IAMS TH
Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog
Recognizing the Signs of Bloat in Your Dog

adp_description_block22
อาการบ่งบอกและวิธีดูแลสุนัขท้องอืดหรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร

  • แบ่งปัน

อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกตัว แต่อาจพบได้บ่อยในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่มีหน้าอกลึกและแคบ ปัญหานี้ถือเป็นภาวะอันตรายที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นการเรียนรู้วิธีสังเกตและดูแลเมื่อน้องหมามีอาการท้องอืดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม

อาการท้องอืดคืออะไร?

อาการท้องอืดหรืออีกชื่อหนึ่งคือภาวะกระเพาะอาหารขยายและบิดตัว เกิดจากการมีปริมาณลมหรือแก๊สสะสมมากกว่าปกติจนทำให้กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและบิดหมุน ส่งผลให้ความดันภายในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น เกิดการกดทับของอวัยวะรอบข้าง ซึ่งทำให้ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติจนน้องหมาเกิดภาวะช็อกได้ และนอกจากลักษณะของอาการที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับอาการท้องอืดที่เจ้าของควรรู้ดังนี้: 

  • อาการท้องอืดจัดเป็นภาวะอันตรายต้องได้รับการดูแลรักษาโดยทันที
  • ภาวะท้องอืดอาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ
  • สาเหตุของอาการท้องอืดยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน
  • แต่ละปีในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีน้องหมากว่า 36,000 ตัวมีอาการท้องอืด และ 30% ของน้องหมาที่มีอาการเสียชีวิต
  • อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้กับน้องหมาทุกช่วงวัย
  • น้องหมาบางสายพันธุ์มีโอกาสท้องอืดมากกว่าน้องหมาทั่วไป โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีหน้าอกลึกและแคบ
  • การที่กระเพาะอาหารขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณช่องท้องลดลง

 ลักษณะของอาการท้องอืด

ในระยะแรกของอาการ น้องหมาจะรู้สึกอึดอัดมาก อาจจะเดินวนไปมาและส่งเสียงร้อง หรือพยายามขยับไปมาเพื่อหาท่าทางที่สบายตัว พวกเค้าอาจมีท่าทีกังวล เลียหรือจ้องไปที่ท้องของตัวเอง รวมถึงอาจมีอาการคล้ายอาเจียน แต่ไม่มีอะไรออกมา

 

นอกจากนี้อาจพบอาการอื่น ๆ เพิ่มด้วยได้ เช่น อ่อนแรง ท้องพองขยายตัว และอาจเกิดภาวะช็อก ซึ่งส่งผลให้น้องหมาหัวใจเต้นเร็วและมีอาการหอบ;
 

หากพบว่าน้องหมามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ในทันที!

  • หอนหรือส่งเสียงร้องครวญคราง
  • มีท่าทางไม่สบายตัว ดูอึดอัด
  • กระสับกระส่าย
  • เหงือกซีด
  • พยายามอาเจียนแต่ไม่มีอะไรออกมา
  • หอบหรือหายใจเร็ว
  • อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
  • วิตกกังวล
  • อ่อนแรง
  • ท้องบวม (โดยเฉพาะด้านซ้าย)
     

 อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้เมื่อน้องหมาท้องอืด มีดังนี้:
 

กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้น:

เนื่องจากมีลมหรือแก๊สสะสมในท้อง


น้ำลายไหลมาก:

ปัญหาในระบบทางเดินอาหารอาจทำให้น้องหมาน้ำลายไหลมากกว่าปกติ
 

พฤติกรรมกระสับกระส่าย:

อาการกระสับกระส่ายเป็นสัญญาณที่พบได้ทั่วไปเมื่อน้องหมาท้องอืด และพวกเค้าอาจส่งเสียงร้องเมื่อโดนกดที่บริเวณท้อง
 

หอบ หายใจสั้น:

การขยายตัวของกระเพาะอาหารทำให้น้องหมาหายใจลำบาก
 

หัวใจเต้นเร็วขึ้น:

เนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมถูกกดไม่สามารถขยายตัวได้ ส่งผลให้เกิดภาวะหายใจลำบากและหัวใจมีอัตราการเต้นเร็วกว่าปกติ

 

สาเหตุของอาการท้องอืด

แม้ว่าจะหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็มีส่วนที่ทำให้น้องหมามีอาการท้องอืด:

  • กินอาหารปริมาณมากในมื้อเดียว แทนการแบ่งมื้ออาหารเป็น 2 – 3 ครั้งต่อวัน
  • กินมากเกินไปและดื่มน้ำเร็วเกินไป
  • อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น ต้องอยู่ในกรงหรือต้องไปพบสัตวแพทย์
  • วิ่งเล่นทันทีหลังกินอาหาร

 

วิธีป้องกันอาการท้องอืด

การทำตามคำแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยป้องกันอาการท้องอืดในสุนัขได้ แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่อาจรับประกันได้ว่าคำแนะนำจะเกิดผลจริงกับน้องหมาทุกตัว 

  • ให้กินอาหารทีละน้อย ๆ อาจแบ่งให้อาหารเป็น 2 – 3 มื้อต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเป็นเวลา  1 – 2 ชั่วโมงหลังกินอาหาร
  • อย่าให้น้องหมาดื่มน้ำปริมาณมากก่อนหรือหลังกินอาหารและหลังออกกำลังกาย
  • หากที่บ้านมีน้องหมา 2 ตัวขึ้นไป ควรแยกให้อาหาร เพื่อป้องกันพฤติกรรมกินเร็วและภาวะเครียด
  • หากเป็นไปได้ ควรกำหนดเวลาให้อาหารในช่วงเวลาที่คุณว่างและสามารถสังเกตพฤติกรรมหลังการกินของพวกเค้าได้
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน
  • หากพบว่าน้องหมามีอาการท้องอืด ควรรีบไปพบสัตวแพทย์ทันที


การดูแลรักษาอาการท้องอืด 
 

อาการท้องอืดสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่?

อาการท้องอืดในสุนัขจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยทันที ในกรณีที่น้องหมาท้องอืดไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการกระเพาะบิด อาจได้รับการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา แต่หากตรวจพบว่ามีอาการท้องบวม กระเพาะขยายและบิดตัว บางกรณีก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัด

 

ตัวเลือกในการรักษาอาการท้องอืด

การระบายลมหรือแก๊สออกมาโดยใช้วิธีสอดท่อเข้าไปในกระเพาะอาหาร จะช่วยบรรเทาแรงกดต่ออวัยวะโดยรอบและป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อของกระเพาะอาหารเสื่อมสภาพ แต่ในบางกรณีก็ไม่สามารถใช้วิธีสอดท่อได้เพียงเดียว อาจมีต้องการผ่าตัดร่วมด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีการรักษาโดยให้ของเหลวที่เสริมด้วยอิเล็กโทรไลต์ทางเส้นเลือดเพื่อปรับการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะที่สำคัญได้ตามปกติ ในหลายกรณีจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ และยาที่มีฤทธิ์ในการรักษาภาวะเลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลงอีกด้วย

 

เมื่อน้องหมาอยู่ในอาการคงที่พร้อมผ่าตัดแล้ว สัตวแพทย์จะทำการผ่าตัดที่เรียกว่า “Gastropexy” เพื่อทำให้กระเพาะอาหารกลับสู่ตำแหน่งปกติพร้อมเอาเนื้อเยื่อผนังกระเพาะอาหารที่ตายแล้วออกไป รวมถึงจะยึดผนังกระเพาะเข้ากับผนังของลำตัว ทำให้โอกาสที่กระเพาะอาหารจะบิดหมุนลดลง และช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้ดีขึ้น

 

เลือกให้อาหารที่ย่อยง่าย

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันอาการท้องอืดได้คือการเลือกอาหารสุนัขคุณภาพดี มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ ช่วยให้ย่อยง่าย 
 

การดูแลเรื่องอาหารถือเป็นวิธีลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาที่ดีสุด อย่างน้อยก็จนกว่าจะสามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการท้องอืดได้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลเต็ม 100% แต่ก็ช่วยลดจำนวนน้องหมาที่ต้องเผชิญกับภาวะร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตนี้ลงได้

 

สายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องอืด

  • เยอรมัน เชพเพิร์ด
  • บูวีเย เด ฟล็องเดรอะ
  • เกรทเดน
  • บ็อกเซอร์
  • เซนต์เบอร์นาร์ด
  • โดเบอร์แมน
  • เยอรมัน ชอร์ตแฮร์ พอยน์เตอร์
  • ไอริช เซทเทอร์
  • กอร์ดอน เซทเทอร์
  • บอร์ซอย
  • ไอริช วูล์ฟฮาวด์
  • ดัชชุน
  • ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์
  • บาสเซ็ต ฮาวด์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการท้องอืดในสุนัข

  1. จะดูแลน้องหมาท้องอืดได้อย่างไรบ้าง?
  2. การรักษาน้องหมาท้องอืดทำได้โดยการให้ของเหลวที่มีอิเล็กโทรไลต์ผ่านทางเส้นเลือดและการให้ยาแก้ปวด วิธีนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและลดการเกิดภาวะช็อก อีกทั้งยังอาจป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อสำคัญตายเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ

     

  3. ทำไมน้องหมาถึงท้องใหญ่ขึ้นเมื่อมีอาการท้องอืด?
  4. ท้องของน้องหมาอาจบวมและใหญ่ขึ้นเนื่องจากมีแก๊สสะสมอยู่มาก ซึ่งการสะสมที่มากเกินไปนี้ทำให้กระเพาะอาหารขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับอวัยวะรอบข้าง รวมถึงไปขัดขวางการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดและระบบย่อยอาหาร

     

  5. อาการท้องอืดสามารถหายเองได้มั้ย?
  6. หากเป็นอาการท้องอืดท้องเฟ้อแบบไม่รุนแรง อาการอาจดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก็ถือว่ายังมีโอกาสเสี่ยงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาของอาการ

     

  7. สัญญาณเตือนเริ่มแรกของอาการท้องอืดมีอะไรบ้าง?
  8. อาการท้องอืดมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีการเตือนใด ๆ น้องหมาอาจเดินวนไปมา หอบ น้ำลายไหล หรือพยายามอาเจียนโดยที่ไม่มีอะไรออกมา อาการอื่น ๆ ที่สามารถพบได้อีก ได้แก่ วิตกกังวล มีท่าทีอึดอัด และไม่สบายท้อง ในกรณีที่มีอาการรุนแรง น้องหมาอาจหมดสติ หัวใจเต้นเร็ว และเหงือกสีซีด

     

     

  9. อาการท้องอืดในแต่ละครั้งจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน?
  10. อาการท้องอืดในสุนัขมักจะเกิดขึ้นไม่เกิน 24 ชั่วโมงหากได้รับการรักษาและดูแลอย่างเหมาะสม รวมถึงควรระมัดระวังเลือกการกำหนดปริมาณอาหารและการออกกำลังกายหลังการกินให้มากขึ้นด้วย

     

  • การฝึกลูกสุนัขให้มีวินัยและรู้จักกฎระเบียบของบ้าน
    การฝึกลูกสุนัขให้มีวินัยและรู้จักกฎระเบียบของบ้าน
    adp_description_block392
    การฝึกลูกสุนัขให้มีวินัยและรู้จักกฎระเบียบของบ้าน

    • แบ่งปัน

    การมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในบ้านคงทำให้ทุก ๆ วันของพ่อแม่มะหมามีทั้งความสุขและความสนุก สำหรับพ่อแม่บางคน นี่คือความฝันที่กลายเป็นจริงในที่สุด แต่การเลี้ยงน้องหมาไม่ได้ง่ายอย่างที่หลาย ๆ คนคาดคิด โดยเฉพาะเมื่อพวกเค้าไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม
     

    หากผู้เลี้ยงละเลยการฝึกฝนอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ ลูกสุนัขอาจมีพฤติกรรมไม่น่ารัก ทำลายข้าวของในบ้าน และไม่เชื่อฟังคำสั่ง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณและครอบครัวหัวหมุนได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม มือใหม่หัดเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับวิธีจัดการและควบคุมเจ้าตัวน้อยแสนซน หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น นี่คือทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฝึกลูกสุนัขที่บ้าน

    • เริ่มด้วยการเตรียมตัวให้พร้อม

    กระบวนการฝึกต้องใช้เวลา ความอดทน และความตั้งใจ ไม่สามารถทำเล่น ๆ หรือทำแบบขอไปทีได้ ผู้เลี้ยงต้องทำเป็นกิจวัตรเพื่อให้น้องหมาคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกใส่สายจูงหรือการขับถ่ายให้เป็นที่
     

    ข้อควรรู้ – น้องหมาต้องใช้เวลาปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่ คุณอาจต้องวางแผนการฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่งรัดและกดดันพวกเค้าจนเกินไป

    • การกำหนดตารางเวลาและทำให้เป็นกิจวัตร

    วิธีนี้จะส่งผลดีในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเราหรือน้องหมา การกำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้น้องหมาเรียนรู้ว่าเวลาไหนต้องกินอาหาร เล่น นอน หรือขับถ่าย ซึ่งช่วยลดปัญหาขับถ่ายเรี่ยราดได้ดี
     

    การพาน้องหมาออกไปเดินเล่นและขับถ่ายนอกบ้านควรทำเป็นเวลา แนะนำให้พาพวกเค้าออกไปเดินเล่นทันทีหลังจากตื่นนอน เมื่อถึงเวลาเล่นสนุก และหลังจากกินอาหารเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ควรเว้นระยะห่างระหว่างมื้ออาหารและเวลานอนให้เหมาะสม ลูกสุนัขจะได้ไม่ต้องกลั้นปัสสาวะนานจนเกินไป
     

    เมื่อลูกสุนัขโตขึ้น พวกเค้าจะกลั้นปัสสาวะได้นานขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกสุนัขวัย 2 เดือน จะกลั้นขับถ่ายได้นาน 2 ชั่วโมง แต่ระยะเวลามากสุดที่น้องหมาทำได้คือ 6 ชั่วโมง ไม่ควรปล่อยให้กลั้นนานเกินกว่านี้

    • การใช้คำสั่งร่วมกับการฝึก

    การใช้คำสั่งจะช่วยให้เราสื่อสารกับน้องหมาได้ดีขึ้น หากใช้คำสั่งซ้ำ ๆ กับการกระทำบางอย่าง น้องหมาจะเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างคำพูดและการกระทำของคุณ เช่น พูดว่า “ไปคาบมา” ในขณะที่คุณโยนของเล่นหรือกิ่งไม้ น้องหมาจะเข้าใจว่าต้องไปเอาของกลับมา ในทำนองเดียวกัน เมื่อพาพวกเค้าไปขับถ่าย ให้พูดว่า “อึ” หรือ “เบ่ง” โดยชี้ไปที่จุดใดจุดหนึ่งด้วย สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเค้าเรียนรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป

    • การให้รางวัลเมื่อน้องหมาทำได้ดี

    การให้รางวัลช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับน้องหมา รางวัลเหล่านี้อาจอยู่ในรูปแบบของขนม คำชม หรือช่วงเวลาเล่นกับของเล่นชิ้นโปรด นอกจากนี้การให้รางวัลยังช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี ทำให้พวกเค้าฝึกคำสั่งใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น คุณสามารถให้รางวัลก่อนหรือหลังการฝึกก็ได้ แต่หลีกเลี่ยงการให้กลางคัน เช่น ระหว่างการขับถ่าย ควรรอให้พวกเค้าขับถ่ายเสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

    ข้อควรระวัง – หากการฝึกขับถ่ายได้ผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้ผลเลย ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดจากปัญหาทางสุขภาพ เช่น การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ

    • เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการฝึกขับถ่ายให้ลูกสุนัข

    คุณต้องเข้าใจว่าการฝึกเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน ลูกสุนัขอาจใช้เวลาในการเรียนรู้มากน้อยแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม หากฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ พวกเค้าจะเชื่อฟังและเรียนรู้ได้ดีขึ้น ต่อไปนี้คือเรื่องที่เจ้าของควรรู้ก่อนเริ่มต้นฝึกลูกสุนัข

    • หลีกเลี่ยงการลงโทษเมื่อลูกสุนัขขับถ่ายไม่เป็นที่ เพราะจะทำให้ลูกสุนัขหวาดกลัวหรืออาจตอบโต้ด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว
    • หากลูกสุนัขขับถ่ายเป็นที่ ให้รางวัลพวกเค้า แต่ควรรอจนกว่าพวกเค้าจะขับถ่ายเสร็จเรียบร้อย
    • ควรอยู่เป็นเพื่อนลูกสุนัขตลอดเวลาขับถ่าย หากพวกเค้าใช้เวลานานกว่าปกติ ไม่ควรเร่งหรือบังคับให้พวกเค้าขับถ่าย

Close modal