IAMS TH
How L-Carnitine Can Help Your Dog Lose Weight
How L-Carnitine Can Help Your Dog Lose Weight-mob

adp_description_block309
แอล – คาร์เนทีนช่วยสุนัขของคุณลดน้ำหนักได้อย่างไร?

  • แบ่งปัน

อาหารมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัขมาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่คุณควรเลือกอาหารที่มีคุณภาพ รวมถึงมีสารอาหารครบถ้วนและสมดุลเหมาะกับช่วงวัยของพวกเค้า แต่สารอาหารบางชนิด อย่าง แอล - คาร์เนทีน อาจะเป็นสิ่งที่คุณไม่คุ้นเคยกัน เรามาดูกันว่า สารอาหารชนิดนี้คืออะไร และมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัดสุนัขได้อย่างไรกัน

คาร์เนทีน หรือ แอล - คาร์เนทีน เป็นสารประกอบคล้ายวิตามินที่ผลิตจากกรดอะมิโนในร่างกาย พบในแห ล่งโปรตีนจากสัตว์เท่านั้น มันถูกใช้เพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมันในสัตว์สายพันธุ์อื่น และจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้ แสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยลดน้ำหนักในสุนัขที่มีน้ำหนักเกินได้ด้วยเช่นกัน

แอล - คาร์เนทีน มีบทบาทในร่างกายอย่างไรบ้าง?

แอล - คาร์เนทีน เป็นสารที่ละลายในน้ำติดอยู่กับกรดไขมัน และจะเปลี่ยนตัวเองเป็นเซลล์ไมโตคอนเดรียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์ที่แปลงไขมันให้เป็นพลังงานรูปแบบที่ใช้งานได้ ซึ่งมันจะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นพลังงานสำหรับเนื้อเยื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ตับ และกล้ามเนื้อ โดยกระบวนการนี้เหล่านี้ คารเนทีนมีส่วนช่วยให้ปริมาณไขมันในร่างกายและปริมาณไขมันในกระแสเลือดลดลง

แอล - คาร์เนทีนสามารถช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่?

จากการศึกษาของ ไอแอมส์™ โดยแบ่งกลุ่มทดลองเป็นสองกลุ่ม คือสุนัขที่มีน้ำหนักเกินและได้รับอาหารทั่วไปไม่มีแอล – คาร์เนทีน และอีกกลุ่มหนึ่งได้รับอาหารที่เสริมด้วยแอล – คาร์เนทีน

หลังจากนั้นเจ็ดสัปดาห์ ผลที่ได้พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารที่ไม่มีแอล – คาร์เนทีน น้ำหนักตัวลดลงไป 1.8% แตกต่างจากอีกกลุ่มที่ได้อาหารที่มีแอล – คาร์เนทีน น้ำหนักลดลงถึง 6.4% และปริมาณไขมันในร่างกายที่ลดลงก็แตกต่างกัน คือกลุ่มแรก 2.4% และกลุ่มที่สอง 4.6% เท่ากับว่าแอล – คาร์เนทีนมีผลต่อการลดน้ำหนักของสุนัข

ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™  Healthy Weight สูตรที่ใช้ แอล – คาร์เนทีนจะช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานโดยมีเส้นทางที่จะช่วยให้เขามีสุขภาพที่ดี

1 Sunvold GD, Tetrick  MA, Davenport GM, Bouchard GF การเสริม แอล – คาร์เนทีน จะช่วยลดน้ำหนักและลดความอ้วนในสุนัข การดำเนินการของสมาคม XXIII World Small Animal Veterinary Association. p. 746 ตุลาคม, 1998

article how l carnitine can help your dog lose weight headere13a4ce96b1f6394958cff050067515e
  • 5 วิธีดูแลผิวหนังและขนให้สุนัข
    5 วิธีดูแลผิวหนังและขนให้สุนัข
    adp_description_block464
    5 วิธีดูแลผิวหนังและขนให้สุนัข

    • แบ่งปัน

    รู้ไหมว่าผิวหนังและเส้นขนบ่งบอกสุขภาพโดยรวมของสุนัขได้นะ ขนสุขภาพดีควรมีความมันเงาและเรียบเนียน ไม่หยาบหรือขาดง่าย ส่วนผิวหนังสุนัขที่แข็งแรงควรนุ่มและยืดหยุ่น ไม่มันเยิ้มหรือเป็นขุย โภชนาการที่ดีเป็นปัจจัยหลักในการรักษาสุขภาพผิวหนังและขน ควบคู่ไปกับการดูแลทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อลดอาการระคายเคืองและขนพันกัน

     

    การดูแลสุขภาพผิวและขนของน้องหมาให้แข็งแรงไม่ใช่เรื่องยาก เรามาเรียนรู้เทคนิคดี ๆ ในการดูแลรักษา และทำความรู้จักอาหารบำรุงขนสุนัขไปด้วยกัน
     

    สารอาหารช่วยเสริมสุขภาพผิวหนังและขนของสุนัขได้อย่างไร?

    เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพผิวหนังและขน สิ่งแรกที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่นึกถึงคือการกรูมมิ่งหรือการดูแลทำความสะอาด แต่มันไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียว โภชนาการก็มีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพผิวหนังและขนของสุนัขเช่นกัน 
     

    หากดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดีแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง อาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาจากภายใน ผิวที่แข็งแรงและขนที่สวยเงางามเริ่มต้นจากสุขภาพภายในร่างกาย หากน้องหมามีผิวแห้ง ลอกเป็นขุย มีรอยนูน รอยแผล หรือหมองคล้ำ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและปัญหาที่ซ่อนอยู่
     

    ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของสุนัข ผิวหนังส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยขนที่เติบโตและหลุดร่วงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เราต้องการอาหารคุณภาพดีเพื่อรักษาผิวหนังและเส้นขนให้แข็งแรง น้องหมาก็ควรได้รับแคลอรีในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันเพื่อรักษาระดับพลังงาน หากกินอาหารที่มีคุณภาพต่ำ ร่างกายจะใช้เวลาในการกำจัดของเสียนานขึ้น ทำให้ไตและตับทำงานหนักขึ้นสองเท่า
     

    อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น โภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพผิวหนังและขนที่ดี น้องหมาที่ได้รับสารอาหารตรงตามความต้องการทุกวันจะมีผิวที่แข็งแรง อ่อนนุ่ม และมีขนสวยเงางามเป็นประกาย 
     

    เคล็ดลับดูแลผิวและขนของสุนัขให้แข็งแรง

    พ่อแม่หลายคนอาจรู้สึกว่านี่เป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุด ในความเป็นจริง การบรรลุเป้าหมายนั้นค่อนข้างง่าย เพียงแค่ทำตามคำแนะนำเหล่านี้

    • โภชนาการที่เหมาะสม

    วิธีง่าย ๆ เลยคือการให้อาหารสุนัขบำรุงขนและผิวหนัง สุนัขจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลเพื่อให้ผิวแข็งแรงและขนเงางาม อาหารที่ดีสำหรับผิวหนังสุนัขควรอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ และวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม แคลอรีในแต่ละวันก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้สุนัขมีพลังงานเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นขนและการผลัดเซลล์ผิว หากอาหารสุนัขย่อยง่ายหรือมีส่วนผสมคุณภาพต่ำ น้องหมาอาจได้รับพลังงานไม่เพียงพอ แนะนำให้เลือกอาหารสุนัขที่ส่วนผสมคุณภาพสูง และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ 

    • อาหารเสริม

    นอกจากอาหารสุนัขบำรุงขนและผิวหนังแล้ว ปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากมายในท้องตลาด ซึ่งอาจทำให้พ่อแม่หลายคนรู้สึกสับสนว่าสารอาหารชนิดใดที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวและเส้นขนให้แข็งแรง เราขอแนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เพราะได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นหนึ่งในอาหารบำรุงขนสุนัขที่ดีที่สุด ช่วยให้น้องหมามีขนสวยเงางามและผิวหนังเรียบเนียน กรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่เพียงแต่เป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติอีกด้วย

    • อาบน้ำเป็นประจำ

    การอาบน้ำเป็นการดูแลที่สำคัญ เนื่องจากช่วยกำจัดฝุ่น เศษสิ่งสกปรก รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ออกจากผิวหนังและขน โดยแนะนำให้อาบน้ำน้องหมาทุก ๆ 2 – 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความต้องการของสายพันธุ์ หรือทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำมากเกินไปเพราะอาจส่งผลให้ผิวและขนแห้ง หากน้องหมามีอาการแพ้หรือไม่ตอบสนองต่อแชมพูสำหรับสุนัข ควรปรึกษาสัตวแพทย์และค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับน้องหมาของคุณ

    • ป้องกันโรคภูมิแพ้และการติดเชื้อปรสิต

    น้องหมาที่เป็นโรคภูมิแพ้มักจะมีผิวหนังอักเสบ ทำให้เกิดรอยแดงและอาการคัน เมื่อน้องหมาเกาตัวอย่างต่อเนื่องและรุนแรง เกราะป้องกันผิวหนังของพวกเค้าจะอ่อนแอ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย น่าเสียดายที่โรคภูมิแพ้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และทำได้เพียงรักษาเท่านั้น การเรียนรู้วิธีจัดการกับอาการแพ้จากสัตวแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
     

    เห็บหมัดเป็นปรสิตที่พบบ่อยที่สุดในสุนัข มันเป็นตัวก่อให้เกิดอาการระคายเคือง อาการคัน และความไม่สบายตัว ทำให้น้องหมาเกา ข่วน และกัดผิวหนังของตัวเองอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ชั้นผิวหนังฉีกขาด ผิวแห้ง ระคายเคือง และบวมแดง นอกจากนี้เห็บหมัดยังเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพที่เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย ทางที่ดีควรป้องกันเห็บหมัดอย่างถูกวิธีและทำเป็นประจำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

    • การดูแลสุขภาพโดยรวม

    การดูแลสุขภาพโดยรวมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพผิวและขนที่ดี น้องหมาควรได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลนั่นเอง รวมถึงต้องพักผ่อนและออกกำลังกายให้เพียงพอด้วย เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว รับรองเลยว่าน้องหมาของคุณจะมีผิวแข็งแรงและขนสวยเปล่งประกาย
     

    พ่อแม่น้องหมาทุกคนควรให้ความสำคัญกับอาหารที่ดีสำหรับผิวหนังสุนัข รวมถึงทำความเข้าใจว่าสารอาหารชนิดใดที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวและเส้นขนให้แข็งแรง เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวน้อยจะมีสุขภาพผิวและขนที่ดี

Close modal