม่หมาที่ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน คุณสามารถขอตารางการฉีดวัคซีนของลูกสุนัขจากสัตวแพทย์ได้
สุนัขจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัด และโรคตับอักเสบในสุนัข โดยวัคซีนทั่วไปที่สุนัขจำเป็นต้องได้รับมีดังนี้
การฉีดวัคซีนข้างต้นอาจมีการผสมที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง